Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 210
วันต่อมา
หลิงรันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อออกไปวิ่งเหยาะๆรอบสนามวิ่งสังเคราะห์
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีนิสัยชอบวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า แต่การอยู่ในสนามกีฬาฟูหยวนทำให้เขาสนใจมันขึ้นมา
สนามกีฬาฟูหยวนนนั้นเป็นสนามกีฬามาตรฐานและมีลู่วิ่งแข่งสังเคราะห์ที่เป็นวงรีมีพื้นผิวเรียบเนียน พื้นที่ตรงกลางนั้นไม่เป็นระเบียบ แต่มีความงดงามมีเส้นที่ชัดเจนและเป็นระเบียบ โดยพื้นฐานแล้วมันสอดคล้องกับสุนทรียภาพของหลิงรันพอดี
การเขยิบตัวเบา ๆ ในตอนเช้าทำให้หลิงรัน รู้สึกดี เขาใช้วิธีที่ง่ายที่สุดในการออกกำลังกายคือการหายใจออกสามครั้งหลังจากกระโดดและหายใจเข้าหลังจากกระโดดอีกสามครั้ง เรื่องนี้ทำให้เขาทำงานได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานด้วยความเร็วสม่ำเสมอ การวิ่งจ๊อกกิ้งด้วยความเร็วสม่ำเสมอคือสิ่งที่ทำให้หลิงรันรู้สึกว่าน่าทึ่งที่สุด
ซึ่งแตกต่างจากวิ่งแข่งที่คนวิ่งจะต้องวิ่งด้วยความเร็วสูงหรือความอดทนวิ่งซึ่งทำให้คนเหนื่อยมาก และพวกเขาอาจจะตายเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสม่ำเสมอหนึ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ ดึงขาของเขาอย่างเงียบ ๆ และวิ่งเงียบ ๆ จนกว่าพวกเขาหมดแรงเมื่อทำเช่นนั้น
แน่นอน ‘เงียบ‘ ไม่ใช่คำอธิบายที่ถูกต้องจริงๆ
มีผู้ชายและผู้หญิงวิ่งจ๊อกกิ้งควบคู่ไปกับหลิงรันและมีหลายคนที่สามารถพูดคุยขณะที่พวกเขาวิ่งหรือแซวคนอื่นเมื่อพวกเขาวิ่ง
หลังจากหลิงรันวิ่งไปสี่รอบเขาก็หยุด ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ผู้หญิงสองสามคนที่วิ่งอยู่ข้างเขาก็หยุดเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีผู้หญิงมากขึ้นที่โบกมือที่หลิงรันด้วยรอยยิ้มและวิ่งออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ได้รับการฝึกฝนตลอดทั้งปีการวิ่งจ๊อกกิ้งสี่รอบนั้นถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องเท่านั้น
หลิงรันวิ่งอย่างเงียบ ๆ แล้วดื่มน้ำครึ่งขวดในครั้งเดียว เมื่อเขากำลังจะไปและเอาขวดน้ำอีกขวดของใครบางคนที่ยื่นให้เขามาดื่มซึ่งเป็นน้ำแร่
“โอ้ขอบคุณมาก ๆ.” หลิงรันจำฮุยแมนซานได้และเขาพยักหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้มขณะที่อยู่ต่อหน้าเธอ จากนั้นเขาก็หยิบขวดน้ำและวางมันไว้ข้าง ๆ ส่วนเขามากมักแสดงความไม่แยแสต่อของขวัญที่ได้รับมา
แน่นอนถ้าหลิงรันต้องคำนวณจำนวนขวดน้ำที่ได้จากสาวๆเหล้านั้นมันอาจเป็นหนึ่งขวดทุกๆหนึ่งเมตรในการวิ่งของเขาและยิ่งมากขึ้นตอนที่เขากำลังจะวิ่งถึงจุดพัก
ฮุยแมนซานมีความสุขมากที่เห็นว่าหลิงรันจำเธอได้
ฮุ่ยแมนซานไม่เคยเห็นชายไหนหล่อเท่าหลิงรันในชีวิตมาก่อนและเขาก็อายุใกล้เคียงกับเธอ หลังจากที่เธอกลับบ้านหลังจากการพบกันครั้งแรกฮุยแมนซานก็ฝันถึงหลิงรันในตอนกลางคืน นี่เป็นเหตุผลที่เธอมาฝึกที่โรงยิมของฟูหยวนเป็นพิเศษในวันนี้ มิฉะนั้นตามตารางเวลาของเธอเธอควรจะฝึกที่สระว่ายน้ำวันนี้
เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ฮุยแมนซานก็มีความคิดและพูดว่า “หลิงรันคุณว่ายน้ำเป็นรึป่าว การว่ายน้ำทำให้สุขภาพดีกว่าวิ่งจ๊อกกิ้งนะ”
ฮุ่ยแมนซานพูดขึ้นมา ขณะที่เธอยืนตัวตรงและยกคางขึ้นอย่างมั่นใจ
การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับการปรับสภาพร่างกายและนักว่ายน้ำได้รับการคัดเลือกบนพื้นฐานของความสูงและต้องมีแขนขาที่ยาว ฮุยแมนซานเคยเป็นนักว่ายน้ำมาสองสามปีแล้ว เธอนั้นสูงผอมเพรียวและมีท่าทางที่ดี เมื่อเธอฝึกกับทีมว่ายน้ำเธอมักจะพูดคุยเกี่ยวกับเทคนิคการว่ายน้ำและไม่ต้องการคบกับใครในช่วงนี้
แต่ตอนนี้ฮุยแมนซานได้เปลี่ยนความคิดนั้นไปอย่างสิ้นเชิง ‘สมาชิกของทีมว่ายน้ำของเธอนั้นดู…ธรรมดาเกินไป‘
หลิงรันเปิดขวดน้ำอีกขวดหนึ่งแล้วจิบเล็กน้อยเพื่อเติมน้ำในร่างกายของเขา “ ฉันว่ายน้ำท่าผีเสื้อได้นะ… แต่ฉันไม่ค่อยว่ายน้ำ”
ฮุยแมนซานรีบถามว่า “ทำไมคุณไม่ชอบว่ายน้ำ”
“ฉันไม่ชอบสระว่ายน้ำ” หลิงรันตอบอย่างเคร่งขรึมมาก
เหตุผลเขารู้ว่าถ้าสระว่ายน้ำถูกฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องจะมีการรับประกันความสะอาดของน้ำ แต่อย่างไรก็ตามคนทุกคนก็ไม่ได้ใส่ใจมาตรฐานในการรักษาความสะอาดขนาดนั้น
ฮุยแมนซานรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง “ทำไมคุณถึงไม่ชอบสระว่ายน้ำ”
“ทุกวันนี้สระว่ายน้ำสกปรกมากฉันได้ยินมาว่ามีคนตั้งท้องหลังจากว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ” ผู้หญิงอีกคนพบโอกาสที่เธอจะได้คุยกับหลิงรัน เธอพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ก้าวร้าว
ฮุยแมนซานเหลือบมองไปที่เด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ด้วยความรังเกียจ “คุณเชื่อในข่าวลือแบบนี้หรือเปล่า?”
“ไม่ว่าจะเป็นอะไรสระว่ายก็น้ำสกปรก … ” หญิงสาวที่พูดมีรูปร่างที่โค้งเว้ามากและเธอก็มีคางแหลมและดวงตาโต ซึ่งเธอน่าจะใช้เวลาในการแต่งหน้าที่ค่อนข้างนาน ซึ่งเธอพยายามจะโต้แย้งว่าสระว่ายน้ำมันสกปรกและทำให้เธอไม่ค่อยมีความสุข
ฮุ่ยแมนซานคิดอย่างจริงจังและพูดว่า “เราสามารถไปที่นั่นได้ในวันจันทร์หน้าสระว่ายน้ำจะเติมน้ำใหม่ทุกวันจันทร์”
ช่วงที่ฮุยแมนซานกำลังพูดอยู่นั้น หลินรันเองก็รับรู้ได้เลยว่าสาวๆประมาณสองสามคนกำลังทำหน้าวิตกกังวลอยู่ข้างๆเขา
หลิงรันส่ายหัวอย่างน่าเศร้า “ฉันอาจจะต้องทำการผ่าตัดในวันจันทร์หน้า”
“ เอ๊ะคุณเป็นหมอเหรอ? มีสาวคนหนึ่งเขาพึงเคยพบหลิงรันเป็นครั้งแรก เมื่อเธอได้ยินว่าหลิงรันเป็นหมอเธอก็มีชีวิตชีวามากขึ้น
หลิงรันเองก็พยักหน้าและพูดว่า “ฉันพึงมาฝึกอบรมอยู่อยู่ที่นี่”
“คุณมาฝึกอบรมใช่ไหม นั่นหมายความว่าถ้าฝึกอบรมเสร็จคุณก็จะต้องเดินทางกลับนะสิ”
“แน่นอน.”
“งั้นคุณมาจากโรงพยาบาลไหน?”
“โรงพยาบาลหยุนหัว”
หญิงสาวที่กำลังถามหลิงรานด้วยคำถามก่อนหน้าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที “เมืองหยุนหัวเป็นเมืองใหญ่แถมยังสวยงามฉันชอบเมืองนี้มาก”
“ที่เซี่ยงไฮ้เนี้ยแออัดเกินไป”
“ มีผู้คนมากมายและรถยนต์อยู่ที่นี่ฉันเบื่อมัน”
“จริงๆแล้วมันเหมือนกันทุกที่ที่คุณอยู่ … “
บทสนทนาที่มีชีวิตชีวาดำเนินต่อไปเมื่อทุกคนเริ่มเข้ามาในวงสนทนาแม้ว่าจะมีเสียงดังนิดหน่อยแต่มันก็เป็นบรรยากาศที่หลิงรันคุ้นเคย
เขาเป็นคนที่ชอบความเงียบสงบและทำให้บุคคลิกของหลิงรันเป็นคนที่เงียบเพราะมันเกิดขึ้นจากมีคนพูดอย่างข้างเขาตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลิงรันจะปล่อยตัวให้เป็นธรรมชาติ และรอให้มันผ่านไป
ซึ่งตอนนี้หลิงรันกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งข้างสนามแข่งสังเคราะห์และนึกถึงการผ่าตัดเมื่อวานนี้อย่างระมัดระวัง
เทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายมีความคล้ายคลึงกันกับสิ่งที่เขาเคยผ่าตัดแต่มันก็ยังแตกต่างกันเมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคการรักษาเอ็นยึด
ความคล้ายคลึงกันคือทั้งสองเกี่ยวข้องกับการรักษาเส้นเอ็นและแม้ว่าขั้นตอนจะแตกต่างกัน แต่สาระสำคัญของการผ่าตัดก็เหมือนกัน
ความแตกต่างคือเอ็นกล้ามเนื้อนั้นมีความบางกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเอ็นร้อยหวาย
การเย็บของกล้ามเนื้อเส้นเอ็นนั้นยากมากเนื่องจากความบางของมันอีกทั้งมันก็ใช้เวลาที่นานกว่ารวมถึงจำเป็นต้องเย็บแผลที่เอ็นกล้ามเนื้อ เนื่องจากเมื่อคุณทำการผ่าตัดกล้ามเนื้อเส้นเอ็นจริงๆ ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ คุณจะพบว่าความกว้างของเส้นเอ็นกล้ามเนื้อมีขนาดเล็กจนการเย็บอาจทับซ้อนกันหากคุณไม่ระวัง
เทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายนั้นไม่เฉพาะเจาะจงและมีหลายวิธีในการเย็บ คุณสามารถเย็บมันด้วยการมองด้วยตาเปล่าโดยไม่ใช้กล้องจุลทรรศน์ก็ได้
แต่ความท้าทายหลักของการรักษาเอ็นร้อยหวายคือเอ็นร้อยหวายต้องรับน้ำหนักมากและอาจฉีกได้ง่ายกว่า
ซึ่งเอ็นร้อยหวายนั้นเป็นเอ็นที่อยู่ภายใต้ร่างกายของคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนหนึ่งเหยียดเอ็นร้อยหวายของเขาจนสุดเพื่อทที่จะทำการวิ่ง
ผู้ป่วยเพศหญิงเมื่อวานนี้เอ็นร้อยหวายของเธอมีอาการฉีกขาด เพราะเธอออกกำลังกายหนักเกินไป หลังจากที่เธอไม่ออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน ในตอนแรกเธอคิดว่าเธอเพียงแค่ข้อเท้าแพลงเท่านั้น ในความเป็นจริงมันร้ายแรงกว่านั้นมาก
แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรเป็นพิเศษเช่นกัน
ซึ่งอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายนั้นมีค่อนข้างสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนทั่วไป ตราบใดที่พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของแพทย์พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติในสถานการณ์ส่วนใหญ่ โดยการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายมีประสิทธิภาพมากกว่าการผ่าตัดรักษาเอ็นกล้ามเนื้ออยู่มาก
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ก็อาจรุนแรงขึ้นเมื่อพูดถึงพวกนักกีฬา
เพราะนักกีฬาไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่จะมีชีวิตเหมือนคนปกติ
นักกีฬาที่มีความพิเศษมากๆเขาจะพยายามใช้ร่างกายจนถึงขีดสุด แม้แต่คนธรรมดาก็อาจทำให้เอ็นร้อยหวายฉีกเมื่อทำการออกกำลังกายอย่างหนัก แต่เมื่อเป็นนักกีฬาออกกำลังกายหนักแรงกดดันเอ็นร้อยหวายก็ยิ่งสูงขึ้นกว่าคนธรรมดา
โชคดีที่หลังจากใช้เงินไปกับการวิจัยจำนวนมากความก้าวหน้าของการแพทย์สมัยใหม่ได้พัฒนาพื้นฐานในการรักษาเอ็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงของนักกีฬา
หลิงรันค่อนข้างสนใจในความท้าทายนี้
แม้ว่าการรักษาเอ็นรอยหวายในระดับสมบูรณ์แบบของเขานั้นจะเพียงพอแล้วที่จะเย็บเอ็นร้อยหวายของคนธรรมดาได้ แต่เมื่อมันมาถึงเอ็นร้อยหวายของนักกีฬา … ความสามารถของเขายังคงเพียงพอที่จะรองรับเอ็นร้อยหวายของนักกีฬาเหล่านั้นได้หากนักกีฬาคนนั้นไม่ใช่คนประเภทที่ใช้ร่างกายจนถึงขีดสุดซึ่งก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะรักษาพวกเขาได้
เมื่อหลิงรันคิดอย่างนั้นขณะที่เขาดื่มน้ำ ในไม่ช้าเขาก็เก็บน้ำขวดทั้งหมด
เขาดื่มน้ำแร่จากขวดไปอีกหลายขวดจากสาวๆคนอื่น ๆ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นกระโดดสองสามครั้งก่อนที่เขาจะเริ่มวิ่งช้าๆตามสนามวิ่งสังเคราะห์อีกครั้ง
หลิงรันประเมินความแรงของเอ็นร้อยหวายของตัวเองในขณะที่เขาไตร่ตรองแผนการผ่าตัดเพื่อรักษาเอ็นร้อยหวาย นอกจากนี้ขณะทีเขาวิ่งเขาก็คิดถึงกระบวนการผ่าตัดที่อยู่ในหัวเขาไปด้วย
“กษัตริย์ขอให้ฉันออกลาดตระเวนภูเขา … “ เสียงเรียกเข้าของมือถือ
โทรศัพท์มือถือของหลิงรันได้ดังขึ้นมา
“ หมอหลิงนักวิชาการจู้กลับมาแล้วคุณจะมาถึงเมื่อไร เราจะต้องเลือกแผนการผ่าตัดด้วยกัน” เฉินเห่าชู่กล่าว จากนั้นเขาก็ถามต่อว่า “คุณเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ได้หรือไม่”
“สามสิบนาที…หืมฉันจะไปถึงที่นั่นในสี่สิบนาที” หลิงรันไม่ได้หยุดวิ่งทันที หลังจากวางสายเขาก็วิ่งไปอีกรอบก่อนที่เขาจะเดินกลับช้า ๆ ไปที่สถาบันการวิจัย