อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 850 มังกรในเมฆากลายเป็นมังกรนพเก้าไปแล้ว
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 850 มังกรในเมฆากลายเป็นมังกรนพเก้าไปแล้ว
เฒ่าเยี่ยนเป็นตัวแทนของคนทั่วไปที่ชอบชมดูเรื่องสนุก ถ้าหากเฒ่ากู่ยังเป็นห่วงว่าหยางซู่ซินจะเตรียมตัวมาดีหรือไม่ เฒ่าเหยียนก็ยิ่งมีความสุขเมื่อเขารู้ว่าหยางซู่ซินกับหยวนโจวจะแกะสลักมังกรนพเก้าของตนเองด้วยวิธีการแข่งขัน
“น่าจะมีการแสดงดีๆให้ได้เพลิดเพลินเสียแล้วสิ” เฒ่าเหยียนพึมพำเสียงต่ำ
อย่างไรเสียการแกะสลักน้ำแข็งก็เริ่มต้นขึ้น
หยางซู่ซินมีมีดแกะสลักทุกขนาดในรูปแบบต่างๆและแม้แต่บุ้งที่นำมาใช้สำหรับการขัดแต่ง โดยเครื่องมือทุกชิ้นจะถูกวางเอาไว้เป็นแถวซึ่งพาให้ผู้คนรู้สึกถึงความเป็นมืออาชีพได้
ในทางกลับกัน หยวนโจวมีเพียงแค่มีดทำครัวธรรมดาๆเพียงเล่มเดียวในมือ ในแง่ของความเป็นมืออาชีพ เขานับว่าด้อยอยู่นิดหน่อยแต่อันที่จริงแล้วเขากลับไม่แพ้กันเลยสักนิด ท่าทางมั่นใจของเขาราวกับจะบอกว่า “ด้วยมีดทำครัวเพียงเล่มเดียวในมือ ฉันก็สามารถควบคุมโลกทั้งใบได้เลยล่ะ”
มีดแกะสลักส่งเสียงดัง “ครืด ครืด” เมื่อมันเคลื่อนอย่างเร็วผ่านก้อนน้ำแข็ง หยางซู่ซินได้เริ่มแกะสลักแล้ว มันเป็นมีดแกะสลักขนาดค่อนข้างใหญ่ในมือ เขากำลังจะแกะสลักโครงร่างของมังกรออกมาก่อน
เขาเริ่มแกะสลักอย่างรวดเร็วและอาจหาญ ไม่นานหลังจากนั้น ก้อนน้ำแข็งรูปสี่เหลี่ยมก็กลายเป็นรูปทรงหลายมุมแปลกประหลาด
แน่นอนว่ามันย่อมเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาดเนื่องจากหยางซู่ซินไม่ได้เริ่มแกะสลักรายละเอียด ด้วยการขยับมือเพียงเล็กน้อยของเขา หยางซู่ซินก็เปลี่ยนมีดแกะสลักขนาดค่อนข้างใหญ่ด้วยมีดขนาดกลางอย่างว่องไว การกระทำทั้งหมดดูเป็นธรรมชาติและลื่นไหลราวกับเมฆาเคลื่อนคล้อยและสายน้ำไหลริน
แม้แต่บรรดาลูกค้าโดยรอบที่ให้การสนับสนุนหยวนโจวก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการเปลี่ยนมีดอันว่องไวยิ่งของเขาไม่ได้เลย เทพเซียนเท่านั้นที่รู้ว่าเขาต้องฝึกฝนมานานหลายปีขนาดไหนกว่าจะทำให้ดูไหลลื่นและเป็นธรรมชาติได้มากขนาดนี้
หยางซู่ซินค่อยๆเข้าสู่สมาธิทีละเล็กทีละน้อย และแน่นอนว่าหยวนโจวก็ไม่น่าจะเหม่อมองไปทางเขาหรอก ตัวเขาเองก็เริ่มแกะสลักแล้วเช่นเดียวกัน
ความแตกต่างระหว่างผู้มีประสบการณ์กับผู้ไร้ประสบการณ์ช่างมากมายยิ่งกว่าผู้มีการศึกษากับคนธรรมดาสามัญก็เหมือนกับหยวนโจวและหยางซู่ซินนั่นแหละ
หยางซู่ซินเริ่มต้นด้วยโครงร่างคร่าวๆของผลงานแกะสลักทั้งหมดขณะที่หยวนโจวเพิ่งจะเริ่มแกะสลักมังกรไปทีละตัว
มีดทำครัวในมือของเขาราวกับผีเสื้อสีเงินที่ส่องประกายด้วยแสงเย็น ด้วยการกระพือปีกเพียงไม่กี่ครั้งกลางอากาศ ลำตัวยาวๆของมังกรจีนก็ค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะหยางซู่ซิน นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่าที่เคยก็ว่าได้
“คราวนี้อาจารย์ของฉันน่าจะสามารถทำผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าให้สำเร็จเพียงลำพังได้จริงๆแล้ว” เฟิ่งน้อยรอคอยผลลัพธ์เช่นนี้อยู่ทางด้านข้าง
“แต่อาจารย์หยวนกำลังแกะสลักอะไรกันแน่นะ?” เฟิ่งน้อยมองก้อนน้ำแข็งของหยวนโจวแล้วก็รู้สึกว่าไม่เข้าใจเขาเอาเสียเลย ถ้าเป็นโครงร่างของมังกร ลำตัวของมังกรก็จะดูราวกับถูกตัดออก
ถึงแม้ว่าผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าอาจจะเป็นมังกรจีนในรูปแบบต่างๆ แต่การทำให้แตกหักก็ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเอาเสียเลยเนื่องจากเป็นวิธีการที่ออกจะไม่ดีเกินไปนัก
เฟิ่งน้อยเป็นผู้ช่วยในนามแต่เขาก็ได้เรียนรู้จากหยางซู่ซินมาหลายปี แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น เขากลับไม่เคยเห็นใครใครแกะสลักด้วยวิธีการเช่นนี้มาก่อนเลย
นั่นช่างเป็นเรื่องลึกลับเสียจริงๆ
เมื่อผ่านไปชั่วขณะหนึ่งผู้ชมก็ยิ่งเงียบเข้าไปกันใหญ่ แต่จำนวนของผู้คนก็หาได้ลดน้อยถอยลงเลย ทว่ากลับมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆเสียด้วยซ้ำไป
ผู้ชมบางคนออกไปแต่กลับมีเข้ามาสมทบมากขึ้นเช่นเดียวกับเด็กจอมซนที่ถ่ายอะไรไม่ได้เลยเมื่อคราวที่แล้ว และเนื่องจากกฎระเบียบอันเข้มงวดของสำนักการศึกษา ครูอาจารย์จึงให้การบ้านน้อยลงกว่าเก่าซึ่งเป็นผลทำให้รายได้ในธุรกิจรับทำการบ้านลดลงและกำลังสั่นคลอนตลาดรอง
วันนี้เป็นการแข่งขันทักษะการแกะสลัก เขาก็จะสามารถถ่ายได้นานแล้วค่อยแบ่งออกก่อนที่จะนำไปโพสต์ในสตรีมสดของเขาแบบรายตอน แบบนี้เขาก็จะได้รับการโดเนทจากผู้ชมแถมยังมีรายได้อีกต่างหาก
“คุณครูให้การบ้านน้อยลง ตลาดกำลังหดตัวลงและความต้องการก็ลดลง เพราะฉะนั้นคราวนี้ฉันจะต้องถ่ายวิดีโอให้ดีๆถึงจะได้เงินเยอะๆ พอฉันถอนเงินโดเนทออกจากบัญชีแล้ว ฉันก็จะไปเปิดตลาดในระดับชั้น ม.1-3 ตามหลักการแล้วการบ้านก็ไม่เห็นจำเป็นต้องคิดอะไรนอกจากเขียนกับเขียนเท่านั้นเอง ฉันจะลองเปิดตลาดที่สามดู แบบนี้ก็จะมีแหล่งทรัพยากรที่มีการเคลื่อนไหวแล้วฉันก็จะสามารถจำลองให้หลีกเลี่ยงระบบ NET ได้อย่างสมบูรณ์” เด็กจอมซนพึมพำศัพท์เทคนิคบางคำออกมาด้วยความตื่นเต้น
ไม่นานนักหนึ่งชั่วโมงก็ผ่านไปขณะที่เด็กจอมซนกำลังถ่ายวิดีโอและผู้ชมกำลังชมดูเรื่องสนุกอยู่ ตอนนั้นก้อนน้ำแข็งทั้งสองก้อนก็ถูกนำมาใช้กับงานศิลป์อันทรงคุณค่าแล้ว
เมื่อพูดถึงผลงานแกะสลักของหยางซู่ซิน ลำตัวของมังกรจีนทั้งเก้าตัวต่างปรากฏแก่สายตาของผู้ชมแล้ว และงานแกะสลักเกล็ดมังกรก็เสร็จสิ้นไปสี่ตัวจากเก้าตัวแล้ว ช่างเป็นความคืบหน้าที่น่าพึงพอใจเสียจริงๆ
“วันนี้ซู่ซินลงมือแกะสลักเองจริงๆเสียด้วย” เฒ่ากู่อดที่จะทอดถอนใจออกมาไม่ได้
เฒ่าเหยียนพยักหน้า “มังกรเหิน มังกรทะยาน มังกรในเมฆา มังกรขนด มังกรม้วนตัว มังกรหมอบ มังกรประจัญบาน มังกรคำรามและสุดท้ายมังกรกวนสมุทร ไม่เหมือนกันเลยสักตัว ผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าช่างมีคุณค่าอย่างแท้จริง”
จากมุมมองของรูปร่างมังกรที่หยางซู่ซิน ผลงานแกะสลักส่องแสงสว่างสุกใสในสายตาของคนส่วนใหญ่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ว่ากันตามหลักการแล้วมีรูปร่างของมังกรแบบพื้นฐานเพียงแค่ห้าแบบเท่านั้นส่วนที่เหลือล้วนแล้วแต่ได้มาจากพวกมันแทบทั้งสิ้น
เฉกเช่นเดียวกับมังกรกวนสมุทร ส่วนล่างของผลงานแกะสลักคือแม่น้ำ มังกรซ่อนขนดหางเอาไว้ในแม่น้ำแล้วเหาะขึ้นฟ้าด้วยส่วนหัว อันที่จริงมันเป็นการผสมผสานของทั้งมังกรทะยานและมังกรคำรามเข้าด้วยกัน
เพียงแค่ลองคิดดูคนส่วนใหญ่ก็สามารถเข้าใจถึงความยากได้แล้ว เดิมทีผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าก็ใช่ว่าจะแกะสลักกันได้ง่ายๆเสียที่ไหนกัน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงมังกรทั้งเก้าตัวในรูปแบบที่แตกต่างกันเลย ส่วนผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าของหยางซู่ซินนั้น ส่วนล่างจะเป็นแม่น้ำขณะที่ส่วนบนจะเป็นท้องฟ้าและเขาหลงผาน รายละเอียดเยอะแยะทว่ากลับหาได้ยุ่งยากแต่อย่างใดไม่
“ผลงานแกะสลักของเถ้าแก่น้อยหยวนเข้าใจยากไปหน่อยนะ” เฒ่าเหยียนกล่าวขึ้นมา “แต่ขอบอกเลยว่าส่วนหัวของมังกรจีนช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ต้องมีความสามารถระดับอัจฉริยะจริงๆถึงจะสามารถแกะสลักส่วนหัวอันแสนสลับซับซ้อนและมีชีวิตชีวาของมังกรจีนออกมาได้”
ในฐานที่เป็นช่างแกะสลักผู้อ่อนประสบการณ์ หยวนโจวจึงเริ่มแกะสลักหัวมังกรหลังจากทำตัวมังกรเสร็จไปได้ครึ่งทาง
มีมังกรอยู่มากมายในตำนานจีนเช่น มังกรอิ้ง มังกรหวังหรือมังกรผาน แต่แท้ที่จริงแล้วมังกรในผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าล้วนแล้วแต่เป็นมังกรซิ่งทั้งนั้น อย่างที่เขาว่ากันว่า “งูจะกลายร่างเป็นเจี่ยวหลังจากมีอายุได้หนึ่งพันปี ส่วนเจี่ยวก็จะกลายร่างเป็นมังกรหลังจากมีอายุได้หนึ่งพันปีและมังกรก็จะกลายร่างเป็นมังกรซิ่งหลังจากมีอายุได้อีกหนึ่งพันปี
ทั้งหยางซู่ซินหรือหยวนโจวต่างใช้เวลาและพลังงานไปกับมังกรจีนหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นจึงเป็นงานยากที่จะแกะสลักความแตกต่างระหว่างมังกรทั้งเก้าออกมาให้ได้
หยางซู่ซินใช้วิธีการที่ธรรมดามากซึ่งใช้ในผลงานแกะสลักมังกรเกือบทุกตัว มังกรจะจำแนกความแตกต่างออกจากกันด้วยดวงตา เขามังกรและขนาด ยกตัวอย่างเช่นมังกรคู่บนเสาประดับในวังหลวง พวกมันจะมีดวงตาและขนาดที่แตกต่างกันไป
เมื่อหยวนโจวนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เขาก็รู้สึกได้ว่าผู้คนดูเหมือนจะไม่สามารถบอกความแตกต่างได้หากไม่สังเกตให้ดี ดังนั้นหยวนโจวจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นอีกวิธีหนึ่ง
เรื่องนั้นต้องอาศัยอารมณ์ต่างๆอันได้แก่ สุขสันต์ โกรธเกรี้ยว ระทมทุกข์ ดีใจ กังวลใจ รอคอย เสียใจ หวาดกลัวและประหลาดใจ
อารมณ์ทั้งเก้านั่นเอง ถูกต้องแล้ว มังกรจีนทั้งเก้าตัวที่หยวนโจวแกะสลักล้วนแล้วแต่มีดวงตา เขามังกรหรือขนาดเท่ากันไปหมด แต่มีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคืออารมณ์ของมังกร
อารมณ์ที่มังกรจีนถูกปลุกกระตุ้นบ่อยครั้งมากที่สุดก็คือความน่าเกรงขาม นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเลย แต่หยวนโจวเพียงแค่อยากจะเพิ่มอารมณ์ลงในดวงตาของมังกร
ดังนั้นผลงานแกะสลักมังกรนพเก้าอาจจะถือได้ว่าเป็นตระกูลมังกรนพเมฆาหรือยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มังกรในเมฆาที่กลายเป็นมังกรนพเก้านั่นเอง
แค่เพราะว่าพวกเขาอยู่ห่างจากผลงานแกะสลักจึงไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนนัก เฒ่ากู่ เฒ่าเหยียนและผู้ชมคนอื่นๆพบว่ายากที่จะเข้าใจได้จริงๆ ถ้าหากพวกเขาอยู่ใกล้กว่านี้ก็คงสามารถมองเห็นอารมณ์ต่างๆในดวงตาของมังกรทั้งสามตัวที่กำลังแกะสลักอยู่ได้
ยกตัวอย่างเช่นมังกรตัวใดตัวหนึ่งที่มีเขายื่นออกมาเป็นพิเศษ ดวงตาอันใหญ่โตและทรงพลัง แยกเขี้ยวเล็กน้อยและหนวดมังกรที่ขยับไหวไปมาเอง นั่นคืออารมณ์โกรธเกรี้ยวนั่นเอง
ถัดมาก็คือปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย นั่นก็คืออารมณ์สุขสันต์
ต้องยอมรับว่าอารมณ์ทั้งเก้าของมังกรยากยิ่งที่จะบอกได้ว่าจริงหรือเท็จ มังกรจีนเองเป็นแค่เรื่องเล่า ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนแต่อย่างใด พวกเขาจึงจินตนาการไม่ออกถึงท่าทางเมื่อยามที่มันยิ้มออกมา
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือเขาจะต้องจินตนาการอย่างเดียวโดยปราศจากการอ้างอิงแต่อย่างใด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมีสองด้าน
ถ้าหากไม่มีใครเคยจินตนาการเช่นนั้นมาก่อน หยวนโจวก็คงจะสามารถทำอะไรก็ได้ตามแต่ที่เขาอยากจะรังสรรค์ขึ้นมา
มังกรทั้งเก้ารูปแบบ อย่างไรก็ตามหยวนโจวอดตาหลับขับตานอนมาตลอดคืนวานนี้และไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากมองสัตว์โลก
พูดก็พูดเถอะนะ หยวนโจวทำพยายามสุดความสามารถในวันนี้ก็เพื่อเอาชนะหยางซู่ซินนั่นเอง
——–
เจี่ยว(蛟) เป็นมังกรน้ำตามตำนานจีน