Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 384
EP 384
By loop
เมื่อ ดงเหอตง สงบลงหมอลู่ก็เดินเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว
ดงเหอตงเริ่มส่ายหัว เขาเองก็ไม่อยากออกไปจากห้อง ดังนั้นเขาจึงยืนรออยู่ในห้องสังเกตการณ์และเฝ้าดูทุกอย่างผ่านห้องกระจกของห้องผ่าตัด เขาตัดสินใจว่าเมื่อเขาเจอหลิงรัน ดงเหอตงจะมายืนยันเรื่องการมาตรการควบคุมการติดเชื้อของโรงพยาบาลแผนกฉุกเฉิน
สำหรับการควบคุมการติดเชื้อที่ยังไม่ไปเป็นมาตรฐานถือว่าเป็นเรื่องใหม่มาก ดังนั้นดงเหอตงเลยยังรับได้กับมาตรการที่หลิงรันทำอยู่
ตอนนี้ในห้องผ่าตัดของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินนั้น ในห้องถูกปกคลุมด้วยกำแพงสีฟ้าและผ้าม่านสีเขียวมีเพียงกล้องผ่าตัดสีดำเท่านั้นที่อยู่ในนั้นห้องนั้น
กล้องผ่าตัดลักษณะที่คล้ายกับโคมไฟให้ห้องครัว มีแท่งโลหะเชื่อมต่อกับกล้องซึ่งดูหนักและสามารถปรับขึ้นลงได้ เชื่อมต่อกับฐานขนาดใหญ่และล้อด้านล่าง
หัวหน้าศัลยแพทย์มีสิทธิพิเศษในการควบคุมกล้องผ่าตัด เขาสามารถปรับกล้องให้อยู่ในจุดที่พวกเขารู้สึกสะดวกในการทำงาน หัวหน้าศัลยแพทย์สามารถปรับฐานของกล้องผ่าตัดด้วยเพียงการเหยียบไปที่ฐานเท่านั้น และไม่ได้สนใจว่าผู้ช่วยของเขาจะลำบากขนาดไหนในการผ่าตัด
ในตอนที่ดงเหอตงจบการศึกษาแพทย์เฉพาะทาง เขาได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในแผนกควบคุมการติดเชื้อมาเกือบเจ็ดปี แต่เขากับจำเทคนิคการผ่าตัดไม่ได้เลยอีกทั้งเขาแทบจะไม่ได้สนใจอุปกรณ์การแพทย์ในห้องผ่าตัดของเขาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ตอนนี้ดงเหอตงเลยรู้สึกแปลกใจที่เห็นหัวหน้าศัลยแพทย์ปรับแต่งจุดของอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปมา
แพทย์ทุกคนที่มาจากโรงพยาบาลอื่น ๆ จะมีแท็กเพื่อแสดงตัวตนของพวกเขา ดงเหอตงมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วและเขาเห็นชื่อโรงพยาบาลเช่น โรงพยาบาลประชาชนที่สามโ รงพยาบาลประจำจังหวัดโรงพยาบาล เมืองหยี่หยวน และโรงพยาบาลเออเฉิง
มีตัวแทนจากโรงพยาบาลทั้งภายในและภายนอกจังหวัด นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลใหญ่และโรงพยาบาลระดับล่าง มารวมกันเช่นนี้ทำให้การผ่าตัดครั้งนี้คงไม่ใช่การผ่าตัดธรรมดา มันเลยดูหน้าสนใจมากๆ และมันก็เป็นเรื่องปกติที่เหล่าแพทย์จากโรงพยาบาลต่างๆจะร่วมกลุ่มกันพูดคุยถึงเรื่องการผ่าตัดที่กำลังจะมาถึง
หากนี้เป็นการสาธิตการผ่าตัดในการประชุมระดับประเทศจริงๆ ก็ไม่ใช้เรื่องแปลกที่จะมีแพทย์ผู้เชียวชาญมากมายเดินทางมาที่นี้เพื่อดูการสาธิตในครั้งนี้ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจมากกว่านั้น คือ การที่แพทย์อายุน้อยได้รับหน้าที่หัวหน้าศัลยแพทย์ และ ยังมีแพทย์จากเมืองหยี่หยวน รวมถึงโรงพยาบาลอื่นๆมาสังเกตการณ์ด้วยนั้น แสดงว่าหลิงรันคงไม่ใช่แพทย์ทั่วๆไปอย่างแน่นอน
ซึ่งรู้กันดีว่า มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะดึงดูดความสนใจจากแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆให้มาร่วมการประชุมได้!
และมันยิ่งยากมากขึ้นถ้าการประชุมที่จัดขึ้นนั้น เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้น่าสนใจเท่าไรนัก!
ดงเหอตง เหลือบมองไปรอบ ๆ ก่อนที่เขาจะพบแพทย์หนุ่มหน้าตาดีและถามว่า “คุณกำลังดูอะไรอยู่หรอ?”
หมอคนนั้นจ้องที่ ดงเหอตงอย่างสงสัย เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าไม่มีป้ายชื่อติดอยู่ที่อกของดงเหอตง เขาก็รู้ทันทีว่า ดงเหอตงคง เป็นแพทย์ในโรงพยาบาลหยุนหัว ดังนั้นเขาจึงยิ้มออกไปอย่างสุภาพ “เทคนิคการรักษาเอ็นรอยหวายแบบ จู้–หลิง
“อ่าวนั้นไม่ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบ เอ็มถังอย่างงั้นหรอ?” ดงเหอตงมองไปที่ห้อวผ่าตัดอีกครั้ง นอกเหนือจากหลิงรันหน้าตาดูหล่อเหล่าแล้ว เขาก็ไม่เห็นหมอลู่อยู่ที่นั่น
หมอหนุ่มถามเขากลับมาว่า “อ่าวคุณมาที่นีเพื่อดูเทคนิคเอ็มถึงหรอ? ถ้าอย่างงั้นคุณต้องรอดูเคสต่อไป”
ตอนนี้ดงเหอตงรู้แล้วว่าหลิงรันนั้นมีการผ่าตัดสองครั้งในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
“ ดังนั้นหมอหลิงจะทำการผ่าตัดที่นี่ก่อนที่จะไปอีกห้องหนึ่งผมเพิ่งเห็นผู้ช่วยของเขาไปที่นั่น…”ตอนนี้ดงเหอตงเต็มไปด้วยคำถาม
“ คุณกำลังพูดถึงหมอลู่ ใช่ไหมการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถังของหมอหลิงได้เริ่มดำเนินการแล้วตอนนี้หรอ และเขาก็จะปล่อยให้ หมอลู่เป็นคนเริ่มขั้นตอนแรก ในขณะที่เขาจัดการกับขั้นตอนสำคัญนอกจากนี้การผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง นั้นสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ อย่างรวดเร็วหมอหลิงใช้เวลาเพียง 15 นาทีทุกครั้งที่เขาไปที่นั่น ” หมอหนุ่มที่นี่รู้จักชื่อของหมอลู่ดี ดังนั้นแสดงว่าหมอหนุ่มคนนี้ต้องเคยมาดูการสาธิตการผ่าตัดหลายครั้งแล้ว
ดงเหอตงเองมีอาการ เวียนหัวเล็กน้อย เขาอยู่ในโรงพยาบาลหยุนหัวมาหลายปีแล้วทำไมเขาไม่เคยรู้เลยว่าโรงพยาบาลหยุนหัวได้รับความสนใจจากสาธารณชนขนาดนี้กัน?
ในขณะเดียวกันที่เตียงผ่าตัดหลิงรันยังคงก้มหน้าก้มตาผ่าตัดและเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
คนในทีมผ่าตัดเอทุกคนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่นกัน
ห้องผ่าตัดตอนนี้เงียบมาก
ในท้ายที่สุดพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าก็ทนไม่ได้อีกต่อไป และถามหันหน้าไปถามหมอหลิงด้วยเสียงเบาๆว่า “หมอหลิงคุณอยากฟังเพลงบางไหม?”
“เปิดมันได้เลย” หลิงรันไม่เองไม่ได้สนใจจะฟังเพลงมากนัก แต่ถ้าจะให้เลือกเพลงโปรดของเขาก็น่าจะเป็นเพลงของจอห์นเคจ 4’33 อย่างไรก็หมอหลิงเองไม่ได้มีปัญหาว่าห้องผ่าตัดจะเงียบขนาดไหนจึงไม่แปลกที่ตั้งแต่เริ่มผ่าตัดจะไม่ได้ยินเสียงเพลงดังออกมาจากลำโพงในห้องเลย
ผู้คนในห้องรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อพวกเขาฟังเพลงบรรเลงที่พยาบาลประจำห้องผ่าตัดเลือกเปิดให้ฟัง
“คุณมาที่นี้เพื่อมาเรียนรู้การผ่าตัดหรอ?” ดงเหอตงถือโอกาสนี้ถามด้วยเสียงต่ำ เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงของเทคนิคการรักษาเอ็นรอยวายจู้-หลิง แต่เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีคนสนใจเทคนิคนี้มากขนาดนี้
หมอหนุ่มที่ถูกถามแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าออกมา “มันยอดเยี่ยมมากถ้าผมสามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขาทำได้”
“แล้วมันมีปัญหาอะไรกันล่ะ?”
“ก็เพราะว่าผมยังไม่เคยรักษาชาวต่างชาติมาก่อนนะสิ และ ทีนี้น่าจะเป็นที่เดียวที่ผมจะได้เห็นการรักษาเหล่านั้น” หมอหนุ่มที่ถูกถามหัวเราะเบา ๆ
เมื่อดงเหอตงได้ยินสิ่งนั้น เขาถึงกับเงียบไปและหันไปดูที่เตียงผ่าตัด ขณะนั้นเองที่เขาตระหนักว่าร่างกายของผู้ป่วยซึ่งถูกเปิดเผยผ่านผ้าม่านนั้นดูล้ำบึกเป็นพิเศษ
ดงเหอตงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เขาเป็นฝรั่งหรือเปล่า”
“ ใช่เขาเป็นชาวอเมริกัน” หมอหนุ่มพูด
“คนอเมริกันมาโรงพยาบาลหยุนหัวเพื่อรับการรักษาอย่างงั้นหรอ” เสียงของดงเหอตงดังมากและดึงดูดความสนใจของคนที่อยู่ในห้องสังเกตการณ์กับเขา
ดงเหอตงไอและเขาก็ยิ้มแบบอายๆออกมา
“คนอเมริกันเองก็เป็นคนเหมือนกันมันน่าแปลกยังไงที่เขาจะมาหาหมอที่นี้” หมอที่อยู่ข้างๆเขาน่าจะทำงานมาเพียงแค่หนึ่งปีซุบซิบออกมา
“ถ้าคนอเมริกันมาที่ประเทศจีนพวกเขาจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสุขภาพใช่มั้ย”
แพทย์คนอื่นๆเกือบหัวเราะออกมาดัง ๆ “ เมื่อเราทำการรักษาเอ็นร้อยหวาย มันมีค่ารักษาแค่ 10,000 หยวนซึ่งมันยังมีมูลค่าไม่ถึง 2,000 หยวนเลย ซึ่งถ้าเขารักษาในประเทศต่อให้ประกันสุขภาพก็ไม่พอจ่ายอย่างแน่นอน”
ดงเหอตงถึงกับ ตกตะลึง “แล้วค่าเดินทางและค่าที่พักล่ะ”
“นี่เป็นการผ่าตัดเกี่ยวกับเวชศาสตร์การกีฬาหากดำเนินการในสหรัฐอเมริกาค่าใช้จ่ายเริ่มต้นจะน้อยกว่า 300,000 ดอลลาร์” แพทย์ที่คนนั้นมองดู ดงเหอตงและกล่าวว่า “การรักษาทางการแพทย์ที่เป็นสากลไม่ใช่เรื่องตลกราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมจะถูกลงไปเลยถ้าเทียบกับการรักษาหนึ่งครั้ง”
ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากที่ดูจริงจังมองพวกเขา
ดงเหอตงเองก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสำหรับเขาที่จะพูดเรื่องเหล่านี้ต่อไป ดังนั้นเขาจึงจ้องมองที่ขาของชายชาวอเมริกันที่อยู่บนเตียงผ่าตัดเท่านั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงหรันตัดขาชาวอเมริกันเช่นกัน หากมีการอธิบายโดยใช้ข้อมูลความยาวของเอ็นร้อยหวายของชายผู้นี้คือ 7.87 นิ้วและถือว่ามีขนาดยาวกำลังพอดี
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่าผู้ชายคนนี้เป็นนักวิ่งระยะไกลมานานมีเอ็นร้อยหวายที่มีความยาว 7.87 นิ้วอาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องปกติ
ในความเป็นจริงผู้ป่วยต่างชาติหลิงรันเข้ามาติดต่อเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นนักกีฬาและแฟนกีฬาหลิวเหว่ย นั้นชนะการแข็งขัน อีกทั้งเด็กขี้แง้ชาวแอฟริกาใต้เองก็ได้เข้าร่วมทีมรักบี้และทำผลงานออกมาได้ดีที่เดียว นี่เป็นการพิสูจน์ความสามารถของหลิงรันในระดับหนึ่ง
อีกทั้งหลิงรันเองยังเป็นแพทย์ที่เก็บค่ารักษาถูกที่สุดในวงการแพทย์ระหว่างประเทศ และเป็นตัวเลือกของนักกีฬาส่วนใหญ่ที่จะมารักากับเขา
หากมีรายชื่อของคนที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยในกลุ่มของแพทย์ระหว่างประเทศจำนวนศัลยแพทย์ในประเทศจีนที่มีรายชื่อผู้ป้วยอยู่ในนั้นจะยังคงต่ำมาก
ถึงยังไงก็ตามหลิงรันได้รับการยกย่องในแวดวงนักกีฬาว่าเป็นผู้เชียวชาญในการรักษาเอ็นรอยหวาย การผ่าตัดเล็กๆเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นงานที่ยากสำหรับแพทย์ทุกคนในทุกประเทศ ศัลยแพทย์จะต้องพิถีพิถันมาก แต่พวกเขากับได้รับค่าตอบแทนที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับแรงที่เขาเสียไปในการผ่าตัด
มีแพทย์เพียงไม่กี่คนที่จะมาถึงระดับที่พวกเขาสามารถเข้าถึงการเป็นแพทย์รักษาให้กับนักกีฬามืออาชีพได้ นั้นคือสุดทางของแพทย์สายนี้
ถึงแม้การรักษาเอ็นรอยหวายของนักกีฬามืออาชีพจะแตกต่างจากคนทั่วไปสักเท่าไร แต่แพทย์ที่ทำการรักษานักกีฬาเหล่านั้นก็ไม่ได้โด่งดังขึ้นมาเลยอาจจัดได้ว่าพวกเขาจะมีชื่อเสียงในวงแคบๆเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่ว่าระดับการรักษาของแพทย์เหล่านั้นก็จะสูงกว่าการผ่าตัดทั่วไปอยู่ดี
ชาวอเมริกันผู้ซึ่งนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดเลือกหลิงรันเนื่องจากเป็นราคาที่เขาสามารถจ่ายได้
หากพวกเขาเปรียบเทียบราคาปัจจุบันสำหรับการรักษาระดับสากลมีเพียงหลิงรันเท่านั้นที่สามารถรักษาเขาได้ ความสามารถในการรักษาเอ็นร้อยหวายของหลิงรัน นั้นไม่ได้สูงมากมันอยู่ที่ราวๆ 10,000 ดอลลาร์เพียงเท่านั้น
“ระดับการสูญเสียเลือด?” หลิงรันเงยศีรษะไปด้านข้างแล้วถาม ทีมแพทย์ของเขาเงียบลง
“ห้าสิบหก.” หยูหยวนทำงานเป็นผู้ช่วยในการผ่าตัดครั้งนี้ เธอขยับดวงตาออกจากเลนส์ตาและอ่านหมายเลขที่แสดงบนหน้าจอ
“เยี่ยม.” หลิงรันตอบกลับก่อนที่จะทำการผ่าตัดต่อไป
สายตาทุกคนมุ่งเน้นไปที่หน้าจอก่อนหน้าพวกเขา
สนามผ่าตัดในกล้องผ่าตัดปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แต่ในการผ่าตัดเช่นนี้หัวหน้าศัลยแพทย์จะมองตรงเข้าไปในกล้องเสมอ
“เขาพยายามหลีกเลี่ยงหลอดเลือดทั้งหมด”
“ปาฏิหาริย์”
“เทคนิคการรักษาเอ็นรอยหวายจู้หลิง นั้นต้องพิถีพิถันจริงๆหรอ?”
แพทย์ที่ในห้องสังเกตการณ์เงียบไป และพวกเขาก็คิดอย่างลึกซึ้ง
สำหรับแพทย์อาวุโสโรงพยาบาลขนาดเล็กอาจไม่ใช่วิธีที่ดีสำหรับการพัฒนา อย่างไรก็ตามสำหรับโรงพยาบาลในท้องถิ่นโดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ต่ำกว่าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย การผ่าตัดนั้นถือเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญที่ทำให้โรงพยาบาลอยู่ต่อไปได้
ในปัจจุบันโรงพยาบาลระดับบี ส่วนใหญ่หรือโรงพยาบาลระดับกลางส่วนใหญ่อาศัยการปลูกถ่ายนิ้วมือและ การรักษาเอ็นรอยหวายเพื่อความอยู่รอดของโรงพยาบาล
การผ่าตัดที่ต้องการงานน้อยลงมีชื่อเสียงที่ดีและสามารถรับเงินก้อนใหญ่ได้จากโรงพยาบาลเกรดเอ
ผู้ป่วยจะเลือกโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด
หากโรงพยาบาลขนาดเล็กไม่สามารถรับผู้ป่วยได้แพทย์จะต้องทำการผ่าตัดที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคเช่น การสะสมการเคสที่ไม่ต้องการการผ่าตัด หรือเป็นเคสที่ยากเกินไปซึ่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ไม่สนใจที่จะรักษาและส่งต่อมา
การต่อสู้ของศัลยแพทย์ไม่น้อยไปกว่าผู้ป่วยเมื่อต้องการมีชีวิตรอด
“หยูหยวนทำส่วนที่เหลือด้วย” หลิงรันเย็บเสร็จสำหรับเอ็นร้อยหวายจากนั้นเขาก็ค่อยๆเย็บส่วนที่เป็นผิวหนังให้ผู้ช่วย
หยูหยวนไปยืนที่ตำแหน่งของหลิงรันในการเคลื่อนไหวของเธอดูวุ่นวาย เธอปรับความสูงอีกครั้งก่อนที่จะเพ่งความสนใจของเธอและเริ่มเย็บผิวหนังของผู้ป่วย
ความสามารถในการผ่าตัดของเธอนั้นมี จำกัด แต่ตอนนี้ทักษะของเธอเริ่มมีความเสถียรเป็นพิเศษหลังจากที่เธอพยายามและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
เมื่อหลิงรันออกจากเตียงผ่าตัดเพื่อดูการผ่าตัดก่อนที่จะออกไปจากห้องผ่าตัด
ดงเหอตงถึงกับมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปยังห้องสังเกตการณ์ผ่าตัดห้องถัดไป
ในเวลานี้หมอลู่ได้แยกเส้นเอ็นกล้ามเนื้อของผู้ป่วยซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถัง
หลิงรันล้างมือของเขาอีกครั้งก่อนที่เขาจะไปที่โต๊ะผ่าตัดตรวจสอบผลลัพธ์ จากนั้นเขาก็อุ้มเอ็นกล้ามเนื้อของผู้ป่วยออกมาด้วยมือของเขาและด้วยการซ้อมหลายครั้งเขาจึงประกาศให้การผ่าตัดเสร็จสิ้น
จากนั้นหลิงรันเข้าสู่ห้องผ่าตัดถัดไป
ดงเหอตงเองก็ยังคงเดินตามไปดูหลิงรันในห้องผ่าตัดถัดไปด้วยความมึนงง
การผ่าตัดครั้งนี้เป็นการรักษาเอ็นร้อยหวายอีกครั้ง แต่คราวนี้หลิงรันทำงานร่วมกับมาหยานลิน จากแผนกศัลยกรรมกระดูก
ดงเหอตงรู้สึกเหนื่อยเมื่อแสงของโคมไฟที่ไม่มีเงาส่องเข้ามา ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามคนรอบตัวเขาว่า “พวกคุณวางแผนที่จะสังเกตการณ์นานแค่ไหน?”
“ เหลืออีกไม่มากแล้วสำหรับการผ่าตัดของหมอหลิงพรุ่งนี้เขาไม่ได้ผ่าตัดใดๆ” หมอที่ตอบดงเหอตงนั้นเขามาจากเซี่ยงไฮ้ เสียงของเขาดูเร่งรีบราวกับว่า เขาสังเกตเห็นการผ่าตัดแต่ละครั้งจำนวนการทำศัลยกรรมที่เขาสามารถสังเกตได้จะลดลง
ดงเหอตง รู้สึกว่าสถานการณ์นั้นแปลกเล็กน้อยและเขาก็มองที่แท็กของเขา เขากล่าวว่า “คุณควรมีโอกาสอื่นอีกมากมายในการสังเกตการผ่าตัดไม่ใช่หรอ”
“สิ่งนั้นขึ้นอยู่กับหมอหลิง” เหว่ยเจียนยงที่มาจากเซี่ยงไฮ้ เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย จอร์สฮอบกริน และเขาเป็นที่รู้จักในฐานะแพทย์ชั้นนำในหมู่แพทย์รุ่นใหม่เขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่อายุน้อยกว่า 35 ปีแต่ “ถ้าเป็นที่อื่นคุณต้องการสังเกตการณ์การผ่าตัด คุณต้องทำการนัดหมายก่อนและคุณสามารถดูการผ่าตัดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นซึ่งมันแตกต่างจากที่นี้ที่คุณสามารถเข้าสังเกตการณ์ผ่าตัดได้ตลอดเวลา “
ดงเหอตงถึงกับพูดไม่ออก
หมอจากเซี่ยงไฮ้หัวเราะหึ ๆ เขาหยิบขวดเรทบลูออกมาและเขย่าขวดก่อนที่เขาจะพูดว่า “คุณสามารถดูการผ่าตัดได้มากเท่าที่คุณต้องการ” เหว่ยเจียงหยงเองก็เคยเปิดให้คนอื่นเข้ามาดูเข้าผ่าตัด แต่ฝีมือของเขาเทียบไม่ได้กับหมอหลิงเลย เพราะ หมอหลิงเขาดูสบายมากและไม่มีความกังวลอยู่ในสายตาของเขาเลย …”