God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ - ตอนที่ 1972
ตอนที่ 1972
ในช่วงเวลานี้หยินซื่อซิงก็จ้องมองเซี่ยงอย่างโมโห ปรารถนาที่จะจับเจ้าบัดซบที่ไร้ยางอายนี่กินทั้งเป็น
บอกตามตรง ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นเหตุการณ์นี้นั้น เขามีความสุขอย่างมาก เจ้าบัดซบนี่ได้ท้าทายเผด็จการท้องถิ่นเข้าแล้ว ในอนาคตมีที่ไหนที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นอย่างสงบสุข
ต่อให้ใช้หัวเข่าคิดก็รู้ได้ว่าในอนาคตเจ้าเด็กนี้จะต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นอย่างแน่นอน บางทีอาจจะถูกผู้อื่นเหยียบย่ำจนไม่สามารถโงหัวขึ้นมาได้อีก
ทว่ามีที่ไหนที่จะเป็นอย่างที่เขาคิด เจ้าเซี่ยปิงนี่ช่างชั่วร้ายเกินไป มักที่จะใช้วิธีการที่สกปรกเล่นงานผู้อื่นต้องการที่จะปลอมตัวเป็นเขา คิดที่จะนําพาปัญหาไปสู่ผู้อื่น บอกว่าตนเองเป็นหยินชื่อซิงของนิกายห้าธาตุ
เวรเอ๊ย หากเป็นไปตามแผนการของเจ้านี้จริงๆ จากนั้นลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นจะไม่มาสร้างปัญหาให้กับตัวเขาหรือ? จากนั้นเขาก็จะกลายเป็นแพะรับบาปให้กับเจ้านี่
เมื่อนึกได้ถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เป็นเพราะปากคอเราะร้ายของไอ้ลูกหมาน บอกว่าเป็นมิตรสหายกับเขา อีกทั้งยังสร้างปัญหาขึ้นมา สังหารเฒ่าปีศาจในทุกหนแห่ง เมื่อเฒ่าปีศาจเหล่านี้ไม่สามารถจัดการกับเซี่ยงได้ ก็ต้องการมาจัดการกับเขาแทน
ทว่าเขาหยินซื่อซิงที่เป็นลูกศิษย์สายตรงของนิกายห้าธาตุ อีกทั้งก็ยังเป็นลูกศิษย์ของเซนต์ มีอนาคตที่สดใส ไม่คาดคิดว่าจะเผชิญกับปัญหานี้จนแทบจะอยู่ในทางตะวันออกของจักรวาลไม่ได้อีก ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ต้องหลบหนีมาสู่ศูนย์กลางของจักรวาล
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดก็เกิดขึ้นเพราะเจ้าสารเลวนี่!
ทว่าเมื่อมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นในตอนนี้ ไม่คาดคิดว่าไอ้ลูกหมานี่ก็ยังไม่ปล่อยเขาไป ต้องการที่จะใช้เขาเป็นแพะรับบาปให้กับตนเอง ถามว่าเรื่องเช่นนี้เขาจะอดทนอดกลั้นได้อย่างไร?! เขาจะไม่ปล่อยให้ตนเองเผชิญกับปัญหาอย่างไร้เหตุผลแน่นอน
“โอ้ สหายหยิน สบายดีหรือไม่หลังจากครั้งล่าสุดที่ได้พบกัน ไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญเช่นนี้ ได้มาพบกันในโรงอาหาร ช่างเป็นพรหมลิขิตจริงๆ ก่อนหน้านี้เหตุใดถึงไม่เห็นเจ้าในยานอวกาศ หรือว่าเจ้าเดินทางมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นนี้เป็นการล่วงหน้าหรือ?”
เซี่ยปิงก็กล่าวทักทายหยินชื่อซิงอย่างอบอุ่น
พรหมลิขิตบิดาเจ้าสิ!
หยินซื่อซิงก็ต้องการจะพุ่งเข้าไปประเคนหมัดใส่เจ้าบัดซบนทันที อัดเจ้าชายคนนี้จนปางตาย หากตนเองไม่ได้บังเอิญอยู่ในโรงอาหารแห่งนี้ บางทีไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะต้องเผชิญกับปัญหาที่มากมายแค่ไหน
บางทีเพียงแค่เดินออกไปตามท้องถนนของเมืองไพลิน อาจจะมีคนที่เข้ามารุมทุบตีเขาราวกับเป็นกระสอบทราย ถูกทุบดีโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเป็นเพราะเรื่องอะไร
“บัดซบเอ๊ย ไอ้สารเลว ไม่คาดคิดว่าจะกล้าหลอกลวงข้า กล่าวชื่อคนอื่นขึ้นมา ช่างมีความกล้าหาญที่ใหญ่โตยิ่งนัก” ในช่วงเวลานี้ ในที่สุดชื่ออันก็รับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นก็เดือดระอุขึ้นมาและจ้องมองเซี่ยปิงอย่างโมโห
“มีที่ไหนที่จะสามารถหลอกลวงเจ้าได้ ด้วยไอคิวของเจ้าสหายซือ คิดว่าข้าจะหลอกลวงเจ้าได้สําเร็จรี? เมื่อครู่นี้เจ้าก็คงจะมองคําโกหกของข้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง”
เซี่ยปิงก็พูดออกมาอย่างเรียบเฉย
“นี่มัน!”
ซืออันก็รู้สึกหดหูจนแทบจะกระอักเลือดออกมา ไม่สามารถเอ่ยคําใดออกไปได้เลย หากปฏิเสธเซี่ยปิงไปล่ะก็ จากนั้นมันจะไม่เป็นการบ่งบอกว่าเขาหลงเชื่อคําพูดของเจ้านี้จริงๆและมีไอคิวที่ต่ําหรือ?
ทว่าหากไม่ปฏิเสธคําพูดของเซี่ยปิง ความโมโหของเขาก็จะดูไร้เหตุผลไปเลย เรียกได้ว่าเส้นทางข้างหน้า ถูกเจ้าบัดซบนี้ปิดกั้นไว้หมดแล้ว ทําให้เขาตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป
“เซี่ยปิง เลิกเหลวไหล อย่าพูดจาเล่นลิ้นที่นี่ เมื่อครู่นี้เหตุใดเจ้าจึงต้องการปลอมตัวเป็นข้า?” หยินซื่อซิงก็สักถามพร้อมกับจ้องมองไปที่เซี่ยปิงอย่างดุร้าย
“ปลอมตัวอะไรกัน ข้าและเจ้าสหายหยินเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกัน ชื่อของเจ้าก็เหมือนชื่อของข้า หม้อข้าวของเจ้าก็เหมือนหม้อข้าวของข้า พวกเราแบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกัน เหตุใดจะต้องสนใจเพียงเรื่องเล็กๆแค่ นี้?”
เซี่ยปิงก็กวักมืออย่างเรียบง่าย
“เป็นอย่างนี้นี่เอง พวกเจ้าทั้งสองเป็นพวกเดียวกัน
ซืออันก็นึกขึ้นได้อย่างกะทันหัน
“ไม่ ข้าไม่ใช่พวกเดียวกับเขา ไม่สามารถอยู่ร่วมกับเจ้าเด็กนี่ได้ ไม่มีทางที่จะอยู่ร่วมกันได้”
หยินซื่อซิงก็โมโหจนแทบจะกระอักเลือด เขาไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับเจ้าบัดซบนี้ เพราะเมื่อใดที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับเจ้าเด็กนี่ เขาก็มักจะเผชิญกับปัญหามาโดยตลอด
“เดี๋ยว เซี่ยปิง? ชื่อนี้ฟังดูคุ้นหูมาก เหมือนว่าจะเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน”
ทันใดนั้นลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นที่อยู่ใกล้ๆก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จ้องมองไปที่เซี่ยปิง “เจ้าคือลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดินผู้นั้นที่เอาชนะเฟิงซิงอวี่ จ่างหาว เมิงเจิ้นชุนและลูกศิษย์คน อื่นๆของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นใช่หรือไม่ อีกทั้งยังพูดจาดูหมิ่นว่าลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นไม่ได้มีดีอะไร เป็นบุคคลที่ไร้น้ํายาซึ่งบ่มเพาะมาเยี่ยงสุนัข?”
“อะไรกัน? ชื่อเสียงของข้าโด่งดังมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นเลยรึ? ไม่คาดคิดว่าข้าจะมีชื่อเสียงที่โด่งดังจนถึงขั้นนี้”
เซี่ยปิงก็เอามือเท้าคางพร้อมกับมีสีหน้าที่ภาคภูมิใจในตนเอง ราวกับไม่รู้มาก่อนว่าตนเองมีชื่อเสียงที่โด่งดังจนถึงขั้นนี้
“หึหึ ชื่อเสียงของเจ้าโด่งดังจริงๆ เป็นเพียงเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่เอาชนะลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นจํานวนหนึ่งได้เพราะโชคช่วย ไม่คาดคิดว่าจะโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย บอกว่าพวกเราลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นเป็นบุคคลไร้น้ํายา เรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นแล้ว ทําให้สาธารณะเดือดดาล ผู้คนจํานวนมากต่างก็กําลังตามหาเจ้า ต้องการที่จะรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้ามี สามเศียรหกกรหรือไม่ ไม่คาดคิดว่าจะยโสโอหังอย่างไม่สนใจใครเช่นนี้”
ซืออันก็แสยะออกมา หลังจากที่รู้ว่าเซี่ยปิงเป็นบุคคลที่โด่งดังเมื่อไม่นานมานี้ กิริยาท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที จ้องมองไปที่เซี่ยปิงด้วยสายตาที่เหมือนกับกําลังมองเหยื่อก็ว่าได้ ไม่มีความคิดที่จะพยายามไกล่เกลี่ยและยุติข้อพิพาทซึ่งกันและกันอีก
“เจ้าเด็กนี่คือเจ้าเซี่ยปิงนี่เอง ข้าก็อยากเจอเขามานานแล้ว”
“เจ้านหรือที่เอาชนะเฟิงซิงอวี่ จ่างหาวและเมิงเจิ้นชุนได้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก”
“ไม่คาดคิดว่าจะกล้าดูหมิ่นพวกเราลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น บอกว่าเป็นบุคคลไร้น้ํายาช่างกล้าหาญยิ่งนัก
“จะต้องสั่งสอนเจ้าศิษย์ใหม่ผู้นี้ให้รู้สํานึก ทําให้เขารู้ว่าเหตุใดที่นี่จึงเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ให้เขาได้รู้ถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาล ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เด็กบ้านนอกอย่างเขาจะเข้ามาอาละวาดตามอำเภอใจได้”
ภายในโรงอาหาร ศิษย์นอกจํานวนมากของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก็ตื่นตัวขึ้นมา แต่ละคนต่างก็เข้ามารุมล้อมรอบตัวเซี่ยปิงและจับจ้องเหมือนกับเสือที่จ้องมองเหยื่อ
เดิมที่พวกเขาก็โมโหกับข่าวนี้เช่นกัน
เพราะในฐานะลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นนั้น พวกเขาแต่ละคนต่างก็ภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างมาก ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกหรือว่าร้ายดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นเด็ดขาด
ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะมีบางคนที่กล้าดูถูกเหยียดหยามพวกเขาลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นเช่นนี้ นี่เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้อย่างแน่นอน
หากเป็นเพียงแค่บุคคลต่ําต้อยและไร้ชื่อเสียงที่เอ่ยออกมาเช่นนี้ พวกเขาก็คงจะไม่
ถือสาอะไร ทว่าฝ่ายตรง ข้ามเป็นผู้ที่เอาชนะศิษย์นอกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นมาได้เอ่ยคําเหล่านี้ออกมาด้วยจุดยืนของผู้ช นะ ทําให้ฟังดูน่าเชื่อถืออย่างมาก นี่ก็เป็นเรื่องที่พวกเขายอมไม่ได้ ทันใดนั้นก็ทําให้สาธารณะเดือดดาล
แม้แต่วิหารแห่งความมืดที่รู้ถึงเรื่องนี้ พวกเขาก็ดูถูกถากถางดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นอย่างไม่ไว้หน้าดูถูกเหยียดหยามเป็นประจําทุกวัน
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการราดน้ํามันลงบนกองไฟ กระตุ้นให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าที่ทรงอํานาจของผู้คนที่อยู่รอบๆ เว่ยเหลียงชุน อิ่งซีเหิง กงเฉิงและคนอื่นๆก็หวาดกลัวจนใบหน้าซีดเซียว พวกเขารู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด หากพวกเราล่วงรู้ว่าเซี่ยปิงจะเผชิญกับการโจมตีรอบด้านเช่นนี้ พวกเขาก็คงจะไม่ผูกมิตรไมตรีกับฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้ว พวกเขากลายเป็นมิตรสหายกับเซี่ยปิงไปแล้ว จะต้องถูกลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นเหล่านี้เพ่งเล็งมาเช่นกัน บางทีอาจจะเห็นเป็นพวกเดียวกันกับเซี่ยปิงและเผชิญกับภัยพิบัติไปพร้อมๆกัน
พวกเขาก็รู้สึกทันทีว่าอนาคตของพวกเขาจะต้องมืดมิด เดิมที่พวกเขาวางแผนที่จะเก็บตัวสงบเสงี่ยมไว้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น พัฒนาเติบโตขึ้นไปอย่างช้าๆ ไม่คาดคิดว่าสวรรค์จะไม่ให้โอกาสเช่นนั้นกับพวกเขา
หยินซื่อซิงก็หวาดกลัวจนหัวใจสั่นระรัว เวรเอ๊ย โชคดีที่ตนเองรีบแก้ต่างออกมา หากตนเองกลายเป็นแพะรับบาปของเซี่ยปิงจริงๆล่ะก็ ชีวิตของเขาก็คงจะจบสิ้นอย่างแท้จริง
“พูดมา เซี่ยปิง ข้าขอท้าให้เจ้าพูดมาอีกครั้ง พูดมาว่าพวกเราลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น เป็นบุคคลไร้น้ํายา พูดมาว่าพวกเราไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ตอนนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้าในการเรียบเรียงคําพูดใหม่”
ซืออันก็ตะโกนเสียงดังออกไป พยายามที่จะข่มขู่ให้เซี่ยปิงกลัวและก้มหัวให้กับเขา
“โอ้ กลุ่มคนที่โง่เขลา สิ่งที่ข้าพูดมันผิดอย่างไร ไม่ใช่ข้อเท็จจริงอย่างนั้นหรือ? หากแน่จริงก็เข้ามากัดข้า”
เซี่ยปิงก็ตอบโต้กลับไปอย่างไม่แยแสแม้แต่น้อย