Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 214

“สอดไหมผ่าตัด 10-0″ ในระหว่างกระบวนการเย็บหลิงรันให้คำแนะนำโดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

พยาบาลตอบโดยไม่ลังเล เธอเปิดซองไหมผ่าตัด 10-0 ทันทีและใส่เขาลงไปในที่ยึดเข็ม จากนั้นเธอวางที่ใส่เข็มเบา ๆ ลงบนฝ่ามือของหลิงรันเมื่อนิ้วของเธอโดนตัวหลิงรันก่อให้เกิดเสียงเบา ๆ และทำให้เธอเขินจนแก้มของเธอแดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

เจียนเทียนยูเงยหัวขึ้นทันที เขารู้บางสิ่งและถามว่า “มีอะไรผิดปกติ”

ในการรักษาเอ็นร้อยหวายร้อยไหมเส้นไหมผ่าตัด 10-0 ถือเป็นเส้นไหมที่หนามาก แต่มันก็ยังดีกว่าไหมผ่าตัด 4-0 ถึงสามเท่าที่หลิงรันใช้มาก่อน ดังนั้นจะต้องมีเหตุผลสำหรับหัวหน้าศัลยแพทย์ที่จะเปลี่ยนมาใช้มันในทันที

หลิงรันยินดีที่จะแชร์ความคิดของเขาเสมอเมื่อพูดถึงวิธีการรักษาของเขา

หลิงรันชี้ตรงไปที่ด้านล่างของกล้องจุลทรรศน์ ในขณะที่เขานั่งที่ปลายด้านหนึ่งของกล้องจุลทรรศน์สองหัว เขากล่าวว่า “การที่มีรอยฉีกที่นั้นปลายยังไม่สม่ำเสมอ หากเราเย็บโดยใช้ไหมผ่าตัด 4-0 จะมีข้อบกพร่องบางอย่างหลังจากเราตกแต่งแผลจนเสร็จ”

แรงดึงของไหมนั้นมีความละเอียดไม่สูงมาก หากมีการเพิ่มขนาดของไหมที่ดีและเย็บมันทั้งหมดลงในปลายส่วนของเอ็นที่ฉีกขาดส่วนหนึ่งอย่างหนาแน่นแรงดึงทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามถ้าเส้นไหมละเอียดถูกทำให้ร้อยเป็นสองหรือสามเกลียวแรงดึงจะต่ำกว่าเส้นไหมผ่าตัด 10-0 เพียงเส้นเดียว

ในขณะเดียวกันในขณะที่เอ็นนั้นเกิดความยืดหยุ่น เอ็นร้อยหวายก็ยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย ความยืดหยุ่นนี้จะทำให้เกิดปัญหาในการผ่าตัด เมื่อศัลยแพทย์พยายามดึงเอ็นกล้ามเนื้อของเอ็นร้อยหวายที่ฉักออกมาด้วยกัน มันก็จะไหลออกมาด้วยและปล่อยให้มันถูกดึงออกมา อย่างไรก็ตามเมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้นเอ็นร้อยหวายสามารถกลับมายืดหยุ่นได้อีกครั้ง ดังนั้นมันจะดึงกลับในลักษณะที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากความยาวของปลายเอ็นทั้งสองที่ฉีกของเอ็นร้อยหวายเท่ากันแรงดึงก็จะเท่ากัน ดังนั้นการทำงานของเอ็นร้อยหวายจะยังคงอยู่ แต่ถ้าโครงสร้างของสองเอ็นที่ปลายเอ็นของเอ็นรอยหวายนั้นผิดปกติความยาวของเอ็นที่เอ็นร้อยหวายเมื่อดึงกลับจะแตกต่างกัน … เอ็นที่เอ็นรอยหวายนั้นจะถูกดึงกลับโดยใช้แรงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเอ็นที่สั้นกว่าของ เอ็นร้อยวายที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้เอ็นร้อยหวายต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการฉีดขาดอีกครั้ง

นี่เหมือนกับการเย็บยางห้าแถบที่มีความยาวเท่ากันเมื่อเปรียบเทียบกับการเย็บยางห้าแถบที่มีความยาวต่างกันเข้าด้วยกันตัวเลือกเดิมจะนำไปสู่ผลการเย็บที่ดีขึ้นและความทนทานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ซึ่งการแก้ปัญหาค่อนข้างง่าย ด้วยการใช้ไหมที่แตกต่างกันของจุดแข็งที่แตกต่างกันความแข็งแรงของไหมผ่าตัดสามารถเติมเต็มจุดอ่อนของความแข็งแกร่งของเอ็นเพื่อให้แน่ใจว่าแรงตึงหลังผ่าตัดของเอ็นจะสามารถทนได้

อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาที่หลิงรันทำเป็นเรื่องปกติก็ทำให้ เจียนเทียนยูตกตะลึง ท่าทางของเขาทำให้ทุกคนประหลาดใจในห้องสาธิตดูหน้าจอรวมถึงหมอคูด้วยเช่นกัน

แพทย์ประจำแผนกไม่สามารถอดความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็นของเขาและถามว่า “คุณเห็นส่วนปล่ายที่ไม่สม่ำเสมอหรือป่าว?”

หมอประจำแผนกอีกคนอยู่ข้างๆเขาหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “มีเลือดเยอะคุณไม่สามารถสังเกตการณ์การผ่าตัดได้อย่างชัดเจนในที่สุดคุณจะเห็นเพียงปลายขนบนผิวหนัง”

“ การตัดสินอาจขึ้นอยู่กับข้อกำหนดอื่น ๆ มุมมองภายใต้กล้องจุลทรรศน์ไม่สามารถชัดเจนกว่าหน้าจอของเราที่มีขนาดใหญ่และเราก็ไม่ต้องลงไปผ่าตัดดอง” แพทย์ประจำแผนกกล่าวขณะที่ขยับเข้าใกล้จอภาพมากขึ้น เขาจ้องมองที่หน้าจอเหมือนกำลังสแกนเพื่อดูภาพบางอย่าง อย่างช้าๆ

“ บางทีเขาอาจตัดสินใจจากการผลแสกนเอ็มอาร์ไอ” จู้ตงยี้กล่าว เขาใช้เวลาคิดหนึ่งวินาทีและอธิบายอีกครั้งว่า “ถ้าเราพิจารณาการกระจายตัวของหลอดเลือดมันก็มีความเป็นไปได้ … แต่มันจะซับซ้อนกว่านี้มาก”

“มันเป็นเรื่องของความจริง ณ เหตุการณ์นี้ใน(อภิปรัชญา)ตอนนี้” กลุ่มแพทย์หันไปมองหมอคูหลังจากที่เขาพูดคำของเขา

หมอคูรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาไอสองครั้งแล้วพูดว่า “สิ่งที่ฉันหมายถึงคือเขาเย็บเอ็นกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วในขณะนี้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาเห็นมันชัดเจนกว่าที่เราทำนอกจากนี้ถึงแม้ว่าเขาจะสังเกตเห็นปลายเส้นเลือดฝอยจริง ๆ และจำนำมันมาใช้หรือไม่นั้น ก็เป็นการเดิมพันโดยสิ้นเชิงผ่านเพียงสัญชาตญาณของเขา “

หมอคูกำลังมองหาตัวเลือกของหลิงรันอย่างไม่น่าเชื่อถือและมันทำให้เขาสำลักเล็กน้อย

ตอนแรกเขาไม่ต้องการพูดนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยืนอยู่ที่ด้านหลังของห้องสาธิต เขาวางแผนที่จะสังเกตสถานการณ์และออกจากห้องอย่างเงียบ ๆ ถึงกระนั้นหมอคูไม่ได้คาดหวังว่าหลิงรันจะสามารถผ่าตัดได้ในอัตราที่รวดเร็วขนาดนี้และมาถึงจัดสุดท้ายของการผ่าตัดในเวลาสั้นๆ ทำให้แพทย์ไม่สามารถละสายตาจากเขาไปได้เลย

คุณหมอคูเองเป็นแพทย์ประจำศูนย์รักษาเอ็นร้อยหวาย เขาลังเลที่จะจากไปเมื่อเขาสังเกตวิธีที่หลิงรันทำการผ่าตัด

ในบางแง่มุมคุณหมอคูรู้สึกประทับใจเล็กน้อยกับเทคนิคการผ่าตัดของหลิงรันอย่างไรก็ตามการตัดสินใจในเปลี่ยนไหมผ่าตัดเป็นสิ่งที่หมอคูไม่เข้าใจและมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมรับได้

แต่ก็เหมือนกับที่หมอคูคิดว่าการตัดสินของหลิงรันในห้องผ่าตัดนั้นมันน่าเกินกว่าที่จะเชื่อได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดเพราะเขาบังคับให้เขาไม่พูดสิ่งเหล่านั้นออกมา แต่คำอธิบายของจู้ตงยี่ก็น่าเหลือเชื่อเช่นกัน

ตัวเขาเองเป็นศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดด้วยเทคนิคการเย็บเคสเลอร์ เขาไม่สามารถเชื่อได้ว่าใครบางคนสามารถสังเกตอาการเอ็นร้อยหวายอย่างสมบูรณ์จากการกระจายตัวของหลอดเลือด โดยไม่ได้อ่านผลรสแกนจากเอ็มอาร์ไอ เพราะมันทำให้ศัลยแพทย์ได้รับรายละเอียดที่ดีขึ้น อย่างน้อยศัลยแพทย์ก็ไม่สามารถตัดสินได้ทันทีได้ ณ จังหวะที่เขาผ่าตัดอยู่ การตัดสินจะมีความเหมาะสมมากกว่าหลังจากทำการวิเคราะห์หลังการผ่าตัดหรือการวิเคราะห์การเสียชีวิตหลังจากผู้ป่วยเสียชีวิตโดยไม่ตั้งใจ

ศัลยแพทย์ควรมีความชัดเจนในจุดแข็งของรอยประสานของแผล

ปัจจุบันหลิงรันได้เปลี่ยนไหมผ่าตัด 10-0 เป็น 4-0 ซึ่งหมายความว่าเขารู้ว่าเอ็นร้อยหวายที่จะเย็บโดย 10-0 ไหมผ่าตัดนั้นสั้นกว่ามากดังนั้นจึงต้องใช้แรงดึงที่มากขึ้น แต่การกระจายของหลอดเลือดผ่านการแสกนเอ็มอาร์ไอนั้น นั้นไม่สามารถให้ข้อมูลเช่นนี้ได้

อย่างน้อยที่สุดหมอคูเองก็ไม่รู้วิธีที่จะวัดข้อมูลเช่นนี้และเขาไม่เคยได้ยินผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์ใด ๆ ที่สามารถทำได้

จี้ตงยี้มองทุกคนยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อเราไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้ได้เราก็เพียงแค่ถามมันและคิดว่าเป็นกรณีศึกษาทางการแพทย์ก็เท่านั้น”

จูเตงยี้ กดปุ่มโทรออกโดยไม่ลังเลหลังจากพูดเสร็จ เขากล่าวว่า “หลิงรันคุณกำหนดความสม่ำเสมอของการฉีกได้อย่างไรและต้องการกำลังดึงแบบใดในเกลียวนั้น?”

เมื่อเทียบกับคำถามแรกคำถามที่สองมีทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

หากคุณต้องการดึงแถบยางที่สั้นกว่าคุณจะต้องใช้แรงดึงมากขึ้น นี่เป็นคำถามง่าย ๆ สำหรับการทดลองทางวิศวกรรม มีอุปกรณ์ที่สามารถวัดแรงดึงความต้านทานแรงดึงและความแข็งแรงของวัสดุ อย่างไรก็ตามเอ็นร้อยหวายของคนมีชีวิตไม่สามารถทดสอบได้ด้วยวิธีนี้ นอกจากนี้ยังไม่มีอุปกรณ์ที่สามารถทำงานเช่นนี้ได้ในห้องผ่าตัด

ดังนั้นหลิงรันตัดสินความแข็งแรงของไหมที่ต้องการได้อย่างไร? หากหลิงรันเพิ่งตัดสินว่าปลายแตกที่หลุดเป็นฝอยโดยไม่มีข้อพิสูจน์ที่ตรงกันใด ๆ ก็จะไม่ได้มีความหมายอะไรเลย

ในความเป็นจริงเมื่อแพทย์ทั่วไปทำการผ่าตัดเช่นนี้พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับแรงดึงของไหมผ่าตัด พวกเขาจะเย็บให้เสร็จ เมื่อพวกเขาประสบปัญหาปลายฝอยพวกเขาส่วนใหญ่จะแก้ปัญหาด้วยการปลูกถ่ายเช่นกรณีการปลูกถ่ายกล้ามเนื้อกราซิลลิสฟรีและการปลูกถ่ายกระดูกจากกระดูกเชิงกราน ซึ่งเอ็นร้อยหวายที่สั้นกว่านั้นสามารถเย็บแผลด้วยเอ็นของเอ็นอื่นเพื่อให้ความยาวของเอ็นทั้งสองเท่ากัน สามารถใช้เอ็นที่ยาวขึ้นในการปลูกถ่ายเพื่อลดความเป็นไปได้ของการฉีกขาดได้

แพทย์ที่สามารถทำการผ่าตัดชนิดนี้ไม่ได้เรียกว่า พวกเขาเป็นแพทย์ที่มีความสามารถสำหรับหมอคู ซึ่งถือว่าเป็นแพทย์ที่เป็นกระดูกสันหลังของสถาบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในประเทศ

มาตรฐานของเจียนเทียนยูนั้นสูงกว่าหมอคูเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่เข้าใจกระบวนการผ่าตัดของหลิงรัน ดังนั้นเขาจึงมองดูหลิงรัน อย่างสงสัยเช่นกัน

หลิงรันไม่ตอบทันที เฉพาะเมื่อเย็บ 10-0 ที่เขาเพิ่งได้รับก็ทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นเขาจึงตอบแบบช้าๆ “ฉันรู้สึกถึงมันผ่านมือของฉันเมื่อฉันดึงมัน”

“รู้สึก?” หมอคูหัวเราะ เขารู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากแต่เดินหน้าถามต่อไป จากนั้นเขากดปุ่มโทรออกแล้วพูดว่า “คุณใช้ความรู้สึกของคุณเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการผ่าตัดได้อย่างไร”

หลิงรันฮัมเพลงแล้วพูดว่า “ฉันมักจะเป็นเอ็น. เอ็น. ด้วยความเอ็นเอ็นกล้ามเนื้อพังผืดและกล้ามเนื้อของคนอื่น ๆ ฉันสามารถประมาณกำลังของแรงดึงด้วยมือของฉันโดยประมาณได้

“คุณต้องล้อเล่นกับฉันใช่มั้ย” หมอคูพูดก่อนที่เขาจะจำได้ว่าเขาลืมกดปุ่ม ดังนั้นเขาจึงกดมันและพูดอีกครั้ง

หลิงรันตอบง่าย ๆ ว่า “ไม่”

ทักษะนี้เป็นของหลิงรัน แต่เพียงผู้เดียวและเขาค่อยพัฒนามันเอง

ทักษะการนวดกระดูกสันหลังประกอบไปด้วยเทคนิคการผลักและการเจาะที่มุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันกำหนดเป้าหมายเอ็นและเอ็นที่หลอกภายในกล้ามเนื้อได้

เมื่อหลิงรันทำการจำลองนิ้วหรือใช้เทคนิคเอ็มถังเส้นเอ็นที่เขาสัมผัสนั้นจะอ่อนแอจนเขาไม่สามารถคำนวณกำลังที่ต้องการได้อย่างแม่นยำแม้จะอยู่ในระดับเชียวชาญในการนวดกระดูกสันหลัง เขาควรจะบอกว่ามันไร้ประโยชน์แม้ว่าเขาจะคำนวณมันได้ เอ็นในนิ้วโป้งนั้นบางกว่าตะเกียบเสียอีก หากมีการฉีกออกเป็นปลายไม่สม่ำเสมอวิธีที่ดีที่สุดคือไม่ต้องเย็บแยกต่างหาก แต่ให้ตัดอย่างสม่ำเสมอแล้วเย็บให้เรียบ

แต่เอ็นร้อยหวายที่เท้าไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีนี้ เอ็นร้อยหวายนั้นเป็นเอ็นหนาที่สุดและความยาวของมันอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการเล่นกีฬา นอกจากนี้ระดับการฉีกก็ไม่เหมือนกัน หากเอ็นร้อยหวายที่สั้นกว่าถูกใช้เป็นมาตรฐานและปลายทั้งสองข้างถูกตัดให้มีความยาวเท่ากับเอ็นร้อยหวายที่สั้นกว่าเอ็นร้อยหวายอีกอันจะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป เอ็นอีกอันจะต้องทำการปลูกถ่ายใหม่เท่านั้น

แต่กล้ามเนื้อที่ถูกจัดการโดยหลิงรันนั้นไม่หนากว่าเอ็นร้อยหวายมากนัก เอ็นร้อยหวายนั้นเป็นเอ็นที่หนาที่สุดในร่างกายมนุษย์ดังนั้นหากเขาสามารถเข้าใจเอ็นกล้ามเนื้ออื่นด้วยการผลักและกระตุ้นพวกมันเขาก็สามารถยืนยันแรงดึงของเอ็นร้อยหวายได้

เจียนเทียนยูเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หลิงรัน “คุณรู้สึกถึงมันจริงหรือ?”

หลิงรันตอบอีกครั้งว่า “ใช่” มือของเขาเอื้อมออกไปแล้วเขาก็พูดว่า “3-0″

เขาต้องการที่จะเย็บปลายเอ็นที่ฉีกขาดอื่น ๆ ของเอ็นร้อยหวาย

จีเทียนยูจ้องที่การผ่าตัดที่มั่นใจของหลิงรันและพูดว่า “ถ้าคุณรู้สึกได้จริง ๆ มันก็น่าทึ่งมาก”

หลิงรันร้องเสียงดัง เขาไม่ได้ตอบกลับเจียนเทียนยูเฝ้าดูการผ่าตัดของเขาและเกือบจะไว้วางใจในหลิงรันที่อยู่ภายในใจของเขา

การทำสิ่งต่าง ๆ ตามความรู้สึกอาจฟังดูไร้สาระจากมุมมองของผู้ป่วย พวกเขาจะคิดว่า ‘ความรู้สึกของคุณจะควบคุมร่างกายอันมีค่าของฉันได้อย่างไร‘ และนี่คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์อย่างแท้จริง ยิ่งการผ่าตัดในระดับสูงมากเท่าไหร่แพทย์ก็ยิ่งต้องพึ่งพาความรู้สึกในการผ่าตัดโดยเฉพาะเมื่อการผ่าตัดเกี่ยวข้องกับอวัยวะภายใน

เมื่อหลิงรันหยุดเลือดด้วยมือเปล่าระหว่างการผ่าตัดตับมันขึ้นอยู่กับความรู้สึกของเขา ตามธรรมชาติแล้วความรู้สึกนั้นได้รับการสนับสนุนจากประสบการณ์ของเขาในการศึกษากายวิภาคของมนุษย์ แต่ในตอนท้ายของวันพวกมันไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองเห็นหรือคำนวณได้

ในทำนองเดียวกันการผ่าตัดหัวใจก็เต็มไปด้วยศัลยแพทย์ที่ทำสิ่งต่าง ๆ บนพื้นฐานของ “ความรู้สึก” ที่ไม่ธรรมดาและนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์มากมาย ในระบบประสาทการทำงานของสมองที่จำแนกตามมนุษย์นั้นไม่ถูกต้องเสมอไป แต่เมื่อเข้าทำการผ่าตัดก็จะไม่มีความลังเลในศัลยแพทย์

มีหมอฝึกหัดมากขึ้นที่ตัดสินตามความรู้สึก ยกตัวอย่างวอร์ดที่ยิ่งใหญ่ในโรงพยาบาลแพทย์ปักกิ่ง เป็นตัวอย่างหมอฝึกงานทุกคนสามารถให้คำแนะนำกับหลักฐานที่เพียงพอ แต่ในตอนท้ายของวันมีเพียงความจริงเพียงข้อเดียว

ในท้ายที่สุดอาจารย์ที่มีความสามารถคือแพทย์ที่มีสัญชาตญาณที่เยี่ยมยอด

เมื่อ เจียนเทียนยูทำการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายในฐานะหัวหน้าศัลยแพทย์เขาก็ทำตามความรู้สึกของเขาเช่นกัน หากเขารู้สึกว่าความยืดหยุ่นของเอ็นร้อยหวายนั้นแข็งแรงเกินไปเขาจะทำการปลูกถ่ายเพิ่มเติม ถ้าความยืดหยุ่นอ่อนแอเขาจะดึงมันออกมาให้มันแข็งแรงยิ่งขึ้น

พวกเขาไม่สามารถทำการผ่าตัดได้โดยไม่ต้องพึ่งความรู้สึก จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอุปกรณ์ใดที่สามารถช่วยศัลยแพทย์ทดสอบแรงดึงของเอ็นร้อยหวายได้ เพื่อความแม่นยำมากขึ้นพวกเขาจะทำอะไรได้อีกถึงแม้ว่าจะมีการวัดแรงดึง เอ็นร้อยหวายแตกต่างกันในหมู่คน ใช้ความยาวเป็นตัวอย่างเนื่องจากเป็นตัวอย่างที่ง่ายที่สุดที่จะให้ เอ็นร้อยหวายในชาวเอเชียมักยาว 5.9 นิ้ว เอ็นร้อยหวายของ อเลน อีเวนซันมีความยาว 9.8 นิ้วในขณะที่ของไมเคิล จอแดน มีขนาด 11.8 นิ้ว ดังนั้นแรงดึงจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตามเมื่อ เจียนเทียนยูใช้ความรู้สึกของเขาในการผ่าตัดเขาจะไม่สะกดมันออกมาโดยจงใจ ไม่ใช่ว่าทุกคนเคยถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน ในขณะนั้น เจียนเทียนชื่นชมหลิงรันเล็กน้อยเพื่อความตรงไปตรงมาของเขา

ตอนนี้หมอคูผู้ไม่เคย “รู้สึก” อะไรเลยในระหว่างการผ่าตัดกำลังคร่ำครวญ เขาโกรธด้วยความโกรธเมื่อเขากดปุ่มโทรแล้วพูดว่า “หมอจีเราไม่ควรหยุดการผ่าตัดตอนนี้หรือ”

นักวิชาการจู้ตงอี้อยู่ในห้องสาธิตในขณะที่นายแพทย์จินเทียนยูและกับแพทย์อายุน้อยที่มมีความสามารถอยู่ในห้องผ่าตัดปฏิบัติการ หมอคูคิดว่าจะกล้าขัดแย้งใดๆเพราะมันอาจดูไม่ฉลาดเท่าไร เขาเพียงแค่ถามอย่างสงสัย

จินเทียนยูเองก็ไม่สนใจแม้แต่หมอคู เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา “คุณสามารถติดตามและเรียนรู้จากเขาได้”

ใบหน้าของหมอคูเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

ทั้งคู่มีอายุใกล้เคียงกัน แต่สถานะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หากแพทย์อาวุโส จินเทียนยูเลือกที่จะไม่ทำดีกับหมอคูหมอคูก็คงจะอับอายอย่างแน่นอน

หมอคูเดินเงียบ ๆ จากไมโครโฟนที่เขาใช้สำหรับการสนทนาและย้ายไปที่ด้านหลังของห้องสาธิต

เขาไม่ต้องการออกจากทันทีโดยเฉพาะเมื่อหลิวเหว่ยยังอยู่ที่นั่น หมอคูจะไม่ยอมแพ้อย่างเต็มใจจนกว่าเขาจะเห็นผลลัพธ์สุดท้าย

“ไหมผ่าตัด 4-0″ หลิงรันก็เย็บรอยประสานที่บางขึ้น เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาและยังคงเย็บต่อไป ในการเย็บเอ็นร้อยหวายอย่างง่ายนี้เขาใส่ใจเฉพาะจุดรอยประสานว่าดีเพียงใด โดยไม่พิจารณาถึงอัตราความล้มเหลวใดๆทั้งสิ้น