Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 193
“ถึงเวลาสำหรับการเชื่อเส้นเลือดแล้ว”
“มาเย็บหลอดเลือดแดงก่อน”
“ ดึงมันออกมา…โอ้ดึงมันออกมาแล้ว”
“เอาล่ะถึงเวลาสำหรับการผ่าตัดที่ซับซ้อนที่สุด – การเย็บหลอดเลือด … ” ในช่วงสองชั่วโมงที่ผ่านมาของการผ่าตัดของหมอหวัง ไม่ได้ใช้เวลาพูดคุยเกี่ยวกับการผ่าตัดมากนักพวกเขาพึงพูดคุยไปเล็กน้อยเท่านั้นและยิ่งเขาพูดคุยมากเท่าใดเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น
หมอหวังกลับมาจริงจังอีกครั้งเมื่อถึงเวลาต้องเย็บหลอดเลือด เขาเริ่มพูดถึงประเด็นสำคัญสองสามข้อที่เกี่ยวข้องกับการเย็บหลอดเลือด
กงหมินและคนอื่น ๆ ฟังอย่างจริงจังพร้อมกับดูหน้าจอไปด้วย
แพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อเป็นมือให้เมื่อมันมาถึงการผ่าตัดปลูกถ่ายนิ้ว ความแตกต่างระหว่างพวกเขาและผู้มือให้ซึ่งเป็นแพทย์ฝึกหัดและแพทย์ประจำคือพวกเขาคุ้นเคยกับพื้นฐานรวมถึงแนวคิดในการทำศัลยกรรม ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจพื้นฐานของการผ่าตัดปลูกถ่ายนิ้วได้ง่าย แต่ก็ไม่ง่ายที่พวกเขาจะเชี่ยวชาญเมื่อเปรียบเทียบกับแพทย์ฝึกหัดและแพทย์ประจำแผนก
มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับศัลยแพทย์ที่จะเริ่มต้นจากการเป็นมือให้จนถึงระดับผู้เชียวชาญซึ่งผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนซ้ำ ๆ วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการมีคนสอนให้พวกเขาปฏิบัติจริงได้
มันก็เหมือนกันสำหรับทักษะทั้งหมดที่จะต้องมีการฝึกฝนเพื่อให้ได้เป็นผู้เชียวชาญ เมื่อคนหนึ่งไปถึงระดับสูงคน ๆ หนึ่งสามารถขัดเกลาทักษะของตนด้วยการรับคำชี้แนะจากอาจารย์
แน่นอนว่าทุกวันนี้ผู้คนไม่จำเป็นต้องผ่านพิธีศักดิ์สิทธิ์เพื่อรับรู้ว่าใครบางคนเป็นอาจารย์ของพวกเขา แต่พวกเขาจะพูดในความปรารถนาเพื่อให้อาจารย์ะสอนพวกเขาและวิธีการสอนของอาจารย์เหล่านั้น ซึ่งถ้าไม่มีความรู้เบื้องต้นที่ดีพอต่อให้อาจารย์สอนเขายังไงเขาก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้แน่นอน?
นั่นคือสถานการณ์ที่กงหมินและคนอื่น ๆ กำลังอยู่ในตอนนี้ พวกเขาต้องการได้ยินประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปลูกถ่ายนิ้วจากหมอหวัง แต่เนื่องจากหมอหวังรพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอื่นพวกเขาก็ต้องยอมฟังเพื่อให้หมอหวังพอใจ
ความยากลำบากอย่างหนึ่งที่ต้องอดทนเมื่อเรียนรู้ทักษะเป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดหลายพันปีในประวัติศาสตร์มนุษย์ มันเป็นเพียงว่าทักษะของพวกเขากำลังพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
“ เมื่อพูดถึงการเย็บหลอดเลือดภายใต้กล้องจุลทรรศน์คุณเพียงแค่ต้องฝึกซ้อมเพื่อฝึกฝนพื้นฐานในระยะเวลาสองสามเดือนพื้นที่ฝึกจำลองของโรงพยาบาลหยุนหัวนั้นถูกสร้างขึ้นเป็นพื้นที่ฝึกหัดสำหรับแพทย์รุ่นใหม่โดยเฉพาะหากคุณถามฉัน ฉันจะบอกว่ามันมีประโยชน์มาก … “หมอหวังใช้โอกาสคุยโม้เรื่องแผนกของตัวเอง
กงหมินก็เล่นไปกับคำพูดของเขาทันทีและพูดว่า “พื้นที่ฝึกซ้อมจำลองของโรงพยาบาลหยุนหัวนั้นมีชื่อเสียงมานานถ้าฉันมีโอกาสฉันอยากไปที่นั่นและลองดู”
“ผู้อำนวยการแผนกจินมีความตั้งใจที่จะขยายพื้นที่ฝึกอบรมการจำลองสถานการณ์ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร” หมอหวังกล่าวอย่างตั้งใจก่อนที่เขาจะเริ่มพูดเกี่ยวกับการผ่าตัดอีกครั้ง “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ที่ฝึกการเย็บหลอดเลือดในพื้นที่ฝึกจำลองคือการเชื่อมต่อหลอดเหลือดอาจเกิดปัญหาได้เสมอ… “
หมอหวังไม่คิดจะหยุดพูด เขารอให้หลิงรันดึงเส้นเลือดออกมาอีกตัวแล้วพูดว่า “เอาเส้นเลือดนี่เป็นตัวอย่างมันไม่ยากเลยที่จะเย็บมันด้วยโดยใช้ประมาณยี่สิบสี่เข็ม แต่ถ้าปมไม่มั่นคง พอมันอาจนำไปสู่การอุดตันของเส้นเลือดได้เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นคุณจะไม่สามารถน้ำนิ้วที่ปลูกถ่ายกลับมาเป็นปกติได้เลย … “
กงหมินและคนอื่น ๆ พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงเมื่อพวกเขาฟังหมอหวังอยู่
จะมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีเนื้อร้ายหากนิ้วที่ได้รับการปลูกถ่ายต้องสัมผัสกับหลอดเลือด มันเป็นภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดที่เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้
“ มีคนไม่มากรู้วิธีที่จะเย็บปมที่มีความปลอดภัยบนเส้นเลือดคุณ มันไม่สามารถฝึกฝนในผ่านการเย็บทั่วไปได้เพราะคุณสามารถสังเกตปริมาณเลือดที่กระจุกตัวกันจนกลายเป็นหลอดเลือดอุดตัวเพียงไม่กี่วันหลังการผ่าตัด … “หมอหวังตั้งใจอธิบายอย่างใจจดใจจ่ออีกครั้งและพูดว่า” มีหลายวิธีที่จะทำให้ปมในการเย็บนั้นแน่นหนาบนเส้นเลือด ฉันจะพูดถึงวิธีการในการแก้ไขปัญหานี้ไว้ก่อน “
แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นหน้าหมอหวังในขณะที่เขามองผ่านกล้องจุลทรรศน์ แต่ก็เห็นได้ชัดจากเสียงของเขาว่าเขาอดูตื่นเต้น ไม่จำเป็นต้องพูดเลยว่านี่เป็นเวลาที่แพทย์ที่เข้ามาฝึกฝนจะได้รับประโยชน์
ทุกคนต่างตั้งใจฟังราวกับว่ามันป็นความลับทางการค้า
หมอหวังกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ “วิธีการที่เราใช้มากที่สุดซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดและคุ้มค้าที่สุดคือการเย็บมันภายในครั้งเดียว”
“ในครั้งเดียว?”
“จับคู่ปลายทั้งสองที่ตัดเข้าด้วยกันแล้วทำเย็บอีกอันหนึ่งถ้าจำเป็นต้องเย็บยี่สิบสี่เข็มให้ทำการเย็บเพียงยี่สิบสี่เข็มเท่านั้นห้ามมากไปกว่านั้นอย่าดึงแผลไว้นาน เย็บให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ” ในขณะนั้นหมอหวังเงยหน้าขึ้นมาเพื่อดูการแสดงออกของทุกคนและเขาก็ยิ้มต่อไป “มันเหมือนกับกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งจะไร้ประโยชน์หากคุณเจาะรูหลิงรันทำไมไม่ทำเช่นนั้นให้ดูล่ะ คุณมาเย็บหลอดเลือดแดงนี้ไหมคุณมั่นใจไหม?
“ไม่มีปัญหา.” หลิงรันดูไม่แยแสมาก
หมอหวังยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “มาเปลี่ยนตำแหน่งกันเถอะ”
หลิงรันเปลี่ยนตำแหน่งด้วยกับหมอหวัง
แม้ว่าหัวหน้าศัลยแพทย์และผู้ช่วยคนแรกนั่งหันหน้าเข้าหากันมุมมองของพวกเขาในพื้นที่ศัลยกรรมนั้นแตกต่างกัน ความแตกต่างนั้นเหมือนกับมองที่ฝ่ามือของตัวเองและดูที่ฝ่ามือของอีกคนที่ยืนหันหน้าเข้าหาคุณ หัวหน้าศัลยแพทย์ควรมีมุมมองของพื้นที่ผ่าตัดที่เขาคุ้นเคยมากที่สุดเพื่อให้เขาสามารถทำงานได้ดี
หลังจากฟังคำแนะนำจากหมอหวังแล้ว กงหมินและคนอื่น ๆ ก็แสดงความรู้สึกที่ทำให้พวกเขาดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้แจ้งพร้อมกันแล้ว
เมื่อหลิงรันเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าศัลยแพทย์หมอหวังก็อธิบายได้อย่างอิสระมากขึ้น
หมอหวังดูเหมือนคนเล่านิทานมากกว่าแพทย์
แม้ว่าหมอคนอื่นจะฟังเขาอย่างมีความสุขแต่จากประสบการณ์หลายปีของกงหมินในฐานะแพทย์ทำให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แม้ว่าเขาพยายามคิดอะไรบางอย่างแต่เขาก็ไม่ได้โต้ถียงอะไรขึ้นมา
กงหมินยังคงมีความเชื่อมั่นในหัวหน้าแพทย์หวังซึ่งมาเป็นศัลยแพทย์อิสระให้เขา
ในสภาพแวดล้อมด้านการดูแลสุขภาพในปัจจุบันหากการผ่าตัดอิสระสิ้นสุดลงด้วยความล้มเหลวผู้ป่วยเองศัลยแพทย์อิสระที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศัลยแพทย์จะเป็นผู้ที่ต้องสูญเสียมากที่สุด โรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดโดยใช้ศัลยแพทย์อิสระจะต้องรับผิดชอบในฐานะที่พื้นที่รักษาเพียงเท่านั้น อย่างมากพวกเขาก็แค่เสียเงินเล็กน้อย
กงหมินเชื่อว่าหมอหวังจะไม่กล้าปล่อยให้หลิงรันฝึกฝนในระหว่างการผ่าตัดอิสระ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาให้ความคิดเพิ่มเติมเขาสงสัยว่าอะไรเป็นเป้าหมายของหมอหวังในการให้ตำแหน่งนายศัลยแพทย์หลิงรันกันแน่
ทั้งหลิงรันและหมอหวังลดก้มหน้าลงทำให้พวกเขาไม่เห็นสีหน้าของคนที่กำลังมองอยู่
กงหมินไม่คิดจะตั้งคำถามกับหมอหวังเพราะเขามีไหวพริบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเพียงแค่แสดงออกมาเพื่อต้องการความรู้จากพวกเขาเท่านั้น เมื่อหมอหวังหยุดพักจากการพูดเขาถามว่า “หมอหลิงอะไรคือกลยุทธ์ของคุณในการเย็บหลอดเลือด?
หลิงรันที่ไม่ได้พูดคุยกันมากในระหว่างการผ่าตัดตอบอย่างสุจริตว่า “ผมไม่มีกลยุทธ์ที่แน่นอน”
“แล้วในบริบทของผู้ป่วยรายนี้ล่ะ?”
“ตอนนี้เส้นเลือดของผู้ป่วยแข็งขึ้นเล็กน้อยผมต้องเย็บแผลตามวิธีการเย็บแผลของผู้สูงอายุ” หลิงรันแล้วขอให้พยาบาลเทน้ำเกลือที่มีเฮปารินลงในเส้นเลือดของผู้ป่วย เมื่อเส้นเลือดชุ่มชื่นเขาก็เริ่มเย็บโดยไม่แจ้งให้ใครทราบ
กงหมินเข้าใจในทันใดว่าทำไมหมอหวังต้องทำตัวแปลก ๆ เพราะเขาพบว่าเส้นเลือดแข็งตัวยากที่จะเย็บแผล เขายังจงใจถามหาหลิงรันอย่างจงใจ ด้วยเหตุที่ว่าเขาไม่มั่นใจว่าเขาจะทำได้ไหม
กงหมินคาดว่าสิ่งนี้คือความหมายหมายของหมอหวังเพราะเขาไม่มั่นใจในการเย็บหลอดเลือดที่แข็งตัว
ดังนั้น กงหมินจึงสรุปได้ว่า: หมอหวังจึงสลับที่กับหลิงรันให้หลิงรันเย็บหลอดเลือดที่เขาเองไม่มั่นใจในการเย็บ
กงหมิร รู้สึกตกใจกับสิ่งนี้
หน้าจอด้านบนโต๊ะผ่าตัดแสดงให้เห็นว่าหลิงระนกำลังเย็บหลอดเลือด
เมื่อเปรียบเทียบกันการวิ่งมาราธอนแสดงว่าก่อนหน้านี้หลิงรันวิ่งมาราธอนขณะแบกหมอหวังอยู่ข้างหลังและตอนนี้ผู้ป่วยกำลังวิ่งมาราธอนขณะที่หมอหวังผลักเขาจากข้างหลังอีกที่แม้ว่ามันอาจมีผลกระทบเล็กน้อยแต่เมื่อเขาชินกับมันแล้วเขาก็สามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วในลักษณะที่ผ่อนคลายอีกครั้ง
บางครั้งในห้องผ่าตัดไม่มีใครพูดอะไรเลย เช่นเดียวกับกงหมินที่คิดว่าเป็นทักษะใหม่ของหลิงรันในการเย็บหลอดเลือดแดงจนเสร็ข
“เราควรเย็บสักสองนิ้วไหม?” หลิงรันเงยหน้าขึ้นเพื่อถามวหมอหวัง
“แน่นอนวันนี้มาเย็บสี่นิ้วกันเถอะ” หมอหวัง ไม่ได้เรียกคืนตำแหน่งของเขาในฐานะหัวหน้าศัลยแพทย์ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังไม่ได้แสดงความอับอายในฐานะผู้ช่วยที่สองเลย
เขานำหลิงรันมาที่นี้เพราะเขารู้ถึงความสามารถที่สุดยอดของหลิงรัน
เขามีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าตัวเขาเองจะสามารถเย็บหลอดเลือดที่แข็งตัวได้ดี แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในศัลยแพทย์อันดับต้น ๆ ของแพทย์ในแผนกศัลยกรรมมือแต่ทำไมเขาไม่ทำมันด้วยตัวเองล่ะ?
ซึ่งถ้าทำอย่างงั้นจะไม่ดีกว่าหรอที่จะต้องมาหรอให้หมอหนุ่มค่อยๆผ่าตัดๆจนเสร็จ
หมอหวังคุ้นเคยกับนิสัยของหลิงรันและเขารู้ว่าหลิงรันจะสามารถทำอะไรได้ดีถ้าเขาพูดว่าเขามั่นใจในเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้หลิงรันเย็บหลอดเลือดเหล่านั้นโดยไม่ต้องทำการชี้แนะอะไร เมื่อคนแก่พูดว่า “คุณตัดสินคุณค่าของคนชราด้วยประสบการณ์และปัญญาของเขาไม่ใช่จากความสามารถทางร่างกายของเขา” หมอหวังไม่สนใจที่จะเสียแรงกับเส้นเลือดแข็งตัวนั้น
ใครจะคิดว่ามิสเตอร์เชาซึ่งมีอายุมากกว่าสี่สิบปีจะมีเส้นเลือดที่แข็งตัวเหมือนกับอายุเจ็ดสิบปี
ถ้าหมอหวังเย็บหลอดเลือดเขาคิดว่าเขาคงต้องใช้ความพยายามอย่างมาก การผ่าตัดอาจจะนานกว่าสองชั่วโมงก็ได้
อย่างไรก็ตามหลิงรันดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทาย ในตอนแรกหมอหวังค่อนข้างหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อเขาดูหลิงรันเย็บหลอดเลือด แต่หลังจากที่เขาสังเกตอีกสักพักเขาก็ผ่อนคลายขึ้นมาได้
กงหมินหมดความสนใจในการพูดคุยทันทีและเขาแค่มองดูการเย็บหลอดเลือดของหลิงรัน ความคิดมากมายไหลผ่านหัวเขา
เขาเป็นแพทย์ศัลยกรรมกระดูกที่มีประสบการณ์มากและกลายเป็นผู้อำนวยการแผนกเมื่อสองปีก่อน กว่าเขาจะสามารถรวบรวมทีมขึ้นมาได้ก็เกือบหกถึงเจ็ดปีอีกทั้งเขายังถูกบังคบให้ทำการผ่าตัดมือ
แม้ว่ามณฑลหยางหยวนตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ก็เป็นเขตอุตสาหกรรม ผู้ป่วยที่นิ้วของพวกเขาถูกตัดขาดจากอุบัติเหตุเป็นประจำจะได้รับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถจ่ายเงินสองสามพันหยวนเพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่และไม่ต้องจ้างศัลยแพทย์อิสระ นั่นเป็นสาเหตุที่มีผู้ป่วยที่ร้องขอให้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายนิ้วของพวกเขาในโรงพยาบาลแห่งนี้แทน
ในความเป็นจริงผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าต้องใช้ทักษะทางการแพทย์มากแค่ไหนในการปลูกถ่ายนิ้วที่ด้วยเลย พวกเขาคิดว่ามันเหมือนกับการผ่าตัดเชื่อมต่อกระดูกทั่วไป ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการของภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ถึงแม้ว่ากงหมินปฏิเสธผู้ป่วยเหล่านั้นเกือบครึ่งหนึ่ง แต่เขาก็ทำการผ่าตัดนิ้วให้กับบางคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
อย่างไรก็ตามการที่เขารู้ถึงทักษะพื้นฐานทำให้เขามีความมั่นใจในการพัฒนาการผ่าตัดปลูกถ่ายนิ้วมือในแผนกของเขาต่อไป
แต่ในขณะที่เขามองดูการผ่าตัดของหลิงรัน ความมั่นใจเล็กน้อยของกงหมินก็เริ่มจางหายไปอีกครั้ง
“โรงพยาบาลหยุนหัวนั้นสมควรได้รับการยกย่อง” กงหมินเริ่มพูด้วยความชื่นชม แพทย์คนอื่นเปล่งเสียงเห็นด้วย
หมอหวังเงยหน้าของเขาอย่างภาคภูมิใจที่จะยอมรับการสรรเสริญทั้งหมดของพวกเขา
หลิงรันเหงยหน้าของเขาขึ้นมาด้วย “ผมเย็บเสร็จแล้ว”
“เสร็จแล้วเหรอ?” กงหมินรู้สึกตะลึงเล็กน้อย ในขณะนั้นเขามองดูนาฬิกาของเขาและมันหลุดออกไปโดยไม่รู้ตัว ‘เขามันใจแล้วใช่ไหมว่าเขาเย็บดีแล้ว นี่เป็นสิ่งที่กระตุ้นความวิตกกังวล … ‘
“ให้ผมจเย็บประสาทด้วยใช่ไหม” หลิงรันถามเพราะเขารู้สึกดีเสมอเมื่อเขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศัลยแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่จะไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลในภายหลังที่ผ่าตัดกับเขาไป
“ อย่างงั้นเป็นหน้าที่ของคุณเลย” หมอหวังพูดโดยรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ
“พวกคุณต้องการเย็บผิวไหม?” หลิงรันถามด้วยความหวังดีว่าจะมีใครสนใจที่จะมาทำหน้าที่นี้ต่อเขาไหม