Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 232
ณ เวลาเก้าโมงเช้า ในตอนนี้หมอลู่เขาเดินเซ่ไปมา ซึ่งถ้าเขาเดินไปตรวจรอบวอร์ดด้วยสภาพนี้ก็คงจะทำให้ผู้ป่วยคงไม่ประทับใจแน่ๆหลิงรันจึงยกเลิกตารางเดินรอบวอร์ดในวันนี้ร่วมถึงตารางการผ่าตัด
มันทำให้หมอลู่วิ่งกระโดดโลดเต้นไปทั่วห้องปฏิบัติการด้วยความดีใจเพราะในตอนแรกเขานึกว่าต่อให้ไม่เดินตรวจรอบวอร์ดเขาก็ยังจะต้องผ่าตัดต่อไปอยู่ดี
มันเป็นเรื่องปกติมากสำหรับแพทย์ประจำบ้านที่จะต้องทำงานข้ามคืน แม้แต่แพทย์ประจำบ้านก็เคยได้นอนพักถึงแปดชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเมื่อพวกเขาทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนถึงช่วงหนึ่งของการทำงานมันจะเกิดความคิดที่ว่าพวกเขาควรทำเพื่อเงินหรือสุขภาพที่ดี
อย่างไรก็ตามแพทย์ปกติสามารถทำงานได้เพียงแค่กะละหนึ่งวันเท่านั้นและทำงานกะกลางคืนได้เพียงหนึ่งคืน สำหรับการทำงานล่วงเวลา หากพวกเขาทำงานมากกว่านั้น … ก็จะมีผลกระทบต่อร่างกาย แพทย์ประจำแผนกส่วนใหญ่ในช่วงที่ทำงานสภาพของพวกเขาดูเหมือนศพที่เดินได้ซึ่งพวกเขาจะสามารถทำงานได้นานถึงสามสิบสี่ชั่วโมง ซึ่งการทำงานสองกะติดต่อกันก็ยังเป็นเรื่องที่ยอมรับได้อยู่สำหรับแพทย์ ส่วนใหญ่แพทย์เหล่านี้จะชอบนำเรื่องการเข้ากะของพวกเจ่ไปอวดเพื่อนๆในกลุ่มวีแชทเสมอเพื่อยืนยันว่าพวกเขาทำงานหนักแค่ไหน
โดยหลิงรันดื่มเซรั่มพลังงานเมื่อคืนนี้ หลิงรันตรวจสอบกับระบบว่าเขาสามารถทำงานได้เพิ่มขึ้นสิบหกชั่วโมงซึ่งมาถึงตอนนี้มันก็เกือบจะครบเวลาแล้ว หลิงรันจำเป็นจะต้องดื่มอีกขวดหนึ่งเพิ่มเข้าไปเมื่อหมดเวลาของขวดเก่า
ด้วยเหตุนี้หลิงรันจึงคิดว่าเขาจะดื่มมันเพิ่มแล้ว มันจะดีกว่าถ้าเขาเอาเวลานี้ไปพัก
แต่จริงๆแล้วเขาเหลือเซรั่มพลังงานเพียง 143 ขวดแต่นั้นมันก็เป็นเพียงปัญหารองเท่านั้น ปัญหลักคือหมอลู่และแพทย์ประจำแผนกกะกลางคืนพวกเขาหมดแรงกับการผ่าตัดต่อเนื่องไปแล้ว พยาบาลสาวๆเขากะพวกเธอก็ควรกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ถ้าเขาต้องการที่จะทำการผ่าตัดต่อ หลิงรันจะต้องทำการแจ้งเรื่องไปที่พยาบาลที่ดูแลห้องผ่าตัดเพื่อให้เขาจัดพยาบาลชุดใหม่เข้ามาในกะเช้าแทน ซึ่งมันจะยุ่งยากสำหรับเขา
แน่นอนปัจจัยการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดสำหรับการกระทำของหลิงรันอีกอย่างนั้น คือผู้ป่วยที่มีไม่เพียงพอต่อความเร็วในการผ่าตัดของเขา
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อที่มีชื่อเสียงที่เซี่ยงไฮ้วัยสี่สิบปีอย่างเจียนเทียนยู ทำเขาต้องทำการโทรหาเกือบสิบโรงพยาบาลเพื่อนำผู้ป่วยมาให้หลิงรันแต่สุดท้ายเขาก็ได้ผู้ป่วยมาเพียงเก้าคนเท่านั้นอีกทั้งเขาก็ได้ขอผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายนิ้วมาเพิ่มอีกสามคน ซึ่งหลิงรันใช้เวลาเพียงสิบเจ็ดชั่วโมงเท่านั้นในการจัดการกับการผ่าตัดเหล่านี้
ในฐานะแพทย์ที่เคยอ่านวิจัยมาหลายชิ้น หลิงรันเข้าใจว่าเมืองอย่างเซี่ยงไฮ้มีประชากรสามสิบล้านคนจะมีผู้ป่วยเพียงแค่สองคนต่อหนึ่งวันเท่านั้นหรอที่บาดเจ็บจากอาการเอ็นรอยหวายฉีก หากเขารวมผู้ป่วยจากเมืองใกล้เคียงและมณฑลเขาอาจจะผ่าตัดได้มากกว่าจำนวนหนึ่งสาม ไม่ก็หนึ่งในห้าของผู้ป่วยที่เขามาเมื่อวานนี้ก็เป็นได้
สำหรับเมืองที่มีโรงพยาบาลเกรด A หลายสิบแห่งนั้นอาจกล่าวได้ว่าหลิงรันทำการผ่าตัดได้มากกว่าโรงพยาบาลเหล่านั้นที่สามารถผ่าตัดผู้ป่วยได้ในหนึ่งวันเสียอีก แต่ก็น่าเสียดายที่หลิงรันก็ต้องรอเคสผ่าตัดอยู่ดี
ที่จริงแล้วจำนวนผู้ป่วยที่เป็นบุคคลธรรมดาที่บาดเจ็บด้วยสาเหตุเอ็นร้อยหวายฉีกนั้นส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายถึงเย็นเป็นตนไป เนื่องมาจาก บางคนเป็นแฟนกีฬาและชอบเล่นกีฬาพวกเขามักจะใช้เวลาว่างยามเย็นเพื่อไปออกกำลังกาย อย่างเช่นแบดมินตันหรือบาสสเก็ตบอลซึ่งทำให้มีโอกาสที่พวกเขาอาจจะบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายได้ในเวลานั้น
ดังนั้นหลิงรันจึงขอพักแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น เขาตรวจสอบประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยเมื่อวานนี้ หลังจากตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา เขาก็รู้สึกโล่งใจและนั่งรถกลับไปที่โรงแรมอีกทั้งสำหรับเมื่อวานนี้หลิงรันก็ได้รับค้าจ้างในการผ่าตัดเป็นเงินจำนวนหนึ่งซึ่งถือว่ามากอยู่ เขาจะเลือกที่จะนั่งในรถหรูกลับไปที่โรงแรมถ้าเขาไม่ได้วางแผนที่จะเก็บเงินเพื่อไปซื้อโยเกิร์ตมาแจกอีกครั้ง
หลิงรันได้นอนหลับจนถึงบ่าย เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มหายเหนื่อยจากการผ่าตัดเมื่อวันก่อน เขาเก็บข้าวของและเรียกรถอีกครั้งเพื่อกลับโรงพยาบาล จากนั้นเขาก็รีบไปที่สำนักงานของเจียนเทียนยู
เมื่อเจียนเทียนยูพบหน้าหลิงมันทำให้เขาคิดอยู่ภายในใจขึ้นมาว่าเขาอยากจะหาที่ซ่อนสักแห่งในห้องของเขาเพื่อหลบหนีจากหลิงรัน
“หมอหลิงคุณมาแล้วหรอ” เจียนเทียนยูหัวเราะแบบกลบเกลือน
“หัวหน้าแพทย์เจียน” หลิงรันแสดงรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา เขานั่งตัวตรงบนเก้าอี้ มันเป็นจุดที่นั่งของแขกในการมาติดต่อกับแพทย์ในห้องทำงาน
“ อืม…หลิงรัน…ฉันได้ยินมาว่าคุณทำการผ่าตัดมาทั้งวันทั้งคืนแล้วจริงๆคุณไม่ควรทำงานหนักขนาดนั้น”
“จริงๆแล้วฉันไม่รู้สึกเหนื่อยเลยนะ” หลิงรันยิ้มอย่างตั้งใจ
“คุณได้รับค่าจ้างในการผ่าตัดแล้วเนาะ ทางสถาบันจะจ่ายค่าผ่าตัดให้กับเคสเอ็นร้อยหวายฉีกขาดอยู่ที่ประมาณ 100 หยวนต่อคนมันอาจไม่เป็นที่น่าพอใจมากนักสำหรับเงินจำนวนเท่านี้ แตกต่างจากโรงพยาบาลหยุนหั สำหรับการจัดสรรของกองทุนในโรงพยาบาลหยุนหัวนั้นอยู่ที่ 50% ของการผ่าตัดจะเป็นของหัวหน้าแพทย์ใช่ไหม สำหรับเราหัวหน้าศัลยแพทย์ได้รับเพียงหนึ่งในสี่ของค่าผ่าตัดซึ่งหมายความว่าคุณได้รับเพียง 25 % ของค่าธรรมเนียมการผ่าตัดแพทย์ซึ่งมันก็ไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นเลย แต่เราไม่มีทางเลือกยกเว้นการใช้ระบบปัจจุบันนี้กับเก้าเคสที่พึงผ่านมาเมื่อวานนี้คุณก็จะได้รับอยู่ที่ประมาณ 1,000 หยวน ที่จริงแล้วมันค่อนข้างมากเลยนะ… “เจียนเทียนยูรู้สึกว่า เขาพูดอะไรบางอย่างผิดไปแน่ๆ มันทำให้เขารู้สึกแย่เพราะเหมือนเขากำลังชี้โพร่งให้กระรอกอยู่
หลิงรันตอบหลังจากเจียนเทียนยูพูดจบ “ฉันยังไม่ได้ติดต่อฝ่ายการเงินเลย ยังไงก็ตามฉันต้องไปสัมภาษณ์ก่อน”
“เดียวก่อน … สัมภาษณ์เหรอหลิงรานฉันอยากจะพูดคุยกับคุณในเรื่องนี้ … “
“ฉันรู้ฉันขอโทษที่ฉันยังไม่ได้ทำการผ่าตัดเคสของเมื่อวานนี้” หลิงรันขัดจังหวะเจียนเทียนยูและพูดอย่างจริงใจ “แต่นั่นเป็นเพราะผู้ป่วยรายต่อไปยังไม่มาถึงร่วมถึงว่าพยาบาลและผู้ช่วยแพทย์ของฉันเริ่มเหนื่อยล้ากันแล้วฉันจึงตัดสินใจพักซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด “
“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น … “
“ถ้าอย่างงั้นฉันจะทำการผ่าตัดของเมื่อวานที่เหลืออีกสี่ครั้งให้เสร็จภายในสองชั่วโมง ซึ่งทั้งสี่เคสเป็นการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายฉีกขาด แตอย่างไรก็ตาม ฉันอาจจะช้าไปบ้างแต่อาจไม่เกินสองชั่วโมงครึ่ง ซึ่งฉันจะไม่ให้การผ่าตัดของฉันยืดเยื้อไปถึงสามชั่วโมงแน่ “
เจียนเทียนยูตกตะลึงว่า “คุณไม่ต้องผ่าตัดที่เหลือเร็วขนาดนั้นก็ได้ เพราะการหาผู้ป่วยสิบสองคนนั้นมันยากมากเลยนะกว่าที่จะหามาได้… “
“แสดงว่าฉันไม่มีการผ่าตัดแล้ว?” ท่านั่งที่เชื่อฟังของหลิงรันทรุดตัวลงทันที แต่รอยยิ้มของเขายังคงอยู่ มันยากสำหรับเตาปิงที่จะฝึกให้เขาแสดงรอยยิ้มที่เป็นที่ยอมรับของสังคม เขาจึงยิ้นเหมือนที่แม่เขาสอนเพื่อจะรักษาความสัมพันธ์ไว้
“ใช่” เจียนเทียนยู ตอบ เขาแกล้งทำเป็นจริงจังและพูดว่า “ก็อาจจะเป็นอย่างงั้น ถ้าเราไม่เจอผู้ป่วยโดยบังเอิญส่ะก่อนนะ … “
“เอาล่ะ.” หลิงรันไม่ต้องการฟังคำอธิบายของเขา เมื่อเขาเห็นว่า เจียนเทียนยูจริงจังในการแสดงความคิดเห็นของตัวเองเขาสามารถพยักหน้าและพูดว่า “ให้ฉันติดต่อเที่ยวบินกลับไปที่หยุนหัวฉันจะกลับไปคืนนี้ เดียวฉันจะดำเนินงานอื่นก่อนจะกลับให้เสร็จ มันคือการเดินตรวจรอบวอร์ดใช่ไหมจริงๆแล้วมันก็ไม่มีอะไรมากก็แค่ยืนตรวจผู้ป่วยเท่านั้น… “
“รอ!” เจียนเทียนยูจ้อไปที่การแสดงออกของหลิงรันและทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย
หลิงรันมองไปข้างหน้าอย่างใจเย็นขณะที่ใจของเขากำลังเหม่อลอย ในใจของเขาเขาเริ่มคิดถึงห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลหยุนหัว แม้ว่าจะมีเตียงน้อยลงในโรงพยาบาลหยุนหัวแต่พวกเขามีเตียงเสริมจำนวนขึ้น! นอกจากนี้ยังมีการปลูกถ่ายนิ้วในโรงพยาบาลหยุนหัว หากเขาวิ่งเข้าไปหาคนไข้ที่มีสามหรือสี่นิ้วที่ขาดเขาสามารถผ่าตัดได้อย่างง่ายได้ในเวลาห้าถึงหกชั่วโมง
ในทางตรงกันข้ามเทคนิคการซ่อมแซมเอ็นร้อยหวายปกติจะคงอยู่เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบกับการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถังได้ แต่ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานานขึ้น
นอกจากนี้เขาสามารถทำการเชื่อมเส้นประสาทเมื่อเขาทำการปลูกถ่ายนิ้ว ด้วยวิธีนี้เขาสามารถใช้เทคนิคใหม่ของเขา ในอนาคตเขาสามารถใช้การเชื่อมต่อเยื่อบุประสาทและการเชื่อมต่อปมประสาทเข้าด้วยกันได้ เมื่อเขาเข้าไปถึงในเส้นประสาทขนาดเล็กเขาจะใช้การเชื่อมเยื่อบุประสาทเพื่อย่นระยะเวลาในการผ่าตัดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเนื่องจากแผล เมื่อเขาพบกับเส้นประสาทที่สำคัญหรือเมื่อเขามีเวลาในการผ่าตัดเพียงพอเขาสามารถใช้การเชื่อมต่อปมประสาทเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จและเพิ่มคุณภาพของการรักษาหลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัด
“หลิงรันคุณอย่าพึงรีบกลับไปที่หยุนหัวสิ ” เจียนเทียนยูทำให้เสียงของเขาให้เบาลง
“ แต่ถ้าฉันไม่กลับฉันจะไม่มีการผ่าตัดใด ๆเลย ” หลิงรันมีความแน่วแน่ในการตัดสินใจของเขา
เจียนเทียนยูไม่เคยพบหมอแบบนี้เลย แพทย์ที่ทำการร้องขอแบบนี้ หลายคนมักมีอายุมากแล้วหรืออยู่ในวัยกลางคน คำขอของพวกเขามักจะสมเหตุสมผลเช่นขอเพิ่มเงินเดือนต้องการไปคาราโอเกะต้องการอาหารอร่อยเครื่องดื่มและบริการที่ดี บางคนถึงกับขอรางวัลบางอย่างหรือเพื่อเผยแพร่บทความ แม้ว่าเจียนเทียนยูจะไม่สามารถทำให้พวกเขาพอใจเขาก็สามารถจัดการตามความต้องการของพวกเขาได้เสมอ
แต่เรียกร้องขอผู้ป่วยมากขึ้นนี้มัน …
เจียนเทียนยูจ้องที่หลิงรันเขาคิดว่า. ‘คุณขู่ฉัน? นี่คือแบล็กเมล์! มันไร้ประโยชน์เมื่อฉันไม่มีอะไรจะให้นายสินะ! ‘
เจียนเทียนยูไอหนักก่อนที่เขาจะจัดท่าทางการนั่งของเขา เขาพูดว่า “หลิงรานฉันจะให้คุณได้อีกห้าเคสสำหรับเอ็นร้อยหวายฉีกในวันนี้ฉันไม่สามารถให้คุณทำมากกว่านี้ได้แล้ว”
“ได้เลย.” หลิงรันรีบตกลงกันทันที
เจียนเทียนยูตกตะลึงก่อนที่เขาจะเริ่มสาปแช่งในใจของเขา ‘ฉันให้เคสกับหมอหลังมากเกินไป ‘
“อย่าลืมเชิญผู้สื่อข่าวสำนักอื่นให้มาสัมภาษณ์ฉันด้วยนะ” หลิงรันพูดต่อไปว่า “ฉันตอบรับการสัมภาษณ์สี่ครั้งเมื่อวานนี้ฉันทำศัลยกรรมสิบสองเคสเนื่องจากคุณกำลังมองหาผู้ป่วยอีก 5 รายที่มีอาการของเอ็นร้อยหวายฉีก จากนั้นคุณสามารถนัดสัมภาษณ์อีกครั้งในช่วงกลางคืน อีกสามคนรวมเป็นยี่สิบคน “
เจียนเทียนยูต้องพยายามอย่างหนักก่อนที่เขาจะเข้าใจในที่สุดว่าหลิงรันหมายถึงอะไร เขาตบไปที่หน้าผาก
“หากไม่มีผู้ป่วยที่มีบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย คุณก็แค่มองหาผู้ป่วยที่นิ้วขาด เพราะมันง่ายกว่าที่จะค้นหาเคสเหล่านี้” หลิงรันปลอบโยนเจียนเทียนเช่นเดียวกับที่เขาปลอบโยนผู้อำนวยการฮวงเมื่อเขาอยู่ที่โรงพยาบาลหยุนหัว
‘เขาดูหยิ่งมาก! เจียนเทียนยู คิดว่า ‘ไม่ว่าอะไรฉันก็ยังคงเป็นหัวหน้าแพทย์อยู่ แม้ว่าเราต้องการให้คุณผ่าตัดขนาดไหน แต่การเรียกร้องของคุณมันมากเกินไป … ‘
เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจียนเทียนยูคิดขึ้นมาและพูดว่า “หลิงรันคุณทำงานหนักมาทั้งวันคุณไม่สามารถทำการผ่าตัดต่อไปได้ทำไมไม่กลับไปที่โรงแรม แล้วพักสักสองวันก่อนเหรอ?
“ฉันไม่เหนื่อย.”
“คุณไม่สามารถตัดสินได้ว่าคุณเหนื่อยหรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับมุมมองส่วนตัวของคุณ คุณต้องวิเคราะห์อย่างเป็นกลางนอกจากนี้เรามีระบบของเราเองคุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอ … ” เจียนเทียนยูพยายามโกหกเขา ไม่มีกฎดังกล่าวในศูนย์เวชศาสตร์กระดูกและข้อจริงๆ โรงพยาบาลต้องการให้แพทย์พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกวันและนี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงมีตำแหน่งแพทย์ประจำบ้าน
“เดียวฉันพิสูจน์ให้ดู” หลิงรันพูดและเขามองหาบางอย่างในกระเป๋าของเขา เขาได้เตรียมมันมาก่อนที่จะออกจากโรงแรม
เจียนเทียนยูได้หยุดเขาไว้อย่างรวดเร็วและพูดว่า “หยุดเล่นซูโดกุ การทำ ซูโดกุ ทำได้เพียงบอกฉันว่าสมองของคุณยังคงชัดเจน แต่มันไม่สามารถแสดงสถานะของการประสานงานสำหรับแขนขาของคุณ … “
“เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้ว ว่าซูโดกุนั้นมันมีข้อจำกัดบางอย่าง”
หลิงรันพูดในขณะที่เขาผลักมือของเจียนเทียนยูออกไป เขาหยิบกระเป๋าหุ้มขนาดเท่าแขน เมื่อเขาคลายซิปมันพวกเขาเห็นอากาศเย็นลอบขึ้นจากมัน
“มันตุ๋นเหรอ?” เจียนเทียนยูตื่นเต้นเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาเชื่อว่านี่เป็นสินบนจากหลิงรันแม้ว่ามันจะแปลกไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับสินบนเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้นเขาคิดว่านี่เป็นท่าทางที่ดีที่หลิงรันแสดงออกมา
หลิงรันส่ายหัว ก่อนอื่นเขาเอาน้ำแข็งสองก้อนออกมาก่อนที่เขาจะเอาผ้าเช็ดตัวออก และผ่ามันออกมารวมถึงคลี่มันออกมาต่อหน้าเจียนเทียนย จากนั้นเขาหยิบกีบหมูหนึ่งขสโดยที่ยังมีเข่าของหมูติดอยู่และเขาก็นำชุดเครื่องมือผ่าตัดออกมา
เขาไม่ต้องรอให้เจียนเทียนยูพูดอะไรเลยหลิงรันเก็บกระเป๋าไว้ เขาหยิบมีดผ่าตัดออกมาและตัดเข้าไปที่หัวเข่า จากนั้นเขาใช้คีมดึงเอ็นร้อยหวายของหมูออกมาอย่างง่ายดาย
“ฉันยังสามารถผ่าตัดได้ถูกต้องไม?” หลิงรันแสดงให้เห็นว่าเอ็นร้อยหวายสีขาวและสดให้กับเจียนเทียนยูดู
“ฉันเข้าใจแล้วฉันจะโทรเรียกผู้ป่วยตอนนี้” เจียนเทียนจำได้ว่าเขาพูดอะไรบางอย่างที่คล้ายกันมาก่อนหน้านี้ แต่เขาจำไม่ได้ เขาคลำหัว, ‘ฉันไม่เคยเรียนรู้อะไรจากสิ่งที่หมอหลิงทำเลย!‘ เขาดูแค้นที่พึงพลาดท่าให้กับหมอหลิงเป็นครั้งที่สอง