อยากกินไหมล่ะ - บทที่ 888 ช่างไม้ชื่อดัง
อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 888 ช่างไม้ชื่อดัง
“นายไม่กลับไปกินอาหารที่บ้านหรือไง? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เล่า?” หยวนโจวถามขึ้นมาตามตรง
“อะฮ้า เดี๋ยวถึงเวลานายก็รู้เองแหละน่า” หลิงหงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกล่าวออกมา
“ฉันเข้าใจล่ะ” ทันทีที่หยวนโจวเห็นรอยยิ้มของหลิงหง เขาก็ไม่อยากถามอะไรเขาอีกแล้วจึงตอบไปง่ายๆ
ไข่ต้มชาสมุนไพรมักจะเสิร์ฟได้อย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาถามหลิงหงจบ หยวนโจวก็ตักไข่ต้มชาใส่จานใบเล็กๆ และทันใดนั้นเองเขาก็เติมน้ำซุปชาเต็มช้อนลงบนไข่ต้มชา
น้ำซุปชาเป็นน้ำตาลเข้ม แทรกซึมเข้าสู่ไข่ต้มชาผ่านรอยแยกของเปลือกไข่แล้วไหลลงสู่จานพร้อมๆกับไข่ขาวเนื้อเนียนนุ่ม
ส่วนก้นจานสีน้ำเงินแกมเขียวอ่อนครอบคลุมไปด้วยชั้นน้ำซุปชาสีน้ำตาลเข้มในทันทีซึ่งดูกระจ่างสดใสทั้งยังส่งกลิ่นหอมของชาอีกต่างหาก
“สมชื่อชาดำคีมุนแล้วจริงๆ ทั้งรสชาติและรูปลักษณ์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง” หลิงหงสุดกลิ่นหอมของชาเข้าไปลึกๆแล้วอดที่จะชื่นชมออกมาไม่ได้
ส่วนไข่ต้มชาสมุนไพรที่หยวนโจวเป็นคนเตรียมขึ้นมาไม่เพียงแต่จะรสชาติดีเท่านั้น แต่ยังมีรูปลักษณ์ที่เจริญตาอีกด้วย ส่วนเปลือกไข่ที่แตกออก น้ำซุปชาสีน้ำตาลเข้มก็จะแทรกซึมเข้าสู่รอยแยกในไข่ต้มชาขณะที่ต้มอยู่ ผลก็คือน้ำซุปชาทิ้งภาพสีน้ำตาลสวยงามเอาไว้บนไข่ขาวนั่นเอง
“ฉันมาที่นี่เพื่อมาตรวจสอบดูว่าวันนี้จะเป็นภาพอะไรต่างหากเล่า” ขณะที่กล่าวออกมาเช่นนั้น หลิงหงก็เริ่มปอกเปลือกไข่
“แคร่ก แคร่ก แคร่ก” หลิงหงใช้ตะเกียบเคาะเบาๆให้เปลือกไข่เปิดอ้าออกมาแล้วกำจัดเปลือกไข่ทั้งหมดพร้อมเยื่อหุ้มไข่ออกไปทันที
“ขอฉันดูหน่อยซิว่าเป็นอะไร” หลิงหงกลิ้งไข่ในจานไปมา
เส้นสีน้ำตาลเข้มขึ้นบนและลงล่างจนแลดูเหมือนเกลียวคลื่นขนาดมหึมาพร้อมๆไปกับการกลิ้งไข่ไปมา ใช่แล้วล่ะ วันนี้เป็นภาพมหาสมุทรนั่นเอง
“ฮ้า วันนี้ดูเหมือนมหาสมุทรเลยล่ะ” หลิงหงกลิ้งไข่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความพึงพอใจแล้วค่อยๆชื่นชมไปทีละหน่อย
อาจจะเป็นทั้งความชื่นชมและความอยากกินก็ได้ที่เป็นสาเหตุทำให้หลิงหงชอบมันมากเสียขนาดนั้น แน่นอนว่านั่นหาใช่จุดประสงค์ที่หลิงหงมากินไข่ต้มชาสมุนไพรในวันนี้หรอก อันที่จริงแล้ว เขากินเพื่อให้หลงเหลือกลิ่นหอมของชาเอาไว้จะได้ไม่ลืมเลือนรสชาติของชาดำคีมุนนั่นเอง
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมนั้น หลิงหงไม่มีหน้าที่ต้องมาคอยบอกสาเหตุแต่อย่างใด เขาแค่กินไข่ต้มชาสมุนไพรให้หมดแล้วรีบเดินออกจากร้านไป
เมื่อมองจากด้านหลังจะเห็นเขาวิ่งด้วยความสบายอกสบายใจ แต่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ยกเว้นหลิงหงที่มีท่าทีแปลกๆ กิจการในช่วงมื้อค่ำดีเช่นเคย ดังนั้นกิจการในช่วงเวลาเปิดให้บริการของผับจึงเป็นไปตามปกติ
เมื่อนึกถึงตู้ที่เขากำลังจะไปซื้อในวันถัดมาแล้ว หยวนโจวก็เข้านอนอย่างเป็นสุขแล้วหลับสนิทตลอดทั้งคืน
เช้าวันถัดมา หยวนโจวไม่ไปตลาดทันทีหลังจากมื้อเช้าสิ้นสุดลง แต่เขากลับเตรียมตัวที่จะไปซื้อตู้หลังเที่ยงวัน ถึงอย่างไรเขาก็มีเวลาเหลือเฟือในตอนบ่ายจึงสามารถทำเช่นนี้ได้
ดังนั้นเขาจึงขึ้นชั้นบนไปเตรียมข้าวของให้เรียบร้อยแล้วออกจากท้ายตรอกทันทีที่เวลาอาหารกลางวันสิ้นสุดลง
“ซุป ฉันจะออกไปข้างนอกนะ” หยวนโจวทักทายเจ้าซุปที่อยู่ตรงประตูหลังแล้วเดินจากไป
เขาเดินไปที่หัวมุมถนนแล้วหยุดเรียกรถแท็กซี่ก่อนที่จะบอกจุดหมายปลายทางของเขาให้คนขับได้ทราบ
“มะฮอกกานี เฟอร์นิเจอร์ซิตี้ครับ” หยวนโจวกล่าวขึ้นมา
“โอเค คุณจะไปซื้อเฟอร์นิเจอร์งั้นรึ?” คนขับพยายามที่จะคุยกับเขา
“อืม” หยวนโจวพยักหน้า
“เจ้าหนุ่ม เฟอร์นิเจอร์ที่นั่นแพงระยับเลยนะแถมคุณภาพยังไม่ดีอีกต่างหาก ทำไมคุณถึงไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานีที่นั่นเสียเล่า?” คนขับเริ่มการสนทนาขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นหยวนโจวพยักหน้า
“จริงเหรอครับ?” หยวนโจวมองคนขับแล้วถามออกไปซื่อๆ
“ผมรู้สึกว่าคุณดูคุ้นๆนะ” คนขับหันไปมองหยวนโจวแล้วจู่ๆก็กล่าวด้วยความสับสนก่อนที่เขาจะได้รับคำตอบ
“ไม่แปลกหรอกครับ ใครๆก็บอกว่าผมดูคุ้นๆทั้งนั้นแหละ คุณครับ งั้นผมจะสามารถหาซื้อเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีได้จากที่ไหนล่ะครับ?” หยวนโจวพยักหน้าแล้วกล่าวเบาๆ
“อืม อืม คุณดูคุ้นๆจริงๆ ผมไม่ได้โกหกคุณนะ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงระยะทางไกลๆหรอก ยังมีพวกต้มตุ๋นอยู่ที่นั่นอีกตั้งเยอะตั้งแยะเลยเชียวล่ะ” ความสนใจของคนขับเบนกลับมาที่เรื่องของหยวนโจว
“งั้นผมควรจะไปที่ไหนดีล่ะครับ?” หยวนโจวถามขึ้นมาตามตรง
“แน่นอนว่าต้องเป็นตลาดขายส่งจินฟาอยู่แล้วล่ะครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นตลาดของสินค้าสารพัดสารเพ แต่คุณก็ยังสามารถหาร้านเฟอร์นิเจอร์ที่นั่นได้มากมายแถมยังมีคุณภาพยอดเยี่ยมอีกต่างหาก” คนขับกล่าวอย่างจริงจัง
“ตลาดขายส่งจินฟางั้นรึ?” หยวนโจวรู้สึกว่าเป็นชื่อที่ฟังดูคุ้นๆจึงพึมพำออกมา
“อืม นั่นแหละ คุณอยากไปที่นั่นไหมล่ะครับ? ผมจะได้เลี้ยวกลับไป” คนขับพยักหน้าแล้วถามขึ้นมา
“เอาล่ะครับ งั้นก็ไปตลาดขายส่งจินฟากันเถอะครับ” หยวนโจวกล่าว
“รับทราบครับ พวกเรากำลังจะไปจินฟากันตอนนี้ล่ะ” มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนขับ เขาเลี้ยวรถไปเรื่อยๆแล้วเข้าสู่ถนนอีกสายหนึ่ง
คนขับชอบชายหนุ่มที่รับฟังคำแนะนำของเขาผู้นี้เอามากๆจึงพูดคุยกับเขาเสียเยอะแยะ เขาเอาแต่คุยกับหยวนโจวเรื่องข่าวสารบ้านเมืองในปัจจุบันไปตลอดทาง
และหยวนโจวก็ยังคงตอบไปเรื่อยๆ แต่ในใจเขากลับคิดอีกเรื่องหนึ่ง
“ช่างฝีมือที่ประธานโจวเคยพูดถึงดูเหมือนจะอยู่ในตลาดจินฟานี่นา” หยวนโจวกล่าวอยู่ในใจ
โจวซื่อเจี๋ยเคยเล่าให้หยวนโจวฟังว่าเขาเตรียมเฟอร์นิเจอร์ชุดหนึ่งให้เป็นสินเดิมของบุตรสาวของเขาและช่างฝีมือชราในตลาดจินฟาแห่งนี้ก็เป็นคนที่ทำขึ้นมาเองเชียวล่ะ
ถึงจะไม่ใช้ตะปูหรือไม้คันชั่ง เขาก็สามารถทำเฟอร์นิเจอร์ด้วยเทคนิคข้อต่อชนิดเจาะรูกับเดือยแบบดั้งเดิม หยวนโจวเคยค้นหาในอินเตอร์เน็ตและรู้มาว่าข้อต่อชนิดเจาะรูกับเดือยทั้ง 72 แบบถูกคิดค้นขึ้นโดยหลู่ปันคนดังในอินเตอร์เน็ต ดูเหมือนว่าไม่ว่าใครก็สามารถเชี่ยวชาญในงานฝีมือได้ด้วยลอกเลียนแบบโครงสร้าง แต่มีเพียงคนที่รู้จักวงการนี้เท่านั้นที่รู้ว่าช่างแสนยากลำบากมากเพียงใด
หยวนโจวไม่รู้เรื่องวงการงานไม้หรอก แต่เขาก็ไม่เคยดูถูกข้อต่อชนิดเจาะรูกับเดือยที่นับได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของชาวจีนเลยสักนิดเดียว
โจวซื่อเจี๋ยบอกว่าเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ทำขึ้นมาล้วนแล้วแต่มีคุณภาพดีมากเชียวล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโต๊ะเครื่องแป้งที่ใช้ข้อต่อชนิดเจาะรูสามตัวกับเดือยเจ็ดตัว
อันที่จริงแล้ว หยวนโจวก็ไม่รู้หรอกว่าข้อต่อชนิดเจาะรูสามตัวกับเดือยเจ็ดตัวจะต่างจากที่เฮงุจิโชวสุดยอดสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่ใช้ข้อต่อชนิดเจาะรูกับเดือยกันไปทั่วจนเป็นที่ชื่นชมของต่างชาติอีกด้วย
และหยวนโจวก็ไม่รู้ด้วยว่ามีช่างฝีมือน้อยลงเรื่อยๆแล้วที่จะสามารถทำเฟอร์นิเจอร์ด้วยข้อต่อชนิดเจาะรูกับเดือยเท่านั้น
โจวซื่อเจี๋ยคิดจะบอกหยวนโจวเกี่ยวกับเรื่องช่างฝีมือชราผู้นี้เมื่อตอนที่จู่ๆเขาก็พบว่าราวแขวนดอกไม้ในร้านหยวนโจวดูสวยมากทีเดียว
หยวนโจวยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่เลยเมื่อตอนที่พวกเขามาถึงที่หมายแล้ว
“เอี๊ยด…” รถยนต์จอดตรงทางเข้าตลาดจินฟาทันที
หลังจากจ่ายเงินแล้ว หยวนโจวก็ลงจากรถแล้วเดินออกไป และก่อนที่คนขับแท็กซี่จะออกรถไป เขาก็เปิดกระจกรถแล้วสกัดหยวนโจวเอาไว้ “เจ้าหนุ่ม เข้าไปตรงทางเข้าแล้วเดินตรงไปอีกสองซอย จากนั้นก็เข้าไปได้เลย ถนนสายนั้นเต็มไปด้วยคนขายเฟอร์นิเจอร์เลยเชียวล่ะแถมราคายังถูกแล้วก็ประหยัดอีกด้วย”
“ขอบคุณครับ” หยวนโจวพยักหน้า
“ด้วยความยินดี แต่คุณดูคุ้นๆจริงๆเลยนะ” หลังจากกล่าวเช่นนั้นแล้ว คนขับก็ปิดกระจกรถแล้วออกรถไป
จินฟาเป็นตลาดขายส่งที่ครอบคลุมมากทีเดียว ไม่ได้มีเพียงแค่เฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่ยังมีประตูไม้ กระเบื้องเซรามิก วอลเปเปอร์และอื่นๆด้วย สินค้าทางด้านในมีหลากหลายรูปแบบมาก แต่ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับการตกแต่งเสียมากกว่า
หยวนโจวเดินผ่านถนนไปอีกสองสายแล้วเตรียมมองหาช่างฝีมือที่โจวซื่อเจี๋ยเอ่ยถึง
โจวซื่อเจี๋ยแค่บอกหยวนโจวว่าช่างฝีมือผู้นี้มีแซ่ว่าเหลียนแถมไม่ได้บอกที่ตั้งร้านมาอีก แต่เขาบอกว่าหยวนโจวย่อมรู้ได้เองว่าเป็นช่างไม้ตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็นช่างฝีมือผู้นี้เลยเชียวล่ะ
รูปลักษณ์ภายนอกของชรามีความแตกต่างอย่างไรกันที่ทำให้สามารถรู้ได้ว่าเป็นเขาตั้งแต่แวบแรกที่เห็น? ถึงอย่างไรหยวนโจวก็เป็นคนธรรมดาๆและเขาก็หาได้แจ่มแจ้งในเรื่องต่างอย่างเช่นแคลลัสแต่อย่างใด
“เขาดูเหมือนท่อนไม้เลยหรือไง?” หยวนโจวคอยเฝ้าสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนระหว่างที่กำลังเดินไปข้างหน้า
ด้วยสายตาอันเฉียบคม หยวนโจวจึงสามารถมองเห็นผู้คนในร้านต่างๆได้แม้ว่าเขาจะไม่เข้าไปก็ตามที และบางครั้งหยวนโจวก็จะยืนอยู่ตรงประตูสักพักแล้วคอยเฝ้าสังเกตผู้คนทางด้านในอย่างละเอียด
หยวนโจวอยู่ตามลำพังตัวคนเดียวจึงไม่มีใครออกมาทักทายเขา ถึงอย่างไรเขาดูไม่เหมือนคนที่จะมาซื้อของทีละมากๆ
ดังนั้นหยวนโจวจึงสามารถคอยเฝ้าสังเกตถนนอยู่เงียบๆได้ มีคนในถนนสายเฟอร์นิเจอร์ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ทว่าก็ยังเต็มไปด้วยเสียงดังมากอยู่ดี นี่ก็เป็นเพราะเสียงเครื่องจักรที่สามารถได้ยินเป็นบางครั้งบางคราวนั่นเอง
หลู่ปัน (鲁班) เป็นบรรพชนแห่งช่างไม้ทั้งมวล เขาเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือทั้งหลายของช่างไม้มากว่าหลายพันปีมาแล้ว