Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 228
“ฮ่าฮ่าฮ่า … ” ฮานเหว่ยลินหัวเราะออกมาดัง ๆ เพื่อลดบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจในห้องประชุม
อย่างไรก็ตามทุกคนในห้องนั้นฉลาดพอที่จะเขาใจความหมายที่หลิงรันพูดในห้องนั้น
“ฉันทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับสำนักกีฬามาเกือบสิบปีฉันจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดทุกครั้งใช่ไม? ยังไงก็ตามฉันได้ทำงานทบทวนแผนการผ่าตัดของคุณแล้ว” ฮานเหว่ยลินหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ฉันพบชายหนุ่มหลายคนและหมออายุน้อยหลายคนและพวกเขาต่างก็คิดเช่นเดียวกับคุณ แต่ฉันจะบอกคุณว่าฉันเคยตรวจสอบแผนการผ่าตัดมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี -“
“จริงๆแล้วมันไม่สำคัญเลย” หลิงรัน ไม่ค่อยชอบคำพูดของคนที่มีมากจากสำนักกีฬาเลยตอนนี้เขารอเพียงแต่ให้ฮานเหว่ยลินหยุดพูดสิ่งไร้สาระพวกนี้เพียงเท่านั้นดังนั้นเขาจึงขัดจังหวะฮานเหว่ยลินเบา ๆ และพูดว่า “ฉันรู้ว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่เหมาะที่จะเป็นหมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จะเป็นศัลยแพทย์ คุณเองก็ไม่เก่งในการผ่าตัดดังนั้นคุณจึงเปลี่ยนไปเป็นหมอที่ให้คำแนะนำทางการแพทย์นั่น มันก็เป็นการวางเกี่ยวกับอาชีพที่ดีนะจริงๆคุณก็ไม่ต้องอายไปหรอก “
“ฉัน? อายอย่างงั้นหรอ?” ฮานเหว่ยลินตอนนี้เขาอายุสี่สิบปีแล้ว เมื่อเขาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มอย่างหลิงรันมันทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องการอธิบายอำนาจของผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพจากสำนักกีฬาและเขาต้องการแสดงให้หลิงรู้ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารแพทย์และตัวแทนขายยายังต้องเกรงใจเขาเลยและต้องพยายามรักษาหน้าของเขาไว้ตลอดเวลา
แท้จริงแล้วมันยากมากที่จะเห็นหลิงรันพูดตรงๆเช่นนี้ จากนั้นเขาก็ปลอบโยนฮานเหว่ยลิน “ ในการเป็นศัลยแพทย์คุณต้องมีโชคดีในการที่จะเป็นศัลยแพทย์ที่ดีคุณก็ต้องมีโชคดีมากขึ้นไปอีก ฉันรู้ว่ามีนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มีชื่อเสียงบางคนที่รู้ว่าพวกเขาไม่เหมาะแก่การเป็นศัลยแพทย์เพราะพวกเขาขาดทักษะในการผ่าตัด พวกเขาจึงเปลี่ยนอาชีพของพวกเขาให้เป็นแพทย์นิติเวชอายุรแพทย์นักวิจัยทางการแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ … มันเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งที่พวกเขาเลือก “
“ฉัน … ” ความโกรธฮานเหว่ยลินพุ่งสูงขึ้นจากการโดนดูถูกและเหยียดหยามซึ่งหน้าเช่นนี้
ผู้อำนวยการสำนักการกีฬาซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของท่าที ที่ตรงไปตรงมาเรียบง่ายและเคร่งขรึมในทันใดนั้นเขาก็เปิดเผยตัวออกมาและแสดงความคิดที่หลักแหลมออกมา อธิบดีหวังเดินไปหาฮานเหว่ยลินและพูดคุยกับจู้ตงยี่โดยตรง “นักวิชาการจู้หลิวเหว่ยจะกลับมาเป็นปกติมากน้อยขนาดไหนแล้วตอนนี้การรักษาตัวของเขาอยู่ในระดับใดแล้ว?”
นี่เป็นปัญหาหลักที่พวกเขากังวล นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของ หลิวเหว่ยในปัจจุบันด้วย หลังจากที่พวกเขาตั้งคำถามนี้แล้วพวกเขาจะได้กลับไปจัดการกันภายในสำนักกีฬาเพื่อตัดสินใจที่จะช่วยในการพัฒนาอาชีพการกีฬาของหลิวเหว่ยต่อไป
จู้ตงยี่ไม่เต็มใจที่จะพูดคุยเรื่องนั้น จากนั้นเขาตอบอย่างสุภาพ“ การผ่าตัดอยู่ในระดับดีมากมีความเป็นไปได้สูงที่จะฟื้นตัวได้ดีขึ้น”
อธิบหวังดีคิดเกี่ยวกับมันและถามอีกครั้งว่า “มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็น?”
ถ้าอธิบดีหวังถามคำถามนี้กับเขา สถานะของหลิวเหว่ยจะเริ่มชัดเจนขึ้นหลังจากนี้ว่าหลิวเหว่ยยังจะเป็นบุคคลที่สำคัญกับสำนักอยู่หรือไม่? และ เขายังจะได้รับคัดเลือกให้ไปลงแข่งในปีนี้อีกไหม?
หลิวเหว่ยเลือกทำการผ่าตัดทดลองเพราะเขาหวังว่าจะเขาจะหายดีเช่นกัน หลิวเหว่ยเท่านั้นที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันระดับนานาชาติ— เขาเกือบจะได้รับการพิจารณาว่าติดอันดับตัวแทนทีมชาติ
จริงแล้วจะมีนักกีฬาชาวจีนชนะการแข่งขันในระดับท้องถิ่นอยู่มากมาย แต่อธิบดีหวังไม่ได้หวังเพียงเท่านั้นเขาต้องการดันให้นักกีฬาชาวจีนเหล่านี้ไปชนะในการแข่งขั้นระดับโดยเฉพาะเมื่อ หลิวเหว่ยเริ่มฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ – และสามารถกลับไปฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นได้เป็นปกติ – จากนั้นเขาก็จะเป็นแชมป์โลก
ตามความเห็นของกรรมการจากสำนักกีฬา หลิวเหว่ยมีความสำคัญต่อพวกเขาหาก เมื่อเขาฟื้นตัวเต็มที่เท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งถ้าเขากู้คืนเพียงบางส่วนเขาจะไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นนักกีฬาในการแข่งขันครั้งนี้อีกต่อไป
จู้ตงยี่ลังเลเล็กน้อยในไม่กี่วินาที เขามองหลิงรันและถามว่า “คุณคิดอย่างไร?
หลิงรันเห็นว่าสถานะการปฏิบัติภารกิจสำเร็จ 91% จากมุมมองของนักศึกษาแพทย์ก็ถือว่าเป็นการกู้คืนที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสถานะภารกิจเสร็จสิ้นในระหว่างการผ่าตัดหลิงรันตอบอย่างระมัดระวังว่า “เราหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ฉันก็ไม่สามารถการรันตีได้ร้อยเปอร์เซ็น”
คำตอบนี้เป็นสิ่งที่อธิบดีหวังว่าจะได้ยิน เขายิ้ม แต่ก็แสดงสีหน้าไม่สบายใจอีกครั้งเมื่อเขาคิดถึงบทสนทนาแรกที่หลิงรันโต้เถียงฮานเหว่ยลิน “สิ่งที่คุณพูดไม่ได้มีความหมายอะไร ฉันจึงคิดว่าเราควรปล่อยให้ ฮานเหว่ยลินทำการตรวจร่างกาย”
“ แม้ว่าคุณจะตรวจสอบเขาในตอนนี้คุณจะไม่สามารถหาข้อสรุปใด ๆ ได้” จู้ตงยี่ปฏิเสธแบบอ้อมๆ
หลิงรันรู้สึกเบื่อที่จะฟังการสนทนา เขามองนักวิชาการจู้ตงยี่และพูดว่า “ฉันยังมีการผ่าตัดอีกสองครั้งฉันจะขอไปทำงานก่อนได้ไม”
ในบรรดาผู้ป่วยสิบคน ในวันนั้นหลิงรันได้ผ่าตัดพวกเขาไปห้าคนเมื่อคืนนี้ จากนั้นเขาเริ่มทำการผ่าตัดอีกสองคนในตอนเที่ยงคืนและอีกหนึ่งคนเมื่อตะกี้ ดังนั้นหลิงรันยังเหลือผู้ป่วยอีกสองคนที่รอให้เขาไปผ่าตัด
หลิงรันได้ดื่มเซรั่มพลังงานหนึ่งขวดระหว่างการผ่าตัดและเขารู้สึกว่ามันคุ้มค่าหลังจากที่เขาทำผ่าตัดอีกสองครั้งเสร็จ
สำหรับหลิงรันการเดินทางมาเซี่ยงไฮ้นั้นคุ้มค่าเพราะเขามีโอกาสได้ทำการผ่าตัดรักเอ็นร้อยหวายและการผ่าตัดรักษาเอ็นรอยหวายแบบซับซ้อนอีกหนึ่งครั้ง
เมื่อจู้ตงอี้กำลังจะอนุมัติคำขอของหลิงรันผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพฮานเหว่ยลินก็พูดด้วยความไม่พอใจว่า “เราต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในการผ่าตัดของหลิวเหว่ยจริงไม“
ถึงแม้เขาจะโดนดูถูกจากหลิงรันและโดนหลิงรันตอกหน้าไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้กับเรื่องนี้เป็นอันขาด
“อืม … ” จู้ตงอี้ก็ค่อนข้างรำคาญเขาเช่นกัน
หลิงรันพูดว่า “อย่างงั้นไปเอาวีดีโอที่บันทึกไว้ในห้องผ่าตัดมาให้เขาดู”
จู้ตงยี่คิดถึงเรื่องนั้นและเขาจึงเห็นด้วย จากนั้นเขาสั่งให้พยาบาลนำวิดีโอมาให้เขา
ในช่วงเวลานี้ จู้ตงยี่รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เขาเชิญให้ผู้อำนวยสำนักกีฬาไปนั่งและเชิญนักข่าวให้นั่งลงด้วย เขายิ้มและพูดว่า “เนื่องจากการผ่าตัดเพิ่งเสร็จสิ้นจึงไม่ถูกต้องที่จะประเมินผลกระทบใด ๆ ในตอนนี้รายละเอียดที่แน่นอนเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำระหว่างการผ่าตัดก็สามารถเห็นได้ในวิดีโอ”
ทุกวันนี้การผ่าตัดที่สำคัญในโรงพยาบาลมักถูกบันทึกลงในวิดีโอ ในโรงพยาบาลขนาดเล็กย้อนกลับไปเมื่อขั้นตอนการปฏิบัติงานไม่ได้มาตรฐานวิดีโอที่บันทึกไว้อาจจะเปิดเผยข้อบกพร่องและจุดอ่อนของแพทย์ ดังนั้นแพทย์ทุกคนจึงลังเลที่จะยอมเผยแพร่คลิปวีดีโอพวกนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปแพทย์เหล่านี้ก็จะกลายเป็นมือหนึ่งในสาขาทางการแพทย์ต่างๆเมื่อวีดีโอถูกเผยแพร่ออกไป แต่สำหรับแพทย์ที่พึงเริ่มต้นอาชีพในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐาน ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้การบันทึกวิดีโอถือเป็นการป้องกันสำหรับแพทย์ … โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการผ่าตัดล้มเหลวโดยไม่มีเหตุผล แพทย์จะไม่ต้องหาวิธีอธิบายตัวเอง
เมื่อจู้ตงยี่ต้องการให้หลิวเหว่ยเข้ารับการผ่าตัดเขาจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น มีการปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดตลอดกระบวนการทั้งหมดของการผ่าตัดเริ่มตั้งแต่การเตรียมการจนถึงการสิ้นสุดของการผ่าตัด วิดีโอถูกบันทึกจากหลายมุมซึ่งมีรายละเอียดมากกว่าจอแสดงผลในห้องสาธิตที่ปกติจะถ่ายทอดสดให้ดูกัน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งหน้าจอแสดงผลสามจอในห้องรับแขกก็เล่นวิดีโอพร้อมกัน
ผู้อำนวยการของสำนักกีฬาพร้อมกับผู้สื่อข่าวต่างๆก็กลัวเมื่อเห็นภาพของการผ่าตัดในตอนแรก พวกเขาปิดตาเหมือนเด็กที่ดูหนังสยองขวัญเป็นครั้งแรก ในไม่ช้าพวกเขาก็ลืมความรู้สึกที่น่ากลัวและเริ่มอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น
“ทำไมแผลผ่าตัดถึงเป็นรูปตัว S?”
“เพื่อการกู้คืนที่ดีขึ้น”
“ คุณตัดเอ็นร้อยหวายที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ออกไปได้ยังไง?
“ชิ้นส่วนที่ฉีกขาอยู่ในรูปของหางม้าและชิ้นส่วนเหล่านั้นไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแม้ว่ามันจะถูกเก็บรักษาไว้มันจะหน่วงเวลาในการฟื้นตัวและอาจทำให้เกิดการอักเสบในอนาคต”
“ใช้เวลานานแค่ไหนในการเย็บหลอดเลือด?”
“ใช้เวลาค่อนข้างนานในการเย็บแผล”
“เส้นเลือดมีขนาดเล็กมากจริง ๆ แล้วทำไมกล้องจุลทรรศ์ถึงได้ชัดขนาดนั้น?”
“เลนส์ซูมมาโคร 8x”
… ..
จู้ตงยี่เจียนเทียนยูและหมอซูทำหน้าที่เป็นโฆษกในการตอบคำถามในครั้งนี้ หลิงรันนั่งอยู่ข้าง ๆ เขาทำท่าทีเบื่อหน่ายสิ่งเหล่านี้
ในตอนแรกฮานเหว่ยลินถามคำถามสองสามข้อจากนั้นเขาค่อย ๆ เงียบไป
ในฐานะที่เป็นช่องทางหลอดเลือดแรกที่ทำโดยหลิงรัน เขายืนยันในการจะเชื่อมช่องทางของหลอดเลือดที่สอง ฮานเหว่ยลินเห็นการเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของหลิงรัน เมื่อเขาจำบทสนทนาของเขากับหลิงฮานเหว่ยลินได้ตระหนักว่าบางส่วนที่เขาพูดนั้นค่อนข้างแม่นยำ
ตัวอย่างเช่นแผนนี้น่าสนใจแต่มันจะผ่าตัดเร็วไปไม?
ฮานเหว่ยลินเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของหลิงรันเขามันทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก แต่คิดว่า ‘สำหรับศัลยแพทย์เช่นนี้แผน A น่าสนใจจริงๆ … ‘
“ดังนั้นวิธีการในการถ่ายเทเลือดอย่างต่อเนื่องใช้งานได้จริงๆ” ฮานเหว่ยลินดูเหมือนเขาจะเข้าใจความสามารถพิเศษที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ในที่สุด
สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถพูดคุยได้ในขณะนี้คือความพยายามของพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณเลือดทำงานได้หรือไม่เพราะไม่มีหลักฐานโดยตรงที่แสดงว่ามันสามารถช่วยให้นักกีฬาในการฟื้นฟูผ่านการผ่าตัดเช่นนี้ได้
ฮานเหว่ยลินที่จะพูดคุยปัญหานี้เล็กน้อย ในฐานะศัลยแพทย์ฮานเหว่ยลินมีความละอายอยู่ลึกๆเช่นกัน แม้ว่าเขาจะพบว่าตัวเองไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้หากเขาต้องชี้ปัญหาต่อไปในการผ่าตัดที่ชัดเจนเช่นนี้
หลังจากที่เขาได้ยินเสียงที่เป็นมิตรจากฮานเหว่ยลิน เจียนเทียนยูก็ยิ้มและพูดว่า “ปริมาณเลือดค่อนข้างดีดัชนีที่เราวัดได้ในตอนนี้เช่นอุณหภูมิเป็นไปตามมาตรฐานที่คาดหวัง”
“มันค่อนข้างดี” ปากของ ฮานเหว่ยลินกระตุก
ผู้อำนวยการของสำนักกีฬาถามคำถามที่เขากังวลมากที่สุด “ดังนั้นคุณหมายความว่าหลิวเหว่ยสามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ใช่หรือไม่”
“ ก็มีโอกาสที่เป็นไปได้” ฮานเหว่ยลินกล่าว เขาดึงผู้อำนวยการออกไปและกระซิบเสียงเบา ๆ
หลิงรันไม่สามารถทนเรื่องพวกนี้ได้อีกต่อไป เขายืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ และออกจากห้องรับแขก จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่ห้องผ่าตัด
เขามองหานางพยาบาลสาวๆที่เขาเพิ่งพบและขอให้เธอส่งผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด จากนั้นเขาก็เริ่มการผ่าตัดใหม่โดยมีวิสัญญีแพทย์และพยาบาล อีกทั้งเขาก็ให้หมอลู่เป็นผู้ช่วยคนแรก
หลิงรันอาบน้ำและล้างมือเปลี่ยนเป็นชุดชั้นในคู่ใหม่แล้วขัดผิวหน้าก่อนเข้าห้องผ่าตัด เขาอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจลึก ๆ และยิ้มอย่างมีความสุข “ดมยาสลบ”