Godly Model Creator - ตอนที่ 787 การใช้ประโยชน์ในช่วง ความวุ่นวาย
ตอนที่ 787 การใช้ประโยชน์ในช่วง ความวุ่นวาย
มันเป็นคืนแห่งความรัก
ในวันถัดไปเฉินอี้หรานออกเดินทาง การจากไปของเธอไม่ได้นําความวุ่นวายมาสู่ตระกูลซู อย่างไรก็ตามเมื่อซูฮ่าวประกาศว่าเขาจะออกเดินทางจากตระกูลในคืนนี้มันทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่
“ไม่ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”
ผู้อาวุโสใหญ่เป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามา “เจ้าเพิ่งได้เป็นผู้นําตระกูลเมื่อไม่กี่เดือน แต่เจ้ากลับต้องการที่จะไปจากตระกูลของเราไปแล้ว! ไม่ไม่เป็นไปไม่ได้! ตาแก่คนนี้ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน!”
ซูฮ่าวเช็ดเหงื่อ “ไม่ใช่ว่าฉันกําลังตัดความสัมพันธ์กับตระกูลซู แต่ฉันเพียงออกเดินทาง…”
“ไม่” ผู้อาวุโสใหญ่ฟูด้วยความโกรธ “เจ้าจะสามารถทําอะไรได้ด้วยพลังของเจ้าในปัจจุบัน? ตอนนี้ทั้งโลกตกอยู่ในความวุ่นวาย การที่เจ้าออกไปด้านนอกก็เท่ากับการเดินเข้าหาความตาย หากเจ้าต้องเผชิญกับเอสเปอร์โลก เพียงแค่ตบเจ้าก็ตายไปแล้ว! เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
“…” ซูฮ่าวกระพริบตา
เอสเปอร์โลก…
WTF ตั้งแต่เมื่อใดที่เอสเปอร์โลกเป็นเหมือนกะหล่ําปลีตามตลาด?
หากพบเอสเปอร์โลกแล้วต้องตาย? หากประเมินว่าโลกที่วุ่นวายนี้เป็นเพาะความแข็งแกร่งของเอสเปอร์โลก ทุกคนคงจะตายในไม่ช้า
“ไม่ว่าอะไรก็ตามฉันไม่เห็นด้วย”
ผู้อาวุโสใหญ่ทราบดีว่าข้อโต้แย้งของเขาไม่มีผลต่อซูฮ่าว จึงคิดหาทางอย่างอื่นอย่างรวดเร็ว “คนอื่นๆ ไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับเจ้า พวกเขาสามารถโกรธขึ้นได้ง่ายๆ สําหรับคนธรรมดาแล้วเอสเปอร์โลกใบคงไม่สนใจ แต่เจ้า… มิใช่เจ้าเคยปะมือกับเอสเปอร์โลกมาก่อนงั้นหรือ?
“เอ่อ…” ซูฮ่าวพูดไม่ออก
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในวิทยาลันจานเจียงและการบุกเข้าไปที่ตระกูลเทียน ซูฮ่าวได้เหยียบเท้าเอสเปอร์โลกไปหลายคน! และเอสเปอร์โลกไม่เหมือนคนอื่นๆ พวกเขาจะทําสิ่งที่พวกเขาต้องการ! นอกจากนี้ตระกูลซูเพิ่งรวมเป็นหนึ่งทุกอย่างกําลังก้าวหน้าไปได้ด้วยดี ทําไมเจ้าต้องการที่จะจากไป ทุกคนปฏิเสธคําขอของซูฮ่าวอย่างชัดเจน
“ไม่เป็นไร ถ้าพวกท่านไม่ต้องการให้ฉันจากไป” ซูฮ่าวไม่โกรธ “แต่ฉันมีเงื่อนไข
“บอกความต้องการของเจ้ามา”
ทุกคนรู้สึกโล่งใจ ตราบใดที่เขาไม่จากไปไม่ว่าสิ่งใดย่อมได้
“ฉันต้องการบ่มเพาะ” ซูฮ่าวยกเงื่อนไขที่บุคคลทั่วไปต้องการและเป็นเงื่อนไขที่กองกําลังใดๆ ย่อมยอมรับแต่เงื่อนไขนี้ทําให้ใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่กลายเป็นสีเขียวทันที
ไอ้เด็กนี่!
บ่มเพาะ…
การบ่มเพาะของซูฮ่าวสามารถเทียบได้กับบุคคลธรรมดาได้ที่ไหนกันล่ะ?
“เห็นหรือไม่” ซูฮ่าวพอใจมากกับปฏิกิริยาของผู้อาวุโสใหญ่ “นี่คือยุคความสามารถต้นกําเนิด ฉันไม่สามารถเป็นนกขมิ้นที่รองคอยการคุ้มครองจากตระกูลซูตลอดไปไม่ได้”
“แม้ว่าฉันจะยอมรับได้ แต่เหล่าศิษย์ของตระกูลล่ะ?”
“ในระหว่างที่พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ฉันกลับซ่อนตัวอยู่ในตระกูลซู แม้ว่าฉันจะไม่จากไปตอนนี้แต่ไม่ช้าก็เร็วปัญหาจะเกิดขึ้น”
ทุกคนเงียบสนิท
ปัญหาที่ซูฮ่าวกล่าวถึงนั้นไม่ใช่ไม่จริง แต่มันเป็นความจริงมากๆ
สําหรับตระกูลอื่น ผู้นำตระกูลของพวกเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของซูฮ่าวนั้นไม่เลวเท่าไหร่เนื่องจากเขายังสามารถจัดการกับเอสเปอร์โดเมนได้ อย่างไรก็ตามหากเขาไม่ได้ฝึกฝนเขาจะไม่สามารถพัฒนาขึ้นได้อีก! ในยุคความสามารถต้นกําเนิดซึ่งยุคใหม่กําลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทุกคนต่างกําลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในฐานะผู้นําตระกูลซูฮ่าวจะสามารถอยู่กับที่เฉยๆ ได้หรือไม่?
และถ้าเขาฝึกฝน…
เมื่อคิดถึงสถานการณ์ในการฝึกฝนครั้งล่าสุดใบหน้าของทุกคนก็ดูน่าเกลียด
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อนุญาตให้ซูฮ่าวบ่มเพาะ แต่แม้ว่าพวกเขาจะเททรัพยากรทั้งหมดไปให้ซูฮ่าวทรัพยากรเหล่านั้นรับประกันความก้าวหน้าของเขาได้หรือไม่?
หลังจากกลายเป็นเอสเปอร์โดเมน ซูฮ่าวจะฝึกฝนอีกได้หรือไม่?
หากเขาต้องการฝึกฝนต่อ เขาควรจัดการกับทรัพยากรอย่างไร?
ดังนั้นปัญหานี้จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ซูฮ่าวต้องการออกเดินทาง หากจะพูดกันตรงๆ เป็นเพราะตระกูลของพวกเขาไม่สามารถจัด หาทรัพยากรที่เขาต้องการเพื่อฝึกฝนได้! ความจริงของการจากไปของซูฮ่าวทําให้พวกเขาพูดไม่ออก หากความจริงนี้ถูกเปิดเผยทุกคนคงจะคิดว่าฟังดูไร้สาระ ไม่สามารถจ่ายทรัพยากรให้ได้? ทุกตระกูลที่ได้ยินคงพบว่ามันน่าตลก
อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้เห็นการบ่มเพาะของซูฮ่าวจะรู้ดี
ความเป็นจริงนั้นโหดร้ายเสมอ ก่อนพบกับซูฮ่าว พวกเขาคงไม่เคยรู้เลยว่ามีวิธีการบ่มเพาะปลูกที่บ้าคลั่งเช่นนี้
“นี้…”
ทุกคนไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
ผู้อาวุโสใหญ่ที่ไร้หนทางก็ไปหาชูเจิ้งเหวินและตะโกนเรียกเขามา ซูเจิ้งเหวินเศร้า ถ้าเขาอยู่ที่ตระกูลอื่น ผู้ที่เป็นเอสเปอร์โลกจะปิดประตูฝึกตัดความสัมพันธ์กับโลกภายนอก? แต่ซูเจิ้งเหวิน กลับถูกไปมาโดยชายชราเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงที่บ้าน
อย่างไรก็ตามซูเจิ้งเหวินไม่ได้โกรธ
เดินเข้ามาด้วยท่าทีสบายๆ เขามองที่ซูฮ่าว “เจ้าอยากออกเดินทาง”
“อือ” ซูฮ่าวพยักหน้า
“ก่อนอื่นเจ้าต้องทดสอบ” ซูเจิ้งเหวินยิ้มอย่างเฉยเมย
“หืม?” ซูฮ่าวสงสัยกับคําตอบนี้
ซูเจิ้งเหวินชี้ให้เห็นด้านนอก “การออกจากตระกูลซูหมายความว่าเจ้าจะไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของตระกูลซูอีกต่อไป เจ้าเพียงต้องพิสูจน์ว่าเจ้าสามารถอยู่รอดได้อย่างปลอดภัย เพราะเจ้าก็เป็นถึงผู้นําตระกูลของเรา ผู้อาวุโสทุกคนย่อมต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเจ้า”
“ตอนนี้?” ซูฮ่าวยืนขึ้น
“ใช่!” ชูเจิ้งเหวินหัวเราะ “วันหนึ่งไปกลับ เจ้ามีวลาครึ่งวันในการเดินไปรอบๆ และอีกครึ่งวัน เพื่อกลับมาที่นี่ ตราบใดที่เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยหากเจ้าต้องการที่จะออกจากตระกูลชูของเรา เมื่อฉันอยู่ที่นี่จะไม่มีใครสามารถหยุดเจ้าได้! เจ้าสามารถคิดได้ว่าสิ่งนี้เป็นการทดสอบ การทดสอบพลังและการป้องกันตัว ถ้าเจ้าล้มเหลว…”
“จากนี้คุณต้องอยู่ในตระกูลซูของเราตลอดไป”
“จริงรึ?” ดวงตาของซูฮ่าวส่องประกาย
“แน่นอน” ซูเจิ้งเหวินตอบอย่างนิ่งเฉย
“ตกลง ฉันจะทดสอบ” ซูฮ่าวไม่แสดงอาการลังเลใดๆ
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าสามารถเริ่มได้เลย” ซูเจิ้งเหวินพยักหน้า “อย่างไรก็ตามฉันอยากจะเตือนอะ ไรเล็กน้อย รอบๆ ตระกูลของเรา ฉันกลัวว่ามันคงเต็มไปด้วยสายลับจํานวนมากจากกองกําลังทรงพลังอื่นๆ เจ้าควรระวังไว้ดีกว่า”
“ขอบคุณมากๆ ” ซูฮ่าวลุกขึ้นและจากไป
การที่เขารับการทดสอบโดยทันทีเนื่องจากเขาเตรียมความพร้อมอยู่ก่อนแล้ว
มันก็แค่วันเดียว
คนอื่นๆ อาจไม่รู้ แต่ซูเจิ้งเหวินเข้าใจว่าด้วยการมีอยู่ของเข็มเงินทําให้ไม่มีใครหยุดเขาได้! และดูเหมือนว่าซูเจิ้งเหวินกําลังสร้างโอกาสให้กับซูฮ่าว
“เจิ้งเหวิน” ผู้อาวุโสใหญ่ปรากฏความกังวล “เจ้าเด็กโง่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าซูฮ่าวบาดเจ็บ”
“เจ้าเด็กโง่” ซู่เจิ้งเหวินอยากร้องไห้ สําหรับผู้อาวุโสคนอื่นๆ พวกเขาเพียงก้มศีรษะลงอย่าง เงียบๆ แกล้งทําเป็นว่าพวกเขาไม่ได้ยิน
“เราจะไม่ปล่อยให้เขาไป” ซูเจิ้งเหวินยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันจะคอยปกป้องเขาอย่างลับๆ”
“โอ้.. ถ้าเป็นเช่นนั้นก็น่าจะดี” ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเชิงบ่น “ถ้าเอสเปอร์โลกปรากฏตัวขึ้นใกล้กับตระกูลชูของเรานั้นคงจะยอดเยี่ยมมาก เมื่อซู ฮ่าวก้าวออกไปเขาจะได้ตกอยู่ในอันตรายทันที จากนั้นเจ้าก็จะพาเขากลับมาและซูฮ่าวให้อยู่ที่นี่ ลอดไป”
“นั่นคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” ผู้อาวุโสใหญ่หวังว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้
คนรอบข้างปกคลุมด้วยเหงื่อเย็น คุณคิดว่าเอสเปอร์โลกเหมือนหญ้าที่เติบโตริมถนนหรือยังไง?
ลืมเกี่ยวกับสิ่งอื่นๆ เอสเปอร์โลกใดกันที่ไม่ได้เป็นคนที่ทรงคุณค่า? มันจะบ้ามาดักซุ่มที่ที่อยู่อาศัยของตระกูลซูและทําตัวเป็นสายลับ? ซูเจิ้งเหวินพูดไม่ออก จะเกิดสิ่งใดเมื่อมีการพบเห็นเอสเปอร์โลก? ชายชราคนนี้ไม่ได้พิจารณาถึงอันตรายอื่นๆ เลยหรือยังไง?
ตาแก่คนนี้เป็นพ่อของใครกัน?
ซูเจิ้งเหวินยิ้มอย่างขมขื่น
ในวันนั้นซูฮ่าวทําความสะอาดและออกจากตระกูลซู สวมเสื้อทั่วไปของศิษย์จากตระกูลชูและ ก้าวออกไปอย่างไร้ความกังวล
นี่เป็นเพียงการทดสอบ
ปัจจุบันซูฮ่าวมีความแข็งแกร่งเท่าใด
ขอบเขตมืออาชีพสูงสุด!
การทําตัวเป็นศิษย์ทั่วไป ผู้ที่คอยสอดแนมอยู่จะไม่เปิดเผยตัวตนของพวกเขาเพียงเพื่อสกัดกั้นศิษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ซูฮ่าวจึงเดินออกมาอย่างสบายๆ เป็นเวลานานโดยไม่พบอันตรายใดๆ ก่อนที่จะเดินกลับที่อยู่อาศัยบ้านโดยแทบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามในขณะที่ไม่มีใครคาดคิด
มีบางอย่างเกิดขึ้น
วูป!
จู่ๆ ปรากฏลำแสงบางอย่าง
ความเย็นยะเยือกที่น่ากลัวครอบคลุมทั่วร่างของซูฮ่าว ด้วยสมรรถภาพทางกายของซูฮ่าวจึง ทําให้เขาหลบหลีกได้ทันที
บูม!
มียอดเขาถูกตัด
“ใคร?” ซูฮ่าวขนลุกไปทั่วร่าง
พลังนี้…
“หืม?”
มีการอุทานก่อนร่างๆ หนึ่งจะเผยตัวให้เห็นอย่างใจเย็น ดวงตาของเขาเผยความแปลกใจเห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของซูฮ่าวซูฮ่าวจะสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของเขาได้!
“น่าสนใจ” ดวงตาของชายคนนั้นเผยภาพลักษณ์ที่ขี้เล่น “ข้อมูลระบุว่าเจ้าพิการ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นความจริง เจ้าสามารถหลบหนี ตัดเงา ของข้าไปได้ดังนั้นอย่างน้อยเจ้าควรอยู่ขอบเขตโดเมน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะสามารถรอดมาได้ เจ้าไม่เพียงสามารถหลบหนีออกจากตระ กูลเทียนแต่ยังสามารถกลับออกมาพร้อมความแข็งแกร่งเท่าเดิม”
ตระกูลเทียน…
การเคลื่อนไหวนั้น…
ซูฮ่าวสรุปได้ในไม่ช้า “เจ้าไม่ได้มาจากตระกูลเทียน ด้วยความแข็งแกร่งระดับขอบเขตโดเมนสูงสุดแม้แต่ในตระกูลเทียนเจ้าก็มีตําแหน่งไม่น้อย เจ้าเป็นใครกันแน่?”
“ฮะๆๆ ควรค่าแก่ได้รับชื่อเสียงของเจ้าๆ ซูฮ่าว” ชายคนนั้นยิ้ม “ข้าไม่ได้มาจากตระกูลเทียน สําหรับที่มานั้นเจ้าไม่จําเป็นต้องรู้ สิ่งที่เจ้าต้องรู้คือคนที่ทําให้เจ้าเสียชีวิตคือตระกูลเทียน”
“ทําให้ฉันตาย…” นัยตาของซูฮ่าวหดลง
เขาเข้าใจแล้ว
ไม่น่าแปลกใจที่เขาได้เจอกับชายคนนี้ใกล้พื้นที่ตระกูลซู!
ไม่ต้องพูดถึงตระกูลเทียนไม่ว่าใครที่อยู่ในตระกูลสิบอันดับ แรกย่อมกล้าที่จะเข้าใกล้บริเวณส่วนนี้ของตระกูลซู ซึ่งถือได้ว่าเป็นการยั่วยุ แม้ว่าตระกูลซูจะฆ่าศัตรูก็ไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้
ดังนั้นพื้นที่ใกล้กับที่อยู่อาศัยของตระกูลซูจึงปลอดภัยที่สุด
อาจมีสายลับบางส่วน แต่เอสเปอร์ที่แข็งแกร่งคนอื่นๆ จะไม่กล้าและไม่มาที่นี่ ตอนนี้มี บุคคลลักษณะดังกล่าวซ่อนตัวอยู่ที่นี่และแสร้งทําเป็นมาจากตระกูลเทียน..
“เจ้าต้องการที่จะยั่วยุให้เกิดการต่อสู้ระหว่างตระกูลชูของเราและตระกูลเทียนงั้นเหรอ?” ซู อ่าวตะโกนอย่างเย็นชา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า คุณไม่คิดหรือว่าตระกูลและตระกูลเทียนจะทําสงครามกัน กลุ่มตระกูลเราจะได้โอกาส” ชายคนนั้นหัวเราะเสียงดังและมองที่ซูฮ่าว “ตราบใดที่เจ้าผู้นําของตระกูลซูตาย ข้าจะทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ซึ่งนําไปสู่ตระกูลเทียน เมื่อถึงเวลานั้นแม้ว่าเจ้าจะไม่ต้องการต่อสู้เจ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น”
พวกไร้ปัญญา
ซูฮ่าวมองเขาด้วยรอยยิ้ม
ภายใต้สถานการณ์ปกติสิ่งที่เขาทํานั้นถูกต้อง อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าซูฮ่าวออกมาที่นี่เพื่อทดสอบ! นอกจากนี้อุปกรณ์สื่อสารยังถูกฉายไปยังผู้อาวุโสหลายคนในตระกูลซู!
ช่วงเวลาที่ผู้ชายคนนี้แสดงตัวแผนการสมรู้ร่วมคิดของเขาก็ได้รับการเปิดเผยไปทั้งหมดแล้ว!
“เจ้าโง่!” ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มเยาะ “เพียงเอสเปอร์โดเมนตัวเล็กๆ แกจริงกล้าวางแผนต่อต้านตระกูลสิบอันดับแรกอย่างเรา เราคงดูถูกความกล้าของไอ้พวกนี้มากจริงๆ”
“คนเหล่านี้วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เลวร้ายของผู้คน ความกล้าของพวก เขาช่างยิ่งใหญ่มากเสียจริงๆ!”
“สิ่งที่ฉันอยากรู้จริงๆ เมื่อเอสเปอร์โลกของหนึ่งในสิบตระกูลปรากฏตัวออกมาก็สามารถทําลายกลุ่มอํานาจเล็กๆ เหล่านี้ได้แล้ว พวกมันจะคว้าประโยชน์อันใดได้?”
“มาดูกันต่อ” ผู้อาวุโสใหญ่พูดด้วยน้ําเย็นชา
พวกเขาอยากจะเห็นสิ่งที่กลุ่มอํานาจเล็กๆ จะทําสิ่งที่เห็นกว่าแผนการของพวกเขา แต่น่าเสียดายที่ชายคนนั้นไม่ได้พูอะไรเพิ่ม เขาเริ่มเปิดฉากโจมตีทันที
“โจมตี!”