Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 266
ตอนนี้ก็ผ่านมาได้สองสัปดาห์แล้ว หลิงรันได้ทำการผ่าตัดเพียงสองครั้งต่อวันเท่านั้น ในช่วงเวลาที่เหลือเขาจะเดินติดตามผู้อำนวยการฮวง ไปรอบ ๆ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวแผนกฉุกเฉินให้มากขึ้นเกี่ยวกับกระบวนของแผนกนี้ให้มากขึ้น
การเป็นหมอนั้นคือการศึกษาตลอดชีวิต หากคนหนึ่งใช้เวลาเรียนรู้ด้วยตนเองโดยเฉลี่ยวันละสองชั่วโมงคน ๆ นั้นจะไม่สามารถอ่านหนังสือที่พึงออกมาเล่มล่าสุดได้เลย
เมื่อเทียบกับคนทั่วไปหลิงรันก็มีความรู้ด้านวิชาการที่ค่อนข้างมากและเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนอื่น เมื่อตอนที่เขาอยู่ปีสองเขาได้ศึกษาศพและอ่านตำราพื้นฐานมากกมาย อย่างไรก็ตามตอนปีสามหลิงรันยังคงดิ้นรนทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองในการเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ติดหนึ่งในสามของนักศึกษาแพทย์ที่เก่งที่สุด
แต่หลิงรันไม่พอใจกับความสำเร็จดังกล่าวและเข้าใจว่าเขาไม่ใช่อัจฉริยะในการเรียนรู้ ท้ายที่สุดแล้วความฉลาดไม่ได้หมายถึงการแข่งขันกับผู้อื่นในด้านผลการเรียนในมหาวิทยาลัย ตัวอย่างเช่นเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กเขาเข้าร่วมในการประกวดดาวเด็กรุ่นเยาว์ และเขาก็ตรงไปที่รายการเมืองจีนทีวี เขาไม่ได้แข่งขันกับคนอื่นในระดับประถมศึกษาเลย
แม้ว่าครอบครัวหลิงจะไม่ได้ยากจนและหลิงรันก็ไม่ได้เดินตามเส้นทางของดาราเด็ก เพราะประสบการณ์ในวัยเรียนของเขาในโรงเรียนประถมทำให้เขามีมาตรฐานที่รู้ว่าเขาอยากเป็นอะไร
เมื่อเขาเข้าสอบครั้งสุดท้ายเขาได้อันดับหนึ่งในสามวิชาที่สอบและมีวิชาที่เขาอยู่ในอันดับที่แปด หลิงรันรู้แล้วว่าเขาไม่ได้สามารถหนีพ้นจากการเรียนได้
ในวันต่อมาหลิงรันได้เรียนรู้ท่าทางที่ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน
หากเขาไม่ได้รับระบบ หลิงรันอาจเลือกที่จะสอบไปถึงปริญญาเอกและใช้เวลามากกว่าคนอื่น ๆ เพื่อเรียนรู้
อย่างไรก็ตามระบบเองก็ไม่ได้ทำให้เขามีความสามารถในการเรียนที่ดีขึ้นอยู่ดี
ในตอนนี้หลิงรันพยายามแบ่งเวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การอ่านหนังสือเพียวๆนั้นมันน่าเบื่อกว่าการเข้าไปทำการผ่าตัดเสียอีก
หากหมอหวังของแผนกศัลยกรรมมือไม่ได้พาหลิงรันงไปผ่าตัดด้วยตนเอง หลิงรันเชื่อว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และจะใช้เตียงที่เหลืออยู่จนหมดอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามจำนวนเตียงที่เหลือยังคงลดลงและในไม่ช้าเตียงก็ลดลงเหลือเพียงตัวเลขเดียวไม่ว่าจะควบคุมการรักษาอย่างไร เป็นเพราะ”หลิงรัน” หรือไม่
“ หมอหลิงตอนนี้ผู้ป่วยต้องนอนเตียงเสริมแล้ว และ เราไม่สามารถเพิ่มเตียงได้อีกแล้ว ” หัวหน้าพยาบาลมาที่สำนักงานโดยเจตนาเพื่อแจ้งให้หลิงรันทราบ
ข้างหลังเธอคืหมอลู่, มาหยานลิน และ ยูหยวน ที่เดินมาอย่างกับวงดนตรีเกาหลี
แพทย์ในสำนักงานก็เบิกตาและมองดูว่าหลิงรันจะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไร
มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่แพทย์ในโรงพยาบาลเกือบจะต้องทุกข์ทรมานจากโรคหลอดเลือดสมองเพราะอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของเขาและพวกเขาก็ต้องช่วยเขาด้วยการรักษาฉุกเฉิน ทุกคนไม่เคยเห็นหลิงรันโกรธและพวกเขามักจะรู้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
หลิงรันได้อ่านเวชทะเบียนเมื่อเขาหันหลังกลับ เขาตอบด้วยเสียงช้าว่า“ ตอนนี้เราเดินทางมาถึงขีดความสามารถสูงสุดแล้วใช่ไหม”
“ จากหนึ่งร้อยเตียงตอนนี้เราเหลือเพียงหนึ่งเตียง เราเพิ่มไม่ได้อีกแล้ว” หัวหน้าพยาบาลกล่าวว่า“ ไม่เพียง แต่เรามีพื้นที่ไม่เพียงพอ แต่พยาบาลยังไม่สามารถดูแลผู้ป่วยจำนวนมากได้และการพักฟื้นผู้ป่วยของแพทย์นั้นยาวเกินไป นอกจากนี้แผนกฉุกเฉินจำเป็นต้องมีเตียงผู้ป่วยเล็กน้อยเพื่อไว้สำรอง…”
“ผมรู้ว่า . การมีหนึ่งร้อยและหนึ่งเตียงนั้นดีมาก ” หลิงรันในตอนนี้คิดถึงเตียงผู้ป่วยหนึ่งร้อยแปดสิบตัวที่ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและเวชศาสตร์การกีฬาเช่นเดียวกับเตียงเสริมที่เขายังสามารถรับได้ ในความทรงจำของเขาครึ่งหนึ่งของพื้นที่วอร์ดของศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและกระดูกและข้อถูกควบคุมให้ใช้อย่างอื่น หากเปิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นไปได้ที่จะใส่เตียงผู้ป่วยอีกร้อยแปดสิบเตียงไว้ในนั้น
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่มีที่ว่างสำหรับเตียงแล้ว หลิงรันเองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ดีเช่นกัน
หมอลู่มองหลิงรันอีกครั้งและพูดว่า“ หมอหลิงถ้าเป็นกรณีนี้เราต้องหยุดการผ่าตัดชั่วคราวหรือไม่?”
“ ไม่มีผู้ป่วยที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเลยหรอ?”
“ อัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโดยเฉลี่ยสำหรับผู้ป่วยลดลงมากและเราไม่สามารถหาผู้ป่วยที่จะออกจากโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ”
“ตกลง . ” หลิงรันถอนหายใจอีกครั้งแล้วพูดว่า“ ถ้าอย่างงั้นเราทำงานวันเว้นวันล่ะกัน ”
เขาเดินออกไปหลังจากเขาพูดอย่างนั้น เขาปิดคอมพิวเตอร์และเดินออกไป
แพทย์คนอื่น ๆ ในแผนกฉุกเฉินยังคงต้องทำธุระในแผนกฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามหลิงรันจะไปที่ห้องเย็บแผลเท่านั้นเมื่อเขาต้องการเล่น หากไม่มีเตียงผู้ป่วยอีกเขาก็สามารถกลับไปหาอะไรทำที่บ้านได้
เมื่อเขาปรากฏตัวนอกอาคารเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ผู้อำนวยการฮวงก็ค่อยๆกลับไปที่สำนักงาน
“ หลิงรันกลับไปไหม” ผู้อำนวยการฮวงถามแม้ว่าเขาจะรู้คำตอบ
มาหยานหลินเป็นคนแรกที่ตอบ“ หมอหลิงกลับไปแล้วครับ ”
“ อ้า…มันเป็นไปไม่ได้จริงๆที่เราจะเพิ่มเตียง ผู้อำนวยการฮวงทำตัวเหมือนเขาเป็นวีรบุรุษและเช็ดน้ำตาของเขา เขาคว้าราวจับด้านหน้าหน้าต่างสำนักงานและมองไปที่ด้านหลังของหลิงรัน จากนั้นเขากล่าวว่า“ ถ้าโครงสร้างพื้นฐานของแผนกของเราไม่สามารถตอบสนองความต้องการของแพทย์ได้แสดงว่าฉันล้มเหลวในฐานะผู้อำนวยการ ในการประชุมการบริหารโรงพยาบาลครั้งต่อไปฉันจะสู้เพื่อมันแน่นอน ”
“ ผู้อำนวยการแผนกฮวง!”
“ ผู้อำนวยการแผนก!”
“ เขาเหมือนกับวีระบุรุษจริงๆ!”
กลุ่มแพทย์ที่เข้าร่วมรีบวิ่งไปที่สปอตไลท์ แพทย์ประจำบ้านยังคงงงงวยและงงงวยและรองหัวหน้าแพทย์ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการดังกล่าวเพื่อความอยู่รอดอีกต่อไป
โชคดีที่จำนวนแพทย์ที่เข้าร่วมในแผนกฉุกเฉินนั้นเพียงพอและพวกเขาสามารถช่วยให้ผู้อำนวยการฮวงทำหน้าที่เป็นตัวประกอบในละครเวทีที่จัดขึ้นแบบปลอมๆได้
ผู้อำนวยการฮวงถอนหายใจอย่างลึกซึ้ง “ หากมีความเป็นไปได้ไม่ว่าฉันจะตัวเล็กแค่ไหนฉันก็ต้องเพิ่มแผนกให้ใหญ่ขึ้น หากเราต้องการสร้างแผนกฉุกเฉินขนาดใหญ่การไม่มีเตียงก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ตอนนี้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลของเราเป็นข้อบกพร่องของเรา แต่ทุกคนไม่ต้องกังวล ในช่วงปีที่อาคารฉุกเฉินของเราถูกสร้างให้กว้างขึ้น ถ้ามันเป็นไปไม่ได้จริงๆฉันจะหาพื้นที่จากอาคารห้องพักผู้ป่วย ”
“ ผู้อำนวยการแผนกฮวง คุณช่างรอบคอบเหลือเกิน ”
“ ผู้อำนวยการแผนกคุณทำหน้าที่ได้สมศักด์ศรีมากๆ ”
“ ผู้อำนวยการฝ่ายไม่ต้องกังวลมากเกินไป คนหนุ่มสาวจำนวนมากเหล่านี้ยังรอเวลานั้นได้อยู่ ”
แพทย์ที่เข้าร่วมเปิดปากของพวกเขา ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแผนกฉุกเฉินไม่เคยใช้เวลาในโรงพยาบาลอย่างเสียเปล่า
ผู้อำนวยการฮวงรู้สึกว่าตนเป็นอิสระเมื่อไม่เห็นหลิงรัน เขาก็นั่งลงด้วยความโล่งอก เขาพูดกับหมอลู่และคนอื่น ๆ ว่า“ นายเป็นผู้ช่วยของหลิงรันในการผ่าตัด แต่นายไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเขาในการผ่าตัด นายจะต้องให้ความช่วยเหลือเขาในด้านอื่น ๆ ของชีวิตของเขาเช่นสภาพจิตใจของเขาหรือว่าชีวิตของเขาให้มีสุขภาพดี นายต้องหาวิธีที่จะช่วยเขาในทางที่เป็นไปได้เข้าใจไหม? หลิงรันอาจจะเทใจให้การผ่าตัดจนหมด จนละเลยแง่มุมชีวิตอื่นๆ ผู้ช่วยนายควรช่วยเขาให้ครอบคลุมทุกด้านอย่าทอดทิ้งเขานะ”
“ ใช่…” หมอลู่ ตอบในนามของลูกทีม แต่ในความคิดของเขากับบ่นซ้ำไปซ้ำมา ว่า ‘หมอหลิงไม่ต้องการความช่วยเหลือในชีวิตของเขา มีเพราะเชามีเหล่าสาวๆมาช่วยเขาแล้ว ‘
หลังจากผู้อำนวยการฮวงจู้จี้เสร็จ เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำผิดนั้นเป็นเรื่องเบาลงมากและรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเช่นกัน
ตั้งแต่หลิงรันมาถึงแผนกฉุกเฉินรายได้ของแผนกฉุกเฉินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและตอนนี้แผนกฉุกเฉินไม่ใช่แผนกที่ขาดทุนอีกต่อไปแล้ว
สำหรับแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลใด ๆ ตราบใดที่แผนกนั้นไม่ตกอยู่ในการขาดทุนมหาศาลก็มีหลายวิธีที่พวกเขาจะทำกำไรได้
ผู้อำนวยการฮวงเริ่มพิจารณาว่าเขาต้องการสร้างสินทรัพย์ที่สำคัญอีกอย่างสำหรับแผนกฉุกเฉินหรือไม่
แผนกฉุกเฉินไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแผนกศัลยกรรมกระดูกได้ มันจะต้องใช้ประโยชน์จากแผนกอื่นเช่นกัน
หากไม่สามารถทำได้จริงผู้อำนวยการจะต้องจ้างคนจากโรงพยาบาลอื่น
อย่างไรก็ตามการทำเช่นนั้นค่าใช้จ่ายของแผนกฉุกเฉินก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน เขาอาจต้องเตรียมเครื่องมือและเครื่องมือผ่าตัดใหม่ แต่ผู้อำนวยการก็พร้อมที่จะไปในทิศทางนี้เสมอ
แม้ว่าแพทย์ที่เข้าร่วมจะไม่คัดค้าน แต่แพทย์หัวหน้าและรองหัวหน้าก็เหมือนจะมีความคิดเห็น
ผู้อำนวยการฮวงค่อนข้างพอใจกับทักษะการแสดงของเขา เขาเคยเป็นผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินมาหลายปีแล้ว เขาจะยังคงความสมดุลของสิ่งต่าง ๆ ในแผนกถ้าจำเป็น นอกจากนี้เขาไม่สามารถอนุญาตให้แพทย์นับสิบในแผนกฉุกเฉินได้ไปเป็นปลิงหาประโยชน์จากหลิงรันได้
“ ผู้อำนวยการแผนกมีโทรหาคุณ ” แพทย์ในสำนักงานหยิบสายโทรศัพท์และลังเลที่จะเรียกผู้อำนวยการฮวง
ผู้อำนวยการฮวงเอาโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและมองไปที่มัน เขาสงสัยว่าจะรับสายโทรศัพท์นี้ดีไหม“ สวัสดี?”
“ ผู้อำนวยการฝ่ายฮวง, ฉันจู้ตงยี่นะ ท เสียงของนักวิชาการจู้ตงยี่ดังขึ้นจากปลายอีกด้าน เขาหัวเราะและพูดว่า“ ฉันมาที่นี่เพื่อส่งคำเชิญ ”
“ เชิญอะไรครับ?”
“ เราเป็นศูนย์เวชศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และการกีฬารู้สึกขอบคุณคุณหมอหลิงมากสำหรับความช่วยเหลือของเขาแม้จะมีตารางงานที่ยุ่งก็ตาม เวลานี้ศูนย์ของเราได้จัดการประชุมแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เราอยากเชิญหมอหลิงเป็นวิทยากรและกลับมาที่ศูนย์ของเราเพื่อเยี่ยมเยือน ฉันโทรหาคุณเป็นพิเศษและหวังว่าคุณจะอนุญาตให้เขามา ” เสียงของจู้ตงอี้เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและน่าฟังเป็ฯอย่างมาก
ผู้อำนวยการฮวงมีความสุขเมื่อเขาได้ยิน แพทย์ยังคงรักในสิ่งต่าง ๆ เช่นการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก เขาต้องทำให้สิ่งต่าง ๆ มีความสมดุลในแผนกของเขาทุกปีสำหรับเรื่องนี้ ตอนนี้เขาเพิ่งได้รับตำแหน่งอีกครั้งสำหรับการประชุมสิ่งต่าง ๆ ค่อนข้างดี
เมื่อผู้อำนวยการฮวงกำลังจะเห็นด้วยกับมันเขาก็สับสนและถามว่า“ คุณต้องการให้เขาพูดอะไรถ้าเขาเป็นวิทยากร?”
“ แค่เกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูก ”
“ หลิงรัน มีสิทธิ์พูดคุยเกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูกในการประชุมของคุณหรือไม่”
“ ทำไมมันไม่พอหรอ? แค่นี้ก็เยอะพอแล้วนะ เราไม่มีปัญหาที่จะให้ชาวต่างชาติคุยกัน” จู้ตงยี่ หัวเราะ
ผู้อำนวยการฮวงไม่ได้ขัดอะไร ในคำพูดของเขาและต้องเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เขายังปล่อยให้จู้ตงยี่อี้ติดต่อหลิงรันเป็นการส่วนตัว
หลังจากวางหู ผู้อำนวยการฮวงคิดอย่างรอบคอบเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะพูดว่า“ เรายังคงต้องเพิ่มจำนวนเตียง ฉันจะขอจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลก่อน ”
“ฮะ?”
“ เราจำเป็นต้องเพิ่มเตียงในโรงพยาบาลอีกหรอครับ”
“ และคุณหมายถึงอะไร…”