Great Doctor Ling Ran - ตอนที่ 397

EP 397

By loop

ในที่สุดก็มีป้ายชื่อตัวใหญ่ [นายแพทย์ หลิงรัน] ก็เขียนติดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของหลิงรัน

เพื่อป้องกันไม่ให้คนผู้ป่วยต่อคิวยาวออกไปนอกห้องทำงานของเขาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดหลิงรัน จึงคิดระบบนัดหมายขึ้นมาทันที

เมื่อเทียบกับการมีต่อคิวระบบการนัดหมายต้องใช้กำลังคนมากกว่า เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จำเป็นต้องกำหนดเวลาและพวกเขาต้องรับสายไม่หยุดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยมาในเวลาที่เหมาะสมและตามที่นัดหมายกันไว้

แน่นอนว่าโรงพยาบาลในประเทศจีนส่วนใหญ่ไม่เต็มใจที่จะใช้ระบบการนัดหมายเนื่องจากเรื่องของจำนวนคนทำงานในการให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเองหรือแพทย์เองก็มีปัญหากับเรื่องนี้เช่นกัน

เมื่อผู้ป่วยมาตามนัดหมายพวกเขามุ่งเป้าที่จะไปพบแพทย์ผู้นัดหมายเป็นการเฉพาะ แม้ว่าจะต้องย้ายแพทย์ไปยังโรงพยาบาลหรือแผนกอื่นผู้ป่วยเหล่านั้นก็มักจะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหรือแผนกใหม่ของแพทย์คนนั้น

ในทางตรงกันข้ามผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยที่รอเข้าคิวในโรงพยาบาลมีเป้าหมายที่จะได้รับการรักษาโดยแพทย์ของโรงพยาบาลแผนกหรืออย่างมากที่สุดคือการเข้าพบกับทีมรักษาใหม่ๆ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแพทย์การตัดสินใจของผู้ป่วยก็ไม่จำเป็นจะต้องติดตามแพทย์คนนั้นไป

อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับนโยบายอื่น ๆ ในโรงพยาบาลนโยบายนี้ใช้กับผู้ป่วยธรรมดาและแพทย์ทั่วไปเท่านั้น

ผู้ป่วยที่ร่ำรวยและมีอำนาจจะไม่ได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดของนโยบายของโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย

ยกตัวอย่าง หวู่เหมิงเชา ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของบิดาแห่งการผ่าตัดตับและท่อน้ำดีของจีน เขาเป็นแพทย์คนแรกที่แยกการผ่าตัดตับออกจากการผ่าตัดทั่วไปและจัดตั้งแผนกอิสระขึ้น สิบเก้าปีหลังจากนั้นในปีพ. ศ. 2536 แผนกศัลยกรรมตับของหวู่เหมิงเชาได้ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นโรงพยาบาลในเมืองฉางไห่

แม้ว่าจะผ่านมาสิบเก้าปีแล้ว แต่นั้นก็ถือเป็นความสำเร็จที่หวู่เหมิงเชาได้สร้างขึ้นมาและผลของความสำเร็จของโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

โรงพยาบาลหยุนหัวเองก็ไม่จำเป็นต้องนำหลักคิดของโรงพยาบาลอื่น ๆ ในประเทศมาพิจารณาเนื่องจากโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ได้มีบทบาทมากมายสำหรับการพัฒนาประเทศเท่าไรนัก

แต่หลังจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินของผู้อำนวยการฮวง ก่อตั้งขึ้นโรงพยาบาลหยุนหัวกับมามีบทบาทอีกครั้งในระดับประเทศ

และเนื่องจาก ผู้อำนวยการฮวง นุญาตให้หลิงรันใช้ระบบการจอง และหลิงรันเองก็ไม่ได้พบอุปสรรคใด ๆ หลังจากใช้ระบบนี้

ในบางวิธีระบบการจองยังช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ง่ายขึ้นด้วยซ้ำ

อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเข้าคิวในขณะที่รู้สึกไม่สบาย หรือเจ็บป่วยมาก่อนแล้ว

อีกทั้งหลิงรันให้คำปรึกษาผู้ป่วย 10 รายทุกวันและเป็นผู้ป่วยทั้งหมดที่ได้รับการวินิจฉัยว่าลูกสะบ้าของเขาได้รับความเสียหายโดยโรงพยาบาลที่มีอันดับล่างๆได้ตัดสินใจให้เข้ารับการผ่าตัด หลังจากเข้ารับการตรวจด้วยขั้นตอนง่ายๆของโรงพยาบาลหยุนหัวแล้วการผ่าตัดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันเดียวกัน

หมอลู่, หยูหยวน และ โจวซินเยียน ได้รับมอบหมายให้ทำงานในห้องผ่าตัด ห้องแล๊ปและหอผู้ป่วยตามลำดับ

หลังจากที่หลิงรันเองก็ทำการผ่าตัดสองหรือสามครั้ง ก่อนที่หลิงหรันจะกลับไปที่ห้องทำงานของเขาและเข้าไปตรจจอาการป่วยหรืออาการบาดเจ็บของ ผู้ป่วยที่จะได้รับการผ่าตัดหลังจากนั้น ช่วงเวลาระหว่างการตรวจและการผ่าตัดทำให้ผู้ป่วยมีเวลาตัดสินใจว่าเขาควรเข้ารับการผ่าตัดดีไหม

มาหยานหลิงเองก็ยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาเวลาช่วยเหลือในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน

การหมุนเวียนหน้าที่ในแผนกของเขาได้จัดสรรให้เขาไปที่แผนกศัลยกรรมกระดูกแล้ว ตามธรรมชาติแล้วเขาไม่ต้องทำการผ่าตัดอีกต่อไป แม้ว่าเขาจะได้รับทักษะมากมายหลังจากช่วยเหลือ หลิงรันในหลาย ๆ เคสของการรักษาเอ็นร้อยหวาย แต่เขาก็ยังห่างไกลจากการเป็นผู้เชียวชาญอยู่ดี

เพราะเขาไม่สามารถควบคุมเทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายแบบจู้-หลิง ได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าหันหน้าแพทย์ที่อยู่ในแผนกศัลยกรรมกระดูกจะอนุญาตให้เขาทำการผ่าตัด แต่มาหยานหลิงเองก็ไม่กล้าที่จะผ่าตัดผู้ป่วยอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้ มาหยานหลินจึงมาที่ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินเสมอหลังเลิกงานเพื่อที่เขาจะได้ฝึกฝนทักษะของเขาต่อ

แน่นอนว่าเหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงความคิดของมาหยานหลินคือความจริงที่ว่า หมอลู่เริ่มทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ในการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถังแล้ว

นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ การที่ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเช่นการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง ถือได้ว่าเป็นศัลยแพทย์ชั้นล่าง มันแตกต่างจากศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเช่นการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจหรือการผ่าตัดบายพลาส และพวกเขาจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นศัลยแพทย์ชั้นสูงและศัลยแพทย์ที่ทำศัลยกรรมเช่นการปลูกถ่ายอวัยวะและการผ่าตัดกะโหลกศีรษะ ศัลยแพทย์เหล่านี้ก็ถูกจัดว่าเป็นศัลยแพทย์ชั่นสูงสุด การผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถังนัน้ต้องทำในเวลาที่เหมาะสมก่อนที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเส้นเอ็นจะไม่สามารถกลับคืนได้และยังเป็นการผ่าตัดที่ต้องเสียว่ามากซึ่งต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมากจากศัลยแพทย์ นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง ไม่ใช่สิ่งที่ดำเนินการเพื่อช่วยชีวิตผู้คนหากศัลยแพทย์ไม่สามารถดำเนินการได้ในระดับสูงสุด พวกแพทย์เหล่านั้นก็จะถูกจัดเป็นแพทย์ที่มีความสามารสูงเท่านั้น.

แต่ท้ายที่สุดแล้วการผ่าตัดซึ่งอาจทำให้ศัลยแพทย์สามารถสร้างตำแหน่งที่มั่นคงในโรงพยาบาลได้

หลิงรันได้รับตำแหน่งของการเป็นหัวหหน้าศัลยแพทย์ในโรงพยาบาลหยุนหัว โดยการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง

รองผู้อำนวยการแผนกแพนเองจากแผนกศัลยกรรมมือยังคงฝึกฝนฝีมือของเขาอย่างขยันขันแข็งเมื่อพูดถึงการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง

หม่าเหยียนหลินคิดว่าเมื่อหมอลู่เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นตำแหน่งของเขาก็จะมั่นคงมากขึ้นเรื่อย ๆ สองปีต่อมาหมอลู่อาจมีผู้ช่วยของตัวเองและหลังจากนั้นเขาอาจจะไต่อันดับในโรงพยาบาลขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลและจากนั้นก็เป็นหัวหน้าแพทย์ …

นี่เป็นวิธีที่หัวหน้าแพทย์ที่อายุน้อยที่สุดได้รับตำแหน่ง โดยบังเอิญพวกเขาจะมีผลงานดีกว่าเพื่อนด้วยทักษะของพวกเขาและด้วยเหตุนี้พวกเขาเหล่านั้นก็จะกอบโกยผลประโยชน์ได้มากขึ้นด้วย และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เขาสังเกตอาการทั่วไปในโรงพยาบาลหม่าเหยียนหลินก็รู้ว่าภายในโรงพยาบาลหยุนหัว หลิงรันจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินเป็นแพทย์เพียงคนเดียวที่มีความเพรียบพร้อมไปทุกด้าน

แม้ว่าแผนกศัลยกรรมมือจะเป็นแผนกชั้นนำเว้นแต่ เจียงซิงผู้อำนวยการแผนกจะให้การสนับสนุนมาหยานหลินแต่มาหยานหลินจะไม่มีโอกาสได้ผ่านตัดมากนัก

ซึ่งแสดงถึงว่าผู้อำนวยการแผนกเจียงซิงจะสนับสนุน มาหยานหลินอย่างเต็มที่

ดังนั้นมาหยานหลิงจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินในฐานะแรงงานราคาถูกเพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสในการผ่าตัดได้มากขึ้น

ในขณะที่หลิงหรันได้ทำการผ่าตัดข้อเข่าเทียมเมื่อไม่กี่วันมานี้มาหยานหลินก็อาสาเข้ามาช่วยงานของหลิงรัน เขาไม่จู้จี้จุกจิกเลย

ตอนนี้ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่ ผู้อำนวยการฮวงถูกส่งตัวไปได้รับการดูแลโดยพื้นฐานแล้ว

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามาหยานหลิยได้แจกการ์ดเชิญอย่างเป็นทางการสองวันก่อนงานแต่งงานของเขา

“ พวกเราทุกคนจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินจะไปร่วมงานแต่งงานของคุณ ผู้อำนวยการแผนกฮวง กล่าวว่าเราต้องทำให้งานแต่งงานของคุณมีความสุขด้วยการปรากฏตัวของเราเนื่องจากคุณเคยเป็นส่วนหนึ่งของเรา” หมอลู่อิจฉามาหยานหลิน เล็กน้อย

หลังจากที่มาหยานหลินกำลังจะแต่งงาน สิ่งที่หมอลู่ทำในปัจจุบันคือตื่นเช้าไปทำงานและนอนตอนดึก แม้ว่าเขาจะสามารถซื้อบ้านใจกลางเมืองหยุนหัวซื้อรถบีเอ็มได้แล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของเขา

มาหยานหลินที่ใกล้จะแต่งงานรู้สึกกังวลมากกว่าที่จะมีความสุข เขาพูดขณะยื่นการ์ดเชิญให้แพทย์คนอื่น ๆ ด้วยมือทั้งสองข้างว่า“ ได้โปรดมาร่วมงานแต่งงานของผมด้วย ฝ่ายเจ้าสาวเองเป็นครอบครัวใหญ่ ผมเองก็ไม่อยากทำให้เธอเสียหน้า”

“ แล้วครอบครัว ร่วมถึงญาติของเจ้าสาวคุณทำงานอะไรกัน”

“ พวกเขาทั้งหมดเป็นหมอ” มาหยานหลินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ พ่อของเธอเคยเป็นหัวหน้าแพทย์ในแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สอง”

“ ตระกูลเหว่ยหรือเปล่า? หัวหน้าแพทย์เหว่ยจากแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สองใช่ไหม? ฉันคิดว่าฉันเคยเจอเขามาก่อน” มีคนเล่าให้ฟัง

มาหยานหลินยิ้มอย่างสุภาพ “ญาติของเธอเยอะมาก และ การจัดงานเองก็ค่อนข้างใหญ่จึงอยากให้แขกมากันเยอะๆ”

“ พวกคุณวางแผนจะจัดโต๊ะไว้กี่ตํ”

“ แปดสิบ” มาหยานลิน แสดงท่าทางด้วยนิ้วของเขา

โจวซินเยียนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “ แปดสิบโต๊ะ? จะมีแขกแปดร้อยคน?”

“ จะจัดสรรโต๊ะยี่สิบโต๊ะให้กับสมาชิกของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน” มีการแสดงออกที่ขี้อายบนใบหน้าของมาหยานและเขารู้สึกมีความสุขมาก

เมื่อพูดถึงงานต่างๆเช่นงานแต่งงานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะแสดงถึงความภาคภูมิใจและความยิ่งใหญ่ของงาน

เช่นเดียวกับที่ ผู้อำนวยการฮวงที่ต้องนึกถึงเจ้าหน้าที่เกือบสองร้อยคนจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินตกลงที่จะเข้าร่วมงานแต่งงานของ มาหยานหลิน เพราะเขาสั่งให้ทำเช่นนั้นมาหยานหลินรู้เกรงใจอย่างยิ่งกับเพื่อนร่วมงานของเขาจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินเช่นกัน สมาชิกในครอบครัวของเขาทั้งหมดอยู่ที่หมู่เกาะโจวซานและมีไม่กี่คนที่สามารถเดินทางมาเมืองหยุนหัวเพื่อร่วมงานแต่งงานของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงสามารถพึ่งพาคนรอบข้างเพื่อมางานแต่งของเขา และเนื่องจากเขาเป็นเพียงหมอประจำแผนกจึงยังไม่มีใครรู้จักเขาเท่าไรนัก

มีไม่กี่คนจากแผนกศัลยกรรมมือซึ่งเป็นแผนกที่เขาอาศัยอยู่จริงๆซึ่งตกลงที่จะไปร่วมงานแต่งงานของเขา มันค่อนข้างดูน่าผิดหวังจริงๆ

“ ถ้าอย่างนั้นมากกว่าห้าสิบโต๊ะจะถูกจัดสรรให้ฝ่ายเจ้าสาวของนาย? เธอจะเชิญคนมากกว่าห้าร้อยคน?” หมอลู่คลิกลิ้นของเขาสองสามครั้งและพูดว่า“ นี่จะเป็นงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้”

“ พ่อของเหว่ยแมนเกษียณแล้ว ตอนนี้เขาเป็นเพียงแพทย์ผู้เชียวชาญวัยเกษียณแล้วและไม่ได้ดำรงตำแหน่งใด ๆ อีกต่อไป” มาหยานหลินแจกจ่ายการ์ดเชิญทั้งหมดในขณะที่เขาพูด จากนั้นเขาก็มองไปที่นาฬิกาและพูดว่า“ ผมหมดเวลาแล้ว ผมต้องมุ่งหน้าไปที่หน้าห้องผ่าตัดตอนนี้ พวกคุณช่วยส่งการ์ดเชิญเหล่านี้ให้คนส่งของเมื่อเขามาถึงทีหลังได้ไหม”

“ แน่นอน. แล้วต้องการส่งการ์ดพวกนี้ให้กับใคร “

“ เขาใส่เสื้อคลุมเก่า ๆ ผมได้เขียนที่อยู่ไว้ที่ด้านหลังซองจดหมายแล้ว ผมส่งหนึ่งแผ่นไปให้เฮียเฉา ด้วยเผื่อว่าเขาจะมา” หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่ในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินมาหยานหลินก็สนิทกับเฮียเฉา

หมอคนอื่น ๆ พยักหน้า พวกเขาไม่รังเกียจที่จะส่งการ์ดเชิญเหล่านั้นให้กับคนส่งของในนามของมาหยานหลินเพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายนัก