Godly Model Creator - ตอนที่ 664
GMC ตอนที่ 664 เกิดใหม่
บูม!
เกิดเสียงดัง ฉากนับไม่ถ้วนเปล่งประกาย เมื่อความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาดวงตาของซูฮ่าวก็เผยถึงความตกใจ ก่อนที่เขาจะมองเห็นอะไรเขาก็ถูกผลักออกมาอย่างรุนแรง
“ เด็กเหลือขอนี้…” ซูฮ่าวถอนหายใจ
น่าเสียดาย เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่หลี่เตียนเตียนต้องการได้ กลไกการป้องกันอัตโนมัติของเกรด S เอสเปอร์นั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้ ซูฮ่าวทำได้เพียงมองอย่างรวดเร็วก่อนที่จะถูกปฏิเสธ
“ ฉันว่าฉันควรถามหลี่เตียนเตียนก่อน” ซูฮาวส่ายหัว
…
ทุกคนหยุดพัก ไม่กี่วินาทีต่อมาหลี่เตียนเตียนก็ฟื้นขึ้นมาและเห็นภาพนี้ เขาคิดว่าเขาเห็นภาพหลอน ปิงหยางคนที่ต่อสู้กับเขาก่อนหน้านี้ตอนนี้นอนอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว ส่วนซูฮ่าวและคนอื่นๆพวกเขากำลังนั่งไขว่ห้างบ่มเพาะพลัง
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลังจากฝูงชนอธิบายให้ฟังหลี่เตียนเทียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น
เขารู้สึกเวียนหัวหลังจากฟังคำอธิบาย
เขาตัดสินใจทุ่มสุดตัวด้วยอายุขัยของเขา แต่ในขณะเดียวกันซูฮ่าวก็หลอกทุกคนก่อนประสบชัยชนะ ความรู้สึกนี้… มันไร้สาระจริงๆ
“ ดังนั้นภารกิจของเราเสร็จสิ้นแค่นี้” เซว่เฟิงถามคำถาม
“เสร็จสิ้น?”
ทุกคนตกตะลึงหลายวินาทีก่อนจะรู้สึกตัว ก็จริงปิงหยางเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ทั้งหมด เนื่องจากเขาถูกจับตัวได้แล้วดังนั้นภารกิจนี้จึงเสร็จสิ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตามเหตุใดมันจึงมีความรู้สึกตระหงิดๆบางอย่าง
การทดสอบของศาลเทียนหลงจบลงเช่นนั้น ข่าวลือในตำนานไม่ได้บอกว่าอัตราการเสียชีวิตของการทดสอบของศาลเทียนหลงนั้นสูงมากหรือไง ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ตาย ในความเป็นจริงพวกเขาได้ปรับปรุงความแข็งแกร่งของตนเองแทน!
“ บางทีอาจเป็นเพราะเราทำตามผู้นำอย่างซูฮ่าว” หลี่โจวถอนหายใจ
ทุกคนคิดอย่างรอบคอบ คงเป็นอย่างนั้น
ภารกิจนี้มันง่ายจริงๆงั้นหรอ? ในระหว่างการเดินทางอันตรายซ่อนอยู่ทุกมุม หากไม่ใช่เพราะซูฮ่าวนำพวกเขาพวกเขาคงจะตายไปหลายครั้งแล้ว พวกเขาเข้าใจดี พวกเขาจะไม่ยอมใคร หากเป็นภารกิจธรรมดาพวกเขาคงจะแยกทางกันตั้งแต่เริ่มต้น
หากพวกเขาได้เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายจักรพรรดิในระหว่างทางพวกเขาคงนึกไม่ถึงความตาย!
อย่าลืมเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับปิงหยาง มันก็คือซูฮ่าวที่เข้ามาโซโล่บอสใหญ่ตัวสุดท้าย พวกเขาทั้งหมดไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ถ้าเป็นเช่นนั้น…
ดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะถูกทำสำเร็จโดยซูฮ่าวคนเดียว
ด้วยความคิดนี้นักเรียนช่วยไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น ตอนแรกพวกเขาคิดว่าความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นน่าเกรงขาม แต่ในที่สุดพวกเขาก็จบลงด้วยการเป็นปลิงยักษ์ที่ไม่มีส่วนอะไรเลย
นี่มันไม่เหมือนภารกิจทีมเลย!
ฟังดูราวกับว่าซูฮ่าวพาพวกเขาทำภารกิจ!
หลังจากที่เซว่เฟิงรู้เรื่องนี้ เขาก็กำกำปั้นแน่น
เขาเป็นหนี้บุญคุณซูฮ่าวอีกครั้ง
ในตอนแรกเขาวางแผนที่จะรอให้ลุงสองของเขามาถึงแล้วขอให้เขาช่วยซูฮ่าว อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้ช่วยของเขาจะหาพวกเขาไม่เจอจนกระทั่งพวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว
น่มขับขันและน่าเศร้า
ทุกคนเงียบไปและพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรในเวลานี้
ถ้าซูฮ่าวรู้ความคิดของพวกเขา เขาคงจะกลิ้งตัวหัวเราะอยู่บนพื้นจนท้องแข็ง ในภารกิจนี้เขาเป็นคนที่ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ไม่รวมการเผชิญหน้ากับปิงหยางเขาแทบไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรในการต่อสู้ครั้งก่อนๆ ไม่สิการวางแผนจะฆ่าผู้ช่วยของพวกเขาถือว่าเป็นงานหนัก…
ทุกคนมีเวลาพักเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรง
อีกด้านหนึ่งของภูเขา ซูฮ่าวมองหลี่เตียนเตียน “นายต้องการความลับอะไร?”
“ ระงับผลข้างเคียง” หลี่เตียนเตียนสูดหายใจลึกๆ “ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นเกรด S แต่ปิงหยางกับฉันใช้ไม่เหมือนกัน ถ้าฉันเอาส่วนของเขามารวมเข้ากับส่วนของฉันบางทีฉันอาจกำจัดผลข้างเคียงได้”
“ ฉันเห็นแล้ว!” ซูฮ่าวพยักหน้าและปลุกปิงหยาง
“ อืมม~” ปิงหยางเลียริมฝีปากของเขาอย่างเจ็บปวด “เฮ้เฮ้ ทำดีๆหน่อยสิเห้ย”
“ สิ่งที่เขาต้องการ” ซูฮ่าวชี้ไปที่หลี่เตียนเตียน
“ ไม่” ปิงหยางพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฉันต้องการการต่อสู้อย่างซื่อตรงแบบจริงๆ!”
“เฮ้อ ยังไม่ยอมรับ” ซูฮ่าวพูดต่ออย่างสงบ “ ฉันคิดว่าคุณสัญญาว่าจะให้เมื่อฉันชนะ”
“ คุณยังกล้าพูด!” ปิงหยางโกรธมาก “ ตั้งแต่ต้นจนจบทุกอย่างเป็นภาพลวงตา คุณแกล้งทำเป็นสู้ หากฉันรู้ว่าคุณซ่อนเทคนิคนี้ไว้ใต้แขนเสื้อของคุณ แม้ว่าคุณจะเอาชนะฉันจนตายฉันก็จะไม่ถูกหลอกและสามารถฆ่าคุณได้อย่างง่ายดายในเวลาไม่กี่นาที”
“ คุณไม่ต้องการที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ของคุณ” ซูฮ่าวจ้องไปที่เขา “ ถ้าภาพลวงตาเป็นพลังแบบหนึ่ง การต่อสู้ทางจิตวิญญาณนั้นไม่ถือว่าเป็นพลังงั้นหรือ “
“ฮึ”
“ ปิงหยางอย่าดื้อรั้น คุณจะไม่ให้มันใช่ไหม?” ซูฮ่าวมองเขาด้วยรอยยิ้ม
“ ไม่!” ปิงหยางตัดสินใจอย่างแน่วแน่และไม่ไตร่ตรองใดๆ
“ดี” ซู่เฮาพยักหน้า “ ดันนั้นฉันคงทำได้แค่หันไปพึ่งภาพลวงตา คุณถูกผนึกแล้ว อืม…ขอคิดก่อน คุณควรจะรู้ถึงภาพลวงตาในสิ่งที่คุณกลัวที่สุดอาจปรากฏขึ้น ในปัจจุบันนี้คุณจะสามารถผ่านเหตุการณ์เดียวกันอีกครั้งได้หรือไม่”
ร่างกายของปิงหยางสั่นเทา “ ฆ่าฉันซะ!”
“ ฉันรู้ว่าคุณไม่กลัวความตาย” ซูฮ่าวยิ้มอย่างร้ายกาจ “ในโลกนี้มีหลายสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย คุณต้องการสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งหรือไม่?”
ปิงหยางหวาดกลัว
จากนั้นเขาก็ส่งมอบเทคนิคลับให้กับหลี่เตียนเตียนอย่างรวดเร็ว
“เช่นนี้? เขาตัดสินใจที่จะให้เช่นนี้?” หลี่เตียนเตียนพูดไม่ออก
“ แน่นอน” ซูฮ่ายยักไหล่ “ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย”
“ แต่…” หลี่เตียนเตียนรู้สึกละอายใจ
หรือเขาเข้าใจผิด? ในความคิดของเขาสิ่งนี้ควรเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ฆ่าทุกอย่างและผ่านความยากลำบากทุกประเภทก่อนเอาชนะถึงที่จะได้รับความลับมา ตั้งแต่ต้นเขาเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากันอย่างตายไปข้าง
นี่……
หลี่เตียนเตียนส่ายหัวมองไปที่ซูฮ่าวและปิงหยาง เขายังคงไม่สามารถสลัดความรู้สึกผิดปกตินี้ได้
“ ลืมมันไปเถอะ” หลี่เตียนเตียนส่ายหัว ด้วยความมุ่งมั่นเขาหันไปฝึกฝน
ในขณะที่เขาจากไป …
ปิงหยางมองไปที่ซูฮ่าวและถามคำถามเดิมอีก “ พวกเราไม่รู้จักกันจริงๆหรอ”
คิ้วของซูฮ่าวกระตุก “ ไม่”
“ โอ้” ปิงหยางไม่ถามเพิ่มอะไรอีก
ซูฮ่าวจ้องที่เขาอย่างแปลกๆ “คุณถามคำถามเดียวกันถึงสองครั้ง ฉันดูเหมือนเพื่อนของคุณหรอ”
“ ไม่ใช่อย่างนั้น” ปิงหยางส่ายหัว “ฉันสังเกตเห็นออร่าที่คุ้นเคยจากร่างกายของคุณ มันทำให้ฉันรู้สึกใกล้ชิด”
“ F * ck.” ใบหน้าของซูฮ่าวเปลี่ยนไปและมองเขาด้วยความระมัดระวัง “ คุณคงไม่…”
ใบหน้าของปิงหยางเปลี่ยนเป็นสีดำทันที
แม่เอ็งสิ!
ความคิดนี้คืออะไร? ฉันดูเหมือนคนแบบนั้นหรอ?
ปิงหยางหันหน้าหนีไปโดยไม่สนใจทุกคน
“ เอ่อ เริ่มใหม่” ซูฮ่าวถอนหายใจ “ เจ้าหนุ่ม คุณเป็นหัวหน้าของวายร้าย เอสเปอร์โดเมน เพื่อความต้องการของตนเอง คุณได้พยายามทำลายโลกเลยรึไง”
“ ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ” ปิงหยางมองซูฮ่าว “แล้วอย่าหยุดเรียกฉันว่าเจ้าหนุ่ม ฉันแก่กว่าคุณ.”
ซูฮ่าว “ …”
ด้วยน้ำเสียงของเขา เขาพยายามทำตัวให้เข้มแข็งเมื่อเขาอ่อนแอ ปิงหยางนั้นแก่กว่าซูฮ่าว แต่มันไม่ถูกต้อง โลกภายนอกจะมีใครเดาไม่ออกว่าเขาเป็นนักเรียนมัธยม แม้ว่าเขาจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ตัวเองดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ซูฮ่าวก็สามารถมองผ่านความไร้เดียงสาบนความเป็นเด็กของเขาได้อย่างรวดเร็ว
ช่างเป็นความรู้สึกแปลกๆ …
ซูฮ่าวนึกถึงผีเสื้อฝันสีฟ้า เด็กสาวตัวน้อยนี้ก็เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าอายุที่แท้จริงของเธอไม่น้อย แต่อายุทางจิตของเธอยังคงเหมือนเด็ก
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ซูฮ่าวก็นึกถึงที่อยู่ของจางเย่ติง
แม้หลังจากก้าวเข้ามาในเมืองเกาหยวนเขาก็ยังหาร่องรอยของเธอไม่พบ… เกิดอะไรขึ้นกันในอดีต ความวุ่นวายในเมืองเกาหยวนนี้ทำให้เขารู้สึกหมดกำลัง
มีอะไรผิดปกติที่นี่?
“ คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” ปิงหยางดูท่าทางที่เปลี่ยนไปทุกครั้งของซูฮ่าวอย่างแปลกๆ
“ไม่มีอะไร”.
ซูฮ่าวส่ายหัวก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ “เฮ้บอสใหญ่ คุณจะไม่อธิบายหรอว่าทำไมคุณถึงทำสิ่งนี้ ตอนนี้เมืองเกาหยวนทั้งเมืองกำลังปั่นป่วนแม้กระทั่งเอสเปอร์โดเมนก็ไม่กล้าเข้าใกล้ที่นี่ ประชาชนหลายล้านคนในเมืองเกาหยวนอาจหายไปในเวลาใดก็ได้”
“ พวกเขาสมควรได้รับความตาย!” ปิงหยางเงียบไป สามารถมองเห็นความเกลียดชังที่มีอยู่ในดวงตาของเขาได้
“ ฉันรู้” ซูฮ่าวไม่ปฏิเสธ “บอกฉันหน่อยสิว่าทำไมพวกเขาถึงควรตาย?”
“ ยังไม่ถึงเวลา” ปิงหยางส่ายหัว
“ ยังไม่ถึงเวลา?” ซูฮ่าวยิ้ม “เฮ้อ.. คุณถูกพวกเราจับแล้ว หากคุณไม่บอกฉัน ฉันคงทำได้แค่ส่งตัวคุณไปยังสหพันธ์ ในเวลานั้นคุณอาจไม่มีโอกาสพูด พวกเขาจะไม่สนใจแรงจูงใจหรือความแค้นอะไรของคุณเลย สิ่งที่พวกเขาสนใจคือการทำลายและการสร้างความหายนะ”
“ ดังนั้น… ก็ให้มันถูกฝังไปพร้อมฉัน” ปิงหยางยืนขึ้นก่อนเดินไปที่มุมหนึ่งนั่งไขว่ห้างและไม่พูดอะไรอีก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป
“ ช่างเป็นคนเงียบขรึม” ซูฮ่าวส่ายหัว เขามีข้อสงสัยในใจ ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วนความภาคภูมิใจ ทำไมคนเช่นนี้จึงต้องการทำลายเมืองเกาหยวน
เกิดอะไรขึ้นในอดีต?
เมื่อซูฮ่าวย้อนรอยถึงเรื่องก่อนหน้านี้ สิ่งที่เขาเห็นก็คือเปลวไฟไม่รู้จบและร่างของหญิงสาวที่มีรอยฟกช้ำไปทั่วร่างกาย…
“ คุณกำลังหาทางแก้แค้นให้เธอใช่รึไหม?” ซูฮ่าวครุ่นคิด
เหตุผลที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อบ่มเพาะ ก็เพราะการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา?
หายใจเข้าลึกๆ ซูฮ่าวไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป
ซูฮ่างนั่งไขว่ห้างและเริ่มฟื้นฟูพลังของเขา ที่ยอดเขาทุกคนต่างให้ความสนใจกับการบ่มเพาะ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงออร่าที่แข็งแกร่งก็ปลุกทำให้ทุกคนตื่นขึ้น
บูม!
ออร่าพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้ากวาดหมอกที่ล้อมรอบภูเขาออกไป
“นี่คือ…”
ซูฮ่าวเป็นคนแรกที่ตอบสนอง
“หลี่เตียนเตียน!”
ดวงตาของซูฮ่าวสว่างขึ้น ออร่าที่ทรงพลังได้รวมตัวกันรอบหลี่เตียนเตียน ราวกับว่าเวลากำลังย้อนกลับผมสีขาวของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว เมื่อออร่าจางหายไปเส้นผมของหลี่เตียนเตียนก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท!
บูม!
เวลาและพื้นที่บิดเบี้ยวสิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ใช่แค่ผมของเขา
ความแข็งแกร่งของหลี่เตียนเตียน เริ่มทะลวงไปในอัตราที่น่าเหลือเชื่อเช่นกัน ระดับต่อระดับ ในพริบตาเขาได้ไปถึงอาณาจักรมืออาชีพสูงสุด!
ออร่าอันทรงพลังจากความก้าวหน้าของเขาได้ยับยั้งทุกคน
“ ช่างเป็นออร่าที่ทรงพลัง” เซว่เฟิงและคนอื่นๆดูดอากาศเย็นเข้ามาเต็มปอด
พวกเขาชื่นชมซูฮ่าวเพราะพวกเขารู้ถึงพลังของซูฮ่าว สำหรับผู้ชายที่ชื่อหลี่เตียนเตียนคนนี้ เพียงเมื่อเขาไปถึงอาณาจักรมืออาชีพสูงสุด เขาก็ปราบปรามทุกคนได้แล้ว!
นี่เป็นความสามารถที่น่าทึ่งอะไรเช่นนี้!
เกรด S มันช่างน่ากลัวจริงๆ?