Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 342

ผู้ป่วย…ถูกวางบนผ้าผ่าตัดสีเขียวเข้ม

เขาถูกคลุมด้วยแผ่นที่ปลอดเชื้อขนาดใหญ่สีฟ้าอ่อนมีเพียงหัวเข่าของเขาเท่านั้นตอนนี้

แม้ว่าคนไข้จะตื่นอยู่ก็ตามใบหน้าของเขาถูกคลุมด้วยแผ่นผ้าที่ผ่านการฆ่าเชื้อ เขาทำได้แค่จ้องไปที่แผ่นสีฟ้าอ่อนและฟังเพลงทีเปิดในห้องผ่าตัเท่านั้น เขารู้สึกเบื่อมากในตอนนี้

“ ทำไมเราไม่ดมยาสลบเขาเลยล่ะ?”โจวซินเยียนรู้ว่าหลิงรันไม่ชอบคุยกับคนไข้ของเขาดังนั้นเขาจึงแนะนำเช่นนั้นออกมา แน่นอนว่าเป็นเพราะ โจวซินเยียนชอบพูดคุยและกลัวว่าเขาจะเบื่อ

ผู้ป่วยเป็นชายอายุหกสิบสองปี เขาส่ายหัวอย่างใจจดใจจ่อและหนักแน่นในขณะที่เขาคลุมด้วยแผ่นหมัน “ ฉันไม่ต้องการการดมยาสลบ ฉันรู้ว่ามีคนที่ไม่เคยตื่นขึ้นมาหลังจากได้รับการดมยาสลบและก็ตายในที่สุด “เขากล่าว

“ มีคนเสียชีวิตจากการดมยาสลบ? นั่นเป็นเรื่องแปลก” โจวซินเยียน แปลกใจมาก

“ โรงพยาบาลกล่าวว่าเขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายและไม่ได้แม้แต่จะจ่ายค่าชดเชยใด ๆ เราทุกคนต่างก็รู้จักพี่หลุ่ยเป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะมีความดันโลหิตสูงและมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจของเขา มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะตายจากอาการเหล่านั้น ” ชายชราหยุดสักครู่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ“ ยาสลบโดยทั่วไปมันเป็นอันตรายต่อคนปกติอยู่แล้ว”

โจวซินเยียนเหลือบมองที่หลิงรันทันใดนั้น เขาเปลี่ยนความคิดใหม่เรื่องการวางยาสลบ

“ ลองตรวจดูความพร้อมและสภาพร่างกายของผู้ป่วยอีกครั้ง” หลิงรันพูดกับหยูหยวนในขณะที่เขาทำเครื่องหมายที่หัวเข่าของผู้ป่วยด้วยปากกาทำเครื่องหมายสำหรับผิวหนังที่ต้องผ่าตัด

การศัลยกรรมพลาสติกที่ข้อเข่าเทียมใช้ผู้ช่วยเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่แพทย์ของโรงพยาบาลประชาชนจู่เฉิงจะปล่อยให้หลิงรันทำการผ่าตัดโดยไม่ได้รับการกำกับดูแลพวกเขาจึงมอบหมายให้นายแพทย์จางเพ้งอี้ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ช่วยคนแรก ดังนั้นหยูหยวน จึงกลายเป็นผู้ช่วยคนที่สอง โจวซินเยียนอยู่ที่นั่นเพื่อสังเกตการผ่าตัดเท่านั้นดังนั้นเขาจึงยืนอยู่ข้างๆและเฝ้าดูขณะที่หมอสามคนทำงาน

“ เส้นทางการผ่าตัดจะอยู่ด้านข้างเอ็นลูกสะบ้า” หลิงรันอธิบายต่อผู้ช่วยของเขาก่อ นที่เขาจะสังเกตเห็นหัวเข่าของผู้ป่วย จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาและพูดว่า“ มีดผ่าตัด”

* ตบ. *

พยาบาลสครับที่รู้สึกกังวลอย่างมากวางมีดผ่าตัดในฝ่ามือของหลิงรันทันที หลังจากที่เธอทำอย่างนั้นเธอก็เริ่มวิตกกังวลมากขึ้นในทันที

หลิงรันเงยหน้ามองเธอและยิ้มพร้อม จากนั้นเขาก็หันและผ่าแผล 0.2 นิ้วในตำแหน่งที่เขาทำเครื่องหมายด้วยปากกามาร์กเกอร์ผิวผ่าตัดก่อนหน้านี้

ร่างกายของพยาบาลโรงพยาบาลนั้นเครียดมากและเธอเริ่มจินตนาการถึงความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบ

“ ทิ่มไปที่ผิวหนัง” หลิงรันเตือนเธอ

* ตบ! *

พยาบาลใช้ทุกสิ่งที่เธอได้เรียนรู้ในอาชีพของเธอในการวางเข็มแทงผิวหนังบนฝ่ามือของหลิงรัน ด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดและมุมที่ดีที่สุดด้วยแรงที่เหมาะสมที่สุด เช่นเดียวกับที่ทิ่มผิวหนังกำลังจะมาถึงบนฝ่ามือของหลิงรันเธอก็ดึงเข็มทิ่มผิวหนังกลับมาเล็กน้อย

สำหรับศัลยแพทย์ นั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่พยาบาลสามารถทำได้

หลิงรันส่องประกายรอยยิ้มให้พยาบาลที่สวมสครับอีกครั้งก่อนที่เขาจะก้มศีรษะลงทันทีและแทงที่แทงผิวหนังเข้าไปในข้อต่อหัวเข่าของผู้ป่วย

หลิงรันใส่กล้องเข้าไป ก่อนที่เขาจะสั่ง “ เพิ่มการแช่สารละลายน้ำเกลือ”

จางเพ้งยี่ผู้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพิ่มจำนวนของน้ำเกลือที่สูบเข้าเส้นเลือดของผู้ป่วยทันที

เขากังวลเล็กน้อยว่าจะมีปัญหากับการซักซ้อมของหลิงรันก่อนหน้านี้

ด้วยวาจาเขาได้อาบน้ำผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอื่นด้วยความชื่นชม อย่างไรก็ตามคำพูดที่บอกว่าการค้าที่แตกต่างกันนั้นเป็นภูเขาที่แยกจากกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจที่มีชื่อเสียงระดับสากลก็อาจไม่มีความรู้ในเรื่องข้อเข่า

ยกตัวอย่างอัตสึชิอามาโนะผู้ทำการผ่าตัดบายพลาสหลอดเลือดหัวใจสำหรับจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น เขามีชื่อเสียงในด้านการเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ผ่าตัดผู้ป่วยผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจหกพันเส้น นอกจากนี้เขายังได้นำศัลยแพทย์คนอื่น ๆ เข้าร่วมการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจหมื่นราย เขาทำการผ่าตัดโดยเฉลี่ยห้าร้อยเคสของหลอดเลือดหัวใจ บายพาสของทุกปีซึ่งเกือบสิบเท่าของค่าเฉลี่ยของแพทย์ญี่ปุ่นทั่วไปและห้าเท่าของค่าเฉลี่ยของแพทย์จีนสามัญ

อย่างไรก็ตามนอกจากนั้นอัตสึชิอามาโนะไม่ได้ทำการผ่าตัดชนิดอื่น เขาไม่จำเป็นต้องรู้อะไรเกี่ยวกับข้อเข่าหรือข้อข้อเข่า เขาอาจมีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างทางกายวิภาคพื้นฐานของพวกเขา แต่นั่นคือทั้งหมด

จางเพ้งอี้เพียง แต่ยอมให้หลิงรันเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าศัลยแพทย์เนื่องจากลิงรันมีประสบการณ์ด้านการส่องกล้องและเพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอีกแห่งที่โรงพยาบาลของเขาใช้เงินจำนวนมากในการจ้าง อย่างไรก็ตามชื่อของจางเพ้งอี้ถูกเขียนในรูปแบบการผ่าตัดแทนที่จะเป็นของหลิงรัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะเป็นกังวล

อย่างไรก็ตามตอนนี้จางเพ้งอี้เห็นว่าหลิงรันมีฝีมืออย่างไรเขาก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

แม้ว่าการใช้ทิกเกอร์ผิวหนังเป็นเพียงการซ้อมเล็ก ๆ แต่ก็ต้องฝึกฝนและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับโครงสร้างทางกายวิภาคของข้อเข่าในส่วนของศัลยแพทย์ แทงผิวหนังอาจจะเปรียบกับเข็มที่มีขนาดใหญ่มาก ศัลยแพทย์จะต้องสามารถควบคุมระดับความลึกที่แทงด้วยผิวหนังได้ในขณะที่ออกแรงจำนวนที่เพียงพอ ความพยายามซ้ำ ๆ จะนำไปสู่การพยากรณ์โรคที่ไม่ดี

คุณสามารถเข้าใจความสามารถของพยาบาลได้มากขึ้นหรือน้อยลงโดยดูว่าเธอมีทักษะแค่ไหนเมื่อพูดถึงเรื่องฉีดยา ความสามารถของแพทย์เมื่อพูดถึงการแทรกที่ทิ่มผิวหนังก็เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของทักษะของเขาเมื่อมันมาถึงการส่องกล้อง

ตอนนี้จางเพ้งอี้ก็มั่นใจว่าหลิงรันนั้นมีความสามารถค่อนข้างดีเขาสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ

หลังจากแทรกอาร์โธสโคปเข้ากับข้อเข่าสภาพภายในข้อเข่าถูกถ่ายทอดสดบนหน้าจอขนาด 42 นิ้วเหนือตารางปฏิบัติการ มันชัดเจนกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการสแกนด้วยเอ็กซ์เรย์และแม้แต่การสแกนเอ็มอาร์ไอ

ในทางทฤษฎีการวินิจฉัยโดยใช้กล้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับมัดกล้ามเนื้อ และส่วนประกอบอื่น ๆ มีความแม่นยำถึง 98% มันเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อมันมาถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์ตะวันตก นี่เป็นเพราะแพทย์ตะวันตกผู้ฝึกปฏิบัติต้องมีโรคที่แน่นอนซึ่งแตกต่างจากยาแผนโบราณที่ผู้ปฏิบัติงานแพทย์จำเป็นต้องชี้ให้เห็นว่าปัญหานั้นอยู่ที่ไหน

แน่นอนความน่าจะเป็นของการวินิจฉัยผิดพลาดยังคงอยู่ที่นั่น ถ้าแพทย์มั่นใจในการวินิจฉัยร้อยละ 100 เขาก็ไม่ได้หมายความว่าเขามั่นใจ มันแปลว่าเขาเป็นคนที่หยิ่งผยอง

หลิงรานใช้เวลาสองสามนาทีตรวจสอบความเสียหายในวงเดือนของผู้ป่วยก่อนที่เขาจะพูดว่า“ ฉันคาดว่าเราสามารถรักษาวงเดือนเริ่มต้นได้ประมาณ 0.28 นิ้ว…”

จางเพ้งอี้ยังคงดูหน้าจออยู่และเขาไม่สามารถตอบสนองต่อหลิงรันได้เพราะจากประสบการณ์ของเขาเขายังต้องการเวลามากขึ้นในการคิดถึงเรื่องนี้ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ

หลิงรันไม่รอให้จางเพ้งอี้ตอบ เขาเริ่มทำงานกับวงเดือนของผู้ป่วยแทน

จุดประสงค์หลักของการผ่าตัดพลาสติกคือการฟื้นกล้ามเนื้อ ที่เสียหายให้กลับสู่สภาพปกติหรือใกล้เคียงปกติ

ในกระบวนการชิ้นส่วนที่ยื่นออกมาจะต้องถูกตัดออกโดยใช้คีมหนีบคู่ในขณะที่ขอบที่ไม่เรียบจะต้องทำการตัด ในขณะเดียวกันเอ็นรอบๆเข่าจะต้องราบรื่นผู้ป่วยที่หลิงรันกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนั้นได้รับการรักษาแบบดังเดิมมาก่อนมันทำให้เอ็นรอบเข่าเกิดการฉีกขาด

“ ข้อระหว่างรอยต่อของเข่านั้นขรุขระแล้ว” ในที่สุดจางเพ้งอี้ก็กลับมารู้สึกอีกครั้ง เขาถอนหายใจขณะที่จ้องมองที่ช่องว่างระหว่างเข่าบนหน้าจอ

ผู้ป่วยได้แต่ตะโกนออกมาดัง ๆ “ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีใช่ไหม”

“ ถูกแล้ว” จางเพ้งอี้พูด “ เนื่องจากคุณเคยได้รับการรักษาโดยเทคนิคแบบดังเดิมทำให้ส่วนนั้นมันสึกรอมามาก เป็นผลให้มันยากขึ้นเล็กน้อยในการรักษา”

“ในตอนนี้แพทย์ที่รักษาฉันเขาเลือกการรักษาแบบนั้นให้ฉัน”

“ แสดงว่าคุณไม่เคยไปตรวจร่างกายจากการรักษาเสร็จสิ้นสินะ”

“ฮ่ะ มันจำเป็นด้วยหรอที่จะต้องไปกลับไปตรวจ ทุกคนรู้ว่าฉันได้รับการรักษาแล้ว?” แม้ว่าผู้ป่วยที่กำลังนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดก็ไม่มีใครไม่กล้าที่จะเดินไปรอบ ๆเตียงเลยเพราะผู้ป่วยยังคงต้องการโต้เถียงกับ จางเพ้งอี้

จางเพ้งอี้ตัดสินใจหยุดพูด

หลิงรันเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดในครั้งเดียว เขาเหลือบดูนาฬิกาเมื่อเสร็จแล้วและตระหนักว่าเขาใช้เวลาเพียงสิบห้านาที

“ เราไปหาคนต่อไปไหม” หลิงรันดึงถุงมือออก และ เดินออกจากห้องผ่าตัดไป

“ มันเป็นอย่างไรบ้าง” ทีมแพทย์ซึ่งรวมถึงหัวหน้าคณะแพทย์ต่างก็ล้อมรอบ จางเพ้งอี้

“ เขาทำได้ดีกว่าฉันมาก” จางเพ้งอี้หัวเราะเบา ๆ สองสามครั้ง ไม่มีอะไรจะต้องปิดปัง

“ดีกว่าคุณ?” หัวหน้าแพทย์พูดซ้ำสิ่งที่จางเพ้งอี้พูดและพยักหน้าเล็กน้อย

โรงพยาบาลเพิ่งเพิ่มการผ่าตัดแบบส่องกล้องเข้ามายังรายการการรักษาและพวกเขาต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะมากกว่าที่เคยประจำอยู่ในโรงพยาบาล

เนื่องจากข้อเข่าเทียมนั้นเป็นวิธีการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพมากซึ่งสร้างความเสียหายให้กับผู้ป่วยได้น้อยมากความต้องการมันจึงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลประชาชนจู่เฉิงยังไม่ได้ฝึกอบรมแพทย์ให้เพียงพอเพื่อทำการส่องกล้องตรวจข้อเข่า

คุณเฟิงหยูพบโอกาสที่จะได้พูดคุยส่วนตัวกับโจวซินเยียนและเขาถามว่า“ หมอหลิงคิดค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจส่องกล้องที่ข้อเข่าแต่ละครั้งเท่าไหร่”