อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 833 การปะทะกันของมีทบอลตอนที่ 1
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 833 การปะทะกันของมีทบอลตอนที่ 1
แน่นอนว่าดีนย่อมต้องโทรหาลี่ลี่เอาไว้ล่วงหน้าแล้วเช่นกันและสายก็ถูกรับอย่างรวดเร็ว ดังนั้นก่อนที่พวกเขาจะมาถึงครัว ลี่ลี่ก็ออกมาแล้ว
“ดีน นายอยู่ในประเทศจีนงั้นเหรอนี่?” ลี่ลี่ถามเขาพลางทักทายทั้งดีนและผู้ช่วยของเขาด้วยการกอด
ลี่ลี่เคยเจอดีนมาครั้งหนึ่งระหว่างการแข่งขันทำอาหารในประเทศฝรั่งเศส เขาค่อนข้างชื่นชมในฝีมือการทำอาหารของดีนเอามากๆเลยทีเดียว ระหว่างการแข่งขันในครั้งนั้น ดีนได้อันดับที่หนึ่งส่วนเขาอยู่ในอันดับที่ห้า
“ใช่แล้วล่ะ ลี่ นายดูสบายดีนะ” ดีนยิ้มแล้วเริ่มคุยเรื่องสัพเพเหระ
“ฉันสบายดี คิดว่านะ นายมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ?” ลี่ลี่กล่าวพลางบุ้ยใบ้ไปทางตากล้องที่อยู่ข้างหลังดีน
“ฉันอยู่ระหว่างการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ที่ค่อนข้างน่าสนใจรายการหนึ่งอยู่น่ะสิ” ดีนกล่าว
“ฉันเข้าใจแล้ว นายมีอะไรอยากให้ฉันช่วยไหมล่ะ?” ลี่ลี่มุ่งเข้าประเด็นทันที
“อืม ฉันอยากทำอาหารเองแต่ฉันดันไม่มีวัตถุดิบกับครัวเลยน่ะสิ ฉะนั้นฉันก็เลยมาที่นี่ไงล่ะ” ดีนกล่าวพลางคลี่มือตนเอง
“นายมาที่นี่เพื่อมาขอยืมครัวงั้นรึ?” ลี่ลี่ถามขึ้นมา
“ใช่แล้วก็ไม่ใช่” ดีนเก็บงำความสงสัยเอาไว้ เมื่อเขาเห็นสีหน้าแปลกๆของลี่ลี่แล้วเขาก็พูดต่อไปอีก
“นายก็รู้นี่นา มีภารกิจหนึ่งในรายการนี้ที่อยากให้ฉันกินอาหารกลางวันที่ร้านติดกัน แต่พวกเรามาถึงช้าเกินไปหมายเลขก็เลยหมดไปแล้วน่ะสิ ดังนั้นฉันก็ได้แต่ทำอาหารเอง…” ดีนเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง
“ฉะนั้นฉันก็เลยจะทำอาหารเองหน้าร้านของเขาเสียเลย อืม นี่อาจนับได้ว่าเป็นการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆของฉันเลยก็ว่าได้” ดีนพูดออกมาตามตรง
“ดีน ฉันไม่แนะนำให้นายทำแบบนั้นเลยนะ” ในฐานที่เป็นเพื่อนกัน ลี่ลี่รีบให้คำแนะนำเพราะเห็นแก่ศักดิ์ศรีของดีนหลังจากที่เขาได้ยินว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหยวนโจว
“ไม่หรอก ลี่ นายต้องเข้าใจสิ คนผู้นั้นเป็นคนที่ฉูให้ความนับถือมากทีเดียว ด้วยเหตุนั้นฉันก็เลยอยากรู้เรื่องเขามากๆเลยล่ะ นอกจากนี้ฉันก็อยากให้เขาได้รู้เอาไว้เลยว่าคู่ปรับตลอดกาลของฉูมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นแหละ” ดีนกล่าว
ถ้าหากหยวนโจวได้ยินเรื่องนี้เข้าล่ะก็เขาคงจะรู้สึกสับสนเป็นแน่เนื่องจากเห็นได้ชัดเลยว่าเขาถูกดึงให้เข้ามาพัวพันในเรื่องคู่ปรับเช่นนี้อย่างไม่เป็นธรรมเอาเสียเลย
“ฉันต้องบอกให้นายรู้ก่อนเลยนะว่าเถ้าแก่หยวนผู้นี้ไม่ใช่เชฟธรรมดาๆเป็นอันขาด” ลี่ลี่กล่าวพลางนึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์บีฟเวลลิงตันกับสวีดิชมีทบอลอันเป็นประสบการณ์อันสุดแสนจะน่าสลดหดหู่สองครั้งก่อนของเขา หยวนโจวเป็นเชฟที่ถนัดทั้งอาหารจีนและอาหารตะวันตก
“นั่นก็แค่ทำให้เรื่องดูน่าสนใจเท่านั้นไม่ใช่หรือไง?” ดีนยืนกราน เขาหวังมานานแล้วว่าหยวนโจวจะไม่ใช่เชฟธรรมดาๆ เขาอยากเผชิญหน้ากับหยวนโจวเช่นเดียวกับที่เขาต้องเผชิญหน้ากับฉูเสี่ยว
“ก็ได้ๆ” ลี่ลี่ยักไหล่
“งั้น ลี่ นายพอจะมีวัตถุดิบดีๆอะไรให้ฉันใช้บ้างไหม?” ดีนถามขึ้นมา
“แหงอยู่แล้ว เมื่อเช้านี้เนื้อวัวล็อตใหม่จากอัลเบอร์ตาเพิ่งจะมาถึงเองนะ รับรองว่านายต้องชอบ” ลี่ลี่แสดงท่าทางเชิญชวนขณะที่เขานำทางดีนไปที่ห้องเก็บของ
“โอ้ แน่นอน หญ้าที่นั่นเขียวขจีมากเชียวล่ะแถมวัวที่เติบโตขึ้นที่นั่นก็ยังเป็นแหล่งที่มาของเนื้อวัวชั้นยอดโดยแท้อีกด้วย สายพันธุ์ไหนรึ?” ดีนถามขึ้นด้วยความเบิกบานเมื่อเขาได้ยินคำพูดของลี่ลี่
“เป็นวัวพันธุ์ชาร์โรเล่ส์พื้นเมืองอันเป็นสายพันธุ์ที่นายคุ้นเคยมากที่สุด ฉันคิดว่านะ” ลี่ลี่ตอบพลางยิ้มออกมา
“แน่นอน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาจากจังหวัดชาร์โรเล่ส์หรือเนียฟวร์ แต่คุณภาพของวัวสายพันธุ์นี้ก็ยังคงยอดเยี่ยมอยู่ดี” ดีนไม่สามารถหยุดพูดได้เลยทันทีที่แตะต้องหัวข้อเรื่องเนื้อวัว เขาลืมเลือนประสบการณ์อันไม่น่าพึงพอใจตั้งแต่เมื่อตอนที่เขาพยายามโทรหาฉูเสี่ยวก่อนหน้านี้
“แหงล่ะ ฉันมีแค่ส่วนหน้าของวัวที่เหลืออยู่ ฉันสงสัยว่านั่นจะเพียงพอสำหรับนายหรือเปล่า?” ลี่ลี่กล่าวขณะเปิดตู้ เนื้อวัวภายในนั้นจัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยล้วนมาจากส่วนหน้าของวัว
“ไม่มีปัญหา” ดีนสวมถุงมือที่ลี่ลี่ยื่นมาให้เขาแล้วเริ่มเลือกเนื้อวัว
“เออนี่ ฉันมีเนื้อหมูล็อตใหม่ด้วยนะ คุณภาพยอดเยี่ยมมากเลยเชียวล่ะ นายอยากดูไหมล่ะ?” ลี่ลี่กล่าวขณะเปิดตู้อีกใบ
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของนายนะ ลี่” ดีนพยักหน้าพลางยิ้มยินดี
“ไม่เป็นไร ฉันมีผักอยู่ตรงนั้นด้วยล่ะ” ลี่ลี่กล่าวขณะที่ชี้ไปทางผักที่จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบนชั้นวางของที่อยู่ใกล้ๆ
“ฉันคิดว่าด้วยวัตถุดิบพวกนี้จะทำให้ฉันสามารถทำมีทบอลออกมาได้ แถมรสชาติต้องอร่อยแน่ๆด้วยล่ะ” ลี่ลี่เสนอออกมาด้วยความจริงใจ “นายจำตอนที่พวกเราแข่งกันได้ไหม? นายได้ที่หนึ่งด้วยพาราไดส์ ไอซ์แลนด์ มีทบอล ฉันยังจำได้ชัดเจนเชียวล่ะ”
พาราไดส์ ไอซ์แลนด์ มีทบอลเป็นอาหารที่เพิ่งจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ พูดให้ถูกก็คือมันเป็นการผสมผสานระหว่างของหวานกับอาหารจานหลักนั่นเองเพราะมันเป็นอาหารที่มีทั้งมีทบอลและไอศกรีม
“นายยังจำเรื่องนั้นได้อยู่อีกเหรอ? ใช่แล้ว นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยเชียวล่ะ ฉันเคยได้ยินมาว่าคนจีนชอบลูกชิ้นนี่นา” ดีนยิ้มด้วยความภาคภูมิใจก่อนที่จะยอมรับคำแนะนำของลี่ลี่
“ใช่ พวกเรามีลูกชิ้นอยู่มากมายหลายชนิดในประเทศจีนเลยล่ะ” ลี่ลี่กล่าวพลางยิ้มออกมา
“ก็น่าจะเป็นงั้นแหละนะ” ดีนบอกผู้ช่วยของเขาหลังจากหยิบวัตถุดิบออกมาแล้ว
“เอาล่ะ ฉันจะให้คนมาช่วยถือไปนะ” ลี่ลี่หันกลับมาบุ้ยใบ้ให้เชฟร่างอ้วนที่อยู่ด้านหลังเขา
“ครับ หัวหน้าเชฟ ผมจะช่วยยกให้นะครับ” เชฟร่างอ้วนพยักหน้ายอมรับ
“ขอบใจนะ ลี่” ดีนกล่าวขอบคุณ
“ด้วยความยินดีเลย มีอะไรอยากให้ช่วยอีกก็บอกนะ” ลี่ลี่โบกมือแล้วขอตัว
เนื่องจากเขากำลังเร่งรีบ ดีนจึงออกไปทันทีที่เลือกวัตถุดิบเสร็จแล้ว ส่วนเชฟร่างอ้วนเองก็กลับไปทันทีหลังจากช่วยยกวัตถุดิบไปให้แล้ว
“เอาล่ะ ได้เวลากลับไปทำงานแล้ว” ลี่ลี่หันหลังเดินจากไป
เชฟร่างอ้วนเหลือบมองลี่ลี่อยู่ซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยสีหน้าสงสัย
“หัวหน้าเชฟครับ ผมนึกอยู่เลยว่าพวกเรามีสเต็กเกรด A5 หรือเปล่านะ? ให้ดีนทำสเต็กแทนไม่ดีกว่าเหรอครับ?” เขาไม่อาจเก็บคำถามเอาไว้ได้จึงถามออกมาในที่สุด
เชฟร่างอ้วนแน่ใจว่าลี่ลี่ไม่ได้เกรงใจหรอกเพราะเขาไม่อาจทนมอบวัตถุดิบของตัวเองได้ต่างหากเล่า ถึงอย่างไรลี่ลี่ก็อนุญาตให้เชฟร่างอ้วนใช้วัตถุดิบทั้งหมดได้ระหว่างการฝึกฝนเพื่อให้เขาคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง
แล้วชายคนก่อนหน้านี้ก็เป็นถึงเชฟชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย ลี่ลี่ควรจะเสนอให้เขาทำสเต็กแทนไม่ใช่หรือ?
“มีทบอลแบบไหนจะดีกว่ากันก็ได้แต่ต้องเปรียบเทียบกันแล้ว” ลี่ลี่ชะงักแล้วกล่าวออกมา
“เป็นเพราะเถ้าแก่หยวนรู้วิธีทำสวีดิชมีทบอลหรือเปล่าครับ?” เชฟร่างอ้วนถามขึ้นมา
ลี่ลี่หันมามองเชฟร่างอ้วนด้วยสายตาเย็นชา “นายรู้ไหมว่าสักแต่พูดพล่อยๆอาจจะทำให้เดือดร้อนได้นะ?”
เชฟร่างอ้วนหุบปากในทันที บางครั้งรู้มากไปก็ใช่ว่าจะดี
“ใกล้จะได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว กลับไปที่ครัวได้แล้ว” ลี่ลี่มองไปทางดีนที่กำลังตื่นเต้นด้วยความเวทนาก่อนที่จะกลับไปทำงานต่อ
มีดที่ดีนใช้ล้วนแล้วแต่เป็นมีดของเขาเอง ส่วนเรื่องที่เขานำเข้ามาประเทศได้อย่างไรน่ะเหรอ? เขาได้เจรจาเรื่องของบรรทุกพิเศษกับแอร์ไชน่าเพื่อส่งมอบให้เขาในประเทศ แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่แทบจะไม่ค่อยได้รับการอนุมัติสักเท่าไหร่ โชคดีที่ดีนเป็นเชฟชื่อดังจึงได้รับความช่วยเหลือ
ต้องขอบคุณความมีน้ำใจของลี่ลี่และการประสานงานของผู้จัดการร้านหลิวรั่วอวี๋ พวกเขาจึงไม่ต้องไปหาอุปกรณ์ทำอาหารจากที่อื่นอีก ด้วยความช่วยเหลือของสมาชิกในทีมงานถ่ายทำ พวกเขาจึงตั้งครัวกลางแจ้งชั่วคราวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว