Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 240
ผู้อำนวยการฮวงยืดอกของเขาอย่างหน้าเกรงขามในขณะที่เขายืนอยู่ต่อหน้าฝูงชนหน้าอาคารเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เขามองไปข้างหน้าราวกับว่าเขากำลังท้องฟ้าที่ไกลออกไป
“ เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันได้ยินข่าวที่เซี่ยงไฮ้ นายไปออกข่าวผ่านช่องทีวีดาวเทียมใช่ไหม?” ผู้อำนวยการฮวงหันมามองหลิงรัน “ ตอนนี้นายอยากเป็นคนดังแล้วหรือยังไง?”
“ จริงแล้วพวกเขาเรียกผมสัมภาษณ์สิบหานาที แต่ออกอากาศเพียงสามวินาทีของการสัมภาษณ์ อีกทั้งมันยังน่าเบื่อมากๆ ” เนื่องจากหลิงรันเคยถูกสัมภาษณ์จากทีวีโทรทัศน์หลายแห่งมาก่อน และนี่เป็นช่องดาวเทียมเพียงช่องเดียวที่สัมภาษณ์เขา และยังเป็นช่องที่ใช้เวลาในการสัมภาษณ์นานที่สุด แต่ก็ให้เวลาหน้าจอที่สั้นที่สุด
หลิงรันไม่มีความสุขกับการสัมภาษณ์ของทีวีดาวเทียมที่พึงฉายไปเมื่อครู่ มันไม่เหมือนที่เขาไม่เคยสัมภาษณ์ที่อื่นๆมาก่อน แต่ก็ยังดีที่ว่าสิ่งที่รายการทีวีนั้นเสนอออกมานั้นยังเป็นความจริง อีกทั้งเขายังบอกกับหลิงรันว่าพวกเขาอาจจะสัมภาษณ์สิบกว่านาทีก็จริง แต่จะนำเอาไปออกไม่กี่วินาทีเมื่อลงเสนอข่าวเรื่องนี้จริงๆ
ผู้อำนวยการฮวงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทางของหลิงรัน เขาหันไปมองหลิงรันอย่างรวดเร็วและพูดว่า“ สำหรับแพทย์แล้ว การได้ออกข่าวหรือได้สัมภาษณ์ถือเป็นโอกาสที่ดีเลยนะ ”
“ผมรู้ . ”
“ ตอนนี้นายอาจจะยังเด็กอยู่ นายอาจจะยังไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อนายได้ลงข่าวอีกครั้งล่พก็นายอาจจถ่ายรูปเหล่านั้นผ่านจอทีวีที่เสนอข่าวและเอาไปห้อยไว้บนกำแพงแน่ๆ”
“ หืม ”
“ อ๋อ นายรู้แล้วใช่ไหมว่าผู้ป่วยที่จะถูกส่งมาโรงพยาบาลล่าสุดนั้นเป็นอาชญากร?” ผู้อำนวยการฮวงเริ่มเปลี่ยนหัวข้อไปพูดถึงเรื่องการผ่าตัด เขารู้ว่าหลิงรันเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นและไม่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการสัมภาษณ์ให้เสียเวลาแล้ว
หลิงรันพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า“ ผมได้ยินมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นคนจริงหรือป่าว? ”
“เขาเป็นอาชญากรจริงๆ . เขาปล้นร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ เขาฆ่าคนขับรถซีดานขนาดเล็กพร้อมกับพี่สะใภ้และแม่สามี ซึ่งตำรวจเป็นคนพาเขามารักษาที่นี้ เพราะขาข้างหนึ่งของได้รับบาดเจ็บสาหัดแต่ร่างกายของเขายังตอบสนองได้ปกติ “เมื่อผู้อำนวยการฮวงพูดจบ เขามองไปที่หลิงรันแล้วถามว่า” นายต้องการแยกเขาออกไปรักษาด้วยตัวเองหรือป่าว?
หลิงรันมองหน้าผู้อำนวยการฮวงที่มีท่าทางแปลก ๆ และตอบว่าเขาว่า“ ต้องการ ”
“โอ้ดีเลย . ” ผู้อำนวยการฮวง เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกล่าวว่า“ ฉันคิดว่าคนหนุ่มสาวอย่างพวกนายจะมีความคิดเห็นเพิ่มเติมอื่นๆเสียอีกในการผ่าตัดอาชญากรคนนี้เสียอีก ”
“ ผู้อำนวยการฮวงคุณมีความคิดเห็นอย่างไรล่ะ?” หลิงรันก็โยนคำถามกลับไปที่ผู้อำนวยการฮวงอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานี้มีหมอไม่กี่คนที่อยู่รอบๆ พวกเขามองไปที่ผู้อำนวยการฮวงจากมุมมองของจริยธรรมทางการแพทย์คำตอบนั้นชัดเจนมาก แพทย์จำเป็นต้องรักษาผู้ป่วยเท่านั้นจากนั้นให้ตำรวจหรือระบบตุลาการทำส่วนที่เหลือต่อ อย่างไรก็ตามจริยธรรมทางสังคมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับพวกเราสักเท่าไร
ทุกคนต่างก็สงสัยเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้อำนวยการฮวง
เมื่อผู้อำนวยการฮวงเห็นท่าทางของผู้คนรอบตัวเขา เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ พวกนายคิดอะไรอยู่ ฉันเคยเป็นแพทย์ทหาร ในฐานะแพทย์ทหารแม้ว่าเราจะได้รับคำสั่งให้ห้ามปฏิบัติใดกับฝ่ายศัตรูแต่เราก็ยังต้องรักษาพวกเขาอยู่ดี แล้วจะให้ฉันคิดยังไงล่ะ?”
“ อยากน้อยการรักษาศัตรูของคุณก็ยังได้รับชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น แต่การรักษาอาชญากรยังงี้เราจะได้อะไร เอาพวกมันไปยิงทิ้งไม่ก็ประหารชีวิตยังดีกว่าเสียอีก? เพื่อไม่ให้ทรัพยากรทางการแพทย์สูญเปล่า ” เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง
ผู้อำนวยการหันไปรอบ ๆ แต่หาคนที่พูดเช่นนั้นไม่พบ แน่นอนว่าเขาจะสามารถถามได้ว่าใครเป็นคนพูด แต่ผู้อำนวยการฮวงก็ไม่ทำอย่างงั้น
เขาพูดอย่างเรียบๆ“ เราใช้เวลาหลายปีในโรงเรียนแพทย์เพื่อให้เรารักษาผู้ป่วยได้ หากพวกนายต้องการที่จะเป็นผู้พิพากษานายก็ควรเดินออกไปและใช้เวลาสิบปีไปเรียนในโรงเรียนกฎหมายนู้น แต่หากนายต้องการเป็นนักปราชญ์โปรดไปหาปริญญาเอกสาขาปรัชญาก่อนมาพูดกับฉัน ”
ภายในห้องไอซียูก็เงียบลงทันที
ผู้อำนวยการฝ่ายและรองผู้อำนวยการฝ่ายไอขึ้นมาพูดสองสามครั้งแล้วพูดว่า“ อย่าพูดไร้สาระเลย แพทย์ต้องทำการรักษาทุกคนในกรณีฉุกเฉิน ผู้ที่ไม่รู้คำตอบช่วยกลับไปอ่านหนังสืออีกครั้ง แม้ว่าสิงโตที่ป่วยเป็นโรคเอดส์จะถูกส่งมาที่นี่ในวันนี้ยังไงพวกคุณก็ต้องทำการรักษาให้ถึงที่สุด ”
“ ทำไมสิงโตป่วยด้วยล่ะ”
“ สิงโตตัวนั้นทำอะไรผิด?”
“ ทำไมต้องเป็นสิงโต? มันเป็นสุนัขไม่ได้หรอ?”
ทุกคนแสดงความไม่พอใจด้วยการแสดงท่าทางและคำพูดตลก ๆ ทุกรูปแบบ
รองผู้อำนวยการแผนกกล่าวว่า“ เพราะสุนัขไม่เป็นโรคเอดส์แต่สิงโตเป็น มีคำถามอื่นอีกหรือไม่”
ทุกคนลดหัวลงอย่างพร้อมเพรียงกันและผู้อำนวยการฮวงมองด้วยหางตาพร้อมมีลมเปามาที่ผมของเขาซึ่งเป็นลมที่มาจากเครื่องปรับอากาศ
ในไม่ช้าเมื่อเสียงไซเรนดังขึ้นรถพยาบาลก็มาถึงที่ช่องพยาบาลของอาคารเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
พยาบาลชายที่แข็งแรงสองคนพุ่งไปไปที่จุดนั้นและนำผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาลพร้อมกับกุญแจมือคู่หนึ่งและถุงแช่ พวกเขาหยุดครู่หนึ่งต่อหน้าผู้อำนวยการฮวง ก่อนที่จะรีบไปที่ห้องผ่าตัด
“ ฉัน, หมอดู่, หมอเฉิน, หลิงรัน …หมอโจว และ หมอเย้า; เราจะทำการผ่าตัดนี้ด้วยกัน แพทย์จากแผนกกระดูกอยู่ที่นี่หรือยัง ขอให้พวกเขาเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยเมื่อพวกเขามาถึง เช่นเดียวกันกับแพทย์จากแผนกศัลยกรรมประสาท” ผู้อำนวยการฮวงได้สั่งการจนเสร็จ และเขาก็ดูใจเย็นลง
จากสิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้เมื่อรวมกับข้อมูลที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ผู้ป่วยยังไม่ตายแต่อยู่ในสภาวะวิกฤติ
ยังไงก็ตามเมื่อยังมีโอกาสที่ผู้ป่วยจะสามารถรอดชีวิตได้ทางแผนกฉุกเฉินก็ต้องพยายามสุดความสามารถในการรักษาชีวิตพวกเขาไว้
สำหรับโรงพยาบาลเช่นโรงพยาบาลหยุนหัวเป็นเรื่องปกติมากที่ต้องเผชิญกับเหตุฉุกเฉินมากกว่าสิบครั้งภายในหนึ่งปี ท้ายที่สุดตราบใดที่ยังมีผู้เสียชีวิตหรือผู้ป่วยมามากกว่าสามคนทางโรงพยายาบาลก็จะถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินสาธารณะที่เกิดอุบัติเหตุเช่นการรั่วไหลของสารเคมีซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บก็ถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินสาธารณะ แม้ว่าผู้อำนวยการฮวงจะปฏิบัติต่อเหตุฉุกเฉินด้วยความระมัดระวัง แต่เขาก็ไม่ได้กลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้เลย มิฉะนั้นเขาจะไม่กลายเป็นผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวได้อย่างไร
หลิงรันเดินเข้าไปพื้นที่ปฏิบัติการอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัด
โดยส่วนตัวเขามีนิสัยชอบอาบน้ำก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นขัดผิว อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ข้อกำหนดและแพทย์หลายคนไม่ชอบอาบน้ำก่อนเข้าห้องผ่าตัด แน่นอนยังมีแพทย์ที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องอาบน้ำเพราะแพทย์เหล่านั้นสกปรกเกินไปที่เข้าห้องผ่าตัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ของแผนกฉุกเฉินเองก็ให้ความสำคัญกับการอาบน้ำด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีแพทย์จำนวนมากที่ต้องเข้าห้องผ่าตัดถ้าปล่อยให้อแพทย์ทุกคนอาบน้ำจนหมดมันจะทำให้ฝักบัวของห้องอาบน้ำเต็มจนไม่เพียงพอในการใช้ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเปลี่ยนเป็นขัดผิวโดยไม่ต้องอาบน้ำแทนถ้าตัวของแพทย์ไม่สกปรกจนมากเกิดนไป
หลิงรันบังคับตัวเองให้ไม่คิดเรื่องนี้ เขาติดตามคนอื่นๆและเข้าประจำตำแหน่ง เนื่องจากผู้อำนวยการฮวงจัดให้เขาเป็นคนผ่าตัดเท้าผู้ป่วยด้วยตนเองหลิงรันจึงยืนใกล้เท้าของผู้ป่วย เขาต้องรอให้หมอที่รับผิดชอบตรวจร่างกายผู้ป่วยให้เรียบร้อยก่อนและ ผู้อำนวยการฮวงจะจัดวางแผนลำดับการผ่าตัดก่อนที่เขาจะเริ่มการผ่าตัดได้
“ สมองของเขาปกติดี สามารถดำเนินการต่อได้และฉีดยาสลบได้ปกติ ” เมื่อแพทย์จากแผนกศัลยกรรมประสาทไม่พบปัญหาใด ๆ เขาก็ออกจากห้องผ่าตัดเพื่อไปพักผ่อนต่อ
แพทย์ที่เหลือตรวจดูผู้ป่วยตามลำดับและรายงานแผนการของพวกเขาต่อผู้อำนวยการฮวง
“ แขนซ้ายของผู้ป่วยมีอาการตรึงแต่สามารถผ่าตัดได้ น้ำหนักของแขนประมาณเก้าปอนด์“ หลังจากแพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกตรวจผู้ป่วยพวกเขากล่าวว่า“ จะต้องทำการผ่าตัดส่วนแขนเป็นส่วนสุดท้าย ”
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาพูดจบแพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกก็เดินออกไป
หลังจากนั้นแพทย์จากแผนกศัลยกรรมทั่วไปได้ทำการตรวจอัลตร้าซาวด์สแกนและกล่าวว่า“ ช่องท้องของผู้ป่วยอยู่ในสภาพดีและไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เราสามารถรักษามันได้ในภายหลัง ”
ทันทีที่พวกเขาพูดจบแพทย์จากแผนกศัลยกรรมทั่วไปก็จากไปเช่นกัน
แพทย์จากแผนกอายุรกรรมอยู่ที่นี่เพื่อมาตรวจดูอายุของผู้ป่วยเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขาได้เห็นความวุ่นวายจึงขอตัวออกไปก่อน
เมื่อแพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกเห็นส่วนล่างของขาซ้ายของผู้ป่วยซึ่งเป็นความยุ่งเหยิงของเลือดเขากล่าวว่า“ตัดขาซ้าย การบาดเจ็บนั้นร้ายแรงเกินไปและไม่มีประโยชน์ในการพยายามกู้คืน ”
หลังจากที่หมอจากแผนกศัลยกรรมกระดูกแนะนำการผ่าตัดเสร็จแพทย์สองคนนั้นก็กำลังจะออกไป แต่แพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกคนหนึ่งถูกเรียกตัวกลับมาก่อน
หลิงรันที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขาได้แต่จ้องมองที่เท้าของผู้ป่วยที่กำลังจะถูกตัดออกอย่างงงงวย
‘ตอนนี้ขาส่วนล่างของผู้ป่วยจะต้องถูกตัดออก อะไรกันแน่คือจุดที่สามารถรักษาเท้าไว้ได้‘
น่าแปลกที่ หลิงรันไม่รู้สึกเสียใจเลยในครั้งนี้ เขากลับประทับใจกับการจัดการของผู้อำนวยการฮวงและเตรียมพร้อมที่จะเดินออกไป
“ หลิงรันนายทำงานร่วมกับแพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกและตัดขาส่วนล่างซ้ายของผู้ป่วยด้วยนะ ” ผู้อำนวยการฮวงสั่งคำสั่งใหม่ให้กับหลิงรันและตะโกนว่า“ ครอบครัวของผู้ป่วยรู้เรื่องหรือยัง? ใครคนหนางออกไปแจ้งให้พวกเขารู้และส่วนที่เหลืออยู่ที่นี่เพื่อทำการผ่าตัด ”
รองผู้อำนวยการดู่ กล่าวอย่างรวดเร็ว“ ฉันไปเอง ”
ผู้อำนวยการฮวงพยักหน้าในข้อตกลง
หลังจากนั้นผู้อำนวยการฮวงมองหลิงรันและถามว่า“ นายเคยตัดขาที่เหนือเข่ามาก่อนหรือเปล่า?”
“ ไม่เคย” หลิงรันได้แต่ส่ายหัวไปมา
“ นี่จะเป็นโอกาสการเรียนรู้ที่ดีสำหรับนายเลยนะ ผู้อำนวยการฮวงพยักหน้าและพูดว่า“ การตัดแขนกับขานั้นค่อนข้างเหมือนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่ามันเป็นตอไม้แล้วนั้นยิ่งง่ายมากสำหรับที่จะตัดมัน นายต้องทำให้มันเป็นทรงกระบอกเพื่อความสวยงามและนายต้องแน่ใจว่ามันสามารถทนต่อการเสียดสีต่างๆหลังการผ่าตัดไปแล้ว…”
แพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกที่เดินกลับมานั้นหัวเราะดัง ๆ “ ไม่ว่าหมอศัลยกรรมจะทำอย่างไรในที่สุดเราก็เป็นเหมือนช่างเลื้อยไม้สินะ ซึ่งตอนนี้เราต้องการคนช่วยยกขาของผู้ป่วยด้วย ”
“ ผมจะช่วยพยุงต้นขาขึ้นมาให้ ” มาหยางลินที่มากับกลุ่มคนเหล่านั้นด้วย ก็ใช้โอกาสนี้พูดขึ้นมา
หมอศัลยกรรมกระดูกเห็นด้วยทันที “มันจะดีมาก . ตอนนี้ฉันกังวลเรื่องนี้อยู่พอดีเลย…”
นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงรันเห็นมายางลินตั้งแต่เขากลับมาจากเซี่ยงไฮ้ เขาพยักหน้ารับมาหยางลินด้วยรอยยิ้ม
มาหยางลิยตอบรับยิ้มของหลินรันอย่างเป็นมิตรและพูดว่า“ คุณหมอหลิงคุณกลับมาในเวลาที่เหมาะสมพอดีเลย ฉันเพิ่งซื้อปลาเค็มจากที่บ้านมา นอกจากนี้ยังมีเนื้อปลาฉลามเค็มตากแห้ง มันรสชาติดีไม่ว่าคุณจะทานเปล่าหรือเอามันไปทำซุปก็ได้เช่นกัน ”
หลิงรันตัวแข็งไปครู่หนึ่ง “ฉลาม?”
“ ลูกปลาฉลามเค็ม พวกมันอร่อยมากๆ ” มาหยางลินพูดเพิ่มเติมถึงรสชาติของมัน
ก่อนที่หลิงรันจะพูดอะไรต่อ นักศัลยกรรมกระดูกกล่าวว่า“แล้วตีนหมูในแผนกฉุกเฉินหายไปไหนแล้วล่ะ? ทำไมไม่เห็นมันบ้างเลยๆ นี้?”
แพทย์จากแผนกศักยกรรมกระดูกมักจะมาทำงานที่นี้เป็นประจำในแผนกฉุกเฉิน เมื่อพวกเขาพลาดอาหารของแผนกศัลยกรรมกระดูกพวกเขาจะไปโรงอาหารของแผนกฉุกเฉินเพื่อทานอาหารที่นั้น หลังจากที่เขาพูดถึงตีนหมูหมอแผนกศัลยกรรมกระดูกจู่ ๆ ก็หิวขึ้นมา
เขาพูดอย่างมีไหวพริบในขณะที่เขาลากเส้นบนต้นขาที่เต็มไปด้วยเลือดของผู้ป่วย “ ขาหมูก็อร่อยเหมือนกัน มีบางครั้งที่พวกเขาขายเป็นชิ้นบาง ๆ ในราคายี่สิบหยวนต่อชาม พวกมันถูกต้มในน้ำซุปร้อนๆและรสชาติมันไม่น่าเชื่อเมื่อคุณกินกับน้ำจิ้ม ”
“ นั่น…หมอลู่เป็นคำปรุงมันเอง ” มาหยางลินลดศีรษะของเขาและห่อสายรัดอย่างเงียบ ๆ ที่ส่วนบนของต้นขาของผู้ป่วย
แพทย์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกตอนนี้เขาถอนหายใจก่อนที่จะยกมีดผ่าตัดและทำแผลที่ต้นขาของผู้ป่วยโดยการผ่าใต้ผิวหนังและพังผืดของผิวหนัง จากนั้นเขาก็ตัดกล้ามเนื้อของต้นขาออกที่จุดต่ำกว่าจุดตัดเล็กน้อยโดยจงใจปล่อยให้พวกมันย่นกลับไป เขาทำการผ่าตัดสองครั้งก่อนที่จะตัดเส้นเลือดแดง หลังจากนั้นเขาก็ผ่าเปิดเส้นเลือดแดงลึกลงไปอีก…
ทุกขั้นตอนที่เขาทำในกระบวนการตัดแขนขานั้นเกี่ยวข้องกับพื้นที่ผิวของขาที่กว้าง เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดเล็ก ๆ ที่ หลิงรันเคยทำมาก่อนนั้นมันแตกต่างกันมาก
หลิงรันตั้งใจดูอย่างเอาจริงเอาจังมาก ก่อนหน้านี้เขาเคยผ่าตัดกระดูกเล็กเท่านั้น การผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับกระดูกขนาดใหญ่นั้นค่อนข้างน่าสนใจสำหรับเขามาก
ในขณะที่เขาตั้งใจมองการผ่าตัดของหมอศัลยกรรมกระดูกอยู่นั้น หมอคนนั้นก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า“ พวกคุณรู้หรือป่าวว่าอาหารทุกอย่างที่ขายดีในตลาดทุกวันนี้ทำจากไก่ที่ทำจากแป้ง? ส่วนเนื้ออื่นบางอย่างมันก็พอทานได้…เฮ้อ, ตีนหมูของหมอลู่ยังคงดีที่สุด เขาเลิกทำอาหารไปแล้วหรือยังไง?”
มาหยางลินเองก็ไม่ยอมรับในเรื่องนั้นเขาจึงใช้ความกล้าพูดขึ้นมาว่า“ ปลาเค็มนั้นก็อร่อยเช่นกัน ”
“ แต่มันลำบากเกินไปที่จะเอามันไปปรุงอาหารน่ะสิ นอกจากน้ำพวกมันก็ยังแข็งอีกตั้งหาก” หมอศัลยกรรมกระดูกยังทำการผ่าตัดต่อไปพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ ฉันไปโรงอาหารของพวกคุณสองสามครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้และในแต่ละครั้งฉันจะสั่งปลาเค็มเสมอซึ่งตอนที่ฉันกินมัน มันแข็งมากและฉันต้องใช้ความพยายามอย่างสูงที่เคี้ยวมัน ”
“ นั่นแสดงให้เห็นถึงว่าปลาเค็มสามารถทานกับอาหารอื่นๆได้ยังไงล่ะครับ” มาหยางลินพยายมหักล้างความคิดของหมอคนนั้น
หมอศัลยกรรมกระดูกหัวเราะ “ มันก็ยังเป็นปลาเค็มอยู่ดี ”
“ ฉัน…คุณกำลังพูดถึงตีนหมูในตอนนี้ โรงอาหารไม่ได้ให้บริการพวกเขาทุกวันใช่ไหม? และพวกมันก็มีราคาแพงกว่ามาก … ” มาหยานลินกำลังคิดว่าทั้งที่หมอลู่ขายแพงกว่าเขาตั้งเยอะแต่ทำไมเขาถึงได้รับการยอมรับในรสชาติอาหารได้ขนาดนี้
หมอศัลยกรรมกระดูกเริ่มพูดเย้ยหยันออกมาว่า “ ปลาเค็มเปรียบเทียบกับตีนหมูได้อย่างไร? นอกจากนี้หมอลู่ยังให้เสริฟขาหมูไก่เห็ดและสิ่งอื่น ๆอยู่ในถ้วยเดียวกันด้วยอีกตั้งหาก ”
“ ฉันยังมีปลาทูสเปนสแน็ปเปอร์…”
“ พวกมันเยี่ยมยอดมากแต่มันก็เป็นปลาเค็ม ”
“ ปลาทูน่าครีบเหลืองฉลาม…”
“ พวกมันก็ยังปลาเค็ม ”
“ แฮร์ริ่งปลาปักเป้า…”
“ เอามันมาแล่เนื้อและตัดหากมันออกเนี่ยนะ!”
“ ใช่แล้ว ” หลังจากมาหยางลินโต้เถียงกับหมอศัลยกรรมกระดูกกันไปสักพัก เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง…..