อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 860 ชาลำไยและพุทราแดง
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 860 ชาลำไยและพุทราแดง
แน่นอนว่าตามปกติแล้วหยวนโจวจะเสิร์ฟอาหารที่เสร็จแล้วให้ลูกค้าเงียบๆ แต่คราวนี้กลับต่างออกไป
“เธออยากกินอะไรดีล่ะ?” หยวนโจวเดินเข้าไปหาญินยาที่เพิ่งจะนั่งลงแล้วถาม
“ชาลำไยกับพุทราแดงแก้วนึงแล้วก็ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส” ญินยากล่าวอย่างสุภาพ
“วันนี้วันอะไรงั้นหรือ โจวเจีย?” หยวนโจวไม่ตอบแล้วย้อนถามทันที
“วันที่สี่ของเดือนค่ะเถ้าแก่” โจวเจียตอบโดยไม่เงยหน้า
“ฉันนึกว่าเธอจะดื่มชาลำไยกับพุทราแดงทุกวันที่เจ็ดของเดือนเสียอีก?” หยวนโจวถามด้วยความสงสัย
เมื่อญินยาได้ยินเช่นนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองไปทางหยวนโจว แววตาของเธอฝากแฝงไปด้วยเจตนาร้าย อาจกล่าวได้ว่าถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ หยวนโจวก็คงกลายเป็นเนื้อบดด้วยสายตาเช่นไปแล้ว
“อืม รอสักครู่นะ” หยวนโจวเลิกไอเพื่อปกปิดความเก้อกระดากแล้วตอบอย่างเยือกเย็น จากนั้นเขาก็กลับไปเตรียมอาหาร
เขาลืมแม้แต่เรื่องรับเงินของออเดอร์นี้ไปแล้ว โชคดีที่โจวเจียฉลาดพอที่จะจ่ายเงินของตัวเองไปก่อนอย่างเงียบๆ
“ใจนารีช่างสุดแท้จะหยั่งถึงราวกับมหาสมุทรเสียจริงๆ ไม่อาจคาดเดาความคิดของพวกเธอได้เลย” หยวนโจวรำพึงอยู่ในใจก่อนที่เขาจะจดจ่ออยู่กับการทำอาหารอีกครั้ง
ชาลำไยกับพุทราแดงที่ญินยาสั่งไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเตรียมขึ้นได้ด้วยการต้มลำไยกับพุทราแดงเพียงเท่านั้น ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือวัตถุดิบต้องผ่านการต้มให้ค่อยๆเดือด แน่นอนว่าวัตถุดิบพวกนี้สามารถตระเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าได้ ดังนั้นเครื่องดื่มแก้วนี้จึงสามารถทำได้อย่างรวดเร็วทีเดียว
อันที่จริงแล้ว มันสามารถทำได้อย่างง่ายดายราวกับกำลังรินน้ำลงบนวัตถุดิบที่เตรียมเอาไว้เลยเชียวล่ะ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ชาลำไยกับพุทราแดงของหยวนโจวก็ยังให้รสชาติที่ต่างออกไปจากที่อื่นอยู่ดี
ดังนั้นแม้ว่าเครื่องดื่มแก้วนี้จะมีราคาแก้วละ 88 หยวนเท่ากับน้ำแตงโม แต่ญินยาก็ยังคงเพลิดเพลินกับการดื่มที่นี่อยู่ดี จากสิ่งนี้เห็นได้ชัดเลยว่าไม่มีอาหารจานใดธรรมดาเลยสักจาน ตราบใดที่เป็นสิ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจย่อมทำให้เกิดสิ่งดีๆตามมาอยู่เสมอ
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือทุกวันนี้เมื่อญินยาอยากดื่มชาลำไยกับพุทราแดง เธอก็จะมาที่ร้านหยวนโจว
“พี่ยาทั้งหมด 376 หยวนนะคะ พี่จะชำระเงินสดหรือโอนเงินดีคะ?” โจวเจียถามขึ้นมา
“โอนเงินก็แล้วกัน ฉันโอนให้แล้วนะ” ญินยาโชว์โทรศัพท์ให้โจวเจียดู
“เรียบร้อย ขอบคุณนะคะพี่ยา” โจวเจียพยักหน้า
“อืม” ญินยาส่งเสียงโดยไม่ได้กล่าวอะไรให้มากนัก
ส่วนหยวนโจวนั้น เขาเงยหน้าเพื่อแอบมองญินยาก่อนที่จะเริ่มทำชาลำไยกับพุทราแดง
ก๋วยเตี๋ยวน้ำใสกับชาลำไยกับพุทราแดงเสร็จเกือบพร้อมกัน ดังนั้นหยวนโจวจึงเสิร์ฟมันพร้อมกันเสียเลย
“ออเดอร์ของเธอน่ะ” หยวนโจวกล่าวขณะที่วางถาดลงแล้วเสิร์ฟอาหารทีละอย่าง
ชาบรรจุอยู่ในแก้วใสแจ๋วเสียจนสามารถมองเห็นวัตถุดิบทั้งหลายตรงก้นแก้วได้อย่างชัดเจน
มันมีสีน้ำตาลแดงและทันทีที่มาถึง กลิ่นหอมของพุทราหวานก็กำจายออกมาทั้งยังให้ความรู้สึกสดชื่นอีกต่างหาก เมื่อญินยาได้กลิ่นเข้า คิ้วที่ขมวดแน่นของเธอก็ผ่อนคลายลงบ้าง
อาหารรสหวานช่วยให้คนร่าเริงขึ้นมาได้ ดังนั้นเมื่อได้สูดกลิ่นหอมหวานเข้าไปย่อมทำให้อารมณ์ดีขึ้นไปด้วย
“ฮึ” ญินยาดูเหมือนจะยังถือโทษโกรธเคืองกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอจึงส่งเสียงออกทางจมูกอย่างเย็นชาแทนที่จะมอบรอยยิ้มให้
หยวนโจวไม่ได้พูดอะไรแล้วหลบฉากไปหลังจากเสิร์ฟอาหารแล้ว
ทันทีที่หยวนโจวหันหลังเดินจากไปแล้ว ญินยาก็หยิบแก้วขึ้นมาแล้วจิบคำเล็กๆ
รสชาติของชาแก้วนี้ดีมากเนื่องจากลำไยและพุทราแดงที่ผ่านการต้มให้ค่อยๆเดือดเป็นเวลานาน เมื่อดื่มเข้าไปรสชาติที่เด่นชัดที่อาจจะเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบทั้งสองอย่างนี้อย่างเห็นได้ชัดจะให้ความรู้สึกอบอุ่นยิ่ง
ทันทีที่ชาแก้วนี้เข้าสู่ปากจะมีแค่รสหวานเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อเข้าสู่โคนลิ้นแล้ว รสหวานจัดก็ดูเหมือนว่าจะเต็มไปทั่วทั้งปากพร้อมกลิ่นหอมของพุทรา สุดท้ายเมื่อล่วงเข้าสู่ลำคอแล้วก็จะให้ความรู้สึกกลมกล่อมอย่างหาที่เปรียบมิได้
เมื่อลำคอรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นจากชาที่ไหลผ่านลงไปจนถึงกระเพาะอาหารก็จะรู้สึกได้ถึงความสดชื่นโดยสิ้นเชิง ถึงอย่างไรทั้งลำไยและพุทราแดงก็มีฤทธิ์ให้พลังงาน ดังนั้นความรู้สึกสดชื่นจึงหาใช่ความเข้าใจผิดแต่อย่างใด
“ฟู่ รสชาติเยี่ยมยอดมากเลย” ญินยากล่าวพลางประคองแก้วด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง อันที่จริงแล้ว เธอดูเหมือนกระรอกน้อยที่กำลังเคี้ยวอะไรสักอย่างด้วยการกัดกินคำเล็กๆ
บรรยากาศของเจตนาร้ายรอบตัวเธอได้อันตรธานหายไปจนสิ้นเนื่องจากเธอดูสงบลงแล้วโดยสิ้นเชิง
ญินยาไม่รีบที่จะเริ่มกินบะหมี่ เธอยังคงดื่มต่อไปจนเครื่องจวนจะหมดแก้วก่อนแล้วค่อยหยุด
หลังจากดื่มชาลำไยและพุทราแดงแล้ว เธอก็ยืดเส้นยืดสายอย่างเกียจคร้านราวกับแมวที่เพิ่งจะกินอิ่ม สิ่งนี้ไปกระตุ้นความสนใจของลูกค้าที่อยู่ข้างๆเธอเข้าทันที
“เครื่องดื่มแก้วนี้ยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยหรือ?” เฉินเหว่ยถามขึ้นมา เขาไม่ชอบเครื่องดื่มรสหวานเนื่องจากเขาจะดื่มแต่เหล้าเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจความรู้สึกของญินยา
“แน่นอน นายลองสั่งมาชิมดูสักแก้วสิ” ญินยาให้คำแนะนำอย่างจริงใจพลางพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรมากกว่าที่เคย
“ไม่ล่ะขอบใจนะ ฉันมาที่นี่เพื่อมาหาอะไรกินเท่านั้นแหละ” เฉินเหว่ยโบกมือ “ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มอะไรก็สู้เหล้าไม่ได้หรอก”
เป็นที่น่าสังเกตว่าพักนี้เฉินเหว่ยไม่ค่อยได้มาดื่มที่ร้านมากสักเท่าไหร่นัก มีข่าวลือว่าเขากำลังเก็บเงินเพื่อทำเรื่องสำคัญอยู่ ส่วนเรื่องใหญ่นั้นหามีผู้ใดทราบไม่ ถึงอย่างไรหยวนโจวก็ไม่มีทีท่าว่าจะกระพือข่าวออกไปแต่อย่างใด
และเมื่อญินยาหันมามองหลิงหงที่อยู่อีกด้าน แต่ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรออกมา หลิงหงก็พูดว่า “ฉันชอบน้ำแตงโม”
“อีกอย่างนะ ชาลำไยและพุทราแดงกับน้ำแตงโมก็มีราคาเท่ากันด้วย” ญินยาหาได้ใส่ใจคำปฏิเสธแต่อย่างใดแล้วความคิดของเธอก็ถูกเรื่องอื่นเข้ามาแทนที่
“ใช่แล้วล่ะ ทั้งสองอย่างต่างก็มีราคาอยู่ที่ 88 หยวน” หลิงหงกล่าวพลางพยักหน้าหลังจากตรวจสอบเมนูแล้ว
“ใช่ แพงชะมัดเลย” ถังซีแสดงความคิดเห็น เธอเรียนจบแล้วเพิ่งจะเริ่มทำงานเมื่อไม่นานมานี้เอง แม้ว่าเธอจะเป็นแฟนตัวยงของหยวนโจว แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าชาลำไยและพุทราแดงแพงเกินไปอยู่ดีนั่นแหละ
“ถ้าหากถูกลงกว่านี้ล่ะก็ฉันจะดื่มมันทุกวันเลย” ม่านม่านเห็นด้วย
“งั้นรึ? ราคาของน้ำแตงโมเป็นที่พอเข้าใจได้เนื่องจากสายพันธุ์แตงโมที่นำมาใช้และวิธีการที่เถ้าแก่หยวนใช้ทำเครื่องดื่ม แต่ชาแก้วนี้แค่มีรสหวานเท่านั้นเอง มีอะไรพิเศษจนสมควรจะมีราคาเท่ากับน้ำแตงโมกันเล่า?” ลูกค้าชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา
ส่วนเรื่องที่เขาทราบสายพันธุ์ของแตงโมที่นำมาใช้ได้อย่างไรนั้นย่อมเป็นเพราะตำราว่าด้วยเรื่องวัตถุดิบเป็นแน่แท้ ทุกสิ่งทุกอย่างระบุเอาไว้ในตำราอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นบรรดาลูกค้าของร้านจึงพบเจอแหล่งที่มาของแตงโมมานานแล้ว
“ฉันเห็นด้วย” ถังซีพยักหน้าเห็นด้วย
สำหรับบางสิ่งบางอย่างที่เธอชอบ แน่นอนว่าเธอก็ย่อมหวังให้มันราคาถูกลงบ้างก็ยังดี
“เถ้าแก่หยวน ทำไมชาลำไยและพุทราแดงถึงได้มีราคาเท่ากับแตงโมเลยล่ะ?” ในที่สุดก็มีลูกค้าถามหยวนโจวขึ้นมาแล้ว
“ใช่ ฉันก็รู้สึกว่าน้ำแตงโมควรจะเป็นเครื่องดื่มที่แพงกว่านะ” ลูกค้ากล่าวพลางพยักหน้า “จากอัตราส่วนระหว่างราคาและคุณภาพ ชาลำไยและพุทราแดงควรจะจำหน่ายที่ราคา 38 หยวนมากกว่านะ”
ทุกคนต่างมองไปที่หยวนโจวเพื่อรอฟังคำตอบของเขา
หาใช่ว่าบรรดาลูกค้าพยายามที่จะบอกว่าอาหารที่ร้านหยวนโจวไม่สมราคา แต่พวกเขารู้สึกว่าชาลำไยและพุทราแดงไม่ควรจะมีราคาเท่ากับน้ำแตงโมเลย
ชาลำไยและพุทราแดงแก้วหนึ่งพิเศษอย่างไรงั้นหรือ?
แน่นอนว่าหยวนโจวย่อมต้องตอบคำถามของบรรดาลูกค้าอยู่แล้วล่ะ ถึงอย่างไรการขจัดความสงสัยของลูกค้าหรือจะพูดให้ถูกก็คือ “การทำเท่ห์” เป็นสิ่งที่หยวนโจวชอบทำเอามากๆเลย
ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา หยวนโจวจึงทำก๋วยเตี๋ยวน้ำใสให้เสร็จก่อนแล้วส่งให้โจวเจียนำไปเสิร์ฟก่อนที่จะตอบคำถาม
“ฉันใช้น้ำตามธรรมชาติที่ให้กลิ่นพุทรา พุทราแดงฉางโจว ลำไยป่อไป่รวมทั้งน้ำจากน้ำพุฮุ่ยเพื่อแช่ลำไยเอาไว้ ก็ประมาณนี้แหละ”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทื่อๆ แถมคำพูดของเขายังชัดเจนอีกต่างหาก แต่จากเบาะแสที่บรรดาลูกค้ามีนั้นอยู่นั้นก็พอเข้าใจแต่ละคำที่พูดออกมาได้ ทว่าเมื่อรวมกันแล้วพวกเขากลับไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิดเดียว
น้ำตามธรรมชาติที่ให้กลิ่นพุทรา…
พุทราแดงไหมทองฉางโจว…
ลำไยป่อไป่…
น้ำจากน้ำพุฮุ่ย…
เจ้าพวกนี้คืออะไรกันล่ะนี่?