อยากกินไหมล่ะ - ตอนที่ 742
บทที่ 742 วันดีๆ
ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างรู้สึกว่าเขาเก็บอาการได้ดีพอแล้ว แต่ทอมก็ยังสังเกตเห็นความขัดเคืองใจของเขาเข้าจนได้
ทอมเห็นชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างดูหม่นหมองจึงเริ่มอธิบายเพราะคิดว่าเขาอาจจะสับสนอยู่ “คุณไม่รู้จักลี่ลี่หรือไง? การประชุมแลกเปลี่ยนวิชาด้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่จัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์แต่ละปี การประชุมแลกเปลี่ยนวิชาแบบนี้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างใหญ่มากเลยทีเดียวและลี่ลี่ก็เป็นผู้ที่ได้เหรีญทองมาสามเหรียญจากการประชุมแลกเปลี่ยนวิชาด้วย ที่สำคัญเขาเป็นคนที่มีความเข้มงวดเมื่อเป็นเรื่องของวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร วันนี้ช่างเป็นวันดีของคุณเสียจริงๆเลยนะ”
ถ้าหากชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างไม่ได้เป็นที่ใจเย็นขนาดนั้นแล้วล่ะก็เขาคงจะสบถออกไปแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยกินอาหารของหยวนโจวมาก่อนก็เถอะ แต่สัญชาตญาณราวกับสัตว์ป่าของเขาสามารถรู้สึกได้เลยว่าอาหารของหยวนโจวต้องอร่อยกว่าอาหารของลี่ลี่อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าเขาก็เกรงว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของทอมได้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตารับคำกับสิ่งที่ทอมกล่าวเป็นครั้งคราว
พวกเขาเข้ามาในร้านแล้วนั่งลงตรงโต๊ะริมหน้าต่าง ต่อมาบริกรหญิงก็เข้ามายื่นผ้าเช็ดมือให้พวกเขาก่อนที่จะยื่นเมนูให้ บริกรหญิงถามอย่างเป็นกันเองว่า “วันนี้จะรับอะไรดีคะ?”
ทอมปิดเมนูลง ในฐานที่เป็นผู้ที่ทานอาหารสไตล์ตะวันตกมานานหลายปี เขาจึงมีประสบการณ์ในการสั่งอาหารสไตล์ตะวันตกอยู่มากมาย
“คุณจะทานอาหารจานพิเศษประจำวันหรือว่าอาหารแนะนำของเชฟในวันนี้ดีล่ะ?” ทอมถามขึ้น
แน่นอนว่าบรรยากาศและพนักงานของร้านลี่ลี่ย่อมไม่ใช่ปัญหา เรื่องนี้เห็นได้ชัดจากเครื่องแบบสีดำที่เป็นระเบียบเรียบร้อยและรอยยิ้มเป็นมิตร
“อาหารจานพิเศษประจำวัน” ทอมกล่าวย้ำคำถามของตนเอง
บริกรหญิงเปิดเมนูแล้วหลังจากเจอหน้าที่เธอกำลังค้นหา เธอก็ตอบว่า “อาหารแนะนำของเชฟในวันนี้คือเป็ดกงฟีต์ที่เชฟเป็นผู้เตรียมเองค่ะ”
ทอมตอบว่า “เป็ดกงฟีต์งั้นเหรอ? นานแล้วไม่ได้กินอาหารจานนี้ โฮเค งั้นเอาเป็ดกงฟีต์หนึ่งที่กับสเต็กเนื้อเซอร์ลอยด์สองที่ แล้วก็…”
“โอ จริงด้วย คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?” ในที่สุดทอมก็นึกถึงชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างขึ้นมาได้
“สั่งตามที่คุณเห็นว่าเหมาะสมเถอะครับ มิสเตอร์ทอม ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างตอบ
“โอเค เอาซุปข้นสองที่กับบาแก็ตหนึ่งที่ด้วยครับ” หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว ทอมก็บอกสิ่งต้องการเพิ่มเติมสำหรับสเต็กของตัวเองก่อนที่จะถามชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างว่าอยากได้สเต็กแบบไหน
ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างส่ายหน้า เขาไม่คุ้นเคยกับสเต็กแล้วก็ไม่มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษด้วย ตามที่เขาเข้าใจ การทานสเต็กบุฟเฟ่ต์สักครั้งควรจะมีสเต็กสี่หรือห้าที่จึงจะดีที่สุด
และนี่ก็คือภาพของคนผู้หนึ่งที่กำลังรอคอยด้วยความหวาดวิตกในขณะที่อีกคนรอคอยด้วยท่าทีไม่สนใจอย่างเห็นได้ชัดที่ปรากฏขึ้นในร้าน
หลังจากผ่านไป 10 นาที อาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟแล้วพวกเขาก็เริ่มกิน
“อย่าเพิ่งกินขนมปังสิ กินสเต็กก่อน พอสเต็กมาถึงคุณจะได้กินตอนที่ยังร้อนอยู่ยังไงล่ะ ยังมีน้ำมันกับเลือดอยู่ในสเต็กอยู่เลยถ้าหากคุณเก็บไว้กินทีหลังมันจะเย็นเสียก่อน รสชาติและเนื้อสัมผัสก็จะให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีแล้ว” ทอมอธิบายอย่างเอาจริงเอาจังระหว่างที่ใช้มีดกับส้อม
“สเต็กจานนี้เป็นแบบมีเดียมงั้นเหรอครับ?” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างกล่าวเมื่อเห็นว่ามีเลือดกับน้ำมันกำลังไหลออกมาหลังจากหั่นสเต็กเป็นชิ้นๆแล้ว
“ถูกต้องแล้ว สเต็กจะมีรสชาติดีขึ้นถ้าหากดิบอยู่บ้าง ด้วยเลือดกับน้ำมันที่ผสมเข้าด้วยกัน ก็จะให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมแก่เนื้อสัมผัสเชียวล่ะ ลองชิมดูสิ” ทอมอธิบาย
ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างแย้งในใจ ถึงอย่างไรเนื้อวัวก็ดูยังดิบๆอยู่เลยแถมมีแค่ชั้นนอกเท่านั้นที่ผ่านการปรุงสุกแล้วจริงๆ น่าเสียดายที่ผู้ที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเขาไม่ใช่เพื่อนของเขา แต่ยังไงคนผู้นี้ก็เป็นหัวหน้าของเขานี่นา เขาจึงไม่มีทางเลือกได้แต่เริ่มกินมันลงไปเท่านั้นแล้ว
“ถูกต้องแล้ว เคี้ยวให้ละเอียดแบบนี้แหละถึงจะเป็นวิธีการกินสเต็กที่ถูกต้อง” ทอมจ้องมองชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างด้วยความพึงพอใจ
แต่คนผู้นั้นกลับกำลังสบถอยู่ในใจว่า “เวรเอ้ย ฉันเกือบจะสำลักตายอยู่แล้ว เนื้อห่าเหวอะไรกันเหนียวชะมัดยากเลย”
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเลยสักนิด แต่เขาก็ยังคงระบายยิ้มต่อไป “ครับ อร่อยแล้วก็เหนียวนุ่มมากเลยล่ะครับ”
“แหงอยู่แล้ว ตอนที่สั่งฉันขอเนื้อวัวส่วนซี่โครงเชียวนะ ดูชั้นสีขาวบนสเต็กชิ้นนี้สิ ด้วยสิ่งนี้แหละก็จะยิ่งเคี้ยวหนึบมากขึ้นไปอีกทั้งยังเหมาะกับฟันของผู้ใหญ่อย่างเราๆมากเลยล่ะ” ทอมกล่าว
“แน่นอนครับ ก็มันเป็นของดีนี่นา” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างเห็นด้วย
“แหงอยู่แล้วก็มันเป็นของดีน่ะสิ เนื้อทั้งเหนียวนุ่มแถมชุ่มน้ำมันอีกต่างหาก แล้วก็มีเลือดผสมอยู่ด้วยตอนที่กำลังเคี้ยว ทุกอย่างจะผสมเข้าด้วยกันทันที ปากของนายจะเต็มไปด้วยกลิ่นเนื้อวัวเลยล่ะ นี่ก็คือรสชาติที่แท้จริงของเนื้อวัวยังไงเล่า” ทอมรำพึงออกมาด้วยความพึงพอใจพร้อมหลับตาหลังจากทานชิ้นแรกเข้าไป
“โอ ยอดเยี่ยมไปเลย นานขนาดไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้ทานสเต็กขนานแท้แบบนี้น่ะ สมกับเป็นสเต็กที่สุดยอดเชฟลี่ลี่เป็นคนทำเองจริงๆ รสชาติอร่อยจริงๆ” ทอมเอ่ยปากชื่นชมซ้ำๆ
“มันยังดิบและสดอยู่เลยไม่ใช่หรือไง? เขามันเว่อร์เกินไปหน่อยแล้ว” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างไม่เข้าใจว่าทำไมทอมถึงได้มีท่าทีตอบสนองเช่นนี้
ควรรู้ว่ายามที่กำลังทานอาหารอยู่นั้น อารมณ์จัดเป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน ถ้าหากกำลังทานอาหารกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า ไม่ว่าอาหารจะเลิศรสสักแค่ไหนก็ย่อมไม่อร่อยอยู่ดี นี่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างในตอนนี้นั่นเอง
ในสถานการณ์นี้ ถ้าหากสเต็กจานนี้ได้คะแนน 8/10 ตอนนี้ก็จะลดเหลือเพียงแค่ 5/10 แทนเนื่องจากคนที่เข้ากำลังทานด้วย
พวกเขาออกจากร้านพร้อมรสชาติของเป็ดกงฟีต์ยังคงตลบอบอวลอยู่เต็มปากและเตรียมตัวไปจัดการธุระต่อ
“อาหารเป็นยังไงบ้าง? ไม่เลวไปเลยใช่ไหมล่ะ? บรรยากาศร้านก็ดี บริการก็เยี่ยมแถมรสชาติอาหารก็สุดยอดอีกต่างหาก ก่อนที่จะไปทำธุระต่อ ทางที่ดีต้องอารมณ์ดีเสียก่อน” ทอมกล่าวขึ้นระหว่างที่เดินไปด้วย
“คุณพูดถูกเลยล่ะครับ ผมอิ่มมากเลย มิสเตอร์ทอม เถ้าแก่หยวนคนนั้นไม่ใช่คนช่างจ้ออะไรนักหรอกครับ ผมก็เลยเตรียมเอกสารทั้งหมดมาให้ด้วย ทุกอย่างอยู่ในนั้นแล้วล่ะครับ” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างหยิบแฟ้มออกมาจากกระเป๋าเอกสารอย่างคล่องแคล่ว
“ดีแล้วแหละที่เข้าไม่ใช่คนช่างจ้อ ขอเพียงแค่เขาดูดีตอนอยู่หน้ากล้องก็พอแล้ว” ทอมรู้สึกยินดีมากที่ได้ยินว่าหยวนโจวเป็นคนพูดน้อย
“แต่ร้านอาหารจีนก็มักจะสกปรกอยู่แล้วเพราะพวกเขาไม่ค่อยจะเข้มงวดกวดขันเรื่องสภาพแวดล้อมอย่างจริงๆจังๆสักเท่าไหร่นัก ผมเกรงว่าร้านจะดูไม่ดีตอนอยู่หน้ากล้องน่ะสิ” จู่ๆทอมก็กล่าวพลางขมวดคิ้วระหว่างที่พลิกดูเอกสาร
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มิสเตอร์ทอม เถ้าแก่หยวนคนนี้มีที่ยอดเยี่ยมทั้งยังแกะสลักได้ประณีตมากเลยด้วย นอกจากนี้เขายังเคยออกรายการโฟล์คทาเลนต์มาก่อนแล้ว เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงทีเดียวแหละครับ” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างกล่าวด้วยความมั่นใจ
ถึงแม้ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างจะไม่เคยเห็นหยวนโจวทำงานกะสลักด้วยตาตนเอง แต่เขาก็เคยดูรายการโฟล์คทาเลนต์มาก่อน ถึงอย่างไรเขาก็ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับหยวนโจวก่อนที่จะมาหาเขาอยู่ก่อนแล้ว
“พวกเขาก็แค่โฆษณาให้รายการเท่านั้นแหละ อาหารจีนก็เหมือนๆกันหมด ถ้าหากคุณอยากเห็นชิ้นงานแกะสลักที่ยอดเยี่ยมจริงๆล่ะก็ต้องดูอาหารสไตล์ตะวันตกนี่สิ อาหารจีนให้ความสำคัญกับความถูกต้องของส่วนผสมน้อยเกินไป” ทอมตอบโต้พลางขมวดคิ้ว เขาได้ลืมเลือนรากเหง้าของตัวเองไปแล้วหลังจากไปอยู่ต่างประเทศแค่ไม่กี่ปี
“แต่ถ้าหากรายการนั้นสามารถทำให้เขาทำอาหารออกมาอร่อยได้ พวกเราก็สามารถทำได้เหมือนกันแหละน่า แล้วก็เสริมเข้าไปด้วยว่าข้อความตลกขบขันตรงนั้นทีตรงนี้ที พวกเราก็สามารถรักษาคุณภาพของรายการไว้ได้แล้ว” ทอมพูดต่อ
“แน่นอนครับ” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างพยักหน้าพร้อมยิ้มโดยไม่สนใจที่จะทุ่มเถียงกับเขาสักนิด
“ทำไมถึงยังมีคนมาที่นี่ตั้งเยอะตั้งแยะอีกเล่า?” ทอมรู้สึกสับสนเมื่อเขาเห็นว่ายังมีคนกลุ่มใหญ่อยู่หน้าร้านหยวนโจว
“คนพวกนี้มาที่นี่เพราะฝีมือการทำอาหารของเถ้าแก่หยวนกันทั้งนั้นแหละครับ ผู้คนมักจะมารวมตัวกันแบบนี้อยู่เสมอ” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างอธิบายให้ฟัง
“เอาล่ะ ผมเดาว่าคนจีนคงจะสนุกกับการรวมพลให้มีคนเยอะๆมากเลยสินะ” ทอมกล่าวพลางขมวดคิ้ว
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มิสเตอร์ทอม มื้อเที่ยงกำลังจะสิ้นสุดลงในอีกห้านาทีแล้ว เดี๋ยวผู้คนก็แยกย้ายกันไปเองแหละครับ” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างตอบ
“อืม ได้ยินแบบนั้นก็ดี พวกเราจะยืนรออยู่สักแปบนึงก็แล้วกัน” ทอมยืนอยู่ตรงนั้นแล้วเริ่มต้นการรอคอย
“โอเคครับ” ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างพยักหน้า
ณ จุดนี้ ชายที่ไว้ผมทรงเปิดข้างก็ต้องรู้สึกประหลาดใจกับความเป็นมืออาชีพของเขา ถึงอย่างไรบุคลิกของเขาก็ช่างตรงข้ามกับคนที่อยู่ตรงนี้โดยสิ้นเชิง