God of Fishing - ตอนที่ 162
Chapter 162: เพื่อนเก่า
ฝูงชนเริ่มเสพติดการเล่นไพ่ทันที
ในไม่ช้ทุกคนก็เล่นมันในร้านอาหารหม้อไฟ
“สามสอง ปลาขาวตัวเล็กสามตัวและกุ้งขาวตัวเล็กสองตัว”
“ปลาจวดสีเหลืองใหญ่สามตัวและกุ้งขาวตัวเล็กสองตัว”
“เจอนี่หน่อยเป็นไง,ปลาดาบสามตัวและเต่าเขียวสองตัว”
“กุ้งมังกรสี่ตัว”
หานเฟยพอใจกับการโปรโมตทางการค้าของเขามากๆ เมื่อเขากลับไปที่โต๊ะ คนอื่นๆก็เล่นไพ่กันหมดแล้วหานเฟยเหลือบมองเซียเสี่ยวจ้านซึ่งมีไพ่ชุดที่ดีที่สุดคืองูเข็มขัด
หานเฟยสงสัย “จางซวนหยูอยู่ที่ไหนนะ”
เซียเสี่ยวจานเม้มริมฝีปากของเธอเป็นสัญญาณ “ข้างบน”
หานเฟยเงยหน้าขึ้นมอง แต่พบว่าไอ้คนนี้นั่งอยู่กับผู้หญิงหลายคนบนโต๊ะ ตอนนี้เขาถูกล้อมรอบไปด้วยผู้หญิงและบางคนก็พยายามนั่งบนตักของเขา
หานเฟยตัวสั่น หนอย! กล้าดีขนาดนี้ได้ยังไง?!
ทันใดนั้นเซียเสี่ยวจานก็พูดกับหานเฟยอย่างโกรธๆว่า “หานเฟยคุณนี่นะ ทําไมคุณไม่แนะนําสิ่งนี้ให้เรารู้จัก ก่อนหน้านี้! ฮี!”
หานเฟย: “???”
เลอเหรินกวงเห็นด้วย “จริงด้วยคุณควรแบ่งปันสิ่งเหล่านี้ให้เรารู้ก่อนหน้านี้สิ”
หานเฟยพูดอย่างเรียบง่ายว่า“มันเป็นแค่การเล่นผ่อนคลายเฉยๆ เราต้องการโฟกัสกับการฝึกสิ”
เหอเสี่ยวยเข้ามาใกล้ “หานเฟยคุณเรียนในสถาบันที่สี่เป็นอย่างไรบ้าง? มันยากมากมั้ย? มันทําให้ความแข็งแกร่งของคุณดีขึ้นเร็วขนาดนี้เลยหรอ”
ขณะที่เธอพูดเธอมองไปที่เซียเสี่ยวจาน
เซียเสี่ยวจานเล่นไพ่และพูดว่า “เราไม่มีการเรียน! เราแค่ฝึกฝนฝึกฝนและฝึกฝน จากนั้นเราก็กลายปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่จางซวนหยูขี้เกียจฝึก ดังนั้นเขาจึงเป็นเพียงผู้ปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงสุดเท่านั้น”
เหอเสี่ยวย: “???”
เลอเหรอนกวงยิ้มอย่างเชื่องช้า “เซียเสี่ยวจานหมายถึงการฝึกฝนอย่างหนักและฟาดฟันผู้คนให้ได้มากที่สุดตราบใดที่คุณเฉือนคนได้มากพอคุณก็จะกลายเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน”
เซียเสียวจ้านกัดฟันของเธอ “กวงกวง…”
เหอเสี่ยวย: “…”
หานเฟยเย้ยหยัน “อย่าเชื่อเรื่องไร้สาระของพวกเขา พวกเขาฝึกหนักมาก”
เหอเสี่ยวยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใครจะเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ได้ง่ายๆ?
เหอเสี่ยวยกระซิบกับหานเฟยว่า “ฉันเป็นปรมาจารย์ตกปลาระดับกลางแล้ว”
หานเฟยประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเลยสิ!”
เหอเสี่ยวยบ่น “ใครจะไปรู้ว่าคุณจะกลายเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ได้เร็วขนาดนี้!”
ทันใดนั้นหวังไปยก็ถามว่า “สถาบันอันธพาลจะเปิดลงทะเบียนนักเรียนในปีนี้มั้ย? หากพวกคุณประสบความสําเร็จในการชนะ 100 ครั้งได้ จะมีผู้คนมากมายที่อยากเข้าโรงเรียนของคุณแน่ๆ”
หลังจากหานเฟยไปที่สถาบันที่สี่แล้วหวังไปยก็ไปตรวจสอบประวัติของสถาบันที่สี่จากนั้นเขาก็ผงะถ้าเขาทําได้เขาก็อยากเป็นนักเรียนที่นั่นด้วย
เซียเสี่ยวจานหยุดชั่วคราวและมองไปที่ลู่เสี่ยวไป “ก็ถ้าอยากเข้าก็…ไม่ยากนะ”
หวังไปยูเลิกคิ้ว “ยังไงหรอ?”
เซียเสี่ยวจานชี้ไปที่หานเฟย “คุณสามารถถามหานเฟย เขาเข้ารับการทดสอบอย่างไร”
คนอื่นๆ มองไปที่หานเฟย หานเฟยเกาท้องของเขาและพูดว่า “ฉันต้องทนสามนาที่ภายใต้การโจมตีของทั้งสี่คนให้ได้”
“ว้าว..”
เซียขู่ฉาง, เจียงน่านและเขียองอดไม่ได้ที่จะตะลึง อะไรนะ? สามนาทีหรอ?!
หวังไปยและเหอเสี่ยวยก็ตะลึงเช่นกัน อะไร? คุณกําลังพูดถึง ทนการโจมตีจางเซียเสี่ยวจานและอีกสามคนงั้นหรอคุณเล่นรึเปล่า? จาก 10 ทีมในวันนี้มีกี่ทีมที่ทนได้ถึง 3 นาทีกัน
เซียบูฉางถามอีกว่า “แล้วหานเฟยคุณอยู่ได้นานแค่ไหนล่ะ?”
หานเฟยหยุดชั่วคราว “ไม่นาน. ฉันแทบจะไม่ผ่านมันเลย คุณก็รู้ว่าฉันมีแค่ร่างกายที่แข็งแรง”
เลอเหรินกวงพูดแทรกขึ้น “คนโกหกคุณอดทนไว้เกือบสิบห้านาทีจนกระทั่งคุณถูกอาจารย์มาหยุดไว้”
หานเฟยตอบกลับไป “ตอนนั้นคุณไม่ได้ใช้กําลังเต็มที่นี่!”
“เอ๊ย…”
เซียบูฉางทําหน้ามุ่ย “เขาทําร้ายความมั่นใจของฉัน ฉันสามารถเปลี่ยนโต๊ะได้มั้ยเนี่ย? ฉันต้องการเรียนรู้วิธีรับมือกับผู้หญิงกับจางซวนหยู”
เจียถงส่ายหัว “ก่อนอื่นคุณต้องหล่อเหมือนเขาก่อนนะ”
เจียงน่าน: “ ”
ในเวลานี้คนที่นั่นร้องอุทานว่า “ว้าว! อาหารนี่คืออะไรกัน? มันจะมีรสชาติมหัศจรรย์ขนาดนี้ได้ยังไง?”
“โอ้ฉันยังไม่ได้กินแต่ฉันก็น้ําลายไหลแล้ว กลิ่นหอมมาก”
มีคนตะโกนใส่หานเฟย “หานเฟยนี่มันอะไรกันเนี่ย?”
หานเฟยตอบเสียงดัง “หม้อไฟไง การทําหม้อไฟปลามังกรเป็นทักษะการทําอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของแก๊งปลามังกรของเรา”
“โห..มันอร่อยมาก”
ใครบางคนได้ลิ้มรสและแทบจะกัดลิ้นของตัวเองเลยทีเดียว
เลอเหรินกวงกลืนน้ําลายอย่างยากลําบาก “ฮ่าฮ่าเราได้กินมันทุกวันเลย…”
คนเหล่านี้มาดูไอดอลของพวกเขา ด้วยความผิดหวังเซียเสี่ยวจานได้บอกว่าหลงรักหานเฟยและลู่เสี่ยวไปไม่ได้ชายตามองพวกเขาเลยด้วยซ้ํา! และจางซวนหยูก็กลายเป็นเพลย์บอยไปแล้ว
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้มาโดยเปล่าประโยชน์ หม้อไฟนี้อร่อยจริงๆ! อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดที่พวกเขาเคยกินมาในชีวิต
หลังจากทานอาหารจนอิ่มแล้วหานเฟยก็บอกลาเหอเสี่ยวยและคนอื่น ๆ
เหอเสี่ยวหยู่ถามว่า“หานเฟยฉันสามารถไปที่สถาบันที่นี่เพื่อเยี่ยมคุณได้ไหม”
ก่อนที่หานเฟยจะตอบลู่เสี่ยวไปก็กล่าวว่า “ไม่”
เหอเสี่ยวยขมวดคิ้ว “ทะ..ทําไมล่ะ”
เสี่ยวไปกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ถ้าคุณสามารถเข้ารับการทดสอบได้ก็ยินดี แต่ถ้าเข้ามาเล่นมันจะส่งผลต่อการฝึกของเรา นอกจากนี้สถาบันของเราไม่ใช่สถานที่ที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าไปได้”
หานเฟยเกาท้องด้วยความอาย “เหอเสี่ยวยูฉันจะไปหาคุณในภายหลัง โรงเรียนของเราเป็นสถานที่พิเศษจริงๆ”
เหอเสี่ยวยหน้ามุ่ย “ตกลง..”
เมื่อดูหานเฟยจากไปเหอเสี่ยวยกกระทืบอย่างหนัก “ฮ! เธอแข็งแกร่ง! แต่ทําไมเธอถึงดูถูกคนอื่นแบบนี้นะ?”
หวังไปยกล่าวอย่างใจเย็น “เธอไม่ได้ดูถูกใครลู่เสี่ยวไปิคนนี้เป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะมาก ต้องมีเหตุผลที่เธอปฏิเสธคุณอาจเป็นเพราะวิถีการฝึกฝนของพวกเขาหรือเหตุผลอื่นๆ”
เจียงน่านพูดพร้อมกับถอนหายใจ “เสียวยูในความเป็นจริงฉันรู้สึกว่าช่องว่างระหว่างเรากับหานเฟยเริ่มใหญ่ขึ้นจากห้าคนคนที่อ่อนแอที่สุดคือจางซวนหยูใช่มั้ย? แต่เขาก็ยังสามารถเอาชนะปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ได้ได้แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงสุดก็ตาม … ส่วนคนอื่นๆเซียสี่ยวจานก็จัดการคู่ต่อสู้ของเขาได้เกือบจะในทันที เจ้าอ้วนนั่น…หวังไปยูเป็นคุณนักเกราะคุณคิดยังไงกับเขา…”
หวังไปยถอนหายใจ “ฉันไม่อยากจะสู้กับเขาเลย ฉันไม่คิดว่าปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่คนไหนจะต้านทานมีดและดาบจํานวนมากได้”
เซียปูฉางก็ส่ายหัว “ใช่! นี่ยังไม่ได้พูดเรื่องที่ลู่เสี่ยวไปแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นกัปตันได้ ต้องมีเหตุผลที่เธอจะได้เป็นกัปตัน”
เฉินซึ่งเตือนพวกเขาว่า “อย่าลืมว่าหานเฟยรอดจากกรงเล็บของราชาแมงป่องหางม่วงและฆ่ามันได้มาแล้ว”
ทุกคนนิ่งเงียบ
เหอเสี่ยวยูกล่าวอย่างกังวล “แต่แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นอัจฉริยะแล้วยังไงล่ะ? จําเป็นไหมที่หานเฟยจะต้องทําตัวแปลกแยกจากเพื่อนเก่า”
หวังไปยยิ้ม “หานเฟยไม่ได้แปลกแยก แต่เขาแค่ไปอยู่ในสังคมใหม่ของเขา เราไม่สามารถเข้าไปยุ่งอะไรได้มากได้ในขณะนี้ ถ้าฉันเดาถูกทั้ง 5 คนกําลังทําการทดสอบหรือทําอะไรบางอย่างที่สําคัญอย่างยิ่งการชนะร้อยเกมในสนามประลองเป็นเพียงเป้าหมายแรกของพวกเขาฉันไม่รู้ว่าพวกเขากําลังทําอะไร แต่การทดสอบนี้ต้องยากมาก ดังนั้นพวกเขาจําเป็นต้องฝึกหนักและหากจําเป็นต้องฝึกฝนก็ไม่ต้องเสียเวลาไปกับสิ่งอื่นมากนักคุณเข้าใจไหม?”
ดวงตาของเหอเสี่ยวยุหรี่ลง “…ฉันจะกลับไปโรงเรียน”
ด้านนี้ลู่เสี่ยวไปกล่าวอย่างเฉยเมยว่า“ไม่มีใครสามารถเข้าโรงเรียนของเราได้”
หานเฟยพูดอย่างไม่พอใจ“อย่าดอย่าใจร้ายใส่ทุกคนแบบนั้นสิ”
เซียเสี่ยวจานเอียงศีรษะของเธอ“หานเฟยคุณสอนอะไรเธอบ้างไหม”
“ฮะ?”
เซียเสี่ยวจานพูดอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “ฉันเห็นได้ว่าท่าทางความแข็งแรงของแขนขาและจุดสมดุลของเธอตอนเธอเดินนั้นดูแปลกไปเล็กน้อยเหมือนกับเอกสารที่ไม่สมบูรณ์ของคุณ 108 วิธีในการฝึกร่างกาย..”
หานเฟยประหลาดใจ “คุณสังเกตเห็นด้วยหรอ”
เซียเสี่ยวจานหัวเราะเบา ๆ “ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะพิเศษสําหรับคุณนะ!”
หานเฟยเกาท้อง “ตอนที่ฉันอยู่ในหมู่บ้านเหอเสี่ยวหยูเป็นหนึ่งในสองคนที่ปฏิบัติกับฉันอย่างดีในโรงเรียน”
จางซวนหยกอดคอของหานเฟย “งั้นฉันก็เป็นแบบเดียวกับฉันคุณสินะ เป็นเพื่อนของความเหงา..”
หานเฟยเปลี่ยนเป็นสีดํา “ฉันไม่เหมือนคุณสักหน่อย”
ลู่เสี่ยวไปยังคงพูดอย่างเฉยเมย “ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีคุณสมบัติ ฉันยอมรับว่าเอกสารที่ไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับ 108 วิธีในการฝึกร่างกายนั้นทรงพลังมากแต่ก็ไม่แกร่งเท่าเราหลังจากที่เราได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ไม้ตายของเรา”
หานเฟยขมวดคิ้ว “อย่าตัดสินคนเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นสิ”
หานเฟยรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ถอนหายใจในใจตั้งแต่เขาได้พบกับลู่เสียวไปและคนอื่น ๆ เขาก็รู้ว่าโลกนี้มีอัจฉริยะมากมาย
เขาจะยังคงเป็นเหมือนคนธรรมดาในอนาคตได้หรือไม่นะ?