Goblin Kingdom - ตอนที่ 18
Ch.18 – เสน่ห์ของนักบุญ
Translator : Koel / Author
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 12
[คลาส] ดยุค, ราชันของกลุ่ม
[ทักษะ] <<บัญชาการ>> <<กบฏ>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<โลภะที่ไม่สิ้นสุด>><< การจ้องมองจากปีศาจ >> <<การเชื่อมต่อจิตวิญญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>><<การเต้นรำแห่งความตาย>><< ดวงตาของงูสีชาด >><<นักรบคลั่ง>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[คุณลักษณะ] ความมืด, ความตาย
[สัตว์เลี้ยง] โคโบล (เลเวล 9)
◇◆◇
ผมจับโคโบลมาเพื่อทดสอบ ไม่ได้วางแผนที่จะให้มันมาเป็นส่วนหนึ่งหมู่บ้าน แต่ใครจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้น!
ตอนที่คิดอยู่นั้น โคโบลตัวดังกล่าว …กำลังหมอบนอนอยู่ที่เท้า
ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าอับอาย!
เห็นมันหาวและเกาหน้าด้วยขาของมัน …แค่นั้นก็เพียงพอจะทำให้ผมหงุดหงิด
เมื่อออกเดินทางไปประมาณครึ่งวัน ผมได้สำรวจและเคลียร์เส้นทางจนได้ข้อมูลได้ดังนี้
ทิศตะวันออกเป็นที่อยู่ของโคโบล
ทิศเหนือเป็นที่อยู่ของฝูงกวางเอเรล
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นทะเลสาบ
ทิศใต้คือที่ที่พวกออร์คบางส่วนอาศัยอยู่
ปัญหาหลักคือทิศตะวันตก
ตามคำบอกเล่าของเรเชีย ป่าแห่งนี้เรียกว่าป่าทมิฬ พวกเราอาศัยอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของป่า ส่วนทิศใต้และทิศตะวันตกของป่านี้ยังไม่ได้รับการสำรวจ
ทิศใต้ไม่มีร่องรอยมอนสเตอร์หรือหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาของผมหรือเมื่อสั่งให้ก็อบลินออกสำรวจ
ตอนนี้เหตุผลที่ผมพบว่าทิศตะวันตกเป็นปัญหา เนื่องจากพวกออร์คส่วนใหญ่มาจากทิศนั้น โดยทั่วไปออร์คจะอาศัยอยู่เป็นกลุ่มๆละ 3 – 8 ตัว พวกมันมักย้ายที่อยู่เสมอและไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง พวกออร์คที่อาศัยในทิศนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือไม่ก็พวกมันถูกขับไล่จากบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัว
ผมปรึกษาก็อบลินอาวุโสว่าจะสามารถรวบรวมหมู่บ้านก็อบลินอื่นๆหรือติดต่อพวกเขาพวกเค้าได้ยังไง
จำนวนกองกำลังในปัจจุบันมี ก็อบลินแรร์ 3 ตัว ก็อบลินโตเต็มวัยที่สู้ได้ 32 ตัว
เป็นตัวเลขค่อนข้างน่ากังวล เมื่อคิดย้อนกลับไปผมเคยถามว่ามีราชันอยู่ท่ามกลางพวกก็อบลินเหล่านั้นหรือไม่
ถ้าผมจำไม่ผิดควรจะมีอีก 3-4 กลุ่ม
“ข้าต้องการข้อมูลหมู่บ้านก็อบลินที่คล้ายกับของเรา ถ้าได้ข้อมูลหัวหน้าของพวกเขาด้วยจะดีมาก “ผมกล่าว
ผมอธิบายสถานการณ์ให้แก่ก็อบลิน พวกเขาตอบสนองตอบด้วยการขมวดคิ้ว
“ราชัน มันจะไม่เป็นการดีถ้าเรารีบร้อนเกินไป ทิศตะวันออกยังไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา”ก็อบลินอาวุโสตอบ
แน่นอนว่าเราไม่สามารถเพิกเฉยต่อมนุษย์ได้ เหลือเวลาเท่าไรก่อนที่พวกเขาจะบุกมา? ผมจำเป็นต้องเตรียมตั้งรับให้ดี มิฉะนั้น … อนาคตที่เหลืออยู่คือความพังพินาศ
โดยเฉพาะตั้งแต่จับตัวเรเชียมา มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าพวกมนุษย์กำลังรวมกองกำลังเพื่อพาเธอกลับไป
ถ้าพิจารณาตามความสำคัญและเหตุผล ทางเดียวที่ผมทิ้งไปได้เลย คือการจัดการกับมนุษย์
“โอ้”
ผมพูดออกไปกับโคโบลที่อยู่ข้างเท้าของผม “แกจะต้องแจ้งให้ข้าทราบ ถ้ามนุษย์เข้ามาในป่า เข้าใจมั้ย?”
ผมให้เนื้อบางส่วนกับมัน
“เมื่อมนุษย์มาถึง ข้าจะบอกท่าน “โคโบลกล่าว
ผมไม่ทราบว่า พวกโคโบลน่าเชื่อถือแค่ไหน แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ด้วยเหตุนี้ทางทิศตะวันออกจึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการรวบรวมกำลัง
“ทางทิศตะวันออกเหมาะสมในการออกล่ามั้ย?”
ผมถามก็อบลินอาวุโส ซึ่งการตอบสนองเขาไม่เต็มใจแต่พยักหน้า
ด้วยคำถามที่ผมถามก็อบลินอาวุโส ผมพบว่าหมู่บ้านของเราเป็นหมู่บ้านเล็กที่สุดในบรรดาก็อบลิน
อัตรารอดของของเราส่วนใหญ่เป็นเพราะโชค
ผมหากลุ่มที่มีจำนวนใกล้เคียงที่สุด ระยะห่างกับพวกมันกับเรา ใช้เวลาประมาณหนึ่งวันในการเดินเท้า พวกเขาอาศัยอยู่ในถ้ำที่แข็งแรงและหัวหน้าเป็นเพียงแค่ก็อบลินแรร์เท่านั้น
น่าเสียดายที่ข้อมูลนี้เก่าเกินไป เป็นเพียงความจำที่นานมาแล้วของก็อบลินอาวุโส
การขาดข้อมูลเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ แต่ก็เราไม่มีเวลาเหลือมากนัก ดังนั้นสิ่งที่ต้องจัดการ…
” กิกิเตรียมกำลังพลซะ ข้าต้องการก็อบลิน 10 ตัวไปกับข้า ส่วนกิกูว เจ้าต้องปกป้องหมู่บ้านในขณะที่ข้าไม่อยู่ ”
หลังจากนั้นเราจึงเตรียมอาหารก่อนจะออกเดินทาง
◇◆◆
เราเอาเนื้อดิบบางส่วนไปรมควันในโรงเก็บของขนาดเล็ก
ผมระดมความรู้เล็กๆน้อยๆที่เคยจำได้ ก่อนจะรมควันเนื้อไป 2-3 ชั่วโมง
ผลลัพธ์คือ…มันไหม้
ผมทำผิดอะไรกัน?
“คุณทำอะไรอยู่น่ะ” เสียงนั้นมาจากเรเชียที่อยากรู้อยากเห็นซึ่งอยู่ใกล้โรงเก็บของ
“ข้าจะทำเนื้อที่เก็บไว้กินได้ ตอนออกเดินทาง”
“คุณจะไปที่ไหนกัน?” เธอถาม
“ข้าจะไปบุกหมู่บ้านก็อบลินที่อยู่ใกล้ๆ” ผมตอบ
ผมไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับคำพูดของผม แต่เธอก็ตบมือและบอกว่า
“ถ้าคุณเพิ่มผลไม้ในมื้ออาหารของเรา ฉันจะสอนวิธีถนอมอาหารให้ ”
เรื่องผลไม้ไม่มีปัญหา พวกเราสามารถหาเคจู มันเป็นผลไม้ที่เติบโตและเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อสุก
“ได้ ข้าตกลง”
ก็อบลินรักในการกินเนื้อ พวกมันสามารถในการกินอะไรก็ได้ ทั้งหญ้า รากและแม้กระทั่งผลไม้ แต่พวกเขายังชอบเนื้อมากที่สุด
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่กินผลไม้มากนัก
หรืออย่างน้อยตราบเท่าที่ผมไม่สั่ง พวกเขาก็ยังจะกินแต่เนื้อต่อไป …
“ชินอส” เรเชียพูด
“ท่านนักบุญ มีอะไรรึเปล่าครับ?” ชินอสตอบ
“เขาต้องการจะเรียนรู้วิธีถนอมอาหาร คุณสอนพวกเค้าได้มั้ย? ” เรเชียถาม
“ถ้านั่นเป็นคำขอร้องของคุณแล้ว … ” ชินอสสั่นในขณะที่มองมาทางผม ไม่มีคำถามอื่นเขาเริ่มอธิบาย
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเขาแล้วผมก็สั่งให้พวกก็อบลินทำตามคำแนะนำและจุดไฟในเวลาเดียวกัน
ผลลัพธ์ …มันสำเร็จ
“ทำไม?” ผมถาม
ความรู้สึกงุนงงเต็มไปในหัวใจขณะที่ผมถามชินอสที่กำลังสั่น
ปรากฎว่าความลับอยู่การควบคุมไฟ
“อืม …”
บางทีมันอาจจะเรื่องของประสบการณ์? ผมทำได้เพียงแค่ยอมแพ้และให้รางวัลกับเขา
หลังจากที่หมดปัญหา ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าก็อบลินจะสามารถทำงานที่ละเอียดอ่อนได้มากแค่ไหน พวกก็อบลินแรร์และดยุคก็อบลินอาจจะทำได้ แต่ไร้สาระเกินไปที่จะให้พวกเขาทำงานพวกนี้
ถ้ามนุษย์ทำได้แล้วทำไมไม่ปล่อยให้พวกเขาทำ?
“อย่าลืมคำสัญญาของคุณล่ะ” เรเชียเตือนผมอย่างร่าเริง
ผมพยักหน้า
แต่เกือบจะทันที หลังจากนั้นผมก็ตกใจและหันกลับไปมองเธอ
ทำไม? เพราะเรเชียถึงพูดกับผมในทันทีที่ผมคิดเสร็จ!
ไม่มีทางใช่มั้ย?
เมื่อกี้สิ่งที่ผมรู้สึกจากผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนเดียวกับที่ขออาหารผมเมื่อกี้ ความรู้สึกแปลกๆจากเธอ
” ข้าจะเพิ่มเคจูให้ในมื้อถัดไป ”
เธอเป็นใคร ไม่ใช่ว่าเธอเป็นแค่นักบุญธรรมดาๆ?
ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าเสน่ห์หรือว่าความสามารถที่น่ากลัวเกินกว่าผมในตอนนี้จะเข้าใจ
◆◇◇◆◆◇◇◆
ผู้ศรัทธาของเทพธิดาแห่งการรักษา ซีโนเบีย ได้แสดงให้เห็นถึง [ทักษะ] << เสน่ห์ของนักบุญ >>
จิตใจของคุณจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย
เป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะทำอันตรายต่อนักบุญ