Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 275
เมื่อรถเริ่มทำงานออกตัวหลิงรันก็เริ่มทำการแสกนเอ็มอาร์ไอจากกล่องที่หลิวเหว่ยนำมาให้และเริ่มอ่านมัน
หลิวเหว่ยจงใจให้คนขับขับรถช้าลง หลังจากนั้นเขาก็มองดูลิงรันและรอเขาอย่างเงียบ ๆ
ชั่วระยะเวลาหนึ่งมันเงียบมากในรถ แต่หลิงรันนั้นคุ้นเคยกับบรรยากาศเช่นนี้มาก เขาอ่านผลแสกนเอ็มอาร์ด้วยความเฉื่อยชาและใช้เวลาประมาณสิบนาทีจึงจะเสร็จ จากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณมีต้นฉบับของผลแสกนเอ็มอาร์ไอไหม”
“คุณหมายถึงอะไรผลแสกนต้นฉบับ?” เห็นได้ชัดว่าหลิวเหว่ยไม่เข้าใจความหมายของหลิงรันที่พยายามจะซื้ออกมา
“ผมหมายถึงไฟล์ผลแสกนเอ็มอาร์ไอนะ มันอยู่ที่ไหนผมจะเอาไปอ่านบนคอมพิวเตร์” หลิงรันวางผลเอ็มอาร์กลับเข้าไปในกล่อง
“อืม … ผลแสกนของฉันมีปัญหาหรืออย่างไรกัน” ตอนนี้หลิวเหว่บดูค่อนข้างกังวล
หลิงรันไม่ได้ตอบอะไรเขา เขาแค่พูดว่า “ผมจะบอกคุณได้เมื่อผลแสกนเอ็มอาร์ไอต้นฉบับมาถึง”
หลิวเหว่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะกระซิบว่า “ฉันแอบไปทำที่คลินิกส่วนตัวมา ถ้ายังไงเดียวฉันจะถามแพทย์ที่ทำการแสกนให้”
เนื่องจากหลิงรันเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ของหลิงเหว่ยการพักฟื้นหลังผ่าตัดและการบันทึกวิดีโอในระหว่างการผ่าตัดพิสูจน์ให้เห็นว่าทักษะของหลิงรันนั้นยอดเยี่ยมและเขาอาจเป็นแพทย์ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในโลก นั่นทำให้หลิวเหว่ยเชื่อมั่นในตัวหลิงรันมาก
ในขณะเดียวกันก็หมายความว่าเขาให้ความสำคัญกับคำชี้แนะของหลิงรันเป็นอย่างมากเช่นกัน
“เอาล่ะ” หลิงรันพยักหน้า จากนั้นเขาก็หลับตาและพยายามนั่งคิดอะไรสักอย่าง
ดูเหมือนว่าเขาจะคิดเกี่ยวกับการผลการแสกนเอ็มอาร์ไอ แต่ในความจริงแล้วเขาไม่ชอบความจริงที่ว่ารถมีคนเยอะและเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะพูดคุยกับใคร
ในขณะเดียวกันหมอหวังนั้นอยากคุยกับหลายคนมาก
เขามองไปรอบ ๆ โครงสร้างของห้องโดยสารของรีมุนซีนและจ้องไปที่หลิวเหว่ยตอนที่เขาได้รับอีเมลบนแล็ปท็อปของเขา เขาหยิบแว่นตาออกมาจากกระเป๋าของเขาและขยับเข้ามาใกล้ๆเพื่อมองดูเมล์ที่ถูกส่งมา และเขายิ้มในขณะที่เขาพูดว่า “การบริการในคลินิกเอกชนนี้ดีมากจนพวกเขาส่งอีเมลถึงคุณถึงสองฉบับ มีทั้งแบบสรุปและรายละเอียดสำคัญ”
“จริงๆแล้วผมก็ไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาส่งมาหรอกครับ” หลิวเหว่ยตอบอย่างสุภาพก่อนที่เขาจะพกแล็ปท็อปไปที่หลิงรัน
“ขออนุญาต คุณเสียเงินไปเท่าไรกับการไปขอคำแนะนำนี้” หมอหวังมีความอยากรู้อยากเห็นดังนั้นเขาจึงถามหลิวเหว่ยไปเช่นนั้น
ในฐานะหัวหน้าแพทย์ในโรงพยาบาลหยุนหัวที่มีรายได้อย่างน้อย 10,000 หยวนสำหรับการผ่าตัดแบบอิสระหมอหวังมีความอ่อนไหวและอยากรู้อยากเห็นมากต่อคลินิกดังกล่าวซึ่งพึ่งพาทักษะทางการแพทย์ของพวกเขาเพื่อหารายได้
หมอหวังนั้นอยู่มานานแล้วตั้งแต่ยอมแพ้ในการเป็นผู้อำนวยการฝ่าย ตอนนี้ความฝันของเขาคือการทำงานในกลุ่มแพทย์หลังจากเกษียณอายุและทำงานเป็นศัลยแพทย์อิสระเต็มเวลา จากนั้นเขาก็จะตายด้วยอย่างมีความสุข
สถานการณ์ในอุดมคติที่มากกว่านี้เล็กน้อยคือการกลับไปทำงานในโรงพยาบาลและทำงานเป็นศัลยแพทย์อิสระในบางครั้งเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วการทำศัลยกรรมอิสระเป็นโหมดการทำงานที่โปรดปรานของหมอหวังเขาไม่เพียง แต่หารายได้เท่านั้น แต่มันยังฟังดูดีด้วยเขาได้เดินทางไปเมืองต่างๆและสิ่งสำคัญที่สุดคือจะมีลูกมือและมันก็เป็นความรู้สึกที่สะดวกสบายอย่างยิ่งสำหรับเขา
ในฐานะผู้ป่วยหลิวเหว่ยไม่อยากคุยเรื่องนี้มากมายนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเผชิญหน้ากับแพทย์จากโรงพยาบาลทั่วไป ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลิงเหว่ยนั้นรู้สึกอึดอัดใจมากและเขากล่าวว่า “จริงแล้วค่าลงทะเบียนมันอยู่ที่ 3,000 หยวนแต่ผมใช้เงินไปกับทั้งกระบวนการราวๆ 100,000 หยวน”
“รวมการตรวจสุขภาพด้วยหรอ?“
“ใช่.”
“ตุ๊ก, ตุ๊ก. ,มันไม่ทำให้ขนหน้าแข็งของคุณร่วงหลอก” หมอหวังคลิกที่ลิ้นของเขา “แล้วหมอจะได้รับเงินเท่าไรกัน?” เขาถามอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่าผมก็ไม่รู้” หลิวเหว่ยหัวเราะ
“ฉันคิดว่าหมอหน้าจะได้รับเงินหนึ่งในสามแน่ๆ” หมอหวังคร่ำครวญและกล่าวว่า “แย่จัง ค่าปรึกษาของฉันคือ 19 หยวนต่อผู้ป่วยแต่ละคนและฉันยังต้องให้โรงพยาบาลตั้งครึ่งหนึ่งแนะ”
ความเงียบเกิดขึ้นในรถ ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลิงรันดาวน์โหลดซอฟต์แวร์และ ผลแสกนเอ็มอาร์ไอจากอีเมลและเขาใช้เวลาพอสมควรในการอ่านมัน
เมื่อหลิงรันใช้ซีรัมเพิ่มสกิล การวิเคราะห์ระดับเอ็มอาร์ไอของหลิงรันเปลี่ยนเป็นระดับสมบูรณ์แบบชั่วคราว ประสบการณ์ซึ่งกินเวลาเพียงไม่กี่นาทีช่วยสร้างความเข้าใจเป็นอย่างดีของหลิงรันในขณะที่มันยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของนักรังสีวิทยาที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
นักรังสีวิทยามีความแตกต่างกัน ในระดับความสามารถในการรับข้อมูลที่แตกต่างจากผลการแสกนเอ็มอาร์ไอเดียวกัน
อาจกล่าวได้ว่าการอ่านผลแสกนเอ็มอาร์ไอทั้งในตอนที่เป็นนักเรียนแพทย์และในระดับแพทย์ท้องถิ่นมันเหมือนกับการอ่านอภิปรัชญา เว้นแต่จะได้ซอฟต์แวร์สำหรับการสแกนเอ็มอาร์ไอเขามาช่วยสนับสนุนโดยตรงกับนักรังสีวิทยานักรังสีวิทยาจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุห้าสิบปีขึ้นไปจะไม่เข้าใจการอ่านผลแสกนเอ็มอาร์ไอ พวกเขานั้นสามารถบอกได้เพียงข้อมูลทั่วไปเท่านั้นและจะมีท่าที่ ที่โกรธมากถ้าถูกถามเพิ่มเติม
เพราะพวกเขาคิดว่ารุ่นหลังกก็ไม่น่าจะเก่งไปกว่ารุ่นของพวกเขาในสมัยเรียนำพวกเขาไม่ชอบท่องหนังสือหรืออ่านหนังสือของคนคิดค้นเอ็มอาร์อิและในระหว่างมหาวิทยาลัย ถ้าพวกเขาไม่ได้อาจารย์ที่ดีมันจะยากมากสำหรับการทำงานจริงในฐานนักรังสีวิทยา
เมื่อหลิงรันอ่านผลแสกนเอ็มอาร์ไอต้นฉบับด้วยการวิเคราะห์เอ็มอาร์ไอระดับปรมาจารย์ของเขาเขาสามารถพูดได้เฉพาะสิ่งที่เห็นจากภาพและทำการวิเคราะห์จากการอ่านแผนภูมิ แต่ถึงกระนั้นความสามารถของหลิงรันในการทำเช่นนั้นก็เหนือกว่านักรังสีวิทยาบางคนหรือแม้แต่แพทย์บางคนส่ะด้วยซ้ำ
หลิงรันหยุดถามคู่หนึ่ง “คุณต้องการเตรียมความพร้มมากแค่ไหนถึงจะพร้อมสำหรับการแข่งขัน”
“ในตอนที่แข่งขันจริงๆ เราจะใช้ความจริงจังเป็นอย่างมาก ถ้าคุณเข้าใจเรื่องการแข่งขันในการวิ่งแข่งระยะสั่นล่ะก็ ในปกติแล้วฉันจะใช้แรงที่มากกว่าแรงปกติที่ใช้ซ้อมในการวิ่งมากกว่าไปหลายเท่าตัวเลย และต้องกระแทกเท้าลงไปบนพื้นมากกว่าปกติอีกด้วย ” อย่างที่หลัวเหว่ยเล่าเขาเงยหน้าอย่างภาคภูมิใจซึ่งท่าทางของเขาดูสง่างามเหมือนนักกีฬาอาชีพ
“อย่างงั้นผมแนะนำให้ซ้อมเบาลงเพื่อป้องกันการเสียหาย” คำตอบของหลิงรันทำลายจิตวิญญาณการกีฬาของหลิวเหว่ยเฉิน
ร่างของหลิวเหว่ยแกว่งไปมาเล็กน้อย เขาถามว่า “ทำไม”
“เอ็นร้อยหวายของคุณกลับคืนสภาพปกติแล้ว แต่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ยังคงมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บอีกครั้งดังนั้นความเสี่ยงของก็ยังคงอยู่ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นคุณไม่ควรเข้าไปแข่งขันในครั้งนี้.” หลิงรันให้คำอธิบายอย่างละเอียดแก่เขา
“แต่นักวิชาการจู้บอกว่าเขาได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันได้ ” ชายคนหนึ่งในชุดดำตอบทันที – เขาอยู่ในรถคันเดียวกัน
หลิวเหว่ยแสร้งทำเป็นหยุดเขาและดูราวกับว่าเขาไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งในการสนทนาครั้งนี้
หมอหวังเองก็ไม่ค่อยมีความสุขเท่าใดนัก เขากล่าวว่า “หลิงรันให้ความเห็นของเขานักวิชาการจู้ก็ได้ให้ความเห็นของเขาเช่นกันคุณสามารถเปรียบเทียบข้อเสนอแนะด้วยตัวเองได้คุณเป็นเจ้าของร่างกายของคุณหมอมีหน้าที่รักษาเราไม่ใช่แม่นมที่คอยประคบประหงมคุณสักหน่อย”
มันอาจฟังดูหยาบคายเล็กน้อยแต่หมอหวังก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาเป็นหัวหน้าแพทย์ในโรงพยาบาลหยุนหัวหลิวเหว่ยจะไม่ไปหาเขาเพื่อขอคำปรึกษาและเขาก็จะไม่ได้รับเงินจากหลิงเหว่ยจากมุมมองของหมอหวัง หลิวเหว่ยเองได้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการได้รับคำปรึกษานี้โดยพาพวกเขาเดินทางไปด้วยรถรีมูนซีน
อย่างไรก็ตามหลิวเหว่ยยิ้มตอบสนองต่อการยั่วยุของหมอหวัง “สิ่งที่คุณเพิ่งพูดฟังดูคล้ายกับสิ่งที่หมอหลิงพูดในวอร์ดเมื่อวันก่อน”
“เฮ่อ เฮ้อ.”
เสียงของหลิวเหว่ยฟังดูอ่อนไหวเล็กน้อยเมื่อเขาพูดว่า “ในเวลานั้นเราทำเสียงดังในวอร์ดเมื่อหมอหลิงเข้ามาในรอบวอร์ดเขาพูดกับผม ผมเชื่อว่าความหมายทั่วไปที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของเขาคือ เรามีสิทธิ์ที่จะเอาแต่ใจแพทย์ให้การสนับสนุนทางการแพทย์แก่เราเท่านั้นและพวกเขาไม่สนใจว่าเรากำลังมองหาปัญหาหรือไม่… “
หลิวเหว่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เมื่อก่อนเขาก็อ่อนแอที่สุด
การผ่าตัดของเขาเสร็จสมบูรณ์และทำในโรงพยาบาลท้องถิ่น นั้นหมายความว่าเขาไม่ได้เป็นรองอีกต่อไป
หากการผ่าตัดสิ้นสุดลงและอาการบาดเจ็บของเขาจะดีขึ้นอนาคตของเขาก็จะเป็นอย่างที่เขาเป็นในขณะนี้โดยเขาเป็นเจ้าของรถยนต์หรูหราและให้ผู้คนติดตามเขาทุกที่ อย่างไรก็ตามหากอาการบาดเจ็บของเขาไม่ฟื้นตัวหรือแย่ลงตอนจบของเขาจะไม่ได้ชัดเจนเหมือนที่เขาฝันไว้ เพราะหลิวเหว่ยได้เห็นนักกีฬาดาวหลายคนที่ถือเหรียญทองและเข้าร่วมกิจกรรมในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้เลวร้ายที่สุด สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการไร้ความสามารถที่จะหาวิธีที่จะเข้าร่วมการแข่งขันใด ๆ เพื่อเพิ่มความนิยม
หลิวเหว่ยหวังว่าจะทำให้วอร์ดของเขามีชีวิตชีวาด้วยความหวังว่าบรรยากาศจะลดความกังวลของเขา
อย่างไรก็ตามการเตือนที่รุนแรงของหลิงรันทำให้เขาตื่นขึ้นมาทันที
แพทย์ที่ตรวเขาก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำในสิ่งที่หลิงรันทำ
วันนี้หลิวเหว่ยเข้ามาหาหลิงรันขอให้เขาอ่านผลการแสกนเอ็มอาร์ไออีกครั้งและบอกว่าเขาไว้ใจหลิงรันเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวอร์ดของเขาในวันนั้น การตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่ผู้คนชื่นชอบเสมอ
หมอหวังเหลือบไปที่หลิงรานและพูดว่า “หลิงรานนายน่าจะลดจำนวนครั้งที่ นายพูดสิ่งนี้ในอนาคตถ้าผู้คนทำการบันทึกเสียงและปล่อยมันออกไป อาจจะกลายเป็นคำพูดที่นำปัญหาตามมาก็ได้ นายต้องระวังให้มากขึ้น “
หลิวเหว่ยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยดังนั้นเขาจึงอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “มันเป็นเรื่องบังเอิญโดยไม่มีบันทึกเสียงหรอก”
หมอหวังหัวเราะเบา ๆ เท่านั้น เขาไม่ได้พูดอะไรอีก
หลิวเหว่ยหันหลังกลับและเผชิญหน้ากับหลิงรัน จากนั้นเขายิ้มอย่างขวยเขินและพูดว่า “คุณหมอหลิงก่อนหน้านี้คุณพูดว่าฉันไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ แล้วมีส่วนไหนบ้างที่ยังรักษาไม่ดี?”
“การรักษาที่ดีของคุณ” หลิงรันหยุดพักซักครู่ก่อนที่เขาจะพูดต่อ “แต่มันก็ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงกับการแข่งขัน
“คุณหมายถึงอะไร”
“นักวิชาการจู้ตงยี่กล่าวว่าคุณสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ แต่เขาควรให้คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้วยไม่ใช่หรือยังไง?” หลิงรันถาม
“ใช่.” หลิวเหว่ยพยักหน้าเหมือนที่หลิงรันคาดไว้หลิวเหว่ยกล่าวว่า “เขาบอกกับฉันว่าความน่าจะเป็นที่จุดอ่อนของเอ็นร้อยหวายของฉันจะแตกอีกครั้งจะต่ำกว่า 10% แต่ถ้าฉันอุ่นขึ้นอย่างเต็มที่
ชายในชุดสูทสีดำพูดว่า “สิบเปอร์เซ็นต์มีความเป็นไปได้น้อยมากใช่ไหมมันต่ำมากๆที่จะเกิดขึ้น”
“ นั่นคือการวิเคราะห์โดยรวมอย่างไรก็ตามการวิเคราะห์โดยรวมนั้นถูกใช้เพื่อสะท้อนถึงหัวข้อการวิจัยทั้งหมดเมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้เคราะห์ร้ายจะต้องรับผลที่ตามมาอย่างเต็มที่จากความเสียหายครั้งนี้” หลิงรันมองดูหลิวเหว่ย และกล่าวว่า “เว้นแต่ว่าจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญอย่างยิ่งคุณควรดำเนินการฝึกแบบฟื้นฟูสมรรถภาพต่อไปแทนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันระดับสูงใด ๆ “
ทันทีที่เขาเข้าไปพูดคุยกับมืออาชีพหลิงรันก็จริงจังมากขึ้นเมื่อเขาพูด เขากล่าวว่า “สำหรับการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายการบาดเจ็บซ้ำ ๆ จะทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงมากและโดยทั่วไปคุณสามารถคิดได้ว่ามันปอาจเป็นการยุติต้นอาชีพของคุณเลยก็ว่าได้”
“ฉันเข้าใจ.” การแสดงออกของ หลิวเหว่ยปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาเหลือบไปที่ชายในชุดดำและคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาไม่ได้พูดอะไรเลย จากนั้นเขาก็หันไปหาหลิงรันแล้วพูดว่า “หมอหลิงขอบคุณ”
“มันเป็นเพียงการวิเคราะห์อย่างง่าย” หลิงรันโบกมือของเขาและไม่ได้พูดอะไรต่อ ความแข็งแกร่งที่นักกีฬาใช้ใน การแข่งขัน นั้นแตกต่างจากความแข็งแกร่งที่พวกเขาใช้ในการฝึกอย่างมาก และมันก็แตกต่างจากความแข็งแกร่งที่พวกเขาใช้สำหรับการฝึกฟื้นฟูสมรรถภาพ
ปัจจุบันผลกระทบของแผนกได้รับผลกระทบสูงสุดจากข้อเท็จจริงที่ว่าหลิวเหว่ยมีส่วนร่วมในการฝึกที่มีความเข้มข้นสูง แต่ถ้าเขาต้องการที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน เขาจะต้องแบกรับความเสี่ยงไว้มหาศาล
ถ้ามันเป็นการแข่งขันเช่นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกซึ่งจัดขึ้นครั้งเดียวในรอบสี่ปีการเสี่ยงที่จะเข้าร่วมมันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่ การแข่งขันที่มีอาการบาดเจ็บเป็นหนึ่งที่นักกีฬามืออาชีพที่ต้องแบกรับความเสี่ยงไว้
อย่างไรก็ตามถ้ามันเป็นเพียงการแข่งขันเล็กน้อยๆและเขายังคงต้องเสี่ยงที่จะจบอาชีพของเขาโดยให้มันทั้งหมดของเขา เขาเองก็ควรหยุดตัดสินให้ดีก่อน
ยิ่ง หลิวเหว่ยคิดถึงมันมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเขามาถึงที่โรงแรม เขาขอบคุณลิงรันอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พูดว่า “หมอหลิงรถคันนี้ไม่มีใครใช้ คุณสามารถเรียกคนขับได้ตลอดเวลา สำหรับตอนนี้คุณก็ขึ้นไปพักก่อนเถอะเดียวเราเจอกันวันหลัง”
“เอาล่ะขอบคุณนะ” หลิงรันไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของเขา
* แตก. *
แพทย์ประจำแผนกอ้วนเขาทนไม่ได้อีกต่อเขาทุบขวดน้ำที่เขาเพิ่งดื่มเสร็จไปครึ่งหนึ่ง เมื่อเขามองได้ยินสิ่งที่หลิงรันจะได้รับจากหลิวเหว่ย