อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 875 ศัตรูคู่อาฆาต
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 875 ศัตรูคู่อาฆาต
หลังจากหมดเวลาเปิดให้บริการของผับลงแล้ว เซินหมินก็เป็นผู้รับผิดชอบในการปิดร้าน หยวนโจวจึงมีเวลาว่างพอที่จะยกน้ำซุปที่เขาเตรียมขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปท้ายตรอก
ได้เวลาให้อาหารเจ้าซุปแล้วล่ะ
“การมีความรักจะช่วยลดน้ำหนักได้งั้นเหรอ? ฉันล่ะสงสัยจริงๆเลยว่ามันจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องได้หรือเปล่านะ น่าเสียดายที่ฉันก็ยังโสดเหมือนแกเลย” หยวนโจวบ่นพึมพำกับเจ้าซุปที่กำลังดื่มน้ำซุปอยู่
“โฮ่ง” เจ้าซุปแหงนหน้ามองหยวนโจวด้วยความสงสัยก่อนที่จะดื่มน้ำซุปต่อไป
เมื่อเหลือน้ำซุปอยู่ครึ่งชามเช่นเคย เจ้าซุปก็จะเห่าสองครั้ง จากนั้นเจ้าสุนัขตัวสีเหลืองก็จะมากินน้ำซุป
หยวนโจวครุ่นคิดอยู่สักครู่เมื่อเห็นเช่นนี้ “บ้าเอ้ย ฉันลืมไปว่าแกมีเพื่อนแล้วนี่นา ดี”
“ดีมาก แกมันหมาทรยศ ลาก่อน เจ้าหมาาทรยศ” หยวนโจวกล่าวแล้วกลับเข้าร้านไป
“ทรยศกันทั้งสองตัวเลย” หยวนโจวบ่นพึมพำแล้วขึ้นชั้นบนเพื่อเตรียมตัวที่จะเริ่มอ่านหนังสือ
ใช่แล้วล่ะ เขากำลังเตรียมตัวเพราะพรุ่งนี้เป็นวันที่ต้องไปร้านซูแล้ว
เอกสารที่หยวนโจวได้รับให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารจานเด็ดของเฉาจื่อซูและรายละเอียดติดต่อของเขา
แน่นอนว่ารายละเอียดติดต่อย่อมต้องยืนยันวันที่และเวลามาด้วย นับเป็นเรื่องหาได้ยากที่หยวนโจวจะโทรหาใครสักคน เขาตัดสินใจที่จะไปเยือนร้านซูพรุ่งนี้ตอนบ่ายสามโมง
แน่นอนว่าการไปเยือนในช่วงเวลาดังกล่าวย่อมไม่ไปขัดขวางกิจการของทั้งสองร้าน หยวนโจวพินิจพิเคราะห์ออกมาก่อนที่จะกำหนดเวลา
“ฉันล่ะสงสัยจังเลยว่าพรุ่งนี้ฉันจะได้กินอาหารจานเด็ดของเฉาจื่อซูสักกี่จานกันนะ” ความรู้สึกคาดหวังเต็มเปี่ยมอยู่ภายในใจของหยวนโจว
หยวนโจวอ่านหนังสือต่อไปแล้วผ่อนคลายจนกระทั่งเซินหมินปิดร้านแล้วออกไปขึ้นรถประจำทางก่อนที่เขาจะเริ่มไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
หยวนโจวนอนหลับสนิทเช่นเคย รุ่งเช้าเขาก็ตื่นมาออกกำลังกายแล้วเปิดร้าน เขาทำทุกอย่างตามปกติและไม่มีใครรู้ว่าวันนี้เขามีนัด
เมื่อเวลาอาหารกลางวันสิ้นสุดลง คุณเฉิงก็ถามเขาถึงเรื่องนั้นขึ้นมา
“อาจารย์หยวน วันนี้คุณจะไปเยือนร้านซูไหมครับ?” คุณเฉิงถามขึ้นด้วยสีหน้าขัดอกขัดใจ
“อืม” หยวนโจวพยักหน้า
“คุณอยากให้ผมไปด้วยไหมครับ?” คุณเฉิงถามอย่างเอาจริงเอาจัง
หยวนโจวไม่ตอบคำถามในทันที เขาหันไปมองคุณเฉิงด้วยท่าทีสงสัย
ใช่แล้วล่ะ เขาสงสัยเพราะปกติคุณเฉิงจะต้องหาข้ออ้างไปด้วยกันแทนที่จะมาถามว่าจะให้เขาไปด้วยไหม
หยวนโจวเข้าใจความลังเลที่ปรากฏบนใบหน้าของคุณเฉิงจึงไม่ได้พูดอะไรมาก เขาตอบตามตรงว่า “ไม่ต้องหรอกครับ”
“โอเค งั้นผมจะพาคุณไปส่งที่นั่นก็แล้วกันนะครับ ผมรู้จักทางไปพอดี” คุณเฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วยื่นข้อเสนอขึ้นมา
อันที่จริงแล้วคุณเฉิงไม่อยากไปร้านซูเลยสักนิดเดียว
“ผมจะขึ้นรถแท็กซี่ไปครับ” หยวนโจวกล่าวขึ้นมา
“ไม่ได้นะครับ ผมสมควรต้องขับรถไปส่งคุณที่นั่น” คุณเฉิงกล่าวด้วยความเบิกบานใจ
“ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกครับ คุณไม่ใช่ลูกศิษย์ของผมเสียหน่อย” หยวนโจวพูดซ้ำ
“ผมรู้ครับ ผมแค่รู้สึกไม่ค่อยดีที่มาเรียนรู้ทักษะของคุณเปล่าๆเลยอยากจะทำอะไรให้คุณบ้าง อย่าห้ามผมเลยนะครับ” คุณเฉิงคุ้นเคยกับการบอกปัดของหยวนโจวแล้ว เขายังคงยื่นข้อเสนออย่างจริงจัง
“ก็ได้” หยวนโจวตอบตกลง
ในความคิดเห็นของเขา อันที่จริงแล้วคุณเฉิงได้เรียนรู้ทักษะมามากมายแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการสั่งสอนเลยก็ตามที
นี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้หยวนโจวมักจะเรียกคุณเฉิงมาดูเขาตอนทำอาหาร
“ดีเลย ไปเปลี่ยนชุดเถอะครับ ผมจะรออยู่ที่นี่แหละ” คุณเฉิงกล่าวขึ้นมา
“อืม” หยวนโจวพยักหน้าแล้วขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำ หลังจากเขาหยิบตะเกียบกับช้อนแล้วก็ลงไปชั้นล่าง
“ไปกันเถอะครับ” หยวนโจวเดินนำหน้าแล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังสี่แยกถนน
เห็นได้ชัดเลยว่านับตั้งแต่ร้านหยวนโจวมีชื่อเสียงขึ้นมา สภาพเศรษฐกิจของถนนสายนี้ก็กลับมาคึกคักดังเดิมตามด้วยความเฟื่องฟูของทั้งเขต
ข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนของเรื่องนี้ก็คือฝั่งตรงข้ามของถนนเถ่าซือมีลานจอดรถขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา ธุรกิจลานจอดรถแห่งนี้ดีมากเลยทีเดียว อย่างเช่นลานจอดรถในย่านการค้าก็จะเต็มไปด้วยยวดยานพาหนะทุกวัน
คุณเฉิง หลิงหงและเจิ้งเจียเหว่ยผู้จัดการของอู๋ไห่ต่างได้ที่จอดรถอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่พึ่งพาอาศัยเส้นสายของหลิงหง
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถจอดรถได้อย่างง่ายดายเมื่อใดก็ตามที่พวกเขามากินอาหารที่ร้านหยวนโจว
ตอนนี้หยวนโจวกับคุณเฉิงกำลังมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถเนื่องจากรถยนต์ของคุณเฉิงจอดอยู่ที่นั่น
“อาจารย์หยวน ผมจะไปเอารถก่อนนะครับ โปรดรอสักครู่” คุณเฉิงกล่าวขึ้นหลังจากมองไปที่ถนน
“โอเค ระวังตัวด้วยนะครับ” หยวนโจวกล่าวขึ้น
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมเป็นคนขับที่รอบคอบมากเชียวล่ะ” คุณเฉิงพยักหน้าแล้วกล่าวขึ้นมา
หยวนโจวไม่ตอบ เขาพยักหน้าแล้วคุณเฉิงก็ออกไป
หลังจากคุณเฉิงออกไปแล้ว หยวนโจวก็บ่นพึมพำด้วยความสงสัยว่า “ฉันสงสัยจังเลยว่าวันนี้คุณเฉิงเป็นอะไรกันแน่ เขาดูไม่อยากไปเยือนร้านซูเอาเสียเลย”
ใช่แล้วล่ะ คุณเฉิงเป็นคนที่เข้าใจได้ง่าย ถึงแม้ว่าหยวนโจวจะไม่ได้ถามเรื่องนั้นออกไป แต่เขาก็ยังอยากรู้อยู่ดีนั่นแหละ
ถึงอย่างไรแต่ก่อนคุณเฉิงก็จะใคร่ครวญทุกสิ่งทุกอย่างเพียงเพื่อให้เขาสามารถติดตามหยวนโจวไปได้แม้ว่าหยวนโจวกำลังจะไปที่ไหนสักแห่งที่เขาไม่อยากจะไปก็ตามที แน่นอนว่าเขาจะทำเรื่องทั้งหมดโดยไม่รบกวนหยวนโจวแต่อย่างใด
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่หยวนโจวเห็นคุณเฉิงไม่อยากไปที่ไหนสักแห่ง อันที่จริงแล้ว คุณเฉิงกับร้านซูก็ให้ความรู้สึกเหมือนเจ้าซุปกับเจ้าแมวที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติของมันนั่นแหละ
ใช่แล้วล่ะ ศัตรูตามธรรมชาติของเจ้าซุปก็คือเจ้าแมวจรจัดนั่นเอง เจ้าแมวสีส้มที่แสนจะปราดเปรียวและแข็งแรงช่างดุร้ายเป็นอันมาก
หยวนโจวเคยเห็นการต่อสู้ระหว่างเจ้าซุปกับเจ้าแมวด้วยตนเองมาแล้ว
ขณะที่หยวนโจวกำลังคาดเดาอยู่ในใจนั้น คุณเฉิงก็มาจอดรถอยู่ตรงหน้าหยวนโจว
“ขึ้นรถเลยครับ อาจารย์หยวน” คุณเฉิงรีบลงจากรถมาเปิดประตูให้หยวนโจว
“คราวหน้าผมเปิดประตูเองก็ได้ครับ” หยวนโจวกล่าวขึ้น
“ได้ครับ ได้ครับ ไว้คราวหน้าผมค่อยให้คุณเปิดประตูนะครับ” คุณเฉิงกล่าวพลางยิ้มกว้าง แน่นอนว่าคราวหน้าเขาก็ตั้งใจที่จะเปิดประตูให้หยวนโจวอยู่ดีนั่นแหละ
หยวนโจวไม่กล่าวอะไรอีกแล้วเข้าไปนั่งในรถ
ร้านหยวนโจวกับร้านซูอยู่คนละเขตกัน ร้านซูตั้งอยู่ตรงถนนเคอหัว และในการจะไปถึงที่นั่นได้ พวกเขาต้องข้ามสะพานทั้งสองแห่ง ถึงแม้ว่าคุณเฉิงจะไม่ได้เร่งความเร็วแต่ก็ใช้เวลาไม่นานนักกว่าจะไปถึง
รถยนต์หยุดลงตรงหน้าอาคารสูงหลายชั้นแห่งหนึ่ง
“อาจารย์หยวน ร้านซูอยู่ด้านหลังอาคารสูงหลายชั้นหลังนี้ มันเป็นอาคารสามชั้นแถมร้านยังมีการออกแบบที่ดูโบร่ำโบราณทำให้สังเกตเห็นได้ง่ายด้วยครับ” คุณเฉิงกล่าวขึ้น
“อืม” หยวนโจวพยักหน้าแล้วเปิดประตู
“อาจารย์หยวน…” คุณเฉิงอ้าปากแต่เขาก็เริ่มลังเลขึ้นมาอีก ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้พูดจนจบประโยค เขาก็ถูกหยวนโจวขัดจังหวะ
“กลับบ้านดีๆนะครับ” หยวนโจวกล่าวแล้วปิดประตู
หยวนโจวรู้ว่าคุณเฉิงอยากจะพูดอะไร เขาเพียงแค่รู้สึกละอายใจที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างอาจารย์ของตนก็เท่านั้นเอง แต่เนื่องจากหยวนโจวได้บอกคุณเฉิงไปแล้วว่าคุณเฉิงหาใช่ลูกศิษย์ของเขาไม่จึงหาต้องใส่ใจเรื่องนั้นแต่อย่างใด
“ลาก่อนครับ อาจารย์หยวน เสร็จแล้วโทรหาผมได้เลยนะครับ ผมจะมารับคุณเอง” คุณเฉิงขึ้นรถแล้วกล่าวออกมา
“ไม่ต้องหรอกครับ กลับไปเถอะ” หยวนโจวโบกมือแล้วปฏิเสธ
คุณเฉิงมองหยวนโจวเดินผ่านไปก่อนที่เขาจะออกรถไป
หากเขายังจอดรถอยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่แคล้วได้ใบสั่งแหงๆ
ด้านหน้าของตัวอาคารเป็นจัตุรัสกลางเมืองขณะที่ลานจอดรถตั้งอยู่ชั้นใต้ดินทางด้านขวาของอาคาร ดังนั้นย่อมไม่เหมาะสมนักที่จะมาจอดรถอยู่ในจัตุรัสกลางเมือง
หยวนโจวเดินข้ามจัตุรัสกลางเมืองไป ทางด้านข้างเป็นทางเดินที่มีป่าไผ่ซ่อนตัวอยู่ค่อนข้างมาก ฤดูใบไม้ผลิเพิ่งจะมาถึงแต่ต้นไผ่ที่มีกลับเขียวชอุ่มมากเสียแล้ว