Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง - ตอนที่ 202
งานประมูลของนิกายกระถางปรุงโอสถเป็นไปอย่างเงียบเหงา
ภายในหอคอยสีทอง ปกติจะเต็มไปด้วยผู้คนคึกคัก แต่ตอนนี้มีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 2 พันคน
บรรยากาศที่เงียบเหงาเช่นนี้ ทำให้การประมูลไม่คึกคัก
ผู้ที่ดำเนินงานประมูลคือชายชราชุดเงิน แซ่หลิง เรียกขานว่าผู้เฒ่าหลิง ชายชราเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง ในทะเลส่วนนอกแห่งนี้ ชายชรานับเป็นผู้ดำเนินงานประมูลที่ไม่โด่ดเด่น
ในงานประมูลแต่ละครั้ง นิกายกระถางปรุงโอสถจะนำกระถางขัดเกลาในขอบเขตแก่นทองคำและประสานวิญญาณมาร่วมร้อยคน และผู้ที่จะทำให้งานประมูลเป็นไปอย่างดุเดือด คือกรถางขัดเกลาในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม
กระถางขัดเกลาในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มเป็นที่ต้องตาของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณและผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม
หากผู้ดำเนินงานประมูลไม่แข็งแกร่งพอ ก็ยากจะรักษาความสงบในงานได้
ในหอคอยแห่งนี้มีการจัดสถานที่อวดโฉมกระถางขัดเกลา 3 ลำดับขั้น ขั้นแรกเป็นตำแหน่งที่นั่งของกระถางขัดเกลาในขอบเขตประสานวิญญาณ ขั้นสองเป็นที่นั่งของกระถางขัดเกลาในขอบเขตแก่นทองคำ และขั้นสุดท้าย เป็นที่นั่งของกระถางขัดเกลาขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม
หนิงฝานนำเย่หลิงและชุ่ยหลิงไปยังห้องรับรองพิเศษของหอคอย ที่นั่นจะมีข่ายอาคมบดบัง แต่ยังมองเห็นเหล่ากระถางขัดเกลาที่อยู่เบื้องล่างได้
ยามนี้ชื่อเสียงของซัวหมิงโด่งดังไปทั่วทะเลส่วนนอก แต่ยังไม่มีผู้ใดได้เห็นหน้า แม้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจะเรียกขานนามซัวหมิงอย่างคุ้นเคย แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้จัก
เพราะผู้ที่ก้าวล่วงเข้าไปในเขตสัมผัสกระบี่ของหนิงฝาน พวกมันล้วนไม่รอดชีวิตกลับมา
แม้ผู้คนจะพยายามคาดเดาที่มา แต่ก็ยังไม่มีใครรู้อยู่ดี
“นายท่าน ข้าได้ยินมาว่ากระถางขัดเกลาแต่ละคนล้วนเป็นสตรีที่โดดเด่น กระถางขัดเกลาในขอบเขตประสานวิญญาณและดวงจิตแรกเริ่มมีสตรีที่งดงามอยู่หลายคน ตัวท่านที่มีหยกสวรรค์มากมาย คงจะเหมาซื้อพวกนางทั้งหมด แล้วตั้งวังสนมของท่านใช่มั้ย?”
ชุ่ยหลิงกล่าวด้วยความขุ่นเคือง
“ไม่หรอก… กระถางขัดเกลาในขอบเขตแก่นทองคำ ต่อให้ข้าดูดซับพลังจนหมด ก็เพิ่มพลังได้เพียงครึ่งเกาะ หลังจากนั้นพวกนางก็ไร้ค่า ฉะนั้นผู้ที่เป็นประโยชน์สมควรเป็นกระถางขัดเกลาในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม”
การขัดเกลาผสานคือการดูดซับพลังของอีกฝ่าย หากจะให้รักษาสภาพร่างกายที่สมบูรณ์เอาไว้คงเป็นไปไม่ได้ หากก่อตั้งวังสนมเหมือชุ่ยหลิง สตรีมากมายนับไม่ถ้วนจะถูกย่ำยีมากจนเกินไป กระทั่งกล่าวได้ว่าตนเองเป็นคนชั่วช้าสามานย์
“งั้นหมายความว่า ที่นายท่านขัดเกลาผสานกับพวกข้าก็ไม่เป็นประโยชน์เลยงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น… ทักษะบนเตียงของพวกเจ้าทำให้ข้าพอใจมาก” หนิงฝานยิ้มพลางจิบชา
ใบหน้าชุ่ยหลิงแดนระเรื่อ นางหวนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
“นายท่านต้องทำ…กับพวกข้าอีก…”
“วันนี้ยังทำไม่ได้ มีคนจับตาดูเราอยู่”
หนิงฝานหุบยิ้ม แววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา สัมผัสกระบี่สีดำพุ่งทะลวงห้องไป 3 ห้อง จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด 3 คนกระอักโลหิต สีหน้าตกตะลึง!
เป็นมันจริงๆ… มันคือซัวหมิง! มือสังหารที่โหดเหี้ยม!
ห้องพิเศษที่จัดอยู่บนชั้น 3 ของหอคอย มีอยู่ด้วยกันร่วม 100 ห้อง แต่ตอนนี้ มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจับจองเพียง 70 ห้อง
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดทั้งสามคนเมื่อครู่ไม่กล้าปริปาก หากซัวหมิงต้องการกระถางขัดเกลาคนใด พวกมันคงไม่กล้าประมูลแข่ง เพราะไม่ว่ายังไงพวกมันก็ไม่ร่ำรวยเหมือนซัวหมิง
พวกมันไม่โง่ พวกมันรู้ซัวหมิงคือชื่อปลอม! เพราะไม่มีคนฉลาดคนใดที่ใช้ชื่อจริงออกเข่นฆ่าสังหารเช่นนั้น
ผู้อาวุโสใหญ่แห่งนิกายอักขระม่วง…หลัวเฟย ที่หนิงฝานสังหารไปนั้น เป็นผู้มีชื่อเสียงในทะเลส่วนนอก ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็ไม่กลั่วยั่วยุ เพราะการที่มันได้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ของนิกาย หมายความว่าต้องมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณหนุนหลัง
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดทั้งสามคนที่หนิงฝานจู่โจมเมื่อครู่ ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าหลัวเฟย
ต่อให้พวกมันร่วมมือ ก็ยังไม่สามารถเอาชนะหลัวเฟยได้ในร้อยกระบวนท่า ต่อให้พวกมันสังหารหลัวเฟยได้ ก็ยังเอาชีวิตของหลัวเฟยไม่ได้
ในเมื่อหลัวเฟยยังไม่อาจสู้ซัวหมิงได้ แล้วพวกมันจะไปสู้ได้ยังไง
หากผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดถูกสังหาร ดวงจิตแรกเริ่มที่สละร่างจะหลบหนีได้รวดเร็วเป็นเท่าทวี มีเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเท่านั้นที่ไล่จับทัน
การที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดได้ มีเพียงสองกรณีเท่านั้น
อย่างแรกคือมีไพ่ตายในมือ ที่สามารถเปล่งการจู่โจมเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้ และอย่างคือ ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณอยู่ข้างกาย
โดยทั่วไป หลัวเฟยไม่ใช่คนโง่ ที่มันคิดลงมือกับหนิงฝาน เพราะมีหยกสวรรค์จำนวนมากเป็นเดิมพัน
แต่สุดท้ายมันก็แพ้…
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาซดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดทั้งสามคนนั้นถึงได้กลัวหนิงฝาน…
นิกายกระถางปรุงโอสถ มีผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม และมีกระถางขัดเกลาในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม
แต่นอกจากนิกายกระถางปรุงโอสถแล้ว ยังมีหลายขุมกำลังที่มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม หนึ่งในนั้นคือเกาะมุกหยกฟ้า ซึ่งเป็นแหล่งรวมของสตรี
ซึ่งเกาะมุกหยกฟ้าสมควรมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มมากมาย
สำหรับผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมนั้น สตรีเปรียบดั่งกระถางขัดเกลา แต่เหตุที่พวกนางอยู่ร่วมกับขุมกำลังต่างๆได้อย่างสงบสุข แสดงว่าพวกนางไม่ธรรมดา
ต่อให้ไม่มีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของนิกายได้ นั่นหมายความว่าพวกนางบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่
หากให้หนิงฝานใช้ทหารศิลาไปปล้นนิกายใหญ่ทั้ง 10 หรือเกาะมุกหยกฟ้า อัตราความสำเร็จคงไม่สูงนัก เพราะฝนขุมกำลังเหล่านี้ สมควรมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณซ่อนตัวอยู่ หากหนิงฝานจะปล้นชิงสำเร็จนั้น เขาคงต้องบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณเสียก่อน
“ข้าและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณยังห่างชั้นเกินไป อย่างมากก็แค่รับมือได้แค่ 3 ลมหายใจ…” หนิงฝานหวนนึกถึงยามที่ต่อสู้กับทหารศิลา
หากไม่ได้หลั่วโยว่ช่วย หนิงฝานคงทำได้เพียงใช้เพลิงหยินหยาง แลกการจู่โจมกับทหารศิลา โดยที่ทำให้ทั้งคู่บาดเจ็บ
วิชาตรึงสวรรค์ และวิชาไร้ทุกข์แด่ความตาย หลั่วโยว่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ส่วนวิชาที่ใช้จัดการกับทาสรับใช้นั้น ก็ดูเหมือนนางจะได้มาโดยบังเอิญ
นางถ่ายทอดวิชาให้หนิงฝานแล้ว หากครั้งหน้าเขาได้พบกับทาสรับใช้เช่นทหารศิลาอีก ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ หนิงฝานก็จัดการได้
นอกจากนี้ นางยังถ่ายทอดเคล็ดความของวิชากระบี่เพลิงให้หนิงฝานด้วย
สิ่งที่เขาจะตอบแทนนางได้มีเพียงสิ่งเดียว… คือเร่งทำให้วิชาแปลงหยินหยางบรรลุขอบเขตที่ 3 เพื่อทำให้เขาสามารถเปิดโลกหยินได้!
ดังนั้น หนิงฝานต้องใช้กระถางขัดเกลาเป็นจำนวนมหาศาล!…
ผู้อาวุโสหลิงกระแอม บรรยากาศในงานประมูลเงียบสงัด งานประมูลที่แท้จริงได้เริ่มขึ้น
“ข้าจะไม่กล้าถึงกฏการประมูลให้มากความ… การประมูลครั้งนี้ จะเปิดประมูลเพียงกระถางขัดเกลาในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงขึ้นไป ส่วนกระถางขัดเกลาที่มีระดับต่ำลงมานั้น ผู้ใดต้องการข้าจะขายให้… กระถางขัดเกลาขอบเขตประสานวิญญาณมีราคาอยู่ที่ 5 พันหยกสวรรค์ แก่นทองคำขั้นต้น 5 หมื่นหยกสวรรค์… เอาหล่ะ… ข้าขอประกาศเริ่มงานประมูล และเริ่มประมูลกระถางขัดเกลาขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูง ผู้ใดต้องการ เชิญเสนอราคา!”
เมื่อผู้อาวุโสหลิงกล่าวจบ งานประมูลก็เต็มไปด้วยเสียงตะโกน
เดิมทีนิกายกระถางปรุงโอสถจะไม่ขายกระถางขัดเกลาขอบเขตประสานวิญญาณ ด้วยเพราะเกาะเผิงไหลแห่งมีมีปราณอุดมสมบูรณ์ การที่ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณจะยกระดับเป็นแก่นทองคำจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี หากกระถางขัดเกลาบรรลุขอบเขตแก่นทองคำ ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นนับ 10 เท่า
แต่การที่นิกายกระถางปรุงโอสถนำมาขายเช่นนี้ ก็เพื่อไม่อยากให้ผู้ที่มากลับไปมือเปล่า
เป้าหมายของผู้ที่มาร่วมงานประมูลย่อมมีเพียงสิ่งเดียว ดังนั้นจึงต้องได้สิ่งนั้นกลับไปบ้าง
ซัวหมิงผู้สังหารผู้เชี่ยวชาญไปมากมาย จนทำให้ขุมกำลังในทะเลส่วนนอกโกรธแค้น เมื่อประมูลกระถางขัดเกลาเสร็จ สมควรเร่งกลับเข้าไปยังทะเลส่วนใน เพื่อหลบเลี่ยงภัยพิบัติที่จะตามมา…
การที่นิกายกระถางปรุงโอสถประกาศขายกระถางขัดเกลาในขอบเขตแก่นทองคำถือเป็นเรื่องดี เพราะผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่ไม่มีปัญญาประมูลกระถางขัดเกลาในขอบเขตแก่นทองคำ ก็จะได้กระถางขัดเกลากลับไปเช่นกัน
สตรีที่งดงามหลายคนทยอยเดินขึ้นมาบนเวที พวกนางแต่ละคนสวมใส่กระโปรงสั้นที่เผยให้เห็นถึงชั้นในที่ใส่
เวทีการประมูลมีขนาดใหญ่ รองรับผู้คนได้นับพัน สตรีจำนวนมากขึ้นมาอวดโฉม พวกนางแต่ะคนล้วนงดงามต้องตา แม้เป็นสตรีด้วยกันยังหลงเสน่ห์
สตรีแต่ละคนห้อยป้ายที่คอ บนนั้นมีชื่อของพวกนาง หมายเลข ระดับพลัง อายุกระดูก ราคา และความสามารถพิเศษเขียนไว้ ให้ผู้ที่ต้องการประมูลตัดสินใจได้ง่าย
“โอ้โห! หมายเลข 3 ขนาดแค่ขอบเขตประสานวิญญาณยังงดงามราวกับนางฟ้า! ข้าว่า ถึงนางไม่เป็นประโยชน์ในการยกระดับพลัง แต่หากให้เป็นคนรับใช้ แค่นั้นก็คงมีความสุขมากแล้ว!”
“ข้าชอบหมายเลข 11 ฮ่าฮ่า เท้าก็เล็ก ขาก็งาม…”
“อืม… หมายเลข 105… แก่นทองคำขั้นต้น รูปร่างเย้ายวน เป็นประโยชน์กับการยกระดับพลังของข้า”
“หมายเลข 755 ก็ไม่ธรรมดา ถึงจะไม่เป็นประโยชน์กับการยกระดับพลัง แต่สมควรเติมเรื่องบนเตียงได้”
ผู้เชี่ยวชาญพูดคุยพลางมองเหล่าสตรีด้วยความหื่นกระหาย
แต่ในระหว่างนั้น สัมผัสเทพสายหนึ่งได้กวาดผ่านสตรีทุกคนบนเวที เจ้าของสัมผัสเทพคือหนิงฝาน
สตรีเหล่านี้สมควรถูกชิงตัวมาตั้งแต่เด็ก เพื่อฝึกให้เป็นกระถางขัดเกลา ชีวิตของพวกนางสมควรไร้ซึ่งความสุข ไร้ซึ่งความสบาย มีแต่ความอยุติธรรมในชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีผู้ใดกล้าบ่นกล่าว
ห้ามทรยศหักหลังผู้เป็นนายที่ซื้อตนไป… พวกนางถูกปลุกฝังมาเช่นนั้น
หนิงฝานหลับตา สตรีในขอบเขตแก่นทองคำไม่เป็นประโยชน์กับเขา เขาจึงไม่คิดจะซื้อพวกนาง
นอกจากนี้ หนิงฝานยังรู้สึกเศร้าใจกับพวกนาง ที่อีกไม่นานคงกลายเป็นเครื่องมือบำบัดความใครของคนเหล่านั้น พลังที่สั่งสมมาไม่เหลือ และตกตายอย่างน่าอนาถ แต่หากผู้ใดโชคดี ก็อาจมีชีวิตรอด แต่เป็นได้เพียงทาสบำบัดความใคร่เท่านั้น
พวกนางช่างโชคร้าย… โลกช่างไม่ยุติธรรม…
หากไร้พลังก็ไร้ที่ยืน… นี่คือกฏของโลกแห่งผู้ฝึกตน
เย่หลิงเผยสีหน้าเศร้าหมอง นางไม่กล้ามองสตรีเหล่านั้น ความทรงจำเมื่อครั้งที่อยู่ในนิกายจี๋หลิงหวนคืน
ส่วนชุ่ยหลิงแม้ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า แต่ความทรงจำเมื่อครั้งยังเยาว์ก็หวนคืน ครั้งนั้น…ผู้อาวุโสนิกายคนหนึ่งเมา เดินเข้ามาในห้องของนางและเตรียมจะล่วงเกินโดยที่นางไม่อาจขัดขืน แต่โชคดีที่ผู้ดูแลศิษย์ผ่านมาพอดี จึงช่วยนางได้ทัน ไม่อย่างนั้น…
สตรีจำนวนมากที่อยู่บนเวที อีกไม่นานคงเผชิญชะตากรรมที่เลวร้าย เพราะผู้เชี่ยวชาญมากมาย กำลังจับจ้องพวกนางด้วยแววตาหื่นกระหาย พวกมันยอมจ่ายเพื่อให้ได้พวกนางมาครอบครอง
“นายท่าน…ช่วยซื้อพวกนางได้หรือเปล่า!” ชุ่ยหลิงลุกยืน เดินมาหน้าหนิงฝานและคุกเข่า แววตาเศร้าหมองน่าสงสาร
มีคนเคยกล่าวว่า ผู้ใดที่ถูกตามใจ…ก็จะร้องขอให้ตามใจอยู่อย่างนั้น
ชุ่ยหลิงที่คุกเข่าต่อหน้าหนิงฝาน จึงทำให้เขาขมวดคิ้ว
หนิงฝานไม่ใช่คนดี เหตุใดต้องช่วยเหลือสตรีเหล่านั้น แม้การดูดซับพลังพวกนางจะช่วยยกระดับพลังได้เล็กน้อย แต่การจะดูดซับพลังจากพวกนางครบก็ยังต้องเวลา หากพวกนางมีพันคนจะต้องใช้เวลานานขนาดไหน?
“ท่านพี่… พอได้แล้ว…” เย่หลิงกลัวหนิงฝาน แม้หนิงฝานจะใจดีกับพวกนาง แต่นางรู้ดีว่าพวกตนไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะร้องขอสิ่งใดกับหนิงฝานได้
อีกอย่าง ยามนี้หนิงฝานไม่ใช่เด็กเหมือนก่อน แต่เป็นผู้ที่มีอายุเกือบ 300 ปีแล้ว
“น้องข้า… เจ้าลืมแล้วเหรอ ว่าในอดีตพวกเราต้องเจออะไรมาบ้าง” ชุ่ยหลิงขบฟัน นางหวาดกลัวหนิงฝาน นางไม่รู้ว่าหนิงฝานคิดอะไรอยู่
“ท่านพี่…” เย่หลิงขบฟัน นางใจอ่อนต่อผู้เป็นพี่ และร่วมคุกเข่าต่อหน้าหนิงฝานอีกคน “นายท่านโปรดยกโทษให้พี่ข้าด้วย…”
“พวกเจ้ารู้หรือเปล่า ถ้าจะซื้อพวกนางทุกคน อย่างน้อยๆต้องใช้ 30 ล้านหยกสวรรค์…” หนิงฝานส่ายหน้า
“30 ล้าน…” ชุ่ยหลิงหน้าซีด หยกสวรรค์มากขนาดนี้ ต่อให้ปล้นชิงทั้งแคว้นเยว่ก็ยังได้ไม่ถึง นางไม่รู้ว่าหนิงฝานมีหยกสวรรค์มากมายเท่าไหร่ แต่การที่จะให้เขาเอามันมาทุ่มเช่นนี้ นับว่าสูญเปล่า
“เด็กโง่ พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ… ไปหาพวกนางแล้วซื้อพวกนางทุกคนมาให้ข้า!”
“ข…ข้าเข้าใจ… เดี๋ยว! เมื่อครู่ท่านว่าอะไรนะ? ท่านยอมช่วยพวกนางจริงๆเหรอ?” ดวงตาชุ่ยหลิงเป็นประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อืม… ถ้าให้พวกเจ้าคุกเข่าอยู่แบบนี้ข้าคงปวดหัวแย่… แต่พวกเจ้าฟังไว้ให้ดี ข้าไม่ได้ช่วยพวกนาง ข้าซื้อพวกนางมาเป็นกระถางขัดเกลา ไม่ว่ายังไงข้าก็จะดูดซับพลังพวกนาง พวกเจ้าเข้าใจเหรือเปล่า?”
หนิงฝานยิ้มพลางเช็ดน้ำตาให้ชุ่ยหลิง
“ข้าเข้าใจ! แค่ให้พวกนางได้ปรนนิบัติท่าน ก็ถือเป็นโชคดีของพวกนางแล้ว” ชุ่ยหลิงพยักหน้าด้วยความดีใจ
“เจ้ายกย่องข้าเกินไปแล้ว เอาหล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า…” หนิงยิ้ม
“ในแหวนกระถางขัดเกลายังเหลือพื้นที่ให้พวกนางอยู่อาศัย พวกนางแต่ละคนล้วนเป็นกระถางขัดเกลาชั้นยอด แต่ระดับพลังยังต่ำเกินไป… ถึงอย่างนั้น การที่ซื้อพวกนางมาก็ยังคุ้มค่า หากพวกนางทั้งหมดบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม และข้าดูดซับพลังพวกนางในยามนั้น ข้าคงทะลวงขอบเขตตัดวิญญาณได้ง่าย ยิ่งเมื่อยามบาดเจ็บ การดูดซับพลังจากพวกนางก็ทำให้รักษาอาการบาดเจ็บได้เร็วขึ้น แต่การที่พวกนางจะบรรลุระดับนั้นยังต้องใช้เวลา… ข้าจะยกหน้าที่ให้เจ้าช่วยฝึกฝนพวกนางในแหวน เจ้าจะรับหน้าที่หรือเปล่า?”
“ข้ารับ! ข้าขอสัญญากับนายท่าน ว่าจะฝึกฝนพวกนางเป็นอย่างดี แต่ว่า… ข้าอยากให้นายท่านช่วยตั้งชื่อกลุ่มให้พวกข้าด้วย!”
“ชื่อกลุ่ม?” หนิงฝานหัวเราะพลางลูบสัมผัสศีรษะของชุ่ยหลิงด้วยความเอ็นดู เดิมทีเขาไม่คิดจะฝึกสตรีเหล่านั้นให้แข็งแกร่ง ชื่อกลุ่มจึงไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะขนาดแส้อัสนีของเขายังไม่มีชื่อ… หรือควรจะตั้งชื่อให้ด้วย?
“พวกเจ้ารีบไปได้แล้ว… นี่หยกสวรรค์ ไปซื้อพวกนางมาให้หมด หากล่าช้า คนพวกนั้นจะชิงพวกนางไปก่อน!”
“รับทราบ!” แล้วชุ่ยหลิงกับเย่หลิงก็เร่งนำกระเป๋าหยกสวรรค์ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกล่าวคำที่ทำให้งานประมูลคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
“กระถางขัดเกลาทั้ง 1,079 คน นายท่านของข้าต้องการทั้งหมด!”
งานประมูลเงียบสงัดราวกับป่าช้า
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนกล่าวไม่ออก ผู้ใดกันที่หิวโซขนาดจะเหมาสตรีนับพันไปครอบครอง
แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญหันมองไปยังต้นเสียงและพบว่าต้นเสียงมาจากชั้น 3 คนเหล่านั้นไม่กล้ากล่าว เพราะดูเหมือนจะมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่ต้องการพวกนาง
แต่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจะต้องการพวกนางไปทำไม?
เรื่องนั้นไม่มีใครกล้าถาม ผู้ที่กล้าส่งเสียงมีเพียงสตรีในขอบเขตแก่นทองคำขั้นกลาง แต่จากลักษณะแล้ว นางคงเป็นผู้รับใช้ของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม
นางถือกระเป๋าไว้ในมือ ในนั้นสมควรมีหยกสวรรค์หลาย 10 ล้าน
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่กล้าควักหยกสวรรค์นับหลาย 10 ล้านออกมาเหมาซื้อกระถางขัดเกลาเช่นนี้ สมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง
แม้จะโกรธแค้นไม่พอใจ แต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากหรือแสดงสีหน้า
หากไม่แข็งแกร่งพอก็คงไม่หยกสวรรค์หลาย 10 ล้าน
ผู้คนเดาว่า ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคงทุ่มเทฝึกฝนมานับพันปี และยามนี้คงหิวกระหายใครอยากกินสตรีนับพันในคราวเดียว… ยิ่งหิวกระหายก็ยิ่งคลั่ง ผู้ใดขวางคนเช่นนี้ก็เท่ากับตาย!
“สหายเต๋าช่างมั่งคั่ง… นับถือ… นับถือ…”
ผู้ที่กล่าวคือหนึ่งใน 3 ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดที่หนิงฝานจู่โจม
การที่มันเอ่ยปากกล่าว นับเป็นการประจบเอาใจ
คนผู้นั้นเป็นใคร?
หรือจะเป็นซัวหมิง… มือสังหารที่โหดเหี้ยมและเก่งกาจ!
ยิ่งผู้เชี่ยวชาญในงามขบคิดก็ยิ่งหวาดกลัว
ยามนี้ สตรีในอาภรณ์ขาวที่งดงามนางหนึ่ง กำลังเดินถือถุงหยกสวรรค์ออกมา แม้นางจะงดงามราวกับนางสวรรค์ แต่ไม่มีผู้ใดกล้ามอง
ในเมื่อเป็นสตรีของคนผู้นั้น ใครเล่าจะกล้าช่วงชิง ใครเล่าจะกล้ามอง
เมื่อทุกคนเริ่มคาดเดาว่าผู้ที่เหมาซื้อกระถางขัดเกลาคือผู้ใด พวกมันก็เร่งป้องมือไปยังตำแหน่งห้องของหนิงฝาน ก่อนจะเร่งออกจากนิกายกระถางปรุงโอสถอย่างรวดเร็ว และหนีจากเกาะเผิงไหลในทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุมาจากชื่อเสียง แม้ไม่เคยสัมผัส แต่ชื่อเสียงนั้นก็กลายเป็นตำนาน ที่สามารถขู่ขวัญผู้คนให้หวาดกลัวได้
แม้พวกมันจะไม่ได้เห็นหน้าซัวหมิง แต่พวกมันเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหลายพัน ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มอีก 12 คนถูกสังหารภายในวันเดียว
ทะเลส่วนนอกต้องปั่นป่วนโกลาหล เพราะผู้ที่ชื่อซัวหมิง…