อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 836 ความแตกต่างเพียงน้อยนิด
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 836 ความแตกต่างเพียงน้อยนิด
“เรามาเปลี่ยนที่นั่งกันเถอะ นายมานั่งตรงนี้สิ”
โจวเจียยังไม่ได้ยกจานลงมาวางบนโต๊ะของเมาส์เมื่อตอนที่ลูกค้าผู้มีตากลมโตที่นั่งอยู่ใกล้กับตำแหน่งยืนอยู่เริ่มพูดขึ้นมา
“ได้ๆ” เมาส์รู้สึกงงงันในทีแรก แต่เมื่อเขาเข้าใจความหมายที่ลูกค้าผู้มีตากลมโตที่อยากจะชมดูฉากตื่นเต้นหลังจากนี้ ทันใดนั้นเขาก็พลันนึกถึงสิ่งที่ควรจะทำขึ้นมาได้ เขาตอบตกลงทันทีแล้วเปลี่ยนที่ด้วยความรวดเร็ว แน่นอนว่าเพื่อนของเมาส์ก็ย่อมต้องตามเขาไปอีกด้านเช่นกัน
แม้จะมีคนแลกที่นั่งกันไปถึงสองที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีที่นั่งว่างๆให้เหล่าดาราที่เข้ามาในร้านเลย บรรดาลูกยังเต็มร้านมาจนถึงตอนนี้
หลี่เหอ ไป๋กั้วและเจียงเหม่ยซือมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะกำลังถ่ายทำรายการกันอยู่ แต่พวกเขาก็หาได้ฉวยโอกาสจากความเป็นดาราแย่งที่ผู้อื่นแต่อย่างใด
พูดง่ายๆก็คือแฟนๆของพวกเขาไม่ควรจะหลีกทางให้พวกเขาในสถานการณ์แบบนั้นหรอกใช่ไหมล่ะ? บรรดาลูกค้าในร้านนี้ช่างแสนเย็นชาแถมยังอวดดีมากเหลือเกิน อันที่จริงแล้วหลี่เหอถูกบรรดาลูกค้าในร้านปรักปรำอยู่จริงๆ พวกเขาเพียงแค่จดจ่ออยู่กับอาหารอร่อยมากไปหน่อยจนไม่ทันสังเกตสิ่งใดเลย
ตอนที่ทั้งสามคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความอึดอัดใจและไม่รู้จะทำอะไรดีอยู่นั้น ลูกค้าสองคนที่กำลังยืนกินอยู่ทางด้านข้างก็เริ่มคุยกัน มีตำแหน่งยืนอยู่สองที่ในร้านหยวนโจว
“พวกคุณเป็นดาราดาวรุ่งนี่นา เข้ามากินเถอะครับ พวกเราจะหลีกทางให้พวกคุณเอง” คนหนึ่งในนั้นกล่าว
“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” เจียงเหม่ยซือเผยรอยยิ้มงดงามออกมาแล้วกล่าวขอบคุณพวกเขา
“ด้วยความยินดีครับ ตรงนี้แคบไปสักหน่อย หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะครับ” ลูกค้าอีกคนกล่าวอย่างสุภาพ
เจียงเหม่ยซือยกจานวางลงเบาๆแล้วกล่าวว่า “ไม่หรอกค่ะ ขอบคุณเช่นกันนะคะ”
ลูกค้าทั้งสองคนลอบยิ้ม
หลังจากนั้นไป๋กั้วกับหลี่เหอก็ถือชามของตัวเองมาแล้วเดินไปกินอยู่ตรงตำแหน่งยืนในตอนนั้น ถึงอย่างไรร้านหยวนโจวก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรจริงๆนั่นแหละ
“มาเร็ว มาดูสวีดิชมีทบอลของฉันนี่ ฉันกำลังจะได้กินมันเป็นครั้งแรกแล้ว นายไม่เคยกินมาก่อนเลยงั้นรึ?” จู่ๆเมาส์ที่นั่งอยู่ทางด้านข้างก็ดึงตัวเพื่อนร่วมงานของเขามาใกล้ๆแล้วกล่าวเสียงดังลั่น
เสียงของเมาส์ค่อนข้างดังมากทีเดียว ทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็ได้ยินเขาแล้วจึงหันไปมองที่โต๊ะ
ถ้าหากพวกเขาไม่เคยเห็นการตกแต่งสวีดิชมีทบอลอันแสนงดงามของหยวนโจวมาก่อนแล้วล่ะก็อิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่ของดีนก็คงจะดูสวยมากทีเดียวเช่นเดียวกับหลี่เหอกับอีกสองคนชื่นชมไปเมื่อก่อนหน้านี้ ในแง่ของจุด เส้นและระนาบอาจจะฟังดูกล่าวเกินจริงไปสักหน่อยที่จะบอกว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาด้วยสัดส่วนทองคำ แต่กลับไม่มีปัญหาเลยที่จะบอกว่าท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับช่างสวยงามราวกับภาพเขียนก็ไม่ปาน
ด้วยประการทั้งปวง การนำเสนอจานของดันได้คะแนนถึง 9.5 เต็ม 10 แต่เมื่อเทียบกับสวีดิชมีทบอลแล้ว อิตาเลียนมีทบอลของดีนกลับไม่มีความพิเศษอันใด แถมยังรู้สึกว่าด้อยกว่าอย่างน้อยระดับหนึ่งด้วย
ดีนที่มาช้าเองก็เห็นสวีดิชมีทบอลบนโต๊ะของเมาส์แล้วเช่นกัน
“การนำเสนอจานช่างแสนสมบูรณ์แบบ” ดีนโพล่งออกมา
ดีนมองไปที่อาหารแล้วขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ดังเช่นที่เขาได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ บิดาของเขาเป็นจิตรกรจึงทำให้เขามีพรสวรรค์ในการนำเสนอจานไปด้วย อาจะถือได้ว่าเป็นจุดแข็งข้อหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ แม้แต่ฉูเสี่ยวก็ยังทำไม่ได้อย่างเขาเลยด้วยซ้ำไป
เขาไม่คาดว่าจะล้ำหน้าได้โดยปราศจากคำถามในร้านเล็กๆแห่งนี้
ทว่าดาราทั้งสามคนกลับไม่คิดเช่นนั้น ถึงแม้ว่าร้านหยวนโจวจะได้รับความนิยมเป็นอันมาก แต่การตกแต่งและทำเลที่ตั้งหาได้คล้ายคลึงกับร้านอาหารฝรั่งเศสอันงดงามหรูหราแต่อย่างใด
นอกเหนือไปจากนั้นยังไม่มีใครคิดว่าจะมีคนที่สามารถทำอาหารอร่อยที่สร้างความเพลินตาได้มากกว่าอิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่
แน่นอนว่าไป๋กั้วกับเจียงเหม่ยซือย่อมพยายามหลีกเลี่ยงจากคำชมในที่สาธารณะเนื่องจากดีนอยู่กับพวกเขา และหลี่เหอผู้อ่อนโยนและสามารถเอาชนะใจทุกคนได้ก็เริ่มพูดขึ้นทางด้านข้าง
“ซือซือ รีบชิมดูเถอะ เธอน้ำลายแทบหกอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?” หลี่เหอส่งสัญญาณให้เจียงเหม่ยซือรีบกิน
“อืม ใช่ ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันของคุณนะ ดีน พวกเรามีความสุขกันมากเลย ผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าฝ่ายรายการจะเชิญคุณมาที่นี่ด้วย” ไป๋กั้วแสดงความขอบคุณแก่ดีนอย่างจริงจัง
“ใช่ครับ ผมล่ะตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นฝีมือของคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ร้านของคุณจองยากสุดๆไปเลยล่ะครับ” หลี่เหอเองก็กล่าวกับดีนพลางอมยิ้ม
“ด้วยความยินดีครับ ถึงอย่างไรก็เป็นภารกิจของเรานี่ครับ” มีความภาคภูมิใจเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตาสีฟ้าของดีน
“ถึงฉันจะไม่ได้เอ่ยปากชมอะไรออกมาเลย แต่อันที่จริงแล้วฉันเองก็น้ำลายสอให้กับมีทบอลอยู่ตั้งนานแล้วแหละค่ะ” เจียงเหม่ยซือม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วเตรียมที่จะกินให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถกินได้
“จริงสิ ตอนนี้พวกเราจะกินกันได้หรือยัง? ผมหิวมากเลยนะ” ไป๋กั้วกล่าว
“ดีน พวกเรากำลังจะเริ่มกินแล้วนะครับ” หลี่เหอกล่าวกับดีน
“โอเค เชิญชิมดูเลยครับ” ดีนกล่าวด้วยความมั่นใจ
จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มลิ้มลองรสชาติ
อิตาเลียนมีทบอลของดีนถูกเคี่ยวอยู่ในน้ำอย่างช้าๆด้วยไฟอ่อน เดิมทีผู้คนจะใช้เตาอบในการทำอิตาเลียนมีทบอล แต่ดีนเชื่อว่าเตาอบไม่สามารถควบคุมชีสที่อยู่ในมีทบอลได้อย่างแม่นยำเท่าไหร่นัก
เพื่อทำให้ชีสมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น ดีนจึงเลือกที่จะเคี่ยวมีทบอลในน้ำด้วยไฟอ่อนเพื่อให้ควบคุมอุณหภูมิได้ดีขึ้น
เมื่อเจียงเหม่ยซือตักมีทบอลขึ้นมาแล้วอ้ามันออกเล็กน้อย ชีสที่อยู่ด้านในก็จะไหลออกมาราวกับซุบข้นหนืด แต่เมื่อเจอเข้ากับอากาศเย็นก็จะกลายเป็นมอสซาเรลลาชีสที่มีลักษณะเป็นเส้น
“ว้าว! ชีสหอมชะมัด! อร่อยมากเลย” เจียงเหม่ยซือยกมีทบอลขึ้นมาตรงหน้าเลนส์กล้องแล้วเผยท่าทีเบิกบานใจออกมาให้เห็น
“ชีสหอมมากเลย มันสามารถระเบิดออกมาได้เหมือนน้ำเกรวี่เลยล่ะ แต่เมื่อไหลออกมาแล้วก็กลายเป็นเส้นบางๆเช่นนี้ทันที น่าสนใจจริงๆ” เจียงเหม่ยซืออธิบายรายละเอียด
“นอกเหนือไปจากนี้มีทบอลก็มีขนาดกะทัดรัดมาก เมื่อตอนที่เคี้ยวก็ให้รสชาติที่อร่อยหนึบหนับ ฉันล่ะอยากจะยกนิ้วหัวแม่มือให้อิตาเลียนมีทบอลเสียจริงๆเชียว” คำอธิบายง่ายๆของเจียงเหม่ยซือทำให้ผู้ชมต่างหิวขึ้นมาแล้ว
ถึงอย่างไรเธอก็มีหน้าที่ในการอธิบายของอร่อยที่พวกเขาลิ้มลองในหลายๆตอนก่อนหน้านี้ สาวสวยที่มาพร้อมอาหารอร่อยมักจะสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้ไม่ยากนัก
คราวนี้เจียงเหม่ยซืออธิบายได้อย่างชัดเจนมากเนื่องจากมีทบอลรสชาติอร่อยมาก แม้แต่ชายหนุ่มที่ยกกล้องขึ้นยังอดที่จะน้ำลายสอไม่ได้
“ซือซือ เธอยังจำสิ่งที่บอกเมื่อคราวที่แล้วได้ไหม?” ทันทีที่เจียงเหม่ยซือกินมีทบอลด้วยความเบิกบานอยู่นั้น จู่ๆไป๋กั้วที่อยู่ข้างๆก็กล่าวกับเธอขึ้นมา
“อะไรงั้นรึ?” เจียงเหม่ยซือเบิกตามองไปทางไป๋กั้วและเผยท่าทีสับสนออกมาให้เห็น
“ซือซือ หลังจากเธอกินเข้าไปก็จะเข้าใจเองแหละ” หลี่เหอที่อยู่ข้างๆกล่าวอย่างสุภาพแล้วขายไป๋กั้วเสียเลย
เจียงเหม่ยซือก้มหน้าลงและพบว่าจานของไป๋กั้วว่างเปล่า แม้แต่น้ำซอสที่ออกแบบเป็นท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับอันแสนสวยงามก็ถูกกินจนเกลี้ยง
“ว้าว! ไป๋กั้ว นายเป็นเดอะแฟลชรึไงกัน? นายกินเร็วมากขนาดนั้นได้ยังไงกันนะ?” เจียงเหม่ยซือกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“เปล่าหรอก ก็แค่มันอร่อยเกินไปก็เท่านั้นแหละ แถมยังอร่อยและสวยอีกต่างหากแน่ะ อันที่จริงแล้วยามปกติฉันก็ออกจะเป็นผู้ใหญ่และใจเย็นแท้ๆ” ไป๋กั้วกล่าวพร้อมแสดงความจริงจังออกมา
“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ นายอยากจะขโมยมีทบอลของฉันสินะ? ไม่ทีทางเสียหรอก” เจียงเหม่ยซือปฏิเสธเสียงแข็ง
“ก็คราวที่แล้วเธอบอกว่าอยากลดน้ำหนักนี่นา มีทั้งเนื้อทั้งชีสเลยนะ เธอกินให้น้อยหน่อยจะดีกว่า” ไป๋กั้วแนะนำเขาอย่างจริงจัง
“ไม่ ไม่ ไม่ นี่เป็นอาหารที่ดีนทำและมีมีทบอลแค่สามลูกเท่านั้น อย่างมากฉันก็น่าจะน้ำหนักขึ้นอีกแค่ 1.5กก.แหละน่า” เจียงเหม่ยซือพ่นลมหายใจออกทางจมูกแล้วปกป้องจานอาหารของตนเองทันที
เจียงเหม่ยซือกับไป๋กั้วกำลังต่สู้แย่งชิงมีทบอลกันอยู่ขณะที่หลี่เหอกำลังแอบคุยกับดีนอยู่ทางด้านข้าง
“ดีน อาหารที่คุณทำอร่อนเกินไปแล้ว แม้แต่ผมเองก็ยังอยากกินอีกที่เลย” หลี่เกอกล่าวอย่างจริงใจ
“ขอบคุณครับ” ดีนพยักหน้าและดูเหมือนจะคุ้นเคยกับคำชมแบบนั้นอยู่แล้ว
“ผมหวังว่าคราวหน้าจะมีโอกาสได้กินอาหารของคุณอีกนะ” หลี่เหอกล่าว “อาหารอร่อยสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการกินเท่านั้นจริงๆ”
“แน่นอนว่าต้องมีโอกาสอีกหลายครั้งเลยล่ะครับ” ดีนพยักหน้าโดยไม่ถ่อมตัวแต่อย่างใด
การสื่อสารกันระหว่างดาราทั้งสามคนกับแขกรับเชิญพิเศษเป็นไปอย่างค่อนข้างเป็นกันเอง นอกจากนี้หลี่เหอกับไป๋กั้วเองก็ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ดีนไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ช่าง การนำเสนอจานอันสวยงามไม่ได้หมายความว่าอาหารจะอร่อยเสมอไป สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือรสชาติอร่อย ในขณะนั้นเองจู่ๆก็มีเสียงดังขึ้น ใช่แล้วล่ะ เป็นเสียงทุ้มลึกของเมาส์นั่นเอง
“ฉันเคยได้ยินมาว่ามีวิธีการบางอย่างในสวีดิชมีทบอลด้วย ฉันจะแสดงให้นายดูนะ”
“ไม่มีปัญหา” เพื่อนร่วมงานของเขาตอบอย่างให้ความร่วมมือทันที
ใช่แล้วล่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าเมาส์กับเพื่อนร่วมงานของเขากำลังป่าวประกาศให้อีกฝ่ายได้รับรู้และเตรียมที่จะปล่อยให้ดีนได้สัมผัสกับจุดแข็งของพวกเขา การกระทำเช่นนี้ถูกวางแผนเอาไว้แล้วเมื่อตอนที่ดีนทำอาหารอยู่หน้าร้านหยวนโจวและพยายามยั่วยุเขา เถ้าแก่หยวนอาจจะไม่สนใจเรื่องนี้ แต่การยั่วยุก็คือการยั่วยุซึ่งสมควรต้องจ่ายค่าตอบแทน
พวกเขาอยากให้ดาราพวกนี้กับแขกรับเชิญพิเศษรู้ว่าสวีดิชมีทบอลไม่เพียงแค่หน้าตาน่ากินเท่านั้น แต่ยังเทียบกันไม่ได้เลยในด้านความช่างประดิษฐ์ประดอยอีกด้วย
ในฐานที่เป็นลูกค้า พวกเขาเองสามารถต่อว่าเถ้าแก่หยวนได้สารพัดสารเพ แต่ถ้าหากผู้อื่นอยากจะทำเช่นนั้นแล้วล่ะก็พวกเขาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่