Godly Model Creator - ตอนที่ 835 ที่ละขั้น
ตอนที่ 835 ที่ละขั้น
ลมที่พัดแรงและกลุ่มเมฆที่วุ่นวาย
ทั้งตระกูลเทียนได้เข้าสู่โหมดพร้อมรบ
ภายใต้การปล่อยข่าวอย่างจงใจของเทียนกัง สงครามชี้ชะตากําลังใกล้เข้ามา การต่อสู้ของสิบตระกูลใหญ่มีแนวโน้มที่จะจบลงในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสําเร็จหรือล้มเหลวทุกอย่างจะถูกตัดสินในทันที
“หลินฮู”
“เข้ามา!”
“ข้าจะมอบความลับนี้ให้แก่เจ้า ใช้มันเมื่อจําเป็น” เทียนกังกล่าวอย่างใจเย็น ซูฮ่าวมองด้วยความสงสัยจากนั้นความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “นี่คือ…”
“ตราประทับของตระกูลเทียน!” เทียนกังกล่าวอย่างใจเย็น “ในครั้งนี้ศิษย์ที่ไม่ใช้สกุลเทียนจํานวนมากดังนั้นมันจึงไม่ควรง่ายๆ หากมีคนใดกล้าหักหลังให้สังหารเขาทันที!”
แสงส่องประกายภายในดวงต
ตราประทับของตระกูลเทียน
ในที่สุดเขาก็ได้มันมาอยู่ในมือ!
นี่คือทักษะต้นกําเนิดที่โกง นอกจากนี้เนื้อหาของมันยังซับซ้อนกว่าที่ทุกคนคิด แต่มีเทคนิคการควบคุมที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ภายใน
มันมีเพียงบทบาทเดียว ปิด!
ตราประทับแต่ละแห่งจะเกี่ยวเนื่องกับหมายเลขหากสังเกตเห็นว่ามีคนกําลังกบฏเพียงแค่ความคิดประกอบท่าทางคนๆ นั้นก็จะถูกสังหารในทันที! นี่คือบทบาทของตราประทับของตระกูลเทียน และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือซูฮ่าวเห็นหมายเลขของตัวเขาเองและตราประทับที่เกี่ยวเนื่อง เพียงแต่พวกมันเป็นสีเทา
“ของข้าด้วย?” ซูฮ่าวแสร้งทําเป็นประหลาดใจ
“ของเจ้าจะพิเศษ” เทียนกังหัวเราะ “ไม่สามารถถูกควบคุมหรือสังหารได้ ตราประทับในร่างกายของเจ้าบทบาทเดียวของมันคือการรู้สึกถึงพลังชีวิตของเจ้า เมื่อเจ้าเผชิญกับอันตรายใดๆ เอสเปอร์โลกคนอื่นจะสามารถรู้สึกได้และเข้าไปช่วยเจ้าโดยเร็วที่สุด ทุกบุคคลสําคัญของตระกูลเทียน จะมีแม้แต่ข้าก็เช่นกัน”
“เช่นนี้เอง” ซูฮ่าวพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ข้าเข้าใจแล้ว”
พิเศษ?
พิเศษกับผนะสิ
ซูฮ่าวเข้าใจชัดเจน
สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือสิ่งที่ตระกูลเทียนต้องการแสดงให้เห็นเท่านั้น ตราประทับของตระกูลเทียนนั้นซับซ้อนอย่างมากมันจะมีฟังก์ชั่นเพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านี้ได้เช่นไร ตระกูลเทียนให้สิทธิ์ เขาในการสังเกตและสังหารเท่านั้น การควบคุมหลักของตราประทับของตระกูลเทียนยังคงอยู่ในมือของเทียนกัง!
หากซูฮ่าวกล้าที่จะหักหลัง เขากลัวว่าตระกูลเทียนคงจะใช้ตราประทับเพื่อทําลายเขาทันที แล้วจากนั้นใช้ตราประทับเพื่อควบคุมทุกคน!
“ออกไปตรียมตัวได้แล้ว” เทียนกังจ้องมอง “ครั้งนี้ทั้งตระกูลเทียนและตระกูลจางจะร่วมมือกัน สําหรับเหล่าเอสเปอร์โลกที่ข็งแกร่งเพียงปล่อยให้เรา เจ้าเพียงต้องนําทีมและติดตามเทียนหยวนเพื่อทําลายห้าตระกูล!”
ซูฮ่าวตกตะลึง
เขารู้ว่าภารกิจนี้มีความสําคัญมาก แต่เขาจะไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นการกําจัด! ตามเส้นทางดังกล่าวตระกูลซูน่าจะเป็นตระกูลแรกที่ต้องถูกทําลาย
“ครับ” ซูฮ่าวกล่าวรับคําสั่ง ในขณะนี้เขารู้สึกสงสัยอย่างช่วยไม่ได้จึงหยุดลง “เทียนหยวนคือ…”
เทียนกังเพียงยิ้มและไม่พูดอะไร
ข้างหลังเขามีชายอายุประมาณ 30 ปีปรากฏตัวออกมา ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเขามองซูฮ่าว และกล่าว “สวัสดีหลินฮู ข้าคือเทียนหยวน ข้าเพิ่งทะลวงสู่ขอบเขตโลกเมื่อไม่นาน ตอนนี้ข้าอยู่ในจุดสูงสุดของระดับหนึ่งของอาณาจักรโลกและกําลังจะเข้าสู่ระดับสองการสร้าง”
เอสเปอร์โลกที่แสนวิเศษ!
เอสเปอร์โลกระดับหนึ่ง!
ใบหน้าของซูฮ่าวเผยให้เห็นถึงการแสดงออกที่ตกใจ ความแข็งแกร่งของเทียนหยวนนั้นไม่ควรค่าที่จะแสดงแต่สิ่งที่น่าตกใจสําหรับซูฮาวคือหลังจากวางแผนที่จะเผชิญหน้ากับทั้งห้าตระกูล ตระกูลเทียนยังสามารถดึงเอสเปอร์โลกมาสนับสนุนซูฮ่าว! นั่นหมายความว่าอย่างไร? นั่นหมายความแข็งแกร่งของตระกูลเทียนนั้นน่ากลัวอย่างมาก!
อย่างน้อยด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาสามารถจัดการกับทั้งห้าตระกูลได้ไม่ยาก
นี่คือสงคราม
อย่างไรก็ตาม ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เอสเปอร์โลกทุกคนมีความสามารถพอที่จะเปลี่ยนกระแสของการต่อสู้ และในครั้งนี้ มันจะเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างเอสเปอร์โลกหลายสิบคน!
นี้เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง กองกําลังของตระกูลเทียนและจาง กับ ห้าตระกูลใหญ่!
นี่คือเวทีสําหรับเอสเปอร์โลก
การมี 1 หรือ 2 เอสเปอร์โลกอาจไม่สร้างช่องว่างมากนัก แต่เมื่อเอสเปอร์โลกคนใดได้เปรียบอย่างล้นหลามสงครามครั้งนี้ย่อมไม่มีข้อสงสัยใดๆ การเผชิญหน้ากับเอสเปอร์ทั่วไปตระกูลเทียนส่งเทียนหยวนและซูฮ่าว ถ้าเช่นนั้นแล้วเอสเปอร์โลกที่มาจากห้าตระกูลใหญ่?…
ความมั่นใจนี้คืออะไร?
เมื่อดูการแสดงออกที่ตกใจของหลินฮูก็ดูเหมือนว่าเทียนหยวนจะพอใจ ไม่นานหลังจากเข้าสู่ขอบเขตโลกตอนนี้เขากําลังจะก้าวเข้าสู่ขั้นการสร้างซึ่งความเร็วนี้เพียงพอที่จะทําให้เขาภาคภูมิใจ แน่นอนถ้าเขารู้ว่าเอสเปอร์โลกตัวปลอมที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ทําเข้าสู่ขั้นเขตแดนจิตวิญญาณสมบูรณ์แล้ว เขาคงจะทําอะไรไม่ถูก
“สวัสดีอาวุโส ข้าชื่อหลินฮู” ซูฮ่าวกล่าวด้วยน้ําเสียงสุภาพ
“ไปได้ รีบฝึกฝนตราประทับของตระกูลเทียนอย่างรวดเร็ว แล้วออกเดินทางในพรุ่งนี้เช้าตอนหกโมง” เทียนกังให้คําสั่งสุดท้าย
“ครับ!” ซูฮ่าวตอบก่อนจากไป
ในห้องโถงมีเพียงเทียนกังและเทียนหยวนเท่านั้นที่ยังอยู่
“เขาจะไว้ใจได้ไหม” เทียนหยวนสงสัยเล็กน้อย
“ยิ่งเขาลงมือมากเท่าไหร่ข้าเชื่อเขามากเท่านั้น” เทียนกังยังคงใจเย็นเช่นเคย “จากสิ่งที่เขาทําเพื่อตระกูลเทียน ข้าเชื่อใจเขาประมาณ 80%”
เทียนหยวนตกตะลึง นั่นเป็นตัวเลขที่สูงมาก
“อย่างไรก็ในตอนนี้ข้าจะสอนเจ้าเกี่ยวกับตราประทับของตระกูลเทียนบนร่างกายของหลินฮู หากทุกอย่างเรียบร้อยดีก็ไม่ต้องทําอะไร หากมีปัญหาใดๆ ให้สังหารเขาทันที!” เทียนกังกล่าวอย่างเย็นชา ก่อนการต่อสู้ครั้งสุกท้ายนี้ไม่มีที่ว่างสําหรับความลังเลใดๆ ในท้ายที่สุดเขายังไพ่ในมือ
“ฉันสามารถสังหารเขาได้ตามต้องการ” เทียนหยวนเยาะเย้ย “เขาเพียงเพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตโลก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจวิธีใช้กฏแห่งพลังนัก”
“ระวังให้ดี” เทียนกังกล่าวอย่างใจเย็น “ในสนามรบเวลาเป็นปัจจัยที่สําคัญที่สุด หากมีปัญหาให้แก้ไขโดยเร็วที่สุด อย่าเสียเวลากับการต่อสู้ที่ไม่จําเป็น
เพียงคําเตือนปกตินี้ก็ทําให้ร่างกายของเทียนหยวนหนักอึ้ง
” ครับ!”
*****
หลังจากออกจากห้องโถงซูฮ่าวก็กลับไปที่ห้องบ่มเพาะ
สงครามจะเริ่มขึ้นในพรุ่งนี้เช้า!
นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อชี้ชะตา ส่วนที่น่าหดหู่คือไม่ว่าในกรณีใดซูฮ่าวก็ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสได้เกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ เพราะเขาไม่ใช่เอสเปอร์โลกจริงๆ ด้วยระดับในปัจจุบันของเขาในการต่อสู้เพียงครั้งเดียวกับเอสเปอร์โลกชั้นนําคงเป็นไปไม่ได้ เขาไม่ได้มีคุณสมบัติแม้แต่ที่จะเป็นอาหารสัตว์ใหญ่
ตระกูลซู…
ซูฮ่าวขมวดคิ้ว
การเข้าร่วมตระกูลเทียนเป็นเพียงเกมๆ หนึ่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เล่นเกมนี้ ท้ายที่สุดเขาก็ยังเป็นสมาชิกของตระกูลซูและเป็นถึงผู้นําตระกูลในตอนนั้น ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนเขาต้องต่อสู้ เพื่อตระกูลซู! ตัดสินจากข้อมูลที่เขามีทั้งห้าตระกูลกําลังตกอยู่ในอันตราย!
แม้ว่าเทียนกังจะไม่พูดแต่เขาก็สามารถเดาได้
พรุ่งนี้จะมีสนามรบสองแห่ง
หนึ่งคือสนามรบระหว่างเอสเปอร์โลก ในขณะที่อีกหนึ่งจะเป็นสนามรบที่ตระกูลเทียนนําโดยเขาและเทียนหยวนเพื่อสังหารคนของทั้งห้าตระกูล ไม่ว่าในกรณีใดห้าตระกูลก็ไม่มีโอกาสชนะ
“ข้าควรทําอย่างไร” ซูฮ่าวเป็นกังวล
ในตอนนี้เขาเข้าใจความแข็งแกร่งของเขาชัดเจนดี เขาไร้เทียมทานภายในขอบเขตโดเมน! ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตโดเมนใดหรือไม่ว่าจะมีอาร์ติแฟคอยู่เพียงใด ในปัจจุบันร่างกายของเขาเปรียบได้กับเอสเปอร์โดเมนสูงสุด เมื่อรวมกับการวิเคราะห์โมเดลของเขาและทักษะต้นกําเนิดที่น่ากลัวอื่นๆ เขาไร้เทียมทานภายในขอบเขตโดเมน
หากเป็นเอสเปอร์โดเมนไม่ว่าจะมากี่คนเขาก็ไม่กลัว
แต่เอสเปอร์โลก
มันคงไม่เป็นอะไรหากปะทะไม่กี่ครั้งแล้วหลบหนี
การเผชิญหน้ากันของกฏแห่งพลังไม่ว่าจะเป็นเอสเปอร์โดเมนที่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ต้องใช้เพียงกฎแห่งพลังในการต่อกรเท่านั้น แต่ด้วยจํานวนกฎแห่งพลัง 1 หน่วยที่น่าสงสารของเขา เขาสามารถคงสภาพเงาศักดิ์สิทธิ์ไร้เงาได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้เพื่อสร้างแรงกดดันของเอสเปอร์โลกเขาถึงต้องแปลงเงาศักดิ์สิทธิ์ไร้เงากลับมาเป็นกฏแห่งพลัง
กฏแห่งพลังของเขาน้อยเกินไป!
นี่คือความจริงที่น่าเศร้า เขาถูกกําหนดให้ไม่สามารถทําอะไรได้ในสนามรบระหว่างเอสเปอร์โลก และสนามรบนั้นเป็นสิ่งตัดสินสุดท้ายที่กําลังจะเกิดขึ้น
“ข้าไม่สามารถปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้” ซูฮ่าวลังเลอยู่สักพักก่อนจะติดต่อซูเจิ้นเหวินทันที
ตระกูลเทียนได้เปิดใช้งานอุปกรณ์ปิดกั้นการสื่อสารแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลหรือสัญญาณใดๆ ที่ส่งออกจะถูกตรวจจับ อย่างไรก็ตามนี่เป็นมาตรการที่ไร้ประโยชน์สาหรับแฮกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญอย่างซูฮ่าว
“พรุ่งนี้เช้าตระกูลเทียนจะโจมตี”
“ข้ารู้แล้ว” ซูเจิ้งเหวินพยักหน้า เขาไม่ได้ถามว่าซูฮ่าวหาข่าวมาจากที่ไหน “การต่อสู้ครั้งที่ผ่านมาค่อนข้างวุ่นวาย แล้วเจ้าก็อ่อนแอเกินไปเจ้าไม่ควรปรากฏตัวในสนามรบ ตระกูลเทียนไม่เพียงแต่จะบังคับให้มีการต่อสู้ระหว่างเอสเปอร์โลก แต่ยังมีเอสเปอร์โลกอีกสองคนเข้าร่วมการต่อสู้อื่นการต่อสู้ครั้งนี้ดูไม่ดีเท่าไหร่”
ซูเจิ้งเหวินเป็นกังวล
ซูฮ่าวตกตะลึงซูเจิ้งเหวินได้รับข่าวว่าเขาและเทียนหยวนจะเข้าร่วม! ห้าตระกูลนี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายแล้ว
“เป็นช่องว่างที่ใหญ่ขนาดไหน” ซูฮ่าวถอนหายใจ
“ในตอนแรกมันไม่ใหญ่มาก” ซูเจิ้งเหวินรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย “แม้ว่าตระกูลเทียนและตระกูลจางจะมีเอสเปอร์โลกจํานวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นกกลุ่มที่เพิ่งทะลวงผ่านความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงไม่มากนัก ห้าตระกูลของเราสามารถต่อกรกับพวกเขาได้ อย่างไรก็ตามด้วยการที่มีสองเอสเปอร์โลกจากตระกูลเทียนเดินทางไปยังอีกการต่อสู้เราจึงต้องแยกพวกเราบางคนให้ไปเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนั้นด้วย…”
“สิ่งนี้จึงเป็นปัญหา”
“หากเราจะเพิกเฉยต่อพวกเขาแม้ว่าเราจะชนะสงครามระหว่างเอสเปอร์โลก แต่คนของตระกูลใหญ่ทั้งห้าของเราก็จะถูกสังหารอย่างสมบูรณ์! อย่างไรก็ตามหากเราส่งเอสเปอร์โลกสองคนไปยังอีกการต่อสู้เราจะเสียเปรียบอย่างแน่นอนในสนามรบระหว่างเอสเปอร์โลก ฉันเชื่อว่า เทียนกัง ไอ้บ้านั่น จงใจปล่อยข่าวนี้ออกมา”
ซูฮ่าวตกตะลึง เทียนกังสุนัขจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้น! ในขณะที่ปลอบโยนพวกเขา เขาก็แอบปล่อยข่าวอย่างเงียบๆ เขาปล่อยใหซูฮ่าวและเทียนหยวนเป็นเหยื่อล่อ
บัดซบเอ๊ย!
ซูฮ่าวสบถอย่างเงียบ ๆ
อย่างไรก็ตามข่าวของซูเจิ้นเหวินทําให้เขามีความคิดบางอย่าง “พี่ซู พวกคุณบอกทุกคนให้จัดเต็มที่ในสนามรบระหว่างเอสเปอร์โลก สําหรับการต่อสู้อื่นๆ แต่ปล่อยข้าจัดการ”
“เจ้า?” ดวงตาของซูเจิ้งเหวินเบิกกว้าง
แม้ว่าซูฮ่าวจะมีกฏแห่งพลังจํานวนเล็กน้อย แต่เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตโดเมนเมื่อไม่นานนี้ เขาจะทําอะไรได้
“อย่าสร้างปัญหา” น้ําเสียงของซูเจิ้นเหวินฟังดูเหมือนว่าเขากําลังปลอบโยนเด็ก “ฉันรู้ว่าเจ้าให้ความสําคัญกับตระกูลของเรา แต่สงครามไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถมีส่วนร่วมได้ ถึงแม้จะไม่มีเอสเปอร์โลก คนระดับสูงของห้าตระกูลใหญ่ล้วนแต่เป็นเอสเปอร์โดเมนสูงสุด แล้วอย่าลืมว่าสองคนที่มาจากตระกูลเทียนเป็นเอสเปอร์โลก”
ซูฮ่าวเช็ดเหงื่อ
“พี่ชายชู ท่านรู้หรือไม่ว่าเอสเปอร์โลกทั้งสองที่ตระกูลเทียนส่งมาในครั้งนี้คือใคร?”
“แน่นอน หนึ่งคือเทียนหยวนและอีกคนคือหลินฮู ตามข่าวแม้ว่าเทียนหยวนจะมาถึงจุดสูงสุดของเอสเปอร์โลกระดับแรกแล้วแต่ข้าก็กังวลเกี่ยวกับหลินฮูที่เพิ่งบุกทะลวงมากกว่า กฏแห่งพลังที่มาจากความสามารถพิเศษที่ไม่เหมือนใครคือสิ่งที่ทําให้หลายคนกังวล ถ้าชายคนนั้นสามารถควบคุมมันได้” ซูเจิ้งเหวินพูดด้วยน้ําเสียงท้อใจ
“งั้นเหรอ?” ซูฮ่าวยิ้มอย่างขมขื่น “นามแฝงของข้าคือหลินฮู”
“อ่าข้าเข้าใจแต่อย่าเพิ่งขัดจังหวะ ซูฮ่าวข้าจะบอกเรื่องนี้แก่เจ้า หลินฮูคนนี้ได้รับการกล่าวขานว่า… เดี่ยว F*CK เมื่อกี้นี้เจ้าพูดสิ่งใดนะ?!”