อยากกินไหมล่ะ - ตอนที่ 805 เติมได้ไม่อั้น
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 805 เติมได้ไม่อั้น
ทันใดนั้นร้านก็ตกอยู่ในความเงียบและเจ้าระบบก็ไม่แสดงผลอะไรออกมาอีกเลย หลังจากนั้นไม่นานนักเจ้าระบบก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อตัดสินจากคำพูดแล้ว เนื้อหาก็ค่อนข้างไม่ซับซ้อนและไม่ต่างอะไรจากปกติเลย
แต่หยวนโจวรู้สึกว่าเจ้าระบบดูเหมือนจะเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโหระหว่างกล่าวเช่นนั้นออกมา เอาล่ะมันก็เป็นแค่ความรู้สึกเท่านั้นแหละ แถมยังเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากเขาได้มีการแลกเปลี่ยนกับเจ้าระบบอย่างเป็นมิตรมากขึ้นเรื่อยๆอีกต่างหาก
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ระบบนี้ยังคงใช้ข้าวบาร์เลย์แล้วก็คัดเลือกข้าวบาร์เลย์ที่ดีที่สุดด้วย หลังจากคัดเลือกมาแล้ว จะต้องมีสิ่งปลอมปนร้อยละ 0.0 เมล็ดข้าวบาร์เลย์ทุกเมล็ดจะต้องมีขนาดเท่าๆกันกล่าวคือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 2.2มม. โดยมีอัตราการคัดเลือกอยู่ที่ร้อยละ 100”
“ฟังดูแล้ววิเศษไปเลย นั่นเป็นข้าวบาร์เลย์จริงๆงั้นเหรอ?” หยวนโจวพยักหน้าเพื่อแสดงว่าเขาเห็นด้วยแล้วแล้วเช่นนั้นออกมา
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เบียร์ที่ระบบจัดหามาให้ถูกต้มด้วยข้าวบาร์เลย์ชั้นยอดที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ฮอบส์และน้ำที่มีคุณภาพสูง”
“อืม ฉันเชื่อว่านั่นเป็นเรื่องจริง” หยวนโจวพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ดูค่อนข้างจริงจัง
ไม่รู้ทำไมจู่ๆหยวนโจวถึงได้นึกถึงสโลแกนโฆษณาขึ้นมาได้ ไม่ใช่นมทุกชนิดที่จะสามารถเรียกว่า “นมเมิ่งหนิวพิเศษ” ได้ และเขาได้คิดสโลแกนโฆษณาอีกอย่างในลักษณะเดียวกันขึ้นมา อีกทั้งใช่ว่าทุกระบบจะช่างจ้อขนาดนี้เสียเมื่อไหร่กัน
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ทุกวันนี้เบียร์ชั้นยอดต่างมีสิ่งปลอมปนไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.15 เมล็ดข้าวบาร์เลย์ โดยเมล็ดข้าวบาร์เลย์จะต้องมีขนาดเท่ากันถึงร้อยละ 93 และมีอัตราการคัดเลือกไม่ควรจะต่ำกว่าร้อยละ 90”
“เอาล่ะ หลังจากคำอธิบายของแกแล้ว ตอนนี้ฉันก็ทราบถึงความแตกต่างระหว่างเบียร์ของแกกับของด้อยคุณภาพที่อยู่ข้างนอกแล้วล่ะ จะว่าไปแล้วอัตราการคัดเลือกของแกจะต้องอยู่ที่ร้อยละ 100 ไม่ใช่เหรอไง?” หยวนโจวอ่านศัพท์เฉพาะพวกนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วกล่าวขึ้นมา
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ลำพังด้วยเทคนิคหรือฝีมือในตอนนี้ย่อมไม่มีทางที่จะทำให้สมบูรณ์แบบได้เต็ม 100 ดังนั้นการคัดเลือกด้วยความละเอียดถี่ถ้วนถึงร้อยละ 90 จึงเป็นมาตรฐานสูงสุดในตอนนี้ และเบียร์สดที่คัดเลือกด้วยวิธีการนี้มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม”
“เข้าใจแล้วล่ะ แกก็แค่อยากจะบอกฉันว่าถึงจะมีเงินก็ใช่ว่าจะทำเบียร์ที่ดีออกมาได้ใช่ไหม?” หยวนโจวพยักหน้าราวกับเข้าใจเรื่องนั้นแล้ว
จากที่พูดมาตั้งมากมาย เห็นได้ชัดว่าเจ้าระบบเจตนาที่จะบอกหยวนโจวว่าถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินก็ใช่ว่าจะทำขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างระบบ เจ้าระบบช่างแสนจะอ่อนไหวและโอหังเสียจริง!
“แต่นอกเหนือไปจากเบียร์แล้ว ฮอบส์กับน้ำก็มีความสำคัญต่อการต้มเบียร์เช่นเดียวกัน” หยวนโจวเปลี่ยนเรื่องคุย
เจ้าระบบแสดงผลออกมา “เดิมทีฮอบส์ได้รับการคัดเลือกมาจากเทือกเขาอัลไตที่อุณหภูมิเฉลี่ย 0°C ในเดือนกรกฎาคม อุณหภูมิเฉลี่ยของบริเวณต่ำกว่าแนวหิมะจะอยู่ที่ 15-17°C ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะต่ำสุดถึง -62°C อัตราส่วนน้ำฝนในรอบปีจะอยู่ที่ประมาณ 500-700มม. สภาพทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวเหมาะสมที่สุดต่อการเติบโตของฮอบส์”
ระหว่างนี้ หยวนโจวกลับได้ยินเรื่องที่น่าสนใจ ฮอบส์… นับเป็นพืชจริงๆหรือเปล่านะ?
หยวนโจวรู้ว่าฮอบส์ค่อนข้างมีความสำคัญต่อการการต้มเบียร์ แต่เขาก็เชื่อเสมอมาว่ามันคือฟองเบียร์ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าไปเกิดความประทับใจเข้าตรงไหนกัน
หยวนโจวเงียบไปแล้วอ่านคำพูดของเจ้าระบบที่แสดงในหัวของเขาต่อไป เขาไม่อาจปล่อยให้เจ้าระบบรู้ว่าเขาได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกได้
“ในขณะเดียวกัน เนื่องจากฮอบส์เป็นไม้ยืนต้นจึงมักจะดูดซึมน้ำจากหิมะในช่วงพักตัวและช่วงเติบโต เบียร์ที่ต้มด้วยฮอบส์จากบริเวณนี้จะมีรสหวานโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์”
“นอกเหนือไปจากฮอบส์ของบริเวณนี้จะเหมาะสำหรับการชำระล้างน้ำข้าวบาร์เลย์แล้ว การเติมฮอบส์เข้าไปในกระบวนการต้มน้ำข้าวบาร์เลย์ยังสามารถแยกโปรตีนเชิงซ้อนที่มีอยู่ในนั้นออกมาได้ด้วย ผลก็คือมันมีบทบาทสำคัญในการชำระล้างน้ำข้าวบาร์เลย์และการต้มเบียร์ให้สะอาดและบริสุทธิ์นั่นเอง รสชาติอันเข้มข้นของฮอบส์จากเทือกเขาอัลไตจะช่วยรักษาสมดุลระหว่างความหวานตามธรรมชาติของเบียร์ที่ต้มแล้วและการกระตุ้นความอยากอาหาร”
“ฮอบส์ได้รับการปกป้องดูแลจากคนงานอยู่ตลอดนับตั้งแต่เริ่มปลูกจนกระทั่งโตเต็มที่ เนื่องจากการต้มเบียร์ต้องใช้ส่วนช่อดอกเพศเมียเท่านั้น คนงานจึงต้องเด็ดมาด้วย”
“ยอดเยี่ยมจริงๆ” ในขณะที่กำลังอ่านคำแนะนำของวัตถุดิบอยู่นั้น หยวนโจวก็ไม่ได้พูดอะไรนอกเสียจาก “สุดยอดเลย สุดยอดไปเลยจริงๆ”
ถ้าไม่นับรวมอย่างอื่นแล้วก็มีแค่วัตถุดิบอย่างฮอบส์เท่านั้นที่รู้สึกว่าจะดีกว่าเบียร์หิมะหรือเบียร์ฉงชิ่ง
ทุกอย่างในร้านหยวนโจวดีกว่าบางอย่างที่เสิร์ฟอยู่ข้างนอกอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียว เบียร์เองก็เช่นเดียวกัน เมื่อตัดสินจากเรื่องนี้แล้วก็คงไม่ต้องสงสัยเรื่องความสมบูรณ์ของเจ้าระบบเลย
“เอาล่ะ ฉันเดาว่าน้ำที่นำมาใช้จะต้องพิถีพิถันมากเชียวล่ะ แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือเบียร์อยู่ที่ไหนกันล่ะ?” หยวนโจวไม่อยากได้ยินเรื่องความโด่งดังของเจ้าระบบอีกจึงถามออกมาโต้งๆ
หลังจากแนะนำอย่างละเอียดแล้ว หยวนโจวก็ไม่เห็นว่าเบียร์สดจะต้มด้วยเทคนิคอันสลับซับซ้อนเช่นนั้นเลย
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “มันถูกจัดเตรียมเอาไว้ในถังเบียร์ตรงชั้นล่างของผับแล้ว คุณสามารถตรวจสอบเองได้เลย”
“อีกตั้งนานแน่ะ ฉันจะไปตรวจสอบตอนพักเที่ยงก็แล้วกัน” หยวนโจวตรวจสอบเวลาและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
“ได้เวลาอาหารเช้าแล้วค่ะ เชิญเข้ามากันได้เลย” ทันใดนั้นเสียงของโจวเจียก็ดังขึ้นมาจากนอกประตู
เนื่องจากเวลาอาหารเช้าเริ่มขึ้นแล้ว หยวนโจวจึงไม่นึกถึงเรื่องเบียร์อีกแต่กลับตั้งหน้าตั้งตารอให้บรรดาลูกค้ามาถึงแทน
อาหารเช้าจะเปิดรับเฉพาะลูกค้า 100 คนแรกตามเคย ดังนั้นไม่นานก็สิ้นสุด
หลังจากนั้นลูกค้าก็ทยอยกันออกไปกันทีละคนๆและหยวนโจวก็ยืนมองพวกเขาออกไปอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งโจวเจียกลับไปแล้วเขาก็เลื่อนเปิดผนังทิวทัศน์อันงดงามตระการตาแล้วไปที่ผับข้างเคียง
“ขอฉันดูเบียร์สดหน่อยสิ” หยวนโจวกล่าว
เดิมทีชั้นล่างของผับว่างมากๆแถมก่อนหน้านี้ยังมีถังเบียร์อยู่แค่ไม่กี่ใบเท่านั้นเอง หยวนโจวเคยตรวจสอบมาครั้งหนึ่งแล้วและพบว่าพวกมันต่างมีไว้เพื่อตกแต่ง โดยไม่มีอะไรอยู่ในถังเลย
แต่ตอนนี้ถังเบียร์สำหรับตกแต่งเปลี่ยนไปแล้ว ผิวนอกของไม้สีเข้มกลับมีสีสันสดใส เรียบรื่นและเป็นมันเงาราวกับมีคนมาคอยทำความสะอาดพวกมันอยู่เป็นประจำ
และถังเบียร์แต่ละใบก็มีก๊อกที่ใช้ดูดเอาเบียร์จากก้นถังขึ้นมา สิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยให้หยวนโจวยืนยันว่าเบียร์ที่อยู่ข้างในเป็น “เบียร์” ที่มีลักษณะพิเศษสองอย่างนั้นได้ระบุเอาไว้บนถังอย่างชัดเจนแล้ว
“ตุ้บ ตุ้บ” หยวนโจวเอื้อมมือออกไปเคาะลงบนนั้นเพื่อดูว่าถังไหนที่มีเบียร์อยู่ข้างใน
เขาเคาะถังไปสามครั้งติดๆกันและทุกถังล้วนแล้วแต่ส่งเสียงทึบออกมาซึ่งหมายความว่ามีเบียร์อยู่ข้างใน
“ถ้าหากเป็นเบียร์ที่เพิ่งจะเตรียมขึ้นมาใหม่จะสามารถคงความสดเอาไว้ได้นานขนาดไหนกัน?” จู่ๆหยวนโจวก็ถามขึ้นมา
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “คงต้องเตรียมให้เสร็จในวันเดียวกันแหละ ยังไงก็มีระยะเวลาแค่วันเดียวเองนี่นา”
“สั้นขนาดนั้นเชียวเลยงั้นหรือ?” หยวนโจวรู้สึกประหลาดใจอยู่นิดหน่อย
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ก็มันเป็นทั้งธรรมชาติ ไม่มีการปนเปื้อน แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่มีสารปรุงแต่งเลยนี่นา”
“นั่นไม่ใช่สโลแกนโฆษณาของนมหรือไง?” หยวนโจวถึงกับพูดไม่ออก หมายความว่าอย่างไรกันที่เบียร์ “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”?
แม้ว่าหยวนโจวจะรู้สึกเย้ยหยันใส่คำแนะนำของเจ้าระบบที่กล่าวออกมาราวกับสโลแกนโฆษณา ทว่าเขาก็ยังเข้าใจสิ่งที่มันสื่อออกมาอยู่ดี เจ้าระบบอยากจะบอกว่าต้องผลิตเบียร์สดแล้วก็ดื่มในวันเดียวกันเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีการใส่สารเติมแต่งลงไปอีกด้วย
ถึงอย่างไรแม้แต่เบียร์สดก็มีไนโตรเจนอยู่ข้างในเมื่อตอนที่บรรจุใส่ถังในกรณีที่อากาศเข้าสู่ถังและส่งผลต่อการหมักข้างใน
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ระบบจัดเตรียมเบียร์สดให้ทุกวันแล้วแปรรูปเบียร์สดที่เหลืออยู่ในช่วงเช้าตรู่ของวันถัดไป”
“ยอดเลย ฉันไม่ต้องถามก็รู้ได้เลยว่าเบียร์ที่เหลือน่าจะถูกนำไปแปรรูปด้วยการนำไปรดน้ำผักหรือเอาไปเลี้ยงไก่ใช่ไหมล่ะ?” เมื่อได้ยินคำว่า “แปรรูป” แล้ว หยวนโจวก็แดกดันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ถึงอย่างไรเขาก็ยังคงได้รับผลกระทบจากการเลี้ยงหมูด้วยแตงโม
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “น่าจะแปรรูปให้เป็นน้ำดื่มของวัวนะ”
“โฮ่โฮ่” หยวนโจวบ่งบอกว่าเขาเองก็รู้ทันแผนของเจ้าระบบเช่นเคย
“แต่แกไม่คิดว่าขายแค่สามถังมันจะน้อยไปเหรอ?” หยวนโจวกล่าว
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เบียร์สดเติมได้ไม่อั้นเลยเชียวล่ะ”