Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 212

หลิงรันเองรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็น หลิวเหว่ยในห้องประชุม

แม้ว่าเขาจะได้ยินว่ามีคนไข้จำนวนมากที่จะเข้าร่วมปรึกษาหารือกับแพทย์ แต่เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้ในโรงพยาบาลหยุนหัวเลย

โดยทั่วไปนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ เมื่อเขาอยู่ในหยุนหัวขนาดมีเหตุการณ์ที่หนักกว่านี้ยังไม่มีการนัดผู้ป่วยมาวางแผนเลย ขณะที่ตอนนี้อยู่ในสถาบันการวิจัยของจี้ตงยี้, หลิวเหว่ยกลายเป็นผู้ป่วยที่สำคัญที่สุดเมื่อเร็ว ๆ เพราะเป็นแค่อาการเอ็นกล้ามเนื้อฉีก

มีนักกีฬาดังคนอื่นที่มีอิทธิพลมากกว่าเขา น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีโอกาสถอนหายใจด้วยความเสียใจเนื่องจากไม่ได้เอ็นกล้ามเนื้อฉีกขาด

หลิวเหว่ยมองหลิงรันอย่างระมัดระวังและรู้สึกประหลาดใจอย่างลับๆ

หลิวเหว่ยวัยสามสิบปีไม่ได้เป็นแค่นักกีฬาอีกต่อไป เขามีขาข้างหนึ่งของเขาที่มีอาการเอ็นฉีก ซึ่งอยู่ในโลกของกีฬาและอีกหน้าที่หนึ่งของเขาคืออยู่ในวงการบันเทิง

กีฬาเป็นรากฐานที่เริ่มต้นอาชีพของเขาในขณะที่อุตสาหกรรมบันเทิงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาอยู่เพื่อทำเงิน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลิวเหว่ยได้พบกับดารามากมายจากวงการบันเทิงรวมถึงศิลปินชายหนุ่มและหล่อเหลานักแสดงหน้าตาดี หรือแม้แต่ดาราต่างประเทศที่มีแฟน ๆ จำนวนมาก จากมุมมองของ หลิวเหว่ย, หลิงรันเองดูหล่อกว่าพวกเขา

“ หมอลิงคุณดูหล่อจริงๆ” หลิวเหว่ยยกย่องเขาอย่างจริงใจ

ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ หลิวเหว่ยคือรูปลักษณ์ที่ดูธรรมดาของเขา หากเขาสามารถหล่อมากขึ้นเขาจะได้รับความสนใจมากขึ้นซึ่งจะเพิ่มรายได้ของเขาหลายเท่า หากเขาสามารถหล่อเหลาเหมือนหลิงรันได้เขาอาจถูกฝังอยู่ภายใต้ข้อเสนอที่ไม่สิ้นสุดจาก บริษัท ต่างๆเพื่อเป็นตัวแทนพวกเขาในโฆษณา

ดังที่ หลิวเหว่ยคิดเกี่ยวกับมันเขาในเวลาเดียวกันก็ต้องประจบลาเจ้าเล่ห์ตัวนี้ด้วย ดังนั้นเขาแค่พูดอย่างง่ายดายด้วยการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความชื่นชม

หลิงรันยิ้มอย่างสงบ เขาเคยได้ยินคำชมเหล่านี้บ่อยครั้ง แม้ว่าจะมีนักกีฬาดังคนหนึ่งพูด แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษสำหรับเขา กระนั้นหลิงรันก็ตั้งใจสังเกต หลิวเหว่ยเขาโล่งใจมากเมื่อเห็นว่าเขาอยู่ในสภาพดี

“ หลิงรานคุณรู้จักไวเช็นใช่ไหมการผ่าตัดที่ผมพูดถึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา” จู้ตงยี่นักวิชาการหัวเราะและทักทายพวกเขา เขาดูเป็นมิตรมาก

หลิงรันยิ้มไปที่ หลิวเหว่ยอีกครั้งและถามว่า “ทำไมคุณไม่ไปหาหมอจากต่างประเทศเพื่อทำการผ่าตัดให้ล่ะ?”

“ เราไม่สามารถตกลงกันได้ในหลาย ๆ ด้าน” หลิวเหว่ยกล่าวอย่างจริงจัง

นักวิชาการจู้ตงยี่ยังคงอธิบายต่อไปว่า “แผนการผ่าตัดที่ฉันออกแบบสามารถกู้คืนการทำงานของเท้าของหลิวเหว่ยได้ในระดับสูงสุด แต่ความเสี่ยงในการผ่าตัดมีมากขึ้นและมันค่อนข้างยากกว่าการผ่าตัดปกติอยุ่มาก ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามแผนการผ่าตัดของเรา “

หากแผนดังกล่าวไม่ได้ออกแบบโดยนักวิชาการจู้ตงยี่ แต่โดยศัลยแพทย์เองศัลยแพทย์ผู้นั้นอาจพิจารณาที่จะท้าทายการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตามศัลยแพทย์ผู้นั้นอาจไม่ต้องการเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ในการผ่าตัด แต่ต้องการให้มีคนอื่นมาแทน นั่นเป็นสิ่งเดียวกันสำหรับแพทย์ต่างประเทศที่มีชื่อเสียงและแพทย์ในประเทศจีน นอกจากนี้นักวิชาการจู้ตงยี่ยังไม่ได้รับศัลยแพทย์ที่มีความสามารถและเต็มใจที่จะใช้เวลากับแผนนี้

หลิงรันพยักหน้าแม้ว่าเขาดูเหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์

หลิวเหว่ยกล่าวว่า “ฉันต้องการผ่าตัดล้มเหลวมากกว่าเล่นด้วยความเสี่ยงที่จะทำให้เอ็นร้อยหวายของฉันฉีกอีกครั้ง”

“ หากการผ่าตัดล้มเหลวคุณจะไม่สามารถวิ่งได้อีกครั้ง” หลิงรันเตือนเขา

“ ฉันรู้ แต่ฉันก็ยังสามารถเดินได้เหมือนคนปกติใช่ไหมการผ่าตัดที่ล้มเหลวและการผ่าตัดที่มีอัตราความสำเร็จสูงนั้นเป็นสิ่งเดียวกันสำหรับฉัน” เห็นได้ชัดว่า หลิวเหว่ยคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลิงรันไม่จำเป็นต้องอธิบายภาวะแทรกซ้อนและผลสืบเนื่อง เขาเชื่อหลิวเหว่ยเข้าใจพวกมันเป็นอย่างดี

หลิงรันมองไปที่นักวิชาการจู้ตงยี่และถามว่า “ฉันได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าพวกเขาต้องการให้ฉันเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์เพื่อทำการผ่าตัด … “

“มันสำหรับผู้ป่วยรายอื่น” จู้ตงยี้ ใช้เวลาของเขาอธิบายเพื่อให้หลิงรันไม่เข้าใจผิด หลิงรานดูจู้ตงยี่โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

จู้ตงยี้รู้สึกโล่งใจ จากนั้นเขาสั่งให้แพทย์ประจำแผนกที่ยืนงข้างๆเลื่อนสไลด์โชว์ และแนะนำผ่านการพูดคุยสั้น ๆ ที่จู้ตงยี่วางแผนไว้ก่อน

“ผู้ป่วยเฉาเฟยเป็นชายโสดอายุสามสิบสองปีอาชีพคือตำรวจจราจรเขาบาดเจ็บสี่ชั่วโมงก่อนส้นเท้าขวาของเขาเจ็บปวดบวมและไม่สามารถขยับได้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่หมดสติหรือทรมาน จากการสูญเสียการทำงานของสมองตามปกติใด ๆ เขาไม่ได้มีอาการคลื่นไส้ไม่มีอาเจียนไม่หายใจถี่ไม่มีอาการใจสั่นและไม่มีภาวะปัสสาวะเล็ดหรืออุจจาระตอนนี้เขามีสติและถูกส่งไปยังแผนกฉุกเฉินของเรา ” แพทย์ประจำแผนกกล่าวในขณะที่อ่านจากสไลด์โชว์แม้ว่าสไลด์โชว์นั้นทำมาเพื่อประโยชน์ของหลิงรันเป็นหลัก

หลิงรานพยักหน้าอย่ารอบครบ หากการบาดเจ็บเกิดขึ้นเมื่อสี่ชั่วโมงก่อนเนื่องจากอุบัติเหตุแสดงให้เห็นว่าจู้ตงยี่เลือกผู้ป่วยให้หลิงรันเพื่อทดสอบเขา มันค่อนข้างเหมาะสมกับสิ่งที่หลิงรันสนใจ

หากพวกเขาเลือกเคสทางการแพทย์ที่ยากลำบากเพื่อทดสอบความสามารถของหลิงรันมันจะไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ป่วย

การดำเนินการตามปกติอย่างไม่น่าเชื่อในโลกธุรกิจหรือโลกอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถบอกอะไรได้ในระดับที่สูงขึ้นเกี่ยวกับความสามารถหรือจริยธรรมของบุคคล แต่การดำเนินการในระดับเดียวกันของความยากลำบากในโลกของการแพทย์จะวางแพทย์ภายใต้การพิจารณา ในแง่ของจริยธรรมและทักษะของเขา

ด้วยคุณสมบัติและความสามารถของหลิงรัน คงไม่มีปัญหาเลยสำหรับเขาที่จะเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ในการผ่าตัดครั้งนี้ แต่เพื่อความปลอดภัยผู้ช่วยคนแรกจะต้องเป็นศัลยแพทย์อาวุโสที่มีประสบการณ์มากขึ้นเพื่อครอบคลุมจุดอ่อนของหลิงรันในระหว่างการผ่าตัดและที่สำคัญกว่านั้นคือให้บอกหลิงรันเมื่อต้องหยุดทำการผ่าตัด …

หลิงรันดูที่ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงมุม เขามีนิ้วที่บางและยาวตาแหลมร่างผอมดูขี้เกียจและยิ้มอย่างมั่นใจ ถ้าเขาอายุน้อยกว่าสิบปีเขาอาจจะดูเหมือนศัลยแพทย์แบบญี่ปุ่น

ก่อนที่จู้ตงยี้จะแนะนำแพทย์คนนี้ให้รู้จัก หลิงรันได้ถือเอกสารของเขากับข้อมูลที่ให้ไว้ในแผ่นพับของสถาบันการวิจัยแล้วเจียนเทียนยูเขาแพทย์ศัลยกรรมกระดูกชื่อดังที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ฉางไฮเมืองฟูนาน ทักษะของเขาในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อนั้นได้ดีที่สุดในประเทศ จะเห็นได้ว่าเขาได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญในเวชศาสตร์การกีฬา

หลิงรันสันนิษฐานว่าในขณะที่เขาฟังหมอประจำแผนกบรรยายประวัติในอดีตประวัติส่วนตัวและประวัติครอบครัวของผู้ป่วย ต่อจากนั้นแพทย์ประจำแผนกก็เริ่มอธิบายผลจากการตรวจร่างกายและผลของการแสกนที่ช่วยในการรักษา

หลิงรันเสียสมาธิเล็กน้อยในการฟังคำอธิบายเมื่อเขาฟังผลลัพธ์จากการตรวจร่างกายเสร็จแล้ว เขามองออกไปยังสไลด์แล้วพูดว่า “เดี๋ยวก่อนนี่เป็นการผ่าตัดที่ฉันจะเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ใช่ไหม” เขามองไปที่จู้ตงยี่

“ถูกตัอง.” จู้ตงอี้พยักหน้า

“ฉันต้องการตรวจเขาด้วยตัวเอง” ในตอนนี้ หลิงรันไม่ได้จะขออนุญาต แต่กำลังให้คำแนะนำ

รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของจู้ตงยี่ จากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณไม่ต้องการฟังคำอธิบายการสแกนเอ็มอาร์ไอจากแผนกการถ่ายภาพทางการแพทย์หรือ”

“ฉันสามารถอ่านมันได้เอง” หลิงรันคิดว่าคำตอบของเขาสุภาพมากที่สุดแล้ว

ในความเป็นจริงคำอธิบายเกี่ยวกับการผลการแสกนเอ็มอาร์ไอไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขา เมื่อผู้เชี่ยวชาญทั่วไปทำการสแกนเอ็มอาร์ไอพวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากมายจากแผนกการถ่ายภาพทางการแพทย์ บางครั้งพวกมันก็ขึ้นอยู่กับคำอธิบายอย่างสมบูรณ์จากแผนกการถ่ายภาพทางการแพทย์

ผู้เชี่ยวชาญบางคนสามารถเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสแกนเอ็มอาร์ด้วยความเชียวชาญของพวกเอง แต่พวกเขาก็ยังต้องการคำอธิบายจากแผนกการถ่ายภาพทางการแพทย์ก่อนที่จะอ่านมันด้วยตัวเองเพื่อที่พวกเขาจะไม่ตีความผิดถ้าพวกเขาพบปัญหาที่ยังไม่ได้เจอ ซึ่งๆจริงแล้วผู้เชียวชาญเองก็สามารถเห็นภาพรวมทั้งหมดได้เพียงแค่ร้อยละแปดสิบห้าเท่านั้น

เพื่อให้ได้คะแนนที่เหลืออีกสิบห้าคะแนนพวกเขาต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองปีเพื่อศึกษาภาพทางการแพทย์หรือแพทย์จากแผนกการถ่ายภาพทางการแพทย์จะต้องศึกษาความเชี่ยวชาญอื่น

การวิเคราะห์เอ็มอาร์ไอในระดับหลิงรันที่ได้รับนั้นก็มีจำกัดอยู่ที่แขนขาอีกทั้งข้อจำกัดนี้เป็นเพราะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะมีภาพเอ็มอาร์ไอที่แตกต่างกัน

ศูนย์กระดูกและเวชศาสตร์การกีฬายังคงเป็นหนึ่งในหน่วยงานเฉพาะด้านชั้นนำสำหรับเวชศาสตร์การกีฬาในประเทศ อย่างไรก็ตามหากนักวิชาการจู้ตงยี้จำแนกคนที่เป็นผู้เชียวชาญที่อยู่ในสถาบันแห่งนี้จริงๆจะมีเพียงสามถึงสี่คนเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นหมอหนุ่มที่ยังอยู่ในระหว่างการฝึกฝนในการเป็นแพทย์เท่านั้น และพวกเขาจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์เอ็มอาร์ไอสแกนได้อย่างไรในเวลาอันสั้น

แพทย์ประจำแผนกมองที่ หลิงรันอย่างน่าสงสัยก่อนที่เขาจะก้มศีรษะลงอย่างช้าๆ หากเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาเขาจะสามารถโพสต์ข้อความประชดประชันอย่างน้อยสามสิบเรื่องไว้บนสื่อออนไลน์ได้

อย่างไรก็ตามแพทย์ประจำแผนกยังอยู่ในห้องเพื่อที่เขาจะได้ทำการสแกนเอ็มอาร์ไอและรอให้หลิงรันพูดเท่านั้น เจียนเทียนยูผู้ที่นั่งตรงมุมห้องรู้สึกตื่นเต้น เขาเงยหน้าขึ้นมองหลิงรัน

เจียนเทียนยูเป็นหนึ่งในแพทย์ที่ได้คะแนนแปดสิบห้าในการวิเคราะห์เอ็มอาร์ไอสแกน แต่เนื่องจากเขาสามารถทำการผ่าตัดเปลี่ยนข้อต่อในส่วนต่างๆของร่างกายได้นั่นหมายความว่าเขาต้องเรียนรู้วิธีการอ่านผลสแกนเอ็มอาร์ไอของส่วนต่างๆของร่างกายด้วย .

อย่างไรก็ตามเขายังต้องการผู้เชี่ยวชาญจากแผนกการถ่ายภาพทางการแพทย์ในการวิเคราะห์เอ็มอาร์ไอก่อน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความเป็นของคำขอของหลิงรัน

มีการสแกนเอ็มอาร์ไอหลายชุดบนหน้าจอขนาดใหญ่ของผนังทั้งหมด

แผนกศัลยกรรมกระดูกเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแผนกที่รวยมาก ศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและกระดูกและข้อได้รับการยกย่องว่าเป็นดินสีทอง [1] ที่จะสร้างรายได้มากมายจากคนรวยที่เข้ามารักษา หน้าจอที่ใช้ในการแสดงสไลด์โชว์มีค่าใช้จ่ายบางอย่างเทียบได้กับโรงห้องผ่าตัดปฏิบัติการในโรงพยาบาลเมืองหยานหยวนเลย

หลิงรันไม่ค่อยมีโอกาสมองผ่านการผลแสกนเอ็มอาร์ไอจำนวนมากในครั้งเดียวและมันทำให้เขารู้สึกมหัศจรรย์ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็วิเคราะห์อย่างตะกละตะกลาม หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ขอการควบคุมมันระยะไกลและดำเนินการด้วยตัวเอง

ทุกคนจ้องมองหลิงรัน

หลิงรันจ้องที่หน้าจอ

หลังจากเวลาผ่านไปนาน…

การอ่านเอ็มอาร์ไอนั้นกินเวลามา มันใช้เวลานานขึ้นเพราะหลิงรันอ่านการผลแสกนอย่างรอบคอบ

แน่นอนว่าแพทย์มักจะไม่ได้รับเวลามากในการอ่านผลแสกนเอ็มอาร์ในระหว่างการปรึกษาหารือปกติในช่วงปกติพวกเขาจะวิเคราะห์ภาพเหล่านี้ล่วงหน้าหรือจะแกล้งวิเคราะห์ภาพในที่เกิดเหตุ

มันยากมากที่จะเห็นคนอย่างหลิงรันที่สามารถวิเคราะห์เอ็มาร์ไออย่างอดทนตั้งแต่ต้นจนจบต่อหน้านักวิชาการผู้เชี่ยวชาญนักกีฬาดังและแพทย์ประจำบ้าน

“ระดับการบาดเจ็บอยู่ระหว่างระดับหนึ่งและระดับสองเราสามารถใช้การเย็บแบบปิดปลายขั้นพื้นฐานเราจะผ่าตัดมันจากจุดนี้”หลิงรันทำท่าทางเล็กน้อยและเริ่มอธิบายแผนของเขาเอง

จี้ตงยู่ไม่ต้องการเข้าไปยุ่ง นี่เป็นการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายแบบธรรมดาและจุดอ่อนของการผ่าตัดก็คือการที่หลิงรันจัดการกับสถานการณ์ต่างๆที่ไม่คาดคิดด้วยตัวเอง

เมื่อหลิงรันเสร็จจู้ตงยี่ก็ไม่ไดสรุปใด ๆ แต่พูดว่า “หมอจีเป็นคนที่จะเป็นผู้ช่วยคนแรกของคุณในวันนี้เขาเป็นหัวหน้าแพทย์ในศูนย์เวชศาสตร์กระดูกและเวชศาสตร์ของเราเขาอายุน้อยและมีความสามารถ … ” จู้ ทงอี้อธิบายก่อนที่เขาจะพูดว่า “หมอจีขอสงวนสิทธิ์ในการหยุดการผ่าตัด”

หลิงรันพยักหน้าและตกลง เขาเรียกหาหมอลู่และพวกเขาออกจากห้องประชุมเพื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย

อย่างไรก็ตามทุกคนรวมถึงจี้ตงยี้รู้สึกประหลาดใจกับความตรงไปตรงมาของหลิงรัน

“ เขาดูมั่นใจมาก ๆ ” เจียนเทียนยูยิ้มและก็ออกไปเช่นกีน

จี้ตงยี้ และ หลิวเหว่ยออกจากห้องประชุดด้วยความคาดหวังและความกังวล จากนั้นพวกเขาไปที่ห้องสาธิตที่มีหน้าจอเชื่อมต่อกับกล้องวิดีโอที่มีความละเอียดสูงและกล้องพาโนรามาซึ่งทำให้ผู้ชมสามารถสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องผ่าตัดได้

มี แต่แพทย์ประจำแผนกเท่านั้นที่อยู่ในห้องประชุมด้วยความเป็นระเบียบ แต่ก่อนอื่นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มพิมพ์ขอความประชดประชันเข้าไปในกลุ่มเพื่อนในวีแชทของเขาอย่างไม่ขาดสาย …