Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 385
EP 385
By loop
ในขณะนี้เป็นตอนเข้า แสงอ่อนๆยามเช้าสาดส่องเข้ามาในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน
แพทย์แผนกฉุกเฉินที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งคืนสวมเสื้อคลุมสีขาว มือข้างหนึ่งอยู่ในกระเป๋าเสื้อและมีเอกสารที่มากมายอยู่ในอ้อมออกของพวกเขา แพทย์เหล่านั้นมีถุงใต้ตาที่หนามากเต็มไปด้วยรอยคล้ำและนิ้วของพวกเขาถูกย้อมด้วยสีต่างๆ พวกเขาดูเหมือนแรงงานที่พึงอพยพมารวมตัวกันที่ทางเข้าปประเทศ ดูเหมือนพวกเขาจะได้นอนน้อยมาก
ดอกไม้สดในกระเช้าที่เหล่าบรรดาแขกที่เข้าร่วมการเปิดตัวศูนย์มอบให้พวกเขาก็ดูเหี่ยวเฉาไปแล้ว พืชชนิดเดียวที่ยังคงแสดงความมีชีวิตชีวาได้คือไม้เลื้อยและพุ่มไม้ที่เขียวชอุ่มตลอดปี และมันสามารถพบเห็นได้ทุกที่ในศูนย์การแพทย์นี้
เช่นเดียวไม้เลื้อยบอสตันต้นใหม่สองสามต้นเริ่มปีนขึ้นไปที่มุมกำแพงและเริ่มเลื้อยออกไปที่หน้าต่างของชั้นหนึ่งก่อนที่พวกมันจะถูกทำลายโดยชายผู้น่ากลัวที่ออกมาจากไหนไม่รู้ พวกเขาห้อยโหนกลางอากาศพร้อมกับร่างกายดูแข็งแกร่ง
ผู้อำนวยการฮวง ฟันเถาวัลย์สองสามขั้วขณะที่จ้องมองไปข้างหน้าด้วยท่าทางเคร่งขรึม เขารอจนกระทั่งหลิงหรันออกมาจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินก่อนที่เขาจะเพร่งสายตาไปที่หลิงรันและตะโกนว่า “หลิงหรันเอาของเหล่านี้ไปด้วย”
ในขณะที่ผู้อำนวยการฮวงพูดอยู่เขาก็ยื่นกล่องยาพลาสติกพร้อมกับยาสองสามกล่องให้กับหลิงรัน
“ลามิวูดีน … ” หลิงหรันเห็นกล่องยาที่ด้านบนสุดและพูดไม่ออก “ผู้อำนวยการแผนกฮวง … “
“ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้ว ฉันรู้ว่านายป้องกันตัวเองอย่างดีสำหรับการผ่าตัดแต่อย่าประมาทไปล่ะ อันตรายมันเกิดขึ้นได้ทุกเวลา” ผู้อำนวยการฮวงได้ให้คำแนะนำหลิงรันซึ่งแฝงไปด้วยความห่วงใย “นายลองคิดดูสิว่าถ้านายจะต้องไปทำการผ่าตัดที่โรงพยาบาลอื่น สภาพแวดล้อมในการผ่าตัดมันจะแตกต่างออกไปจากโรงพยายาบของเราทั้งเรื่อง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้านการแพทย์และรวมถึงทีมแพทย์ที่จะต้องทำงานร่วมกับนายด้วย”
“ อย่างงั้นผมจะพาผู้ช่วยและพยาบาลติดตามผมไปด้วย” หลิงรันมองไปที่ผู้อำนวยการฮวงด้วยท่าทางแปลก ๆ “ นี้คงเป็นสิ่งที่คุณต้องการสินะ”
ผู้อำนวยการฮวงกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ถ้าโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัวไม่เห็นด้วยฉันก็คงปฏิเสธที่จะปล่อยนายไปเช่นกัน แน่นอนว่าพยาบาลและผู้ช่วยเองก็มีผลต่อการเกิดอันตรายในการผ่าตัดได้ดังนั้นไม่เรื่องแปลกที่นายจะพาคนของเราไปด้วย “
“ดังนั้น…”
“ดังนั้นฉันกำลังบอกว่าไม่ต้องห่วงอันตรายใด ๆ ในการเตรียมตัวครั้ง” ผู้อำนวยการฮวง กล่าว “แม้ว่าโอกาสในการสัมผัสกับโรคติดเชื้อจากการทำงานจะไม่สูงนัก แต่เราก็ยังต้องระวังอยู่ใช่ไหม ?”
หลิงหรันไม่สามารถหักล้างคำพูดนี้ได้ เขาพยักหน้าช้าๆ
“ กินยาต่อไปถ้าคุณรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติให้ทานยาอย่ากลัวผลข้างเคียงเมื่อเทียบกับการติดเอดส์แล้วผลข้างเคียงของยาต้านไวรัสนั้นไม่มีความรุนแรงใดๆเลย” ผู้อำนวยการฮวงกล่าว ความกังวลในใจของเขาไม่ได้ลดลงเลย หากตัวเขาเองต้องเป็นผู้ที่จะผ่าตัดผู้ป่วย ผู้อำนวยการฮวงก็ไม่กลัว ไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นโรคเอดส์หรือไม่ก็ตาม
ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาผู้อำนวยการฮวง ได้ทำการผ่าตัดผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อมามากมาย เมื่อแพทย์ทำงานในแผนกฉุกเฉินพวกเขามักจะต้องทำการผ่าตัดหลายครั้งกับผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อโดยไม่สวมชุดป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาก่อนหน้านี้เมื่อ ผู้อำนวยการฮวงเพิ่งเริ่มฝึกแพทย์ แนวคิดของการป้องกันการผ่าตัดยังไม่ชัดเจน การผ่าตัดเกือบทุกคนเข้ารับการผ่าตัดทุกครั้งโดยไม่มีการป้องกันใคร ๆ ก็ทำได้เพียงแค่อาศัยโชคของตัวเองว่าจะติดเชื้อหรือไม่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการฮวงอยู่ในอาการตื่นตระหนกเมื่อหลิงรันกำลังจะไปที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัวเพื่อทำการผ่าตัด
เขาเคยเห็นหลิงหรันทำการผ่าตัดผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์และมาตรการป้องกันของเขาก็สมบูรณ์แบบและการซ้อมรบและสภาพจิตใจของเขาก็ดีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอะไรขึ้น?
ผู้อำนวยการฮวง แนะนำ หลิงรันอย่างจริงจังว่า“ นายควรทานยาให้ครบโดท สำหรับยาต้านไวรัสบอกว่าต้องรับภายในยาเจ็ดสิบสองชั่วโมงและภายในระยะเวลาก่อนผ่าตัดจริง แต่เวลาที่ดีที่สุดยังคงอยู่ภายในสองชั่วโมงเมื่อสัมผัสกับผู้ป่วย HIV เกิดขึ้นอย่าลังเลที่จะกินยาทันที”
“ตกลง.” นี่เป็นคำตอบเดียวที่ หลิงรันสามารถให้ได้
“ควรพกยาติดตัวไว้ตลอดเวลา” ผู้อำนวยการฮวงรู้สึกว่าหลิงรัน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอและจึงพูดต่อว่า “ ยาลามิวูดีนหา ซื้อได้ไม่ยาก นายไม่ควรคาดหวังให้คนจากโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัวจ่ายยาให้นายประการแรกยานี้มีราคาค่อนข้างแพงพวกเขาไม่จำเป็นต้องเต็มใจที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายและ นอกจากนี้ … “
ผู้อำนวยการฮวง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกระซิบว่า“ หากการเปิดรับอาชีพเกิดขึ้นจริง ๆ ผู้คนในโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัวจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการ แต่เมื่อมันยังไม่เกิดขึ้นและนายคิดว่านายอาจไปสัมผัสกับผู้ป่วย นายควรกินยาอย่ารอให้คนในโรงพยาบาลเห็นด้วยกับคำขอของนาย คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยมันไม่มีผู้ป่วยคนไหนยอมรับกับนายตรงๆว่าตัวเองเป็น HIV หรอ ยาอยู่ในมือนาย นายมีสิทธิ์หยิบได้ทุกเมื่อที่ต้องการเข้าใจไหม”
“เข้าใจแล้ว” ในที่สุดหลิงหรันก็เข้าใจ
“ ไปถ่ายรูปกัน ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินเป็นความภาคภูมิใจโรงพยาบาลหยุนหัว” ผู้อำนวยการฮวงยิ้ม ก่อนที่ดึงหมากฝรั่งที่เคียวและคายมันออกมา
หลิงรันมาที่หน้าศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินและยืนอยู่ใต้กระดาน เขาถ่ายรูปกับหยูหยวน,โจวซินเยียน และ หวังเจียง โดยมีแบนเนอร์สีแดงอยู่ข้างหลังเขา
บนแบนเนอร์มีตัวอักษรสีเหลืองขนาดใหญ่: ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวผู้สนับสนุนทีมแรกที่เราส่งไปยังโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัว
หลังจากรอให้หลิงหรันและคนอื่น ๆ ถ่ายภาพผู้อำนวยการแผนกเหล่ย และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ จากกรมการแพทย์ก็บีบลงในภาพ
การผ่าตัดแบบอิสระในครั้งนี้แตกต่างจากที่วังไห่หยางได้รับจากหลิงหรันเนื่องจากความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขา นี่เป็นการปรึกษาหารือนอกโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางที่เป็นทางการระหว่างแผนกการแพทย์ของโรงพยาบาลหยุนหัวและแผนกการแพทย์ของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัว
แพทย์รุ่นใหม่และแผนกโรงพยาบาลไม่เต็มใจที่จะให้คำปรึกษานอกโรงพยาบาล เพราะมันทำให้เขาเสียทั้งเวลา และ มันน่ารำคาญมากกับการที่จะต้องมานั่งแรกเอกสารต่างๆกัน แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่านี้
โรงพยาบาลหลายแห่งไม่มีบันทึกใด ๆ ที่ระบุว่าพวกเขาดำเนินการให้คำปรึกษานอกโรงพยาบาลในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาและคคิดว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นแน่ๆ
ในความเป็นจริงแพทย์ที่รับผ่าตัดอิสระจะบินไปทั่วประเทศเพื่อผ่าตัดอิสระในช่วงสุดสัปดาห์จนถึงจุดที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองหลวงต้องไปที่สนามบินของเมืองหลวงเพื่อรีบไปนัดหมายกับหมอคนหนึ่ง หมอเองเคยเป็นศัลยแพทย์อิสระมาสองหรือสามปีและด้วยเงินที่เขาได้รับจากการทำศัลยกรรมอิสระเขาสามารถบินได้โดยใช้บัตรสมาชิกระดับทองของสายการบิน แถมซื้อรถซื้อบ้านและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนกับชาวยุโรปหรืออเมริกา การแสวงหาชีวิตที่ดีกว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเท่านั้นที่จะหยุดเขาไว้ได้
การปรึกษานอกโรงพยาบาลนั้นไม่ได้รับการยกย่องจากแพทย์โรงพยาบาลและผู้ป่วยด้วยเช่นกัน
เพราะทุกคนพบว่ามันลำบาก แพทย์จะรู้สึกว่าเงินค้าจ้างมันไม่คุ้มค่า และทำให้ผู้ป่วยไม่พอใจจากความล่าช้าที่เกิดขึ้นในการรักษาอาการป่วยและแม้แต่โรงพยาบาลก็ค่อนข้างจะเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการจ้างศัลยแพทย์อิสระแทน หากศัลยแพทย์อิสระล้มเหลวโรงพยาบาลต้องจ่ายเงินคืนเป็นมูลค่าหลายสิบล้าน แต่พวกเขาต้องจ่ายเงินเท่าเดิมสำหรับการปรึกษานอกโรงพยาบาลแล้ว ทำไมพวกแพทย์อิสระถึงต้องการทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วย?
มีเพียงโรงพยาบาลเช่นโรงพยาบาลที่มีการป้องเรื่องโรคติดเชื้อเท่านั้นที่ยินดีที่จะจัดการปรึกษานอกโรงพยาบาล
และมีเพียงแพทย์อย่างหลิงหรันเท่านั้นที่ไม่สนใจเรื่องเงินที่เขาได้รับ
โรงพยาบาลประชาชนแห่งที่ 3 รู้ว่าพวกเขาจัดการผู้ป่วยประเภทใดอยู่ ต่อมาผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งที่สามของเมืองหยุนหัว ก็ได้ไปรับหลิงรันและคณะของเขาที่มาจากโรงพยาบาลหยุนหัว ซึ่งแสดงถึงความจริงใจของเขาที่มีต่อหลิงรันและคณะเจ้าหน้าที่
พวกเขาเดินทางมาโดยรถยนต์
แพทย์และพยาบาลของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินหยุนหัวโบกมือและกล่าวคำอำลา ฉากนั้นดูเศร้ามากๆ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งที่สามของเมืองหยุนหัวมองไปที่กระจกมองหลังก่อนที่เขาจะพูดกับหลิงรัน ในขณะที่เขานั่งอยู่ที่เบาะหลังว่า “จริงๆแล้วความปลอดภัยของการผ่าตัดของเรายังสามารถรับประกันได้หลังจากผ่านมาหลายปีความน่าจะเป็น โรงพยาบาลของเรามีการติดเชื้อต่ำกว่าโรงพยาบาลทั่วไป “
หลิงหรันพยักหน้า
“ คนไข้ของเราหลายคนนั้นเป็นผู้ป่วยเกี่ยวกับเข่า เรารับเคสนี้มาเป็นเวลาหลายปีบางคนพบแพทย์ที่เต็มใจจะผ่าตัดให้พวกเขาแต่มันก็นานๆครั้ง จากนั้นเพื่อนในวอร์ดของพวกเขาจะอิจฉาผู้ป่วยคนนั้นมาก” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหันไปมองหลิงหรันและพูดอย่างจริงจังว่า “หมอหลิงเป็นเรื่องดีมากที่คุณเต็มใจมารักษาผู้ป่วยให้เรา”
โรงพยาบาลประชาชนแห่งที่ 3 ไม่มีแผนกศัลยกรรมกระดูกเป็นของตนเอง
การผ่าตัดเช่นการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นการผ่าตัดที่ง่ายและมีขนาดเล็กสำหรับนักศัลยกรรมกระดูก อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญในสาขานี้
หลิงรันยังคงพยักหน้าและพูดว่า “ผมทำได้แค่การรักษาลูกสะบ้า”
“ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว” รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลยังคงยิ้ม เขาไม่ได้คาดหวังว่า หลิงรันจะสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองทั้งหมด
หลังจากนั้นไม่นานป้ายของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัวก็ปรากฏขึ้นที่ทางแยก
ในฐานะโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยโรคติดต่อที่มีชื่อเสียงในเมืองหยุนหัวโรงพยาบาลของประชาชนแห่งที่สามถูกสร้างขึ้นบนเนินขนาดใหญ่ แม้หลังจากผ่านไปในประเทศจีนต้องเผชิญกับปัญหาจากการก่อสร้างที่กินเวลานานกว่าทศวรรษ แต่อาคารโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ยังคงอยู่อย่างโดดเดี่ยว มีอาคารหกหรือเจ็ดชั้นเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างขึ้นโดยใช้อิฐและปูนซีเมนต์กระจายอยู่ข้างๆ
“เกือบจะถึงแล้ว” ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลซึ่งนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับเสื้อผ้าของเขา เขาแอบถอนหายใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับหมอคนนี้ซึ่งยากที่จะสนทนาด้วย ไม่ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะพูดอะไรหลิงหรันก็ไม่ได้ตอบสนองเขามากนัก มันน่าเบื่อเกินไปที่เขาจะทนสนทนากับหลิงรันไว้
รถยนต์ลดความเร็วลงและขับเข้าไปในโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามผ่านประตูที่เปิดกว้าง พวกเขาตรงไปที่ตึกผู้ป่วยใน
หลังจากขับรถเข้าไปใกล้อีกนิดทีมงานก็จะเห็นป้ายโฆษณาอยู่ด้านหน้าอาคาร
เมื่อพวกเขาขับรถเข้าไปใกล้มากขึ้นพวกเขาอาจมองเห็นฝูงชนอย่างคลุมเครือ
เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่สวมหน้ากากเสื้อโค้ทและหมวก
พวกเขายืนอยู่ห่าง ๆ และไม่ได้เข้าใกล้รถทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ประตูแผนกผู้ป่วยใน บางคนถึงกับถอยหลังไปสองสามก้าวเมื่อเห็นคนลงจากรถโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนยืนอยู่ไม่ไกลจากกันเช่นกัน พวกเขาไม่ได้แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง แต่พวกเขายืนห่างกันให้มากที่สุด
ผู้ป่วยหลายสิบคนอาจจะเป็นหลายร้อยคนที่กอดอกหรือเอามือล้วงกระเป๋าหรือเอามือจับเอวหรือเฝ้าดูหลิงหรันและกลุ่มคนของเขาอย่างเงียบ ๆ
หลิงหรันลงจากรถอย่างเงียบ ๆ และเดินไปที่ประตูอาคาร
ทันใดนั้นหญิงชราก็ถอดหน้ากากออกเผชิญหน้ากับหลิงหรันและยิ้มกว้าง
เธอไม่รอให้ หลิงรัน ตอบกลับ เธอสวมหน้ากากอีกครั้ง
ลมพัดมาจากด้านหลังหลิงหรัน บางคนอดไม่ได้ที่จะก้มลงและขดตัว บางคนยืนตรงเพื่อรับลมธรรมชาติ