อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 868 ลับมีด
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 868 ลับมีด
ปกติแล้วบุรุษพยายามที่จะไม่ร้องไห้กันง่ายๆ นั่นหาใช่ว่าพวกเขากลัวผู้ใดมาพบเห็นตอนที่กำลังร่ำไห้แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่อาจยอมรับว่าตนเองกำลังร้องไห้อยู่ได้ หลิงหงเป็นคนที่เป็นห่วงเรื่องศักดิ์ศรีหน้าตาของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อเขาร้องไห้ทั้งอู๋ไห่กับหยวนโจวจึงถึงกับตกตะลึงไปเลย
พวกเขาต่างคาดหวังว่าหลิงหงอาจจะอารมณ์เสียเมื่อตอนที่กลับมา แต่พวกเขาไม่คาดว่าจะถึงขนาดนี้เลย ทั้งคู่ต่างรู้สึกตกตะลึง
หยวนโจวทำอะไรไม่ถูกทั้งยังไม่ทราบว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ส่วนอู๋ไห่นั้นจู่ๆเขาก็วิ่งออกไปจากร้าน เขาเข้าห้องน้ำสาธารณะที่คณะกรรมการจัดระเบียบแถวจัดสร้างขึ้นแล้วปิดประตูก่อนที่จะถอดเสื้อแจ็คเก็ตกับเสื้อยืดออกแล้วสวมกลับด้าน มันออกจะดูแปลกๆอยู่บ้างที่ต้องสวมเสื้อแขนยาวกลับด้าน แต่อู๋ไห่ไม่สนใจเลยสักนิดเนื่องจากเขาไม่เคยสนใจภาพลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้ว
หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่ร้านหยวนโจว เขาทำทุกอย่างๆเป็นขั้นเป็นตอนโดยใช้เวลาทั้งสิ้นห้านาที
ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลิงหงกำลังร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าเป็นอันมาก พูดกันจริงๆแล้วนอกจากช่วงวัยเด็กของเขาเมื่อตอนที่รู้ว่าน้องสาวของเขาเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เขาก็ไม่เคยเสียน้ำตามากขนาดนั้นมาก่อนเลย
แม้แต่หลิงหงเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ร่ำไห้ บางทีอาจเป็นเพราะสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อแปดปีที่แล้วกระมังที่ทำให้เขารู้สึกผิดเหลือคณานับ? อาจเป็นเพราะเขาเห็นผู้หญิงสวยสะดุดตาที่มีเพียงบุรุษอีกคนในสายตาของเธอเท่านั้นกระมัง? อาจเป็นเพราะเขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้กระทำลงไปเมื่อสมัยเรียนกระมัง? อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่นก็ได้กระมัง? หรืออาจจะเป็นเพราะทุกๆสาเหตุรวมกันก็เป็นได้กระมัง?
หลิงหงไม่กลัวเสียหน้า จนถึงที่สุดแล้วเสียงของเขาก็เริ่มแหบจากการร้องไห้
หยวนโจวที่อยู่ข้างๆอ้าปากอีกครั้ง แต่เขากลับไม่สบโอกาสที่จะปลอบใจหลิงหงเลย สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือปิดประตูเพื่อไม่ให้ผู้ใดเห็นเข้า
“ปล่อยให้เขาร้องไห้เถอะ บุรุษทุกคนอาจจะอยากมีโอกาสที่จะได้ร้องไห้เช่นนี้สักครั้ง แต่ส่วนใหญ่กลับไม่เคยมีโอกาสเลย” อู๋ไห่กล่าวขึ้นมา
“ก็จริงนะ” หยวนโจวพึมพำ จากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “งั้นนายก็เป็นหนึ่งในนั้นสินะ?”
อู๋ไห่ส่ายหน้า “ไม่ใช่ฉันสักหน่อย เมื่อตอนที่ฉันรู้สึกอยากร้องไห้ ฉันก็จะร้องไห้มันออกมาตรงๆตอนอยู่ที่บ้านเสียเลย ฉันไม่สนใจหรอกว่ามันจะเป็นเรื่องน่าอายสักแค่ไหน”
จู่ๆหยวนโจวก็รู้สึกได้ถึงข้อดีของการเป็นคนไร้ยางอาย เมื่อทุกคนเอาแต่สนใจว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายมาก คนไร้ยางอายก็จะมีอิสระมากกว่าใครอื่นเสียอีก
เขายอมรับข้อเสนอแนะของอู๋ไห่และไม่เข้าไปขัดจังหวะหลิงหง ในที่สุดหลิงหงก็อยู่ที่ร้านหยวนโจวตลอดค่ำนั้น แน่นอนว่าอู๋ไห่ก็อยู่ด้วยเช่นกัน เขาได้แต่นั่งอยู่ข้างๆหลิงหงโดยไม่พูดอะไร
ส่วนหยวนโจวนั้น เขาเริ่มเตรียมวัตถุดิบของตัวเองเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำ บางครั้งแค่มีคนอยู่ด้วยก็เพียงพอแล้วล่ะ
ตอนค่ำพี่วั่นก็มาถึง เมื่อเธอเห็นดวงตาแดงก่ำของหลิงหงก็ทำให้เธอเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เธอไม่ได้พูดอะไรมากนักได้แต่บอกว่าคืนนี้พวกเขาน่าจะดื่มอะไรกันสักหน่อย
นั่นเป็นแผนที่ดีมากเชียวล่ะ แต่น่าเสียดายที่ที่หลังจากคืนนั้น พวกเขาก็พบว่าหลิงหง พี่วั่นและอู๋ไห่ต่างก็แพ้เดิมพันกันจนหมด แถมคนอย่างเฉินเหว่ยกับเจียงฉางซี่ก็ดันไม่อยู่แถวนี้เสียด้วย พวกเขารู้ว่าบรรดาลูกค้าจะมาดื่มคืนนี้แต่กลับไม่รู้จักพวกเขาดีพอ
ดังนั้นหลังจากผับปิด หยวนโจวจึงไปดื่มที่ผับของฟางเหิงพร้อมกับอู๋ไห่ พี่วั่นและหลิงหง
นับว่าเป็นเรื่องหาได้ยากที่จะเห็นหยวนโจวปล่อยเนื้อปล่อยตัวเช่นนั้น เขาดื่มกับพวกเขาแล้วกลับไปเมื่อทุกคนเริ่มเมาแล้ว
หยวนโจวหลับสนิทหลังจากดื่มแล้วตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น
หลังจากเวลาอาหารเช้า หยวนโจวไม่ได้เริ่มแกะสลักทันที ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเขาเริ่มตรวจสอบเครื่องใช้ในครัว
“ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ต้องลับมีดพวกนี้แล้วล่ะ” หยวนโจวพึมพำขณะที่เขาตรวจสอบมีดไปทีละเล่มๆ
จากมีดหลายๆเล่มที่เจ้าระบบจัดเตรียมเอาไว้ให้ นอกเหนือไปจากมีดทำครัวที่ไม่ต้องลับคมแล้ว มีดเล่มอื่นๆก็ยังต้องลับคมอยู่ดี
แน่นอนว่าเจ้าระบบย่อมต้องเตรียมหินลับมีดมาให้เช่นกัน โดยหินลับมีดที่เตรียมมาให้มีอยู่ทั้งสิ้นแปดก้อน
หยวนโจวเริ่มยกมีดทั้งหมดและหินลับมีดออกไปข้างนอก ดูท่าแล้วเขาคงกำลังจะลับมีดเป็นแน่
“อีกอย่างนะเจ้าระบบ แกรู้เรื่องเกี่ยวกับโม่ซานเต้าระหว่างสถาปนาสาธารณรัฐหรือเปล่า?” จู่ๆหยวนโจวก็ถามขึ้นมา
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “จากบันทึกทั้งหลาย คนผู้นี้ต้องลับมีดถึงสามครั้งสามคราเพื่อให้ขั้นตอนการลับมีดเสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องอาศัยมีดอีก”
“ใช่ เป็นเขานั่นแหละ แกมีเทคนิคการลับมีดของเขาไหม?” หยวนโจวพยักหน้าแล้วถามขึ้น
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “มี”
“เยี่ยมไปเลย ฉันรู้ว่าแกมีความสามารถนะเจ้าระบบ” หยวนโจวเอ่ยปากชื่นชมเจ้าระบบขึ้นมาก่อน
จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า “ช่วยแสดงให้ฉันดูทีสิว่าเทคนิคลับมีดของเขาเป็นอย่างไรกันแน่?”
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เนื่องจากเจ้านายยังไม่บรรลุภารกิจสำคัญจึงไม่สามารถเรียกดูเทคนิคได้”
“ภารกิจงั้นรึ? ฉันต้องทำภารกิจอะไรถึงจะได้มันเป็นรางวัลกันล่ะ?” หยวนโจวกดปุ่มเปิด
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ระดับของเจ้านายไม่พอที่จะเข้าถึงข้อมูลนี้ได้”
“มันเป็นภารกิจหลัก ภารกิจรองหรือภารกิจที่ซ่อนอยู่กันล่ะเนี่ย?” หยวนโจวยังคงถามต่อไปโดยไม่ท้อใจแต่อย่างใด
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เจ้านายจะได้รู้ก็ต่อเมื่อภารกิจถูกกระตุ้นออกมานั่นแหละ”
“ถูกกระตุ้นออกมางั้นเหรอ? งั้นก็เป็นภารกิจที่ซ่อนอยู่งั้นสิ” หยวนโจวเข้าใจขึ้นมาทันที
เจ้าระบบยังคงเงียบไปโดยไม่ยืนยันอะไรออกมา
“เอาล่ะ ในเมื่อฉันไม่มีเทคนิคของโม่ซานเต้า ฉันก็ควรจะตั้งอกตั้งใจลับมีด้วยวิธีธรรมดาๆ” หยวนโจวชินเสียแล้วที่เจ้าระบบหายไปตามใจชอบ เขาจึงเปลี่ยนไปจดจ่อและเตรียมตัวเพื่อเริ่มขั้นตอนการลับมีด
ก่อนที่หยวนโจวจะได้เจ้าระบบมา เมื่อตอนที่เขากำลังเรียนและทำงานอยู่ที่โรงแรมระดับสามดาวแห่งหนึ่ง เขาก็รู้จักวิธีลับมีดแล้ว แต่เขาไม่เคยลับด้วยหินลับมีดจำนวนมากมายเช่นนี้มาก่อนเลย
อาจกล่าวได้ว่าเชฟอาหารจีนทุกคนจะทราบวิธีลับมีดกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่พวกเขาจะไม่ลับมีดหลังจากฝีมือการทำอาหารดีขึ้นแล้วก็ตามที
เมื่อเรียนรู้วิธีการทำอาหาร หยวนโจวก็ต้องเรียนรู้วิธีลับมีด เขาไม่แน่ใจด้วยระดับของเขาในตอนนี้ถทอว่ามีฝีมือการลับมีดแล้วหรือไม่
เขานั่งลงบนเก้าอี้และหลังจากใคร่ครวญดูแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออก
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนรับสาย
“สายัณห์สวัสดิ์ครับ อาจารย์หยวน” คุณเฉิงตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูซื่อๆ
“อืม ฉันจะลับมีดเย็นนี้แหละ” หยวนโจวกล่าวขึ้นมา
“โอเคครับ ผมจะไปทันทีเลย” คุณเฉิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“เอามีดมาด้วยนะ” หยวนโจวกล่าวขึ้น
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย” คุณเฉิงกล่าวขึ้นมา
“โอเค แค่นี้นะครับ” หยวนโจววางสาย
คุณเฉิงวางสายหลังจากหยวนโจวตัดสายไปแล้ว
“ฮ่าๆ ดูเหมือนอาจารย์หยวนจะนับฉันเป็นศิษย์แล้วนะ ยอดไปเลย” คุณเฉิงโบกไม้โบกมือด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเขาก็เหยียบคันเร่งแล้วรีบกลับบ้านไปเอามีดของตนเอง
ใช่แล้วล่ะ ก่อนหน้านี้คุณเฉิงกำลังขับรถอยู่ เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาค่อยจอดรถตรงช่องเดินรถฉุกเฉินก่อนที่จะรับสาย
ถึงอย่างไรหยวนโจวก็เกลียดผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจร คุณเฉิงตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
ดังนั้นคุณเฉิงจึงเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกฎจราจรทุกข้อ
เนื่องจากคุณเฉิงได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วที่จะปวารณาตัวเป็นศิษย์ของหยวนโจว แน่นอนว่าเขาย่อมทำทุกอย่างตามกฎของหยวนโจว นี่คือสิ่งที่เขาคิดว่าจำเป็นต้องทำ
หยวนโจวไม่ทราบเรื่องนั้นแต่อย่างใด แต่หลังจากเขาตัดสายไปแล้วก็ยังไม่ได้เริ่มลับมีด ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเขาเริ่มวิเคราะห์ลายบนตัวมีด ด้านหลังมีดรวมไปถึงคมมีดเลยเชียวล่ะ