อยากกินไหมล่ะ - ตอนที่ 778
ค่ำคืนแสนอลหม่าน
ทางเลือกของหยวนโจวก็คือไม่ใช่ทั้งสองอันนั่นแหละ!
หลังจากเขาเห็นทุเรียนย่างแล้ว เขาก็รู้สึกว่าการเดินทางตามหาอาหารในวันนั้นได้สิ้นสุดลงเสียแล้ว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ซิ่งน้อยถามด้วยความเป็นห่วง
หยวนโจวทานปลาขนาดใหญ่ยักษ์พวกนั้นเข้าไปสามตัวก่อนที่จะกินทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสามารถซื้อหาได้ตามแผงลอยริมถนน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังกินทุกสิ่งอย่างที่ซื้อมาจนหมดเกลี้ยงอีกต่างหากด้วย
“ผมไม่เป็นไรครับ” หยวนโจวส่ายหน้า
“คุณอยากได้ยาช่วยย่อยหน่อยไหมครับ?” ซิ่งน้อยถาม
“ผมทานมาเรียบร้อยแล้วล่ะครับ” หยวนโจวตอบ
“โอ้ ให้ผมขับรถพาคุณกลับไปก่อนไหมครับ?” ซิ่งน้อยถาม
“อืม ขอบคุณครับ” หยวนโจวพยักหน้า
จากนั้น ทั้งสองคนก็เดินไปที่ลานจอดรถ
“คุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ผมจะไปเอารถมา” ซิ่งน้อยยื่นข้อเสนอเพราะเกรงว่าหยวนโจวจะรู้สึกอึดอัดหลังจากทานอาหารมากเกินไป
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดินแปบเดียวก็ถึงแล้ว พวกเราเดินไปด้วยกันจะง่ายกว่านะครับ” หยวนโจวลูบท้องแล้วกล่าว
“โอ้ งั้นก็ได้ครับ” ซิ่งน้อยพยักหน้า
ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นเอง หยวนโจวก็ตั้งใจเดินให้ช้าลงแล้วกวาดตามองไปรอบๆ ส่วนซิ่งน้อยที่อยู่ข้างกายเขากลับไม่ทันสังเกตอะไรทั้งนั้น เขามัวแต่ยุ่งง่วนอยู่กับการแนะนำให้หยวนโจวหยุดกินสักวัน
“อืม ผมไม่ได้จะไปกินนะครับ ผมแค่จะไปเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนต่างหากล่ะ” หยวนโจวตอบอย่างใจเย็น
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาถึงที่ลานจอดรถ หยวนโจวนั่งอยู่ที่เบาะฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าตามปกติ
หยวนโจวคาดเข็มขัดนิรภัยเสียงดังแกร๊ก จากนั้นเขาก็นอนลงบนเบาะเพื่อผ่อนคลายหน้าท้องของตัวเองที่จวนจะระเบิดอยู่แล้ว
แน่นอนว่าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ในใจของไกด์ทัวร์เอาไว้ หยวนโจวจึงต้องแอบทำเรื่องทั้งหมดนี้อย่างลับๆ ซิ่งน้อยจะต้องไม่ทันสังเกตเห็นอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว การจราจรจึงไม่ติดขัดมากนัก ซ้ำเมืองทั้งเมืองก็ไม่วุ่นวายเท่ากับตอนกลางวันและดูเหมือนจะค่อนข้างมืดต่างจากเฉิงตูที่จะเปล่งประกายในยามค่ำคืน
โครก จู่ๆท้องของหยวนโจวก็เริ่มปวดขึ้นมาอีกแล้ว
หยวนโจวขมวดคิ้วแล้วมองออกไปด้านนอก เขาเห็นที่มาของแสงสว่างอยู่ไม่ไกลนักและเมื่อเพ่งมองให้ดีก็จะเห็นว่าเขากำลังจ้องมองไปที่ปั๊มน้ำมันอยู่นั่นเอง
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่สร้างปัญหาให้คุณจนดึกดื่นป่านนี้ ไปเติมน้ำมันแล้วควรพักผ่อนเสียสักหน่อยเถอะ อย่าหักโหมขับรถจนเหนื่อยเกินไปล่ะครับ” หยวนโจวแนะนำ
“ผมสบายดีครับ ไม่ต้องห่วง ผมไม่เหนื่อยหรอกครับ วันนี้ผมก็กินเสียอิ่มเลย” เสี่ยวซิ่งยิ้มพลางส่ายหน้า
“ผมยังกินเวลาของคุณไปตั้งเยอะ ไหนจะแวะปั๊มอีก” หยวนโจวยืนกราน
“ค่าน้ำมันรวมอยู่ในค่าบริการไกด์ทัวร์แล้ว คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมันเลยครับ” ซิ่งน้อยอธิบายอย่างจริงจัง
หยวนโจวรู้ว่าพวกเขาเพิ่งจะผ่านปั๊มน้ำมันไปตอนที่อาการปวดท้องเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของเขากลับกลายเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาขณะที่เขาพูดขึ้นมาว่า “ไม่ได้ครับ ผมขอยืนกรานว่าจะจ่ายค่าน้ำมัน คิดเสียว่าเป็นทิปจากผมก็แล้วกันครับ ถึงยังไงผมก็อยากเข้าห้องน้ำที่นั่นอยู่พอดีเลย”
“โอ้ งั้นก็ได้ หยวนน้อย” ซิ่งน้อยตอบเมื่อเขาได้ยินหยวนโจวบอกว่าอยากห้องน้ำ
หยวนโจวกำลังท้องเสีย หลังจากทานอาหารเข้าไปมากมายย่อมเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกไม่สบาย หลังจากเปิดไฟชี้บอกแล้ว ซิ่งน้อยก็เลี้ยวรถไปจอดอยู่ใกล้ๆห้องน้ำ
“ผมจะไปเติมน้ำมันนะครับ” ซิ่งน้อยกล่าวหลังจากหยวนโจวลงจากรถ
“อืม” หยวนโจวพยักหน้าแล้วรีบพุ่งตัวเข้าห้องน้ำ
โชคดีที่ยามค่ำคืนปั๊มน้ำมันคนไม่เยอะ เขาจึงไม่ต้องรอคูหาในห้องน้ำ เขารีบวิ่งเข้าห้องน้ำที่ว่างอยู่อย่างรวดเร็วปานประหนึ่งสายลม
“ฟู่ โชคดีที่มีปั๊มน้ำมัน” หยวนโจวรู้สึกยินดี
หลังจากเข้าห้องน้ำและแวะเติมน้ำมันแล้ว พวกเขาก็เดินทางกันต่อไป ขณะที่พวกเขายังต้องเดินทางไกลกันอยู่นั้นเอง ซิ่งน้อยก็พูดขึ้นมาตอนที่พวกเขามาถึงปั๊มน้ำมันแห่งต่อไป
“ผมขอแวะสูบบุหรี่หน่อยนะครับ” ซิ่งน้อยกล่าวแล้วขับตรงไปที่ห้องน้ำอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ” หยวนโจวไม่กล่าวอะไรให้มากความ เขารีบพุ่งเข้าห้องน้ำอย่างเคย
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องแวะจอดถึงสี่ครั้งก่อนที่จะมาถึงโรงแรมของหยวนโจว
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ” หยวนโจวกล่าวด้วยริมฝีปากซีดขาว แต่เขาก็ยังคงรักษาสีหน้าเช่นเดิมเอาไว้
“ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมได้เลยนะครับ” ซิ่งน้อยกล่าว
“โอเคครับ เอ้านี่ทิปของคุณ” หยวนโจวหยิบเงิน 1,000 บาทออกมาแล้วยื่นส่งให้
การให้ทิปเป็นสิ่งที่มักจะทำกันในประเทศไทย แม้แต่พนักงานทำความสะอาดที่โรงแรมก็ยังได้ทิปเป็นครั้งคราวเลยด้วยซ้ำไป เนื่องจากรายได้ขั้นพื้นฐานไม่สูงนัก รายได้กว่าครึ่งของบางคนจึงได้มาจากทิปนั่นเอง
“ขอบคุณมากครับ” ซิ่งน้อยรับทิปมาด้วยความเบิกบานใจพร้อมรอยยิ้มแจ่มใสบนใบหน้า
“ด้วยความยินดี แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ” หยวนโจวกล่าวแล้วเดินเข้าโรงแรมไป
เมื่อเขาเห็นซิ่งน้อยขับรถออกไปแล้ว หยวนโจวก็เริ่มขมวดคิ้วขณะที่มือกุมท้องอีกครั้งส่วนใบหน้ากลับซีดขาว
“อืม ดูเหมือนว่าฉันจะทานอาหารทะเลมากไปหน่อย” หยวนโจวพึมพำพลางรีบพุ่งตัวเข้าลิฟท์
เขาสามารถสัมผัสได้เลยว่าห้องน้ำกำลังเรียกหาเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว
หยวนโจวรีบสาวเท้าไปตามกระเบื้องที่ส่องประกายภายในโถงต้อนรับที่เป็นประกายสว่างไสว ฝีเท้าของเขารวดเร็วขึ้นตามลำดับ ในขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังกุมท้องเอาไว้
“โชคดีที่ห้องฉันอยู่ไม่สูงเท่าไหร่นัก” หยวนโจวถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเข้าไปในลิฟท์แล้วกดปุ่มชั้นของเขา
อาการท้องเสียเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจทานทนได้ ดังนั้นเมื่อตอนที่ลิฟท์มาถึงชั้นของเขา หยวนโจวก็มีคีย์การ์ดอยู่ในมือแล้ว
ยิ่งเข้าใกล้ห้องตัวเองมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเดินเร็วขึ้นมากเท่านั้น
ทันทีที่เขาเปิดประตู เขาก็รีบพุ่งตรงเข้าห้องน้ำทันที
หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยวนโจวก็ลุกขึ้นโดยต้องเกาะผนังเอาไว้ เข่หลับตาแล้วพึมพำออกมาว่า “ขาฉันสั่นไม่หมดแล้ว ดูเหมือนฉันต้องรีบทานยาให้เร็วที่สุดเสียแล้วล่ะ”
ใช่แล้วล่ะ ขาของหยวนโจวที่มักจะเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชาตอนนี้กลับรู้สึกอ่อนแรงเสียแล้ว ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับอาการท้องเสียอย่างแน่นอน เขาจึงตัดสินใจที่จะรีบทานยาในทันทีเพื่อมิให้ส่งผลต่อการเดินทางในวันพรุ่งนี้
“ควรจะทานยาแก้ปวดท้อง ยาหยุดถ่ายและโป๊ยกั๊กอัดเม็ดสินะ” หยวนโจวกล่าวขณะที่กำลังค้นหายาเป็นกองพะเนินที่เขานำมาด้วย
“เท่านี้ก็พอแล้วล่ะ” หยวนโจวเริ่มต้มน้ำหลังจากหลังจากรวบรวมตัวยาหลายชนิดเข้าด้วยกันแล้ว
แต่ทันทีที่เข้าเปิดกาต้มน้ำไฟฟ้า เขาก็ถูกสั่งให้เข้าห้องน้ำอีกครั้งหนึ่งแล้ว
“ชักจะถี่มากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะเนี่ย” หยวนโจวขมวดคิ้วขณะที่รีบพุ่งเข้าห้องน้ำ
ตอนที่เขาทำธุระเสร็จ เขาก็ตัดสินใจที่จะทานยา ก่อนที่จะรอให้น้ำเย็นลง เขาก็หยิบโป๊ยกั๊กอัดเม็ดขึ้นมาทันที
“ฉันจะทานยาตัวนี้ก่อนจะทานยาแก้ปวดท้องและยาหยุดถ่าย เท่านั้นก็น่าจะพอช่วยได้บ้างแหละนะ” หยวนโจวรู้สึกได้ว่าตอนนี้ลมหายใจของเขามีกลิ่นใบสะระแหน่ซึ่งมาจากยาออกมาด้วย
“กลิ่นแบบนี้เข้ากันได้ดีกับเครื่องเทศเลยแฮะ” หยวนโจวพึมพำพลางเริ่มเขียนบันทึกลงในสมุดบันทึกของตัวเอง
เขาไม่สามารถเขียนอะไรได้มากนักก่อนที่เขาจะถูกสั่งให้เข้าห้องน้ำอีกครั้ง ตอนที่เขาออกมาจากห้องน้ำนั่นเอง น้ำที่ต้มเอาไว้ก็เย็นเสียแล้ว หลังจากทานยาไปสองตัวและเข้าห้องน้ำไปสามครั้งแล้ว ยาก็ออกฤทธิ์ในที่สุด
“ฟู่ ยังดีที่ฉันยังสามารถเขียนบันทึกได้จนเสร็จ” หยวนโจวรู้สึกได้ถึงความอ่อนเพลียแม้แต่ตอนที่กำลังจับปากกาในตอนนี้
ถึงอย่างไรการถ่ายท้องก็เป็นกิจกรรมที่เหน็ดเหนื่อยมากทีเดียว
“ฟิ้ว ฉันยังมีซิกส์แพ็คอยู่กับตัว” หยวนโจวลูบท้องแล้วก็รู้สึกยินดี
“อืม ลูกหนูของฉันยังเป็นกล้ามเนื้ออยู่เช่นกัน” หยวนโจวพึมพำขณะที่เขาเบ่งลูกหนูของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ แต่จู่ๆอาการปวดท้องก็ทำให้สีหน้าภาคภูมิใจของเขากลับกลายเป็นแข็งทื่อไปในทันที
ดูเหมือนว่าอาการท้องเสียพยายามที่จะฆ่าเขาเสียให้ได้
หลังจากยาออกฤทธิ์แล้ว หยวนโจวก็ไม่ต้องเข้าห้องน้ำทุก 10 นาทีอีก เขาเพียงแค่ต้องเข้าห้องน้ำชั่วโมงละครั้งเท่านั้น หยวนโจวที่ดูจะพึงพอใจกับผลลัพธ์เช่นนี้เตรียมตัวที่จะไปอาบน้ำก่อนเข้านอนแล้ว
“พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วหลังจากนั้นฉันก็จะได้กลับบ้านแล้ว โชคดีที่ฉันมาอยู่ที่นี่แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น” หยวนโจวรำพึงพลางจับจ้องไปที่บันทึกของตนเอง