Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 371
หลิงรันเริ่มทำการผ่าตัดในตอนตีสามเหมือนเช่นเคย หลังจากที่เขาผ่าตัดจนถึงเที่ยงวันหลิงรันก็ได้ดื่มเซรั่มพลังงานเพื่อเป็นการเติมพลังงานให้กับตัวเอง และผ่าตัดต่อไปจนถึง 10 โมงเช้า จากนั้นหลิงรันก็คิดได้ว่าเขาควรจะใช้โอกาสนี้ผ่าตัดทั้งวันเลย
ในขณะที่หลิงรันเฝ้าดูคนไข้ที่ถูกผลักออกไปหลิงรันก็อดยิ้มไม่ได้
“ดูเหมือนคุณจะสนุกกับมันมาเลยนะ?” โจวซินเยียนในตอนนี้แทบจะไม่ลืมตาเลยขณะที่คุยกับหลิงรัน เขาต้องดื่มเรทบลูสองกระป๋องเพื่อปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา
หลิงรันพยักหน้า
“ตอนนี้คุณพอใจแล้วสินะที่ได้ทำการผ่าตัด?” โจวซินเยียนถามอีกครั้ง
หลิงรันพยักหน้า
“คุณรู้สึกดีขนาดนั้นเลยหรอ” โจวซินเยียนยังถามอีกครั้ง
หลิงรันก็พยักหน้าเช่นเคย
โจวซินเยียนแทยจะยืนไม่ไหวแล้วตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ลืมที่จะยกนิ้วให้หลิงรัน “หมอหลิงคุณนี้แข็งแกร่งจริงๆ ผมนับถือในความอึดทึกทนของคุณจริงๆ แต่ตอนนี้ผมเองคงจะไม่ไหวแล้วถ้าต้องทำการผ่าตัดต่อไป ขืนทำอย่างงี้ไปเรื่อยๆผมคงต้องตายคาเตียงผ่าตัดแน่ๆ”
“จริงๆฉันเองก็เหนื่อยมากเหมือนกันนะ ถึงแม้ฉันจะพึงมาช่วยก็ตาม” หมอลู่เองก็เดินทางมาช่วยหมอหลิงผ่าตัดนานแล้วเขาใช้โอกาสนี้ เหยียดร่างกายเพื่อให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
“คอฟฟี่..”
ซู่เจียฟูผู้เป็นวิสัญญีแพทย์เป็นผู้ดูแลเรื่องยาในการผ่าตัดทั้งหมดวันนี้เขาแทบจะไมได้พูดอะไรเลยกับหลิงรัน เขาได้แต่นั่งเงียบ ๆ บนเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ แล้วหลับไปบนโต๊ะ เขาเริ่มกรน
หลิงรันยังดูเหมือนคนที่พึงนอนมาเต็มอิ่ม แถมยังหล่อและสง่างามราวกับว่าเขาเป็นเทพบุตรผู้ไม่มีวันเหนื่อยล้า เขามีความสง่างามอย่างมาก
โจวซินเยียนซึ่งอายุสี่สิบกว่าปีแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงอิจฉาแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เขากับมามีพลังเหมือนหลิงรัน “มีคำๆหนึ่งกล่าวว่า เยาวชนเป็นทองคำประสบการณ์ของผมในฐานะแพทย์อายุน้อยนั้นต่างจากคุณ ดังนั้นการเป็นวัยรุ่นย่อมดีกว่าคนแก่เสมอ”
“มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระทั้งนั้น” หมอหลู่ ครางขณะที่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย เขาพูดว่า “ฉันก็ยังเด็กอยู่ แต่มองมาที่ฉันสิ ฉันเองก็เหนื่อยมากๆ”
โจวซินเยียน เหลือบไปที่หมอลู่ราวกับว่าเขากำลังดูสุนัขทิอยู่ในหมู่บ้าน
“กำหนดเวลาการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้” หลิงรันขัดจังหวะพวกเขาทั้งสองและพูดว่า “ช่วยแจ้งจำนวนผู้ป่วยที่ต้องนอนพักฟื้นในโรงพยาบาล ตอนนี้ให้หน่อย”
“ช่วงนี้พอมีผู้ป่วยมาบ้างปะปราย แต่ผมเดาว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากไปอีก” โจวซินเยียนหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “การรักษานั้นเหมือนกับการขุดรังของหนูพวกมันตะมาทีละตัวถึงแม้เราจะจัดการพวกมันได้ มันก็จะมาเรื่อยๆ”
พยาบาลหมุนเวียนที่กำลังดื่มน้ำ ถึงกับพ่นน้ำออกมา “นี้คุณกล้าเอาคนไข้ไปเปรียบเทียบกับหนูอย่างงั้นหรอ”
“มันแปลกตรงไหน ผมก็แค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพแค่เท่านั้น” โจวซินเยียนพูดและยิ้มอย่างอ่อนน้อมต่อหลิงรัน “หมอหลิงคุณคงหมดแรงหลังจากทำงานมาทั้งวัน วันนี้กลับไปพักก่อนไหม เดียวที่เหลือพวกเราจัดการเอง”
“ตกลง.” หลิงรันไม่มีความสนใจในการทำความสะอาด เขาหันหลังกลับและพูดว่า “พรุ่งนี้เช้าเราสามารถเริ่มทำงานได้ช้ากว่าปกติเราเริ่มจะตอนแปดโมงและเดินตรวจรอบวอร์ดก่อนที่เราจะทำการผ่าตัด”
โจวซินเยียนบังคับให้ตัวเองยิ้ม
เมื่อหลิงรันเดินจากไปโจวซินเยียนมองดูนาฬิกาของเขา เขากระซิบ “วันนี้แปลกนะ พวกเราทำงานน้อยกว่า 12 ชม.”
“นี่เป็นตารางปกติของหมอหลิง” หมอลู่พูดด้วยน้ำเสียงของการเป็นพี่ใหญ่ แม้แต่เสียงของเขาก็ดูเย่อหยิ่ง
โจวซินเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดด้วยถ้อยคำคมคายว่า “เราเป็นเพียงผู้ช่วยเรายังสามารถแจกจ่ายงานของเราในหมู่พวกเราได้ แต่หมอหลิงเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์เขากลับทำงานแบบไม่หยุดพักได้ เขาทำได้ยังไงกัน”
“ตราบใดที่มีเตียงเพียงพอเขาก็ทำได้หมดนั้นแหละ” หมอลู่เหลือบมองไปที่โจวซินเยียน และพูดว่า “คุณเหมือนได้เปิดกล่องแพนโดร่าแล้วถ้าผู้ป่วยเก่า ๆ เหล่านี้แต่ละคนถึงวันกำหนดที่จะออกจากโรงพยาบาล หมอหลิงจะกลับมาทำการผ่าตัดอย่างบ้าคลั้งอย่างแน่นอน”
“ผู้ป่วยป่วยทั่วไปตั้งหาก ไม่ใช่แค่พวกป่วยเก่า” โจวซินเยียนแก้ไขคำของหมอลู่
“ ผู้ป่วยทั่วไปอย่างงั้นหรอ แสดงว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมาขึ้นสินะ”
โจวซินเยีนยพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“แม้ว่าจะมีกลุ่มผู้ป่วย แต่ก็คงมีไม่มากนักที่ได้รับบาดเจ็บที่ลูกสะบ้าหรอกมั้ง”
“อย่างงั้นคุณคงประเมินความสามารถของเด็กฝึกงงานในการแพร่ข่าวนี้ออกไปแล้วสินะ”
“ไม่มีทาง.” หมอลู่บังคับตัวเองให้หัวเราะเบา ๆ
โจวซินเยียนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง
“มันไม่เหมือนหมอหลิง” นางพยาบาลสาวข้างๆเขาไม่ยอมทำงานอีกต่อไป
ก่อนที่โจวซินเยียนจะตอบโต้อะไรหมอลู่ก็เหวี่ยงประตูให้เปิดออกและรีบออกไป “วันนี้ฉันรบกวนคุณทุกคนหน่อยนะ พอดีฉันฉันทำสตูว์ทิ้งไว้นะ”
… ..
วันรุ่งขึ้นเวลาแปดนาฬิกาในตอนเช้าหลิงรันเริ่มตรวจรอบวอร์ดกับสมาชิกของทีมรักษา
หมอลู่, หยูหยวน และ โจซินเยียน ที่เป็นผู้ดูแลตียงบรรยายสรุปเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยในขณะที่พวกเขาเดิน นักศึกษาฝึกงานสามคนตั้งหน้าตั้งตารออยู่ในห้องเพื่อตอบคำถามอย่างใจจดใจจ่อ
หลิงรันไม่ค่อยพูดคุยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนไข้ ส่วนใหญ่ หยูหยวนรับผิดชอบการให้คำปรึกษาและเรื่องอื่น ๆ มากกว่า
เนื่องจากหยูหยวนค่อนข้างจะอธิบายและมีมนุษย์สัมพันธ์ดีกว่าหลิงรันอยู่มาก
ในความเป็นจริงก่อนที่แพทย์ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าแพทย์ความสามารถที่สำคัญที่สุด หนึ่งคือการตรวจวอดร์ดซึ่งแพทย์อย่างเช่นหยูยวนเองก็ได้เปรียบในข้อนี้และได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมทีมทุกคน ถ้าคิดให้ดีหยูหยวนเอง ณ ปัจจุบันเธอก็อยู่ในตำแหน่งแพทย์อาวุโส
ซึ่งคนอย่างเธออาจหาไม่ได้ในทีมแพทย์อื่นๆของโรงพยาบาลหยุนหัว
ซึ่งพลังในการรักษาในทีมรักษาทีมใหญ่นั้นมีมาก หากวัดจากตัวเลขทีมการรักษาที่เหมาะสมในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ A จะได้รับมากกว่า 10,000,000 หยวนต่อปี ก่อนการปฏิรูปทางการแพทย์หากทำการคำนวณตามราคายาในขณะนั้นซึ่งสูงกว่าราคายาในปัจจุบันถึง 15% แม้แต่โรงพยาบาลก็จะสามารถทำกำไรได้มากกว่า 1,000,000 หยวนจากผู้ป่วยในหนึ่งปี
ทีมการรักษาที่มีขนาดเท่านี้จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับโรงพยาบาลมากกว่า
ดังนั้นกลุ่มการรักษาส่วนใหญ่นำโดยหัวหน้าแพทย์หรือรองหัวหน้าแพทย์ พวกเขาจะมีทีมแพทย์ที่มากกมายในการคอยสนับสนุนเช่นกัน
ในโรงพยาบาลที่ไม่มีทีมแพทย์ หรือมีแพทย์ไม่เพียงพอพวกเขาก็จะพยายามทาบถามทีมแพทย์คนอื่นๆให้เข้ามาทำงานกับโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตามในทีมการรักษาของหลิงรัน หยูหยวน เพิ่งกลายเป็นแพทย์ที่อาวุโสที่สุดในทีม แต่นี้ไม่ใช่ตำแหน่งที่ได้รับจากโรงพยาบาลแต่เป็นความสามามารถที่เธอมีอยู่ในทีมของหมอหลิง
มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับหยูหยวน ในการตรวจรอบวอร์ดในครั้งนี้ถึงแม้งานนี้จะสงวนไว้กับเหล่าหัวหน้าแพทย์เพียงเท่านั้น
หลิงรันสนุกกับเวลาว่างที่เขามีในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาถูกย้ายไปที่อาคารผู้ป่วยวีไอพี ท่าทางของหลิงรัน นั้นเย็นลงกว่าเดิม
เขาไม่ชอบการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยและพวกผู้ป่วยวีไอพีนั้นไม่ค่อยจะมีท่าทางที่สุภาพมากนัก
ในการเปรียบเทียบความสามารถของหยูหยวนในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยวีไอพีเธอกับทำได้ดีกว่ามาก
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายผู้หญิงผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก มักจะชอบคนตัวเล็กเสมอๆ
หลิงรันเงียบฟังหยูหยวนในขณะที่เธอถามคำถาม หากไม่มีปัญหาเขาจะปล่อยให้หยูหยวนควบคุมจังหวะการสนทนา ถ้ามีอะไรผิดพลาดเขาจะคอยถามเธอจากด้านหลัง
หลังจากที่เขาเดินผ่านอาคารผู้ป่วยวีไอพีทั้งหมดหลิงรันไม่ได้รับหีบสมบัติ S คำขอบคุณที่จริงใจจากผู้ป่วยรายใดเลย
หลิงรันก็ไม่สนใจความจริงเรื่องนี้
เขาไม่ได้รีบหาหีบสมบัติใดๆ เพราะการผ่าตัดอีกมากมายรอเขาอยู่
ตอนเก้าโมงเช้าหลิงรัน ก็กลับไปมาที่ห้องผ่าตัดที่เขารัก
ตารางการใช้ห้องผ่าตัดสำหรับวันนั้นก็แสดงอยู่ในห้องรอของพื้นที่ปฏิบัติการด้วย
“มีการปฏิบัติการทั้งหมดแปดเคส” น้ำเสียงของหลิงรันไม่ถือว่าผิดหวังเท่าไร แต่ก็ไม่ตื่นเต้นเช่นกัน
ปริมาตรการผ่าตัดนั้นอาจทำให้แพทย์รายอื่นเหนื่อยล้า แต่สำหรับหลิงรันนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของเขาก่อนที่เขาจะตัดสินใจว่าเขาเหนื่อยมากหรือไม่ที่เขาต้องการเซรั่มพลังงาน
“การผ่าตัด เอ็มถัง หนึ่งครั้งการซ่รักษาเอ็นร้อยหวายสองครั้งการผ่าตัดส่องกล้องตรวจข้อเข่าห้าครั้ง … “หมอลู่ทำการคำนวณเคสการผ่าตัดอย่างจริงจังและจริง ๆ แล้วเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“เราไม่มีเตียงสำหรับทีมรักษาของเราอีกต่อไปวันนี้ผู้ป่วยสี่คนอาจะใช้เตียงของโรงพยาบาลได้แต่ที่เหลืออีกสี่คนจะต้องใช้เตียงเสริม” หยูหยวน ส่งข่าวร้ายเพิ่มเติม
โจวซินเยียนรู้สึกผิดเล็กน้อย เขากล่าวว่า “ข่าวยังไม่เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งฉันคิดว่าอีกไม่กี่วันจำนวนผู้ป่วยที่นำเตียงของตัวเองจะเพิ่มขึ้น”
“ ปัญหาตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ป่วยที่นำเตียงของตัวเองมาเข้าด้วยกันเรายังไม่มีเตียงเพียงพอสำหรับตัวเอง”
“เตียงเสริมเกือบเต็มแล้ว”
“หากพวกเขาต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานานอัตราการหมุนเวียนเตียงของเราจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
ทุกคนเริ่มมาคิดร่วมกัน แต่พวกเขาก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นทางออกที่ดีอะไร
หลิงรันเปลี่ยนเป็นขัดสวมชุดชั้นในคู่ใหม่แล้วฟังพวกเขาเมื่อพวกเขาคุยกัน จากนั้นเขาก็คิดสักสองสามวินาทีแล้วพูดว่า “วิธีแก้ปัญหาในปัจจุบันของเราคือการลดเวลาพักฟื้นของผู้ป่วย”
“เราจะไม่ใช้ระบบรักษาในโรงพยาบาลในระยะยาวอีกต่อไป” โจวซินเยียน เป็นคนแรกที่ยืนยันคำพูดของเขา เขาไม่เข้าใจระบบการรักษาในโรงพยาบาลในระยะยาวหรือระยะสั้น เขารู้แค่ว่ามันขัดแย้งกับนโยบายของโรงพยาบาล เมื่อเขาได้ยินหลิงรันพูดเช่นนั้นก็ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดทันที
หลิงรันส่ายหัว “เราจะยึดมั่นกับระบบการรักษาในโรงพยาบาลในระยะยาว แต่เราสามารถพิจารณาลดเวลาที่ผู้ป่วยต้องพักฟื้นในขณะที่เราดำเนินการกับพวกเขา”
“ในขณะที่เราทำงานกับพวกเขา?”
“เราสามารถลดการสูญเสียเลือดลดเวลาในการปฏิบัติงานและการผ่าตัดที่ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น … ” หลิงรันพูดถึงสามปัจจัยในหนึ่งลมหายใจก่อนที่เขาจะหยุดชั่วขณะหนึ่งและดำเนินต่อไป “ถ้าเราสามารถลดเวลาในการรักษาในโรงพยาบาล วันเราจะสามารถประหยัดเตียงได้มากกับผู้ป่วยทุกๆร้อยคน “
โจวซินเยียนและคนอื่น ๆ ตกตะลึงเมื่อพวกเขาฟังเช่นนั้น
“หมอหลิงคุณมักจะคิดหาวิธีการใหม่ในการจัดการกับปัญหา” โจวซินเยียน ยิ้มอยู่ภายในใจของเขา แต่เขาไม่รู้ว่านี้คือ ‘นี่เป็นกลยุทธ์หรือไม่? หรือเป็นแค่นิสัยส่วนตัวที่เขาแสดงออกมากันแน่! ‘