God of Fishing - ตอนที่ 146
Chapter 146: เฒ่าเจียงไม่ขอให้ฉันมาที่นี่ฉันก็จะไม่มาเหมือนกัน
คืนนั้นโรงเรียนได้วางแผนที่จะจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับหานเฟย แต่สุดท้ายแผนนี้ก็ถูกยกเลิกเพราะผู้เฒ่าไปไม่ต้องการใช้จ่ายเงิน
ณ ตอนนี้
ที่เชิงเขาครัวชั่วคราวในปา
ปลาไข่มุกกำลังถูกปรุงในหม้อใบใหญ่หานเฟยโยนเครื่องเทศทุกชนิดลงในหม้ออย่างเชี่ยวชาญและในไม่ช้ากลิ่นหอมของหม้อไฟก็กระจายไปทั่ว
เลอเหรินกวงพ่อครัวคนแรกของสถาบันอันธพาลนี้กำลังสังเกตุหานเฟยอย่างใกล้ชิดและปากของเขาก็น้ำลายไหล
เลอเหรินกวงถามอย่างสงสัย “หานเฟยนี่มันลูกบอลเหลืองไม่ใช่เหรอเจ้านี่ไม่อร่อยนี่”
หานเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอาหารที่แย่หรอก มีแต่คนทำอาหารแย่ ฉันกำลังทำพริกกับมันฝรั่งรสเปรี้ยว”
เซียเสียวจ้านจ้องมองจานกุ้งขาวตัวเล็กทำหน้ามุ่ยเป็นระยะ ๆ “ หานเฟยกุ้งพวกนี้ยังมีชีวิตอยู่”
หานเฟยไม่ได้มองเซียเสียวจ้านเป็นสาวน้อยน่ารักอีกต่อไปแล้วเขาตอบอย่างสบาย ๆ ว่า “นั่นเรียกว่ากุ้งขี้เมาตอนนี้พวกเขาเมาแล้วรอสักพัก”
เฒ่าไปตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “หานเฟยการเลี้ยงกุ้งด้วยเหล้าที่ดีเช่นนี้ไม่เป็นการเสียเปล่าหรอ! เจ้าจะใช้เหล้าชั้นดีนี้ไปกับกุ้งขาวตัวเล็กระดับต่ำงั้นหรอ?”
หานเฟยเหลือบมองไปที่เฒ่าไปที่ถือขวดไวน์และชายมีหนวดแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ ”เอาล่ะฉันขอเครื่องปรุงรสของฉันคืนได้ไหมยังมีเหล้าอีกมาก”
เฒ่าไปปฏิเสธ “ฉันไม่ได้คาดหวังว่าผลไม้วิญญาณระดับต่ำจะมีเอฟเฟกต์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ฉันเคยปล่อยให้พวกมันเน่าอยู่ในทุ่งนา”
หานเฟยกล่าวเสริมว่า “พวกเขาใช้ปรุงรสได้ด้วยนะ”
ในขณะนี้หานเฟยได้ตระหนักว่าสวนขนาดใหญ่ด้านนอกนั้นเป็นของสถาบันอันธพาลด้วยโดยเกือบจะมีพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของเกาะเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมืองทะเลครามจึงให้พื้นที่ขนาดใหญ่แก่พวกเขาแบบนี้
ชายชราคนนี้โง่มากทำไมเขาไม่ปล่อยเช่าเพื่อหารายได้นะ
เฒ่าไปถามว่า “ทือทำไมผลไม้วิญญาณระดับต่ำหลากหลายจังเจ้าไม่ได้ขุดมาจากข้างนอกหรือ?”
หานเฟยพูดข้ามๆ ” ฉันพาพวกเขามาจากหมู่บ้าน”
เฒ่าไปประหลาดใจ “คุณบอกว่าคุณมาจากหมู่บ้านน้ำแห่งสวรรค์…คุณรู้จักชายชราในสวนของหมู่บ้านไหม”
หานเฟยหยิบจดหมายของเฒ่าเจียงออกมาจากกระเป๋ากางเกง“ ลืมไปเลย นี่คือจดหมายของเฒ่าเจียงที่ฝากส่งถึงคุณ”
“ฮะ”
เฒ่าไปหยิบจดหมายออกมาด้วยความประหลาดใจทันทีที่เขาเห็นคำว่า “ถึงไอ้แก่” บนจุดหมายเขารู้ว่ามันต้องมาจากเฒ่าเจียง
เฒ่าไปไม่ได้โกรธ แต่สงสัยว่า “ทำไมคุณไม่เอาจดหมายฉบับนี้ออกมาแต่แรกล่ะ”
หานเฟยยิ้มอย่างขมขื่น “เฒ่าเจียงบอกว่าฉันแทบไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่สถาบันที่สี่ดังนั้นฉันจึงอยากลองดู แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง!”
เฒ่าไปพูดอย่างสบายๆว่า “โอ้เป็นเรื่องดีที่คุณรู้ความสามารถของคุณถ้าฉันรู้ว่าเป็นผู้เฒ่าเจียงที่ขอให้คุณมาที่นี่คุณจะต้องใช้เวลาสักชั่วโมงแทนที่จะเป็นสามนาที่กว่าจะผ่านการประเมิน!”
หานเฟย: ”???”
ไม่ไกลนักหญิงสาวสวยวัยกลางคนเหวินเหรินหยูและภูเขาน้ำแข็งลู่เสี่ยวไปยืนอยู่หน้าเตาย่างบาร์บีคิวจ้องมองไปที่กุ้ง หอยแมลงภู่ และผลไม้ย่างต่างๆบนตะแกรงขณะสูดจมูกเป็นระยะ ๆ
หานเฟยเดินไปปัดน้ำมันบนอาหารอีกครั้งแล้วทาซอสกระเทียมลงไปทำให้ทั้งสองคนกลืนน้ำลายทันที
หานเฟยหันกลับมาพร้อมกับกระตุก “นี่เสี่ยวจ้านกุ้งขี้เมายังไม่พร้อมรอสักครู่นะ”
เซียเสียวจ้านมองลงไป “ฉันไม่ได้…”
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเปิดปากกุ้งขาวตัวเล็กก็กระโดดออกมาจากปากของเธอ
หานเฟยสั่งว่า “นี่ลดความร้อนลงถ้าคุณต้มมากเกินไปมันจะไม่อร่อย”
เลอเหรินกวง “ได้เลย”
หลังจากนั้นสักครู่
หม้อไฟบาร์บีคิวและอาหารถูกเสิร์ฟที่ละจาน
หานเฟยกล่าวว่า “โอเคอาหารมื้อเย็นมื้อแรกของเราเสร็จเรียบร้อยแล้วเราเริ่มกินได้เลย”
ก่อนที่หานเฟยจะพูดจบเขาพบว่าปากของเลอเหรินกวงและ เซียเสียวจ้านเต็มไปด้วยอาหารแล้ว เลอเหรินกวงกำลังถือกุ้งกระเทียมและเอาอาหารเข้าปากอย่างงรวดเร็ว
เฒ่าไปและอาจารย์เสี่ยวจิบเหล้าและกัดหอยแมลงภู่ด้วยความยินดี
ดวงตาของเซียเสียวจ้านเป็นประกาย “มันอร่อยมากไม่ต้องให้ให้กวงกวงทำอาหารแล้ว ต่อไปให้หานเฟยทำอาหารให้เราแทน”
จางซวนหยูพยักหน้า “ใช่ทักษะการทำอาหารของพวกเขาเหมือนเมฆและโคลนเลย”
แต่เลอเหรินกวงไม่รู้สึกรำคาญที่ได้ยินเช่นนั้น “ฉันกำลังเรียนรู้จากเขามีแต่คนอ้วนแบบเราเท่านั้นที่จะทำอาหารอร่อย ๆ ได้”
ใบหน้าของหานเฟยเป็นสีดำไปหมด “ฉันพูดอีกครั้งฉันไม่ได้อ้วนการอ้วนของฉันเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น”
ลู่เสี่ยวไปสงบตามปกติเธอไม่ได้กินมูมมาม แต่กินทีละนิดและกล่าวว่า “อร่อยมาก”
ไม่มีใครมีเวลาคุยกับหานเฟย หานเฟยตกตะลึงมองดูคนตะกละกลุ่มนี้กินอาหารจนเกลี้ยงจานเหมือนพายุหมุนวนไปมาและเขาได้กินแค่กุ้งกระเทียมเพียงสองตัวเท่านั้น
หลังอาหารทุกคนกลายเป็นเพื่อนของหานเฟยแม้แต่ภูเขาน้ำแข็งลู่เสี่ยวไปก็ยังยิ้มให้เขา
เมื่อรับประทานอาหารจนอิ่มแล้วเฒ่าไปก็พูดว่า “ฉันจะไปนอนแล้ว” ขณะที่เขาเดินจากไป
เสี่ยวจ้านและเหวินเหรินหยูก็จากไปเช่นกัน
หานเฟยถามว่า “ตอนกลางคืนเรานอนที่ไหน”
จางซวนหยูพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “กวงกวงและฉันนอนหลับอยู่ในถ้ำน่ะ จะให้เราขุดล้ำให้คุณ
เลอเหรินกวงโบกมือ “เขานอนกับเราได้หานเฟยคุณอยากนอนกับเราในถ้ำไหม”
หานเฟยตัวสั่นและส่ายหัวอย่างแรง “แล้วผู้เฒ่ากับอาจารย์ล่ะ?”
เลอเหรินกวงกล่าวอย่างอิจฉาว่า “ท่านอาจารย์ใหญ่นอนในห้องสมุดนะ!”
หานเฟยหันไปหาเซียเสี่ยวจ้านที่พูดว่า “เสี่ยวไปกับฉันก็นอนในถ้ำเหมือนกัน”
หานเฟยยิ้ม “ฉันขอร่วมถกับคุณสองคนได้ไหม?”
ทันใดนั้นมีการจ้องสังหารสองครั้งที่จ้องมองมาที่เขา เซียเสียวจ้านยิ้มและพูดว่า “น้องชายฉันไม่รังเกียจอย่างไรก็ตามคุณจะกลายเป็นน้องสาวของเราในวันถัดไป”
จางซวนหยูและเลอเหรินกวงอดไม่ได้ที่จะจับขาของพวกเขาด้วยความหวาดกลัวและหุบปากอย่างไรก็ตามพวกเขาแอบยกนิ้วให้หานเฟยคุณเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดที่เราเคยเห็น
หานเฟยยิ้มอย่างเชื่องช้า “เอ่อ ลืมไปฉันจะสร้างบ้านเอง!”
เลอเหรินกวงหมดความสนใจทันที “ลำบากขนาดนี้นอนในถ้ำดีกว่านะ”
หานเฟยเหลือบมองไปรอบ ๆ และถามว่า “ฉันจะตัดต้นไม้ที่นี่ได้ไหม”
จางซวนหยูงับนิ้วของเขา “คุณมีเงินนี่ และปาทั้งหมดเป็นของคุณคุณสามารถตัดได้มากเท่าที่คุณต้องการ”
หานเฟยรีบไปตัดต้นไม้ใหญ่ทันทีในที่สุดฉันก็เปลี่ยนจากคนธรรมดาเป็นนักเรียนแล้วฉันจะอยู่ในถ้ำได้ยังไง!?! มันแย่กว่าเดิมไม่ใช่เหรอฉันอยู่ในถ้ำไม่ได้หรอก!
หานเฟยยกแขนขึ้นและฟันไปที่ไม้อย่งจริงจัง
ลู่เสี่ยวไปประหลาดใจ “คุณกำลังสร้างบ้านจริงๆเหรอ?”
จางซวนหยูอุทาน “เพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ยอดเยี่ยมมากดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทุกอย่าง!”
เซียเสียวจ้านเข้ามาใกล้และถามว่า “งั้นคุณช่วยสร้างให้ฉันหน่อยได้ไหม”
หานเฟยตอบว่า “พลังของชายคนหนึ่งมีจำกัดนะมาอยู่บ้านหลังเดียวกันดีไหม”
“ตกลง แต่หลังจากที่คุณกลายเป็นน้องสาวของฉันเท่านั้นแม้ว่าคุณจะอ้วนไปหน่อย แต่ฉันก็ยังรับคุณได้”
หานเฟย: 77
หานเฟยถือไม้ท่อนใหญ่และกระโดดขึ้นลงจากนั้นทุกคนก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังจะสร้างบ้านต้นไม้พวกเขาสนใจทันทีพวกเขาเคยนอนบนต้นไม้มาก่อน แต่ไม่มีใครคิดจะสร้างบ้านบนต้นไม้ !
ครึ่งชั่วโมงต่อมาบ้านต้นไม้ถูกสร้างโดยหานเฟยเขาปูที่นอนและผ้านวมบนพื้นและตกแต่งบ้านด้วยทับทิมสองสามเม็ดที่ทำให้บ้านต้นไม้สว่างไสวเมื่อเห็นอย่างนี้ก็ไม่มีใครอยากกลับไปที่ถ้ำ
หานเฟยนั่งอยู่บนหีบ ” ทำไมคุณไม่กลับกันล่ะ?”
ดวงตาของเสี่ยวจ้านสว่างขึ้นเธอกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้และพูดกับหานเฟยว่า “ให้ฉันลองนั่งดูหน่อยสิ”
จากนั้นเธอก็นอนลงข้างในและกลิ้งไปมาอย่างมีความสุขหลาย ๆ ครั้ง
“สบายมาก! ฉันไม่อยากกลับไปที่ถ้ำอีกแล้วคืนนี้ฉันจะนอนบนต้นไม้นี่แหละ … โอเคฉันจะไปนอนแล้ว ฝันดี”
หานเฟย: “???”
หานเฟยตะโกนอย่างรวดเร็ว “เฮ้! เดี๋ยวก่อน! คุณไม่ได้บอกว่าแค่จะลองนั่งดูเหรอทำไมคุณถึงนอนอยู่ในนั้นเล่า”
เซียเสียวจ้านพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ฉันลองนั่งดูแล้วคุณหนักเกินไปสำหรับบ้านต้นไม้นี้คุณต้องหาต้นไม้ที่ใหญ่กว่า ดูสิต้นไม้นั้นเหมาะสำหรับคุณมากกว่าทั้งหนาและใหญ่ ไปนอนได้แล้วอย่ามารบกวนฉันไม่งั้นฉันจะเรียกยักษ์อโรวาน่ามากัดคุณ ”
หานเฟยตัวสั่นด้วยความโกรธ “เซี่ยเสี่ยวจ้านคุณมากเกินไปแล้ว! ฉันทนกับคุณมานานเกินไปแล้ว!”
“นี่คุณต้องสร้างอีกอัน มันเป็นเรื่องดีกับคุณเองนะ คุณต้องออกกำลังกายให้มากขึ้นเพื่อให้ผอมเหมือนกวงกวง”
หานเฟยพูดไม่ออกเลอเหรินกวงกลายเป็นเป้าหมายในการลดน้ำหนักเมื่อไหร่
ครึ่งเดือนต่อมา
ในที่สุดอาคารเรียนก็ถูกสร้างขึ้นซุ้มประตูของสถาบันถูกสร้างขึ้นใหม่และแผ่นป้ายของสถาบันอันธพาลก็ถูกแขวนขึ้นอีกครั้ง
ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาหานเฟยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างตรวจสอบภาพวาดทุกวันเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาทำในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาแทบจะน้ำตาไหลฉันมาที่นี่เพื่อเรียนไม่ใช่เพื่อสร้างบ้าน!
ตอนนี้หานเฟยนั่งยองๆกับอีกสี่คนและทั้งห้าคนจ้องไปที่อาคารห้องสมุดด้วยความงุนงง
เลอเหรินกวงถามว่า “ทำไมห้องสมุดถึงสร้างเป็นตึกที่สูงและสวยที่สุดในโรงเรียนทั้งโรงเรียน”
หานเฟยพูดอย่างสบาย ๆ “ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่สามารถรวมเอาแก่นแท้ของโรงเรียนได้”
เซียเสี่ยวจ้านจับคางของเธอไว้ในมือและถอนหายใจ “แต่ไม่มีใครมาที่โรงเรียนของเรามีพวกเรานะ มีเพียงเราห้าคนที่นี่ … ทำไมทุกคนถึงไปที่สถาบันการศึกษาอีกสามแห่ง?”
หานเฟยพูดไม่ออกไม่รู้ทำไมงั้นหรอ พวกคุณไม่มีเงินและไม่มีคน นักเรียนอาศัยอยู่ในถ้ำและอาจารย์ใหญ่อาศัยอยู่ในห้องสมุดไงถ้าเฒ่าเจียงไม่ขอให้ฉันมาที่นี่ฉันก็จะไม่มาเหมือนกันแหละน่า!
ในเวลานี้เฒ่าไปเสี่ยวจ้านและเหวินเหรินหยูออกมาจากห้องสมุด
เสี่ยวจ้านพูดอย่างเย็นชา “โอเควันนี้จะเป็นวิชาแรกของพวกคุณ”
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ว่างๆก็เลยเอานิยายมาแปลไทย