อยากกินไหมล่ะ - ตอนที่ 775
เจอลูกค้าของตัวเองในอีกที่หนึ่ง
หยวนโจวเผลองีบหลับในรถโดยไม่บอกไม่กล่าว ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังหลับอยู่แต่ก็ยังรักษาความเคร่งขรึมเอาไว้ได้ด้วยแผ่นหลังเหยียดตรง แน่นอนว่าตาของเขาย่อมปิดอยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวซิ่งเคยเห็นเขาหลับแบบนั้นมาแล้วหลายครั้งก็คงคิดว่าหยวนโจวไม่ได้หลับอยู่หรอก
“คนๆนี้คร่ำเคร่งเกินไปแล้ว ฉันไม่เคยเห็นใครเจ้าระเบียบทว่าก็เข้มงวดเช่นนี้มาก่อนเลย” เสี่ยวซิ่งจ้องมองไปทางหยวนโจวแล้วพึมพำเสียงเบา
แต่มันเป็นความเคยชินของหยวนโจว ในฐานที่เป็นสุดยอดเชฟและผู้เชี่ยวชาญที่มีฝีมือยอดเยี่ยมในตอนนี้ แน่นอนว่าการกระทำของเขาย่อมสอดคล้องกับอุปนิสัยแบบนั้น
หยวนโจวเป็นคนที่เปิดเผยและตรงไปตรงมา เขาถนัดในหลายๆเรื่องแต่กลับคุ้นเคยกับการแสร้งทำทีเคร่งขรึม ผลก็คือเขาดูเหมือนจะเอาจริงเอาจังแม้แต่ตอนงีบหลับเลยทีเดียว
“หยวนน้อยตื่นเถอะ พวกเรามาถึงแล้ว” เสียงของเสี่ยวซิ่งพุ่งเข้าไปในหูของหยวนโจวแล้วปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาทันที
“อืม ขอบคุณครับ” หยวนโจวลืมตาขึ้นทันทีแล้วเขาก็มองไปทางเสี่ยวซิ่งพร้อมทั้งแสดงความขอบคุณออกมา
“หา คุณทำผมกลัวนะ ทุกครั้งที่คุณตื่นมาคุณชอบทำท่าแบบนี้อยู่เรื่อยเลย ผมเกือบรู้สึกไปแล้วว่าคุณไม่ได้นอนหลับอยู่เลย” เสี่ยวซิ่งเริ่มพูดเมื่อเขาเห็นว่าหยวนโจวดูจะไม่ง่วงเลยสักนิดแถมยังมองเขาอย่างมีชีวิตชีวาอีกต่างหาก จากนั้นเขาก็อดที่จะกล่าวเช่นนั้นออกมาไม่ได้
“ครับ ผมหลับอยู่ รถวิ่งได้สม่ำเสมอดีมากเลยล่ะครับ” หยวนโจวเอ่ยปากชม
“แน่นอนครับ ผมขับรถได้เยี่ยมมาและผมก็เป็นคนที่ใครๆก็เรียกกันว่านักขี่มือเก่า*” เมื่อพูดถึงฝีมือการขับรถของเขาแล้วเสี่ยวซิ่งตบหน้าอกตัวเองและรู้สึกค่อนข้างภูมิใจขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ลืมที่จะพูดภาษาจีนแมนดารินสำเนียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“คุณรู้ความหมายของนักขี่มือเก่า*หรือเปล่าน่ะครับ?” หยวนโจวมองเขาด้วยความสงสัย
“แน่นอนอยู่แล้วครับ มันหมายถึงคนขับที่มีฝีมือการขับรถยอดเยี่ยมยังไงล่ะครับ ผมเป็นคนแบบนั้นแหละครับ” เสี่ยวซิ่งกล่าวเช่นนั้นด้วยความมั่นใจเป็นอันมาก หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่จอดรถแล้วจอดรถในลานจอดรถอย่างไร้ที่ติ
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนั้นก็พอเข้าใจได้ครับ” หยวนโจวพยักหน้า เมื่อตัดสินจากความเข้าใจคำนี้ของเขาแล้ว ไกด์ทัวร์คงไม่คุ้นเคยกับวลีทางอินเตอร์เน็ตในภาษาจีนเสียเท่าไหร่นัก
“พวกเรามาถึงแล้วครับ จวนจะสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้วใกล้จะได้เวลาแล้วล่ะครับ” เสี่ยวซิ่งตรวจสอบเวลาแล้วเปิดประตูรถและเตรียมที่จะลงจากรถ
“ครับ น่าจะได้เวลามื้อเที่ยงแล้วครับ” หยวนโจวกวาดตามองไปสภาพแวดล้อมโดยรอบและรับรู้ได้ว่าเป็นที่จอดรถชั้นใต้ดิน
“ร้านนี้ตั้งอยู่เหนือเราในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ตอนนี้พวกเราอยู่ใต้ดินชั้นสองและพวกเราต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้นเจ็ด” เสี่ยวซิ่งกล่าวขณะที่เดินนำเขาไป
“อืม” หยวนโจวพยักหน้า
จากนั้นคนทั้งสองก็เข้าไปในลิฟท์แล้วกดปุ่มด้านขวาและรอให้มาถึงจุดหมายปลายทาง
“ในห้างมีสินค้ามากมาย คุณสามารถเลือกซื้อแล้วส่งไปให้เพื่อนของคุณเป็นของขวัญได้เลย คุณไม่อยากซื้อของขวัญให้แฟนของคุณสักหน่อยเหรอครับ?” จู่ๆเสี่ยวซิ่งก็มองหยวนโจวด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายแล้วถามขึ้นมา
เมื่อมองดูใบหน้าแฝงรอยยิ้มชั่วร้ายของเสี่ยวซิ่ง ทันใดนั้นหยวนโจวก็รู้แล้วว่าเขายังไม่ได้บอกไกด์ทัวร์คนนี้เลยว่าเขายังไม่มีแฟน ถึงอย่างไรไกด์ทัวร์ก็บอกหยวนโจวว่าเขามีแฟนที่สวยมากทีเดียวเมื่อตอนที่มารับหยวนโจวในวันที่สอง ที่สำคัญเขายังโชว์รูปถ่ายให้หยวนโจวดูอีกต่างหาก เป็นหญิงสาวที่น่ารักเสียจริงๆ
ถ้าหากหยวนโจวบอกเขาว่าเขายังไม่มีแฟนคงจะรู้สึกอายมากทีเดียว หยวนโจวคิดอยู่นานแล้วตอบว่า “เอาล่ะ ไว่ค่อยคุยกันทีหลังเถอะนะ”
คำตอบของหยวนโจวไม่ใช่ทั้งตอบรับหรือปฏิเสธ แต่กลับเป็นคำตอบที่คลุมเครือมากทีเดียว
“คุณสามารถซื้อเครื่องสำอางให้แฟนของคุณ ผู้หญิงชอบของแบบนั้นกันทั้งนั้นแหละครับ แถมที่นี่ยีงราคาถูกกว่าในประเทศของคุณเสียอีก เห็นใครๆเขาก็ว่ากันอย่างนั้นนะ” เสี่ยวซิ่งกล่าวคล่องปากและลื่นไหล
“อืม งั้นผมจะซื้อไปก็แล้วกัน” หยวนโจวพยักหน้า
“ติ๊ง” ขณะที่เสี่ยวซิ่งอยากจะพูดอะไรบางอย่างขึ้นมาอีก ลิฟท์ก็มาถึงแล้ว
“ไปกันเถอะครับ” หยวนโจวเดินออกจากลิฟท์ก่อน
“ไปกันเถอะครับ ตรงหน้าเรานี้ก็คือชั้นห้านั่นเอง” เสี่ยวซิ่งกลืนสิ่งที่เขาอยากจะพูดลงไปแล้วเริ่มนำทาง
มีตัวอักษรจีนแบบดั้งเดิมหลายตัวเขียนอยู่บนประตูร้านซึ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นจีนเอามากๆ ทั้งสองด้านเป็นกระจกใสบานใหญ่ยักษ์และส่วนที่อยู่ด้านนอกต่างล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากตู้ปลาขนาดใหญ่ ส่วนด้านในมีบอสตัน ล็อบสเตอร์ ออสเตรเลียน ล็อบสเตอร์ และปลาที่มีสีสันสวยงามเป็นจำนวนมากตลอดจนเปลือกหอยที่ปล่อยฟองอากาศออกมา มันเป็นโต๊ะจีนของอาหารทะเลชนิดต่างๆอย่างแท้จริง
“เอาล่ะครับ พวกเรามาถึงแล้ว” เสี่ยวซิ่งชี้ไปที่ประตูแล้วกล่าวขึ้น
“เป็นร้านที่คนจีนเปิดงั้นเหรอครับ?” หยวนโจวถามด้วยความอยากรู้
เท่าที่เขารู้มาจากอินเตอร์เน็ต มันไม่ใช่ร้านที่คนจีนเปิด เพียงแต่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นร้านอาหารทะเลที่ดีที่สุดในกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้
“ไม่ ไม่ ไม่ เนื่องจากมีคนจีนมากมายมาทานอาหารที่นี่ เถ้าแก่จึงทำป้ายร้านขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่กับบ้านต่างหากล่ะครับ” เสี่ยวซิ่งอธิบายให้เขาฟัง
“เข้าใจแล้วครับ” หยวนโจวพยักหน้า
“ผมถามบริกรดูแล้ว ยังมีโต๊ะอยู่เลย เข้าไปกันเถอะครับ” เสี่ยวซิ่งบอกหยวนโจว
ในขณะที่หยวนโจวตั้งใจมองดูประตูอยู่นั้น เสี่ยวซิ่งก็สอบถามเรื่องที่นั่งมาแล้ว
“โครก”
ขณะที่หยวนโจวจะตอบคำถามเขาอยู่นั้น ท้องของเขาก็ร้องออกมาอย่างไม่ถูกที่ถูกเวลา หลังจากนั้นก็มีอาการปวดเล็กน้อย
“ขอโทษนะครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เสี่ยวซิ่ง คุณเข้าไปนั่งก่อนเลยก็ได้ครับ” หยวนโจวกล่าวโดยหน้าไม่เปลี่ยนสี
“โอ้ ได้ครับ ห้องน้ำอยู่ตรงนั้นนะครับ พอเดินไปที่นั่นคุณก็จะเห็นเองแหละ” เสี่ยวซิ่งชี้ไปที่ฝั่งตรงข้ามแล้วกล่าวขึ้นมา
“โอเคครับ ขอบคุณ” หยวนโจวหันหลังเดินไปฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
“จึ๊ จึ๊ หยวนน้อยช่างน่าเลื่อมใสเสียจริงเชียว ถึงแม้เขาจะกำลังทรมานจากอาการท้องเสีย แต่เขาก็ยังอยากจะทานอาหารทะเลเพียงเพื่อลิ้มลองรสชาติอยู่ดี ดูเหมือนว่าฉันต้องศึกษาการพูดภาษาจีนสำเนียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ดีเสียแล้วสิ” ขณะที่กล่าวเช่นนั้นออกมา เสี่ยวซิ่งก็ตามบริกรไปยังที่นั่งของพวกเขาแล้วนั่งลง
หลังจากนั้นเสี่ยวซิ่งก็ขอเมนูเรียกน้ำย่อยกับน้ำอุ่นระหว่างรอหยวนโจวกลับมาอยู่ที่นั่น
ใช่แล้วล่ะ เสี่ยวซิ่งย่อมรู้อยู่แล้วว่าหยวนโจวไปทำอะไรที่ห้องน้ำ แน่นอนว่าเขาย่อมไปที่นั่นเพื่อถ่ายท้อง เขาทราบสภาพร่างกายของหยวนโจวในช่วงนี้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ
เมื่อเขาเห็นหยวนโจวพยายามอย่างหนัก ตัวเขาก็รู้สึกอับอายจนแทบแรกแผ่นดินหนีอยู่แล้วที่ไม่ได้พัฒนาตัวเองเสียบ้างเลย ถึงอย่างไรหยวนโจวก็เป็นคนใจกว้างตอนที่ซื้อของ เห็นได้ชัดเลยว่าเขาต้องมีฝีมือในการทำอาหารมากเชียวล่ะ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เขาก็ยังพยายามอย่างหนักอยู่ดี เสี่ยวซิ่งจะไม่พยายามให้หนักได้อย่างไรกันเล่า?
เมื่อตอนที่เสี่ยวซิ่งพาหยวนโจวมาที่นี่ยังมีที่นั่งอยู่หลายที่ แต่หลังจากหยวนโจวกลับมาจากห้องน้ำ ร้านก็เต็มเสียแล้ว
ดังนั้นหยวนโจวจึงเกือบจะคิดว่าตัวเองมาผิดที่เสียแล้วเมื่อตอนที่เขาเห็นร้านที่คึกคักจอแจ
“ดูเหมือนว่ากิจการจะดีมากเลยทีเดียว” หยวนโจวอดไม่ได้ที่จะกล่าวเช่นนั้นออกมาเมื่อโถงหลักขนาดประมาณ 200-300 ตารางเมตรที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน
ด้วยสายตาอันเป็นเลิศของเขา หยวนโจวมองหาที่นั่งของเสี่ยวซิ่งเจอได้อย่างง่ายดายยิ่ง
“ตึก ตึก ตึก” หยวนโจวเดินไปหาเขาด้วยฝีเท้าสม่ำเสมอ เขาเพียงแค่นั่งลงและอยากพูดอะไรบางอย่างเมื่อตอนที่ได้ยินภาษาจีน
“ฉันหวังว่าร้านนี้จะเสิร์ฟอาหารที่รสชาติอร่อยนะ ถ้ายังไม่อร่อยอีก ฉันจะไม่รับประทานอาหารในประเทศไทยแล้ว” เป็นน้ำเสียงอันอ่อนโยนของหญิงสาวคนหนึ่ง
“มีคนไทยอยู่ในประเทศไทยเยอะมากจริงๆ” หยวนโจวแอบพูดในใจด้วยท่าทีแสนสุภาพ
“คุณอยู่นี่เอง รีบมาสั่งอาหารเถอะครับ คุณสามารถดูภาพอาหารพวกนี้เอาก็ได้ ถ้าคุณไม่รู้ว่าเป็นอะไรก็ถามผมได้นะครับ” เสี่ยวซิ่งหยิบเมนูขึ้นมาแล้วยื่นให้หยวนโจวทันที
“อืม คุณสั่งอาหารที่ชอบได้เลยนะครับ” หยวนโจวกล่าวขอบคุณเขาและกล่าวขึ้นมา
“ผมกินได้ทุกอย่างแหละครับ คุณสั่งมาเถอะ ผมกินได้” เสี่ยวซิ่งส่ายหน้าติดๆกัน
ถึงอย่างไรหยวนโจวก็สั่งอาหารเยอะทุกครั้งอยู่แล้ว ถ้าเขาสั่งอีกก็คงจะกินไม่หมดแน่ๆ
“ไม่ต้องหรอก อาหารมากมายหลายอย่างเป็นประโยชน์กับฉันเท่านั้นแหละ คุณสั่งอาหารที่ชอบกินเถอะครับ” หยวนโจวกล่าว
“โอเคครับ งั้นอาหารจานเดียวก็พอแล้วล่ะครับ” เสี่ยวซิ่งพยักหน้า
บทสนทนาเช่นนี้เกิดขึ้นแทบทุกครั้งที่พวกเขารับประทานอาหาร เสี่ยวซิ่งคุ้นเคยกับเรื่องแบบนั้นอยู่แล้วและหยวนโจวก็ไม่กล่าวอะไรให้มากความเช่นกัน
” อ้าาาาาา! ฉันอยากทานอาหารอร่อยๆอย่างหมูอบซีอิ๊ว ผัดเผ็ดต้มปลา ปลาต้มผักกาดดอง เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน หญ้าจินหลิง เนื้อสไลซ์บางเฉียบ ผัดเนื้อหมูตงพัวและข้าวผัดไข่ ถ้าฉันไม่ได้กินเสียตอนนี้ ฉันต้องตายแน่ๆเลย” จู่ๆก็มีเสียงหญิงสาวดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา
“สิ่งที่เธอว่ามาในช่วงท้ายดูเหมือนจะเป็นอาหารของร้านหยวนโจวนะ” จากนั้นชายหนุ่มก็ตอบเธออย่างจนปัญญา
เมื่อได้ยินชื่อร้านของตัวเอง หยวนโจวก็เงี่ยหูฟังโดยไม่รู้ตัว
————————-
นักขี่มือเก่า(老司机) ตามตัวอักษรในภาษาจีนแล้วหมายถึงคนขับผู้มีความชำนาญ แต่ก็เป็นวลีที่โด่งดังทางอินเตอร์เน็ตซึ่งจริงๆแล้วหมายถึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ