อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 861 ขาดการสั่งสม
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 861 ขาดการสั่งสม
ท่ามกลางบรรดาลูกค้าที่ปรากฏตัว ผู้ที่แตกฉานในภาษาจีนที่สุดก็คือหลิงหง ดังนั้นเขาจึงเป็นคนแรกที่มีท่าทีตอบสนอง
เดี๋ยวนี้เขามาเยือนร้านนี้เป็นประจำแทบทั้งปีก็ว่าได้ หลิงหงคุ้นเคยกับกับวัตถุดิบชนิดต่างๆที่หยวนโจวจะนำมาใช้ ดังนั้นน้ำตามธรรมชาติที่ให้กลิ่นพุทรา ลำไยป่อไป่และอื่นๆจึงล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่ไม่สร้างความตกตะลึงให้แก่เขามากสักเท่าไหร่นัก แต่วัตถุดิบอย่างสุดท้ายก็ยังเกินกว่าความคาดหมายของเขาอยู่ดี
“เถ้าแก่หยวน น้ำจากน้ำพุฮุ่ยของนายจะเหมือนน้ำจากน้ำพุฮุ่ยที่ฉันรู้จักหรือเปล่านะ?” หลิงหงขอคำยืนยันอีกครั้ง
“ยังจะมีน้ำจากน้ำพุฮุ่ยในประเทศอีกงั้นหรือ?” หยวนโจวแย้งด้วยคำถาม
หลิงหงตอบทันทีว่า “แค่ก แค่ก แต่น้ำจากน้ำพุฮุ่ยมิได้มีไว้ชงชาหรอกหรือ?”
แน่นอนว่าหลิงหงย่อมต้องทราบเรื่องนี้ดี ถึงอย่างไรเมื่อคนรวยๆแก่ตัวขึ้น เขาก็จะตกหลุมรักชาหรือของโบราณอย่างใดอย่างหนึ่ง บังเอิญว่าปู่ของเขาก็เป็นคนรักชา เขาไม่ได้บอกปู่ว่าหยวนโจวทำไข่ต้มชาสมุนไพรด้วยชาดำคีมุน มิฉะนั้นปู่คงได้ทุบร้านนี้ทิ้งเป็นแน่
ถึงอย่างไรปู่ของเขาก็ยังร่างกายแข็งแรงมาก อย่างน้อยก็ปีที่แล้วนี้เองที่ปู่ปาโทรศัพท์จนพังด้วยความโกรธหลังจากเล่นเกมงูในมือถือแพ้
และเมื่อมีคนพูดถึงเรื่องชาก็คงหนีไม่พ้นต้องพูดถึงเรื่องน้ำที่ใช้เป็นแน่ น้ำที่ปู่ของเขาใช้ชงชานำเข้าเป็นพิเศษมาจากน้ำพุฮุ่ย ตอนนี้หยวนโจวใช้น้ำจากน้ำพุฮุ่ยมาแช่ลำไยงั้นหรือ? หลิงหงสามารถจินตนาการได้เลยว่าปู่จะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดไหนถ้าเกิดรู้เข้า
“อืม คุณภาพน้ำของน้ำพุฮุ่ยดีมากเลยล่ะ ช่างเหมาะกับการชงชาจริงๆ” หยวนโจวพยักหน้าเห็นด้วย “แต่เหมาะที่จะเอาไปแช่ลำไยมากกว่า”
เขาพูดเสียฟังดูเป็นเหตุเป็นผลทีเดียว หลิงหงยิ้มแต่ในใจเขาหาได้ยิ้มด้วยไม่ ลู่อวี่เทพแห่งชาได้จำแนกน้ำพุที่ดีที่สุดในประเทศเอาไว้ถึง 20 แห่งโดยมีน้ำพุกู่เหลียนแห่งลู่ซานเป็นแห่งแรก ในขณะที่น้ำพุฮุ่ยเป็นแห่งที่สอง
ในด้านการชงชา น้ำพุฮุ่ยค่อนข้างไม่เพียงพอจริงๆนั่นแหละเมื่อเทียบกับน้ำจากน้ำพุกู่เหลียนแล้ว แต่จะมีเรื่องอะไรน่าตลกเท่ากับการบอกว่ามันเหมาะที่จะนำมาแช่ลำไยมากกว่างั้นหรือ? ถ้าหากผู้อื่นมาได้ยินคำพูดของหยวนโจว เขาจะต้องถูกตีตายเป็นแน่
“เถ้าแก่หยวนช่างไม่ธรรมดาจริงๆ” หลิงหงลุกขึ้นแล้วกล่าวอย่างจริงจัง
ถ้าหากไม่ใช่เพราะหลิงหงมองหยวนโจวด้วยสายตาแปลกๆแล้วล่ะก็คำกล่าวเช่นนี้ก็คงจะดูบริสุทธิ์ใจมาก ทว่าในความเป็นจริงนั้น หลิงหงกำลังเปรียบเทียบหยวนโจวกับปู่ของเขาอยู่ในใจ
“แหงอยู่แล้ว” หยวนโจวยอมรับคำกล่าวให้เป็นคำชมแล้วทำอาหารต่อโดยทิ้งกลุ่มลูกค้าที่ตกตะลึงพรึงเพริศเอาไว้ทางด้านหลัง
หยวนโจวเห็นว่าตนเองจากไปทันทีหลังจาก “ทำเท่ห์” แล้วก็ให้รู้สึกพึงพอใจนัก
ส่วนหลิงหง ไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“เอาล่ะ ทีนี้ฉันก็รู้แล้วว่าทำไมชาลำไยและพุทราแดงถึงได้แพงเสียขนาดนั้น” ลูกค้าที่ถามคำถามด้วยสีหน้าเฉยเมยกล่าวขึ้น
“ฉันไม่รู้จักน้ำพุฮุ่ยหรอกนะ แต่ฉันรู้จักพุทราไหมทองฉางโจวล่ะ” ลูกค้าคนหนึ่งกล่าว
“ฉางโจวตั้งอยู่ในมณฑลเหอเป่ยและพุทราก็เป็นที่นิยมมาก กล่าวได้ว่าเมื่อผ่าออกมาก็จะเห็นผลไม้ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเส้นไหมสีทอง โดยสามารถดึงเส้นไหมที่มีความยาวประมาณหนึ่งหรือสองนิ้วออกมาได้ก่อนที่จะขาด ลองตรวจสอบดูสิว่าพุทราของเธอเป็นแบบนั้นหรือเปล่า” ลูกค้าคนนั้นกล่าวกับญินยา คนผู้นี้เป็นผู้มาเยือนที่มาจากฉางโจวหลังจากได้ยินชื่อเสียงของหยวนโจวอันเป็นตัวอย่างอันแสนสมบูรณ์แบบของคนรวยที่แสนจะเอ้อระเหยลอยชาย
กริ๊ง! ญินยาใช้ช้อนตักพุทราแล้วเริ่มวิเคราะห์ดู เธอลองกัดเข้าไปคำหนึ่ง
“เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย” ก่อนที่ญินยาจะทันได้พูดอะไรออกมา ถังซีก็พยักหน้าแล้วกล่าวขึ้นมา
“ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมายที่พยายามปลูกพุทราพวกนี้ด้วยไหมทอง พวกมันมีเส้นไหมสีทองที่หาได้ยากยิ่งอย่างแท้จริง อย่างน้อยฉันก็คนหนึ่งล่ะที่ไม่เคยเห็นมาก่อน” ลูกค้าคนหนึ่งถึงกับทอดถอนใจ
ลูกค้าทอดถอนใจแถมน้ำเสียงของเขาก็ฟังดูค่อนข้างหดหู่อีกต่างหาก
พุทรามีชื่อเสียงก็เพราะเส้นไหมสีทองพวกนั้นทั้งยังเป็นเพราะมีพุทราไหมทองของปลอมอยู่อีกเกลื่อนจึงทำให้มีชื่อเสียงที่ไม่ดีนัก ไม่แปลกเลยที่ลูกค้าผู้นี้ที่เป็นคนฉางโจวจะรู้สึกหดหู่เช่นนี้
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เถ้าแก่หยวนมักจะใช้วัตถุดิบของแท้อยู่เสมอแหละ” ถังซีปลอบโยน
“ใช่แล้วล่ะ ร้านของเถ้าแก่หยวนเป็นเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้นที่คุณสามารถกินอาหารต้นตำหรับได้จริงๆ” ลูกค้ากล่าวพลางพยักหน้า เป็นเรื่องค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวทั้งๆที่เป็นคนฉางโจว แต่เขาก็ยังอยากมาเยือนเมืองเฉิงตูเพื่อกินพุทราไหมทองของแท้
มันเป็นแนวคิดเดียวกับ “การซื้อเหล้าเหมาไถที่ประเทศฝรั่งเศสแทนที่จะซื้อที่กุ้ยโจว” ที่พูดถึงกันในอินเตอร์เน็ตนั่นเอง
ตอนนี้พวกเขากำลังพูดถึงเรื่องวัตถุดิบที่ใช้ในร้านหยวนโจว บรรดาลูกค้าเริ่มคุยกันไม่หยุด
เมื่อพูดถึงวัตถุดิบแล้วก็คงหนีไม่พ้นต้องพูดถึงเรื่องอัลบั้มรูปวัตถุดิบที่หยวนโจวรวบรวมขึ้นมา ดังนั้นลูกค้าในร้านจึงเริ่มพูดถึงเรื่องวัตถุดิบกันอย่างจริงจังในขณะที่หยวนโจวกำลังทำอาหารอย่างคร่ำเคร่ง
ถึงอย่างไรก็เหลือเวลาอาหารกลางวันอีกแค่ 10 นาทีแล้ว
ในตอนนี้เอง เจ้าระบบที่ถูกหยวนโจวยั่วยุเมื่อคืนนี้จู่ๆก็พูดขึ้นมา
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ภารกิจหลักทำงานแล้ว คุณจะยอมรับหรือไม่?”
“อืม?” หยวนโจวรู้สึกสงสัยทว่าหน้าของเขากลับไม่เปลี่ยนสี เขาโรยเครื่องปรุงที่ถืออยู่ด้วยความใจเย็นหลังจากทำอาหารเสร็จแล้วค่อยถามขึ้นมา
“ภารกิจหลักงั้นรึ?” น้ำเสียงของหยวนโจวเปี่ยมไปด้วยความสงสัย ถึงอย่างไรหลังจากภารกิจหลักเมื่อก่อนหน้านี้ เขาก็ได้รับภารกิจรองและภารกิจที่ซ่อนอยู่มาตั้งมากมายแล้ว เพียงไม่นานเขาก็เห็นภารกิจหลัก
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ใช่แล้ว คุณจะรับภารกิจหรือไม่?”
“หายากที่แกจะสุภาพมากขนาดนี้ ฉันไม่ชินเอาเสียเลย” หยวนโจวถือโอกาสล้อเลียนขณะที่โจวเจียออกไปรับออเดอร์
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “สหายน้อย สิ่งที่นายคิดตอนนี้อันตรายมากนัก”
“แค่ก แค่ก” น้ำเสียงของเจ้าระบบที่จู่ๆก็เปลี่ยนไปทำให้หยวนโจวแทบสำลัก โชคดีที่เขาสามารถหยุดไอได้มิฉะนั้นคงต้องแลกมาด้วยการเจ็บเอวเป็นแน่
แต่อย่างไรก็ตามใบหน้าของหยวนโจวก็ยังแดงก่ำอยู่เลย ส่วนเล็กๆของใบหน้าที่ไม่ได้ถูกหน้ากากอนามัยคลุมไว้ก็แดงไปด้วย ทันใดนั้นเขาก็รีบหันหลังให้บรรดาลูกค้า
“เจ้าระบบ แกลัดวงจรแล้วใช่ไหม? สหายน้อยหมายความว่ายังไงกัน?” หยวนโจวรู้สึกตกตะลึงเสียจนเริ่มพูดด้วยสำเนียงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของหยางซู่ซินไปแล้ว
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ฉันบอกได้แค่ว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณที่สั่งให้คุณทำอะไรเป็นเด็กๆแบบนั้นแหละนะ เจ้านาย”
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “สหายน้อย โปรดเลือกกลุ่มที่จะเข้าสอบแล้วยอมรับภารกิจเสีย”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันจะยอมรับภารกิจก็ได้ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปฉันคงต้องจำทฤษฎีสังคมนิยมทั้ง 24 ข้อได้แหงๆเลย” หยวนโจวกล่าวพลางกุมขมับ
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ภารกิจออกมาแล้วลองตรวจสอบดูสิ”
แล้วเจ้าระบบก็เงียบไปอีกครั้ง แน่นอนว่าย่อมเป็นเพราะวิธีการใหม่ที่เจ้าระบบใช้เรียกหยวนโจวในขณะนี้ ความเงียบเช่นนี้จึงทำให้หยวนโจวถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเจ้าระบบแค่ออกมาก่อเรื่องอย่างไรอย่างนั้นแหละ” หยวนโจวถอนหายใจแล้วทำอาหารต่อไป
หลังจากหมดเวลาอาหารกลางวันแล้วบรรดาลูกค้ากับโจวเจียก็กลับไป หยวนโจวถึงค่อยเปิดภารกิจใหม่ขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน
[ภารกิจหลัก] กลายเป็นสุดยอดร้านอาหารตำหรับเสฉวนร้านต่อไปแล้วก็กลายเป็นแหล่งรวบรวมอาหารตำหรับเสฉวนแห่งใหม่
(เคล็ดลับในการทำภารกิจ: การประเมินสุดยอดร้านอาหารตำหรับเสฉวนประจำปีจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ในฐานที่เป็นสุดยอดเชฟในอนาคต สหายน้อย คุณต้องไขว่คว้าชื่อเสียงครั้งนี้มาให้ได้นะ ในฐานที่เป็นผู้สืบทอดที่สำคัญของกลุ่ม ชื่อเสียงก็จะเป็นของคุณด้วย)
[รางวัลภารกิจ] อาหารตำหรับเสฉวนของอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อทั้งแปดอย่าง
(เคล็ดลับในการได้รางวัล: จากการประเมินของระบบนี้ เชฟขั้นกลางจะต้องไม่ขาดตำหรับอาหารครบชุด ดังนั้นจงบรรลุภารกิจให้ได้นะ สหายน้อย หลังจากบรรลุภารกิจแล้ว คุณก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอาหารตำหรับเสฉวนอย่างไรเล่า)