Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 147 กองกําลังอากาศไร้พ่าย! (2)

ในที่สุดกรมทหารหมาป่าเท้าเร็วก็ผ่านกําแพงเปลวไฟมาได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้กองกําลังหลักของกองพันไร้พ่ายก็ได้ถอยร่น กลับไปที่ไหล่เขาสําเร็จแล้ว และกองกําลังอากาศไร้พ่ายก็ยังคงระดมยิง ลงมาจากด้านบน

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มองไปที่ด้านหลัง และเมื่อภารกิจของพวกเขา เสร็จสิ้น เธอก็ตะโกนสั่งทันที “เปลี่ยน!”

นักรบกองกําลังอากาศไร้พ่ายไม่มีระดับพลังปราณสูงนัก การใช้ ปีกศาสตรามณียุทธ์และธนูศาสตรามณียุทธ์ก็ถือเป็นการเผาผลาญ พลังปราณจํานวนมหาศาล พวกเขายังคงต้องสํารองพลังปราณสวรรค์ ไว้เพื่อบินกลับ และเพื่อความปลอดภัยของทหารใต้บังคับบัญชา ซ่าง กวนเฟยเอ๋อร์จึงตัดสินใจที่จะสงวนพลังไว้เพิ่มมากขึ้น

พวกเขาเก็บคันธนูศาสตรามณียุทธ์ นักรบกองกําลังอากาศไร้พ่าย เปลี่ยนมาใช้หอกที่ด้านหลัง จากนั้นหอก 300 เล่มก็พุ่งตกลงมาเหมือน ฝนโลหะ รวมทั้งสิ้น 4 รอบ

หอกเหล่านี้ไม่ได้มีทักษะที่น่าประทับใจใดๆ ไม่มีแม้แต่พลังปราณ สวรรค์ ทั้งหมดล้วนอาศัยทักษะและความแข็งแกร่งของพวกเขาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นักรบกองกําลังอากาศไร้พ่ายก็อยู่สูงอย่างน้อย 300 หลา บนท้องฟ้า นอกจากนี้หอกแต่ละชิ้นยังมีน�าหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ดังนั้นพลังที่แท้จริงของหอกพวกนี้จึงถือเป็นพลังสังหารที่สุดแสนจะบ้า คลั่ง

การโจมตีทั้งหมด 4 รอบ มีหอก 1,200 เล่มถูกโยนลงไป แม้ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกรมทหารหมาป่าเท้าเร็วจะแข็งแกร่งพอสมควร ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงและไม่มีหมาป่าสงคราม ให้ควบขี่ พวกเขาจะดูแลพวกพ้องทั้งหมดได้อย่างไร

เสียงกรีดร้องดังขึ้นระงมอีกครั้ง โดยมีทหารหมาป่าจํานวนมากถูก แทงทะลุเข้าไปในร่างพร้อมกับหมาป่าสงครามของพวกเขา ตรึงลงกับ พื้นขณะที่ชีวิตค่อยๆดับสิ้นไป

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ไม่ได้อยู่เพื่อรอดูผลลัพธ์ ทันทีที่ขว้างหอกครบ ทั้ง 4 รอบ เธอก็ออกคําสั่งให้ล่าถอยทันที ปีกศาสตรามณียุทธ์ของพวก เขากระพือกลางอากาศ นักรบ 300 นายบินกลับไปที่ไหล่เขาและละทิ้ง ซากศพไว้เบื้องหลัง

บัตเลอร์ขบฟันอย่างแรงจนเกือบหัก ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ ทั้งสอง ฝ่ายยังไม่ได้ปะทะกันเลยด้วยซ�า แต่เขาก็สูญเสียกรมทหารหมาป่าเท้า เร็วไปแล้วถึง 4 ใน 10 และนั่นก็ยังไม่ได้คํานึงถึงผู้บาดเจ็บอีกด้วย การ ซุ่มโจมตีครั้งใหญ่เช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กับกองทัพหลักของ

อาณาจักรจ้งเทียน เผ่าของเขาก็ไม่เคยประสบกับความสูญเสียระดับนี้ มาก่อน

ประสบการณ์ที่กองพันไร้พ่ายมอบให้เขาอาจทําให้เข้าใจง่ายด้วย คําๆหนึ่ง แปลก…ประหลาดมาก…อันที่จริงพวกเขาไม่ได้มีพลังมาก เกินไปหรือมีรูปแบบการโจมตีพิเศษที่ดูแข็งแกร่งเกินต้านทาน แต่มัน… แปลกมาก…

รูปแบบการต่อสู้ของกองพันไร้พ่ายนี้แตกต่างจากประสบการณ์ที่ ผ่านมารวมถึงสิ่งที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง การโจมตีของพวก เขาแทบจะไม่สามารถป้องกันได้เลย

กรมทหารหมาป่าเท้าเร็วไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด ทว่าต่อหน้ากอง พันไร้พ่าย มันกลับรู้สึกเหมือนว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งแต่ไม่ สามารถใช้มันออกมาได้ นั่นเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดสําหรับนักสู้

เสียงหอนดังโหยหวนออกมาจากปากของบัตเลอร์ โดยปกติแล้ว กองทัพเผ่ามนุษย์หมาป่าจะออกคําสั่งผ่านเสียงหอนเหล่านี้ และด้วย พลังปราณสวรรค์ของเขา เสียงหอนยาวๆนี้สามารถได้ยินไปถึง ระยะไกล 10 ลี้ได้อย่างง่ายดาย เสียงนั้นเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู อับอาย และไม่เต็มใจ เพราะบัตเลอร์กําลังสั่งให้ทหารของเขาล่าถอย

ในฐานะผู้บัญชาการกรมทหาร เขาต้องมีเหตุผลและไม่อาจเอาแต่ ใจตนเองเป็นที่ตั้ง ดังนั้นบัตเลอร์จึงไม่ได้สั่งให้กองกําลังของตนเองทํา การรบต่อไป กรมทหารหมาป่าเท้าเร็วมีความสําคัญต่อเผ่ามนุษย์หมา ป่าของเขามาก และทั้งเผ่าก็มีทหารเพียง 6 กรมเท่านั้น เป็นทหารหมา ป่า 60,000 นายเหล่านี้เองที่ทําให้เผ่ามนุษย์หมาป่าได้รับการยกย่องให้ เป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากทั่วทั้งอาณาจักรวั่นโซ่ว

แม้ว่ากองพันไร้พ่ายจะมีจํานวนทหารหนึ่งพันกว่านาย แต่พวกเขา ก็ทําให้กรมทหารหมาป่าเท้าเร็วสูญเสียไปมากแล้ว และบัตเลอร์ก็ไม่ อาจสูญเสียไปมากกว่านี้! ยิ่งไปกว่านั้น ศัตรูที่มีไหวพริบชั้นยอดพวกนั้น ได้ล่าถอยกลับไปที่เนินเขา และภูมิประเทศดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อ กองทหารหมาป่าเพราะมันจะเพิ่มความได้เปรียบให้กับนักธนูมากกว่า นักรบ ใครจะรู้ว่าพวกเขามีกับดักหรือการซุ่มโจมตีอื่นๆในบริเวณนั้นอีก หรือไม่ ด้วยเหตุนี้ บัตเลอร์จึงต้องเลือกเส้นทางเลือกที่เจ็บปวดแต่ทว่า เหมาะสม นั่นก็คือไม่สั่งให้บุกกระโจนเข้าไปอย่างบ้าดีเดือดอย่างที่เขา ต้องการ แม้ว่าเขาจะสามารถกําจัดศัตรูเหล่านี้ได้ แต่มันก็จะไม่นําชีวิต คนในเผ่าที่สูญเสียไปแล้วกลับคืนมา นอกจากนี้พวกเขายังอาจจะต้อง จ่ายในราคาที่หนักหน่วงกว่านั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ว่า เมื่อชั่ง น�าหนักทั้งหมดแล้ว เขาก็ทําได้เพียงกัดฟันและแบกรับความอัปยศ นํา กรมทหารหมาป่าเท้าเร็วของเขาถอยร่นก่อนที่จะมุ่งหน้าจากไปใน ระยะไกลๆ ละทิ้งซากศพไว้เบื้องหลัง

“กรมทหารหมาป่าเท้าเร็วถอยกลับ?” โจวเหว่ยชิงยืนอยู่บนเนิน เขา มองไปที่ร่างของกองทหารหมาป่าอย่างสงสัย นี่เป็นการรบครั้งแรก ที่เขาได้บัญชาการ และแม้เด็กหนุ่มจะดูมั่นใจและแน่วแน่ แต่มีเพียง เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเสื้อผ้าของตนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจากทั้งความ เหนื่อยล้าและแรงกดดันอย่างแท้จริง

ที่ด้านข้างของเขา เว่ยเฟิงร้องอย่างตื่นเต้น “ผู้บัญชาการกองพัน พวกเราชนะแล้ว! เรา…เราเอาชนะกรมทหารหมาป่า 10,000 นายได้ สําเร็จ! เราชนะแล้ว เราชนะ…”

ทหารกองพันไร้พ่ายทั้งหมดรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ ก่อนที่เนินเขา ทั้งหมดจะปะทุขึ้นด้วยเสียงโห่ร้อง ทุกคนกระโดดตะโกนกรีดร้องด้วย ความตื่นเต้นและยินดี พวกเขาชนะ นี่เป็นชัยชนะครั้งสําคัญที่แท้จริง ครั้งแรกของกองพันไร้พ่าย พวกเขาไม่ใช่เต่าหดหัวในอดีตอีกต่อไป กองพันนักเลงที่ซ่อนตัวอยู่หลุมน�าแข็งทางตอนเหนือ ตอนนี้พวกเขา เป็นกองพันไร้พ่าย และไร้พ่ายในทุกดินแดน!

ผู้บัญชาการกองร้อยลืมเรื่องความแข็งแกร่งของโจวเหว่ยชิงไป โดยสิ้นเชิง และพวกเขาก็พุ่งกระโจนไปข้างหน้า ในเวลาต่อมาโจวเหว่ย ชิงก็ถูกโยนขึ้นไปบนอากาศท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี

แท้จริงแล้วการมาถึงของผู้บัญชาการกองพันหนุ่มโจวเหว่ยชิงทํา ให้พวกเขามีทุกสิ่งในวันนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกองพันไร้พ่าย

เป็นโจวเหว่ยชิงที่มอบให้ ความสุขในชัยชนะอันน่าเหลือเชื่อนี้! พวกเขา ไม่เพียงแต่สามารถกินอิ่ม แต่งตัวให้อบอุ่น และไม่ต้องทนทุกข์ทั้ง กลางวันและกลางคืนอีกต่อไป…ทว่าตอนนี้พวกเขายังมีเกียรติเป็นของ ตนเองเช่นกัน

พวกเขาเป็นนักเลงแล้วอย่างไรล่ะ? พวกเขาเป็นอันธพาลแล้ว อย่างไรล่ะ? พวกเขายังคงเป็นมนุษย์ พวกเขายังคงมีอารมณ์ความรู้สึก ชัยชนะครั้งนี้สามารถจุดไฟในใจของทุกคนให้ลุกโชน ตอกย�าความรู้สึก ที่แท้จริงของการเป็นส่วนหนึ่งของกองพันไร้พ่าย และเพิ่มความเคารพ รักต่อผู้บัญชาการกองพันของพวกเขา โจวเหว่ยชิง

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์นํากองกําลังอากาศไร้พ่ายของเธอซึ่งมีส่วนช่วย สนับสนุนการต่อสู้ครั้งนี้เป็นอย่างดีลงพื้นอย่างปลอดภัย เมื่อมองไปยัง เหล่าทหารที่กําลังจับกลุ่มกันและพร้อมที่จะโยนเธอขึ้นไปในอากาศ เหมือนโจวเหว่ยชิง หญิงสาวก็ไม่ได้สั่งสอนพวกเขาอย่างรุนแรงเหมือน ที่เคย ในทางตรงกันข้าม ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กลับกางปีกศาสตรามณี ยุทธ์ของตนเพื่อหลบหนีพลางกลั้วหัวเราะ ทุกคนเต็มไปด้วยความ ภูมิใจและความตื่นเต้น บรรยากาศนี้ลุกลามไปทั่วราวกับไฟป่า นี่คือชัย ชนะที่เป็นของพวกเขาทั้งหมด ความภาคภูมิใจที่พวกเขาสมควรได้รับ อย่างแท้จริง!

ครึ่งปีของการฝึกฝนอย่างหนักทําให้ทุกคนมีพลังแข็งแกร่งขึ้น อย่างไม่ต้องสงสัย และยังเพิ่มเงินในกระเป๋าของพวกเขาด้วย อย่างไรก็ ตาม บางครั้งผลกําไรก็ไม่ใช่ทุกอย่าง และชัยชนะครั้งสําคัญนี้ก็เป็น ผลตอบแทนสําหรับการทุ่มเทจิตวิญญาณ รวมทั้งยังสร้างขวัญกําลังใจ ให้พวกเขาอย่างแท้จริง ทหารหมาป่าแห่งอาณาจักรวั่นโซ่วที่ดูเหมือน จะไร้เทียมทานในสายตาของพวกเขาก่อนหน้า ตอนนี้กลับดูอ่อนแอ มาก และการต่อสู้ครั้งนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการทุ่มเทฝึกหนักของพวกเขา ให้ผลตอบแทนที่ดีจริงๆ ความเหนื่อยยากทั้งหมดไม่ได้สูญเปล่า และ การได้สัมผัสชัยชนะด้วยตัวเองก็สําคัญกว่าสิ่งใด

การเฉลิมฉลองดําเนินต่อไปเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อนที่โจวเหว่ยชิงที่ กําลังมึนงงจะถูกปล่อยกลับลงมาที่พื้นในที่สุด เขาสั่งให้เก็บกวาดสนาม รบและหาอาหารดีๆมาปรุงเพื่อเฉลิมฉลอง

ความจริงแล้วโจวเหว่ยชิงรู้สึกเสียใจเล็กน้อยเมื่อเห็นกรมทหาร หมาป่าเท้าเร็วล่าถอยไปก่อนหน้านี้ ถึงอย่างไรเขาก็ยังมีแผนรอให้ใช้ อีกเป็นโขยง กองพันไร้พ่ายยังคงสามารถล่าถอยไปที่อุโมงค์เพื่อกู้คืน พลังปราณสวรรค์ และอุโมงค์ของพวกเขาก็มีทางออกมากมาย ตราบ ใดที่ทั้งหมดอาศัยภูมิประเทศที่ได้เปรียบใช้การรบแบบกองโจรให้ เหมาะสมอย่างเต็มที่ เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถสังหารกรมทหารหมาป่า เท้าเร็วทั้งหมดได้

ไหวพริบและการตัดสินใจที่รวดเร็วของบัตเลอร์ทําให้เขาสามารถ รักษากองกําลังของตนเอาไว้ได้ ถึงกระนั้น แม้จะเสียใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่อง เลวร้ายสําหรับกองพันไร้พ่าย อย่างน้อยฐานทัพใต้ดินของพวกเขาก็ ยังคงเป็นความลับ และยังมีความเป็นไปได้ที่จะใช้งานมันในอนาคต แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกนานนัก เนื่องจากทั้งหมดไม่รู้ ว่าอาณาจักรวั่นโซ่วจะส่งกองทัพที่ใหญ่กว่านี้มาแก้แค้นหรือไม่

ถึงกระนั้นก็ยังต้องต้องรับประทานอาหารเฉลิมฉลอง หม้อขนาด ใหญ่จํานวนมากถูกนําออกมาและกองไฟก็ถูกก่อขึ้น หมาป่าสงครามที่ ถูกฆ่าใหม่ๆในสนามรบกลายเป็นอาหารแสนอร่อยสําหรับทหารกอง พันไร้พ่าย

กลิ่นหอมอันเข้มข้นของเนื้อสัตว์ที่ถูกปรุงอย่างดีลอยฟุ้งไปทั่วทั้ง เนินเขา สนามรบได้รับการเก็บกวาดอย่างสมบูรณ์ และกองทหารหมา ป่าก็ได้ทิ้งซากศพทหารไว้กว่า 4,100 นาย รวมทั้งหมาป่าสงครามกว่า 2,000 ตัว และก็มีหมาป่าสงครามบางตัวที่สูญเสียเจ้าของหนีเตลิดไป บริเวณโดยรอบ

การต่อสู้ดังกล่าวไม่มีการสูญเสียใดๆเกิดขึ้น แต่กองพันไร้พ่ายก็ สามารถฆ่าพวกเขาได้มากกว่าจํานวนของตัวเองเกือบ 3 เท่า ยิ่งไปกว่า นั้น เหล่าทหารยังสามารถต้านทานกองกําลังชั้นยอดเช่นทหารหมาป่า เอาไว้ได้ด้วยตัวเอง อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

“ผู้บัญชาการกองพัน มีอะไรจะเอ่ยกับพวกเราหลังจบศึก หรือไม่?” อารมณ์ของเว่ยเฟิงยังคงไม่สงบ และเขาก็มองไปที่โจวเหว่ย ชิงด้วยแววตาเป็นประกาย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคุ้นเคยกับเว่ยเฟิงเป็น อย่างดีอยู่แล้ว โจวเหว่ยชิงอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของ ฝ่ายนั้น

โจวเหว่ยชิงลุกขึ้นยืนข้างธงขนาดใหญ่ของกองพันไร้พ่าย

“พี่น้องทั้งหลาย ข้าจะกล่าวง่ายๆไม่กี่คําและจะไม่ทําให้เจ้าต้อง ห่างจากอาหารมื้ออร่อยนานเกินไป การต่อสู้ครั้งนี้เราชนะมาได้อย่าง สวยงาม พวกเจ้าทุกคนคือวีรบุรุษอย่างแท้จริง วีรบุรุษของกองพันไร้ พ่าย!”

น�าเสียงดังฟังชัดของโจวเหว่ยชิงจุดประกายความตื่นเต้นของ ทหารกองพันไร้พ่ายอีกครั้ง และเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นอย่างล้นหลาม

“เจ้าใช้ลูกศรของตนเองแสดงให้ศัตรูเห็นว่าเราแข็งแกร่งแค่ไหน อย่างไรก็ตาม มีสองสิ่งที่ข้าต้องประกาศในตอนนี้ ประการแรก เรา จะต้องออกจากสถานที่แห่งนี้และกลับไปยังกองพลที่ 7 ตามคําเชิญ ของพวกเขา เราจะเข้าร่วมกับกองพลที่ 7 ในฐานะกองพันอิสระ พวก เจ้าทุกคนไม่ต้องกังวล กองพันไร้พ่ายของเราจะไม่ถูกแยกออกจากกัน และเจ้าจะเป็นพี่น้องของข้า อ้วนน้อยโจวตลอดไป ประการที่สอง เมื่อ

เรากลับไปที่กองพลที่ 7 ข้าไม่ต้องการให้ทุกคนปริปากเกี่ยวกับการต่อสู้ ครั้งนี้”

“ดังคํากล่าวที่ว่า จงทําดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย ข้าไม่ต้องการให้ผู้ บัญชาการกองทัพภาคเหนือรู้เกี่ยวกับความสามารถในการต่อสู้ของเรา เร็วเกินไป หากเป็นเช่นนั้น เราจะได้รับภารกิจที่อันตรายที่สุด ดังที่ข้า ได้พูดไปแล้วหลายครั้ง ชีวิตพี่น้องของเราแต่ละคนมีค่า…และล�าค่า… ข้าไม่ต้องการสังเวยชีวิตของพวกเจ้าโดยเปล่าประโยชน์ เข้าใจไหม?”

“เข้าใจแล้ว” ทหารทุกคนรวมถึงเว่ยเฟิงตอบรับคําสั่ง

โจวเหว่ยชิงยิ้มและพูดว่า “ดีมาก ข้ายังมีสิ่งสุดท้ายที่จะพูด เนื่องจากเราจะออกเดินทางไปยังกองพลที่ 7 หลังอาหารมื้อนี้ เราก็ยัง จะทานแต่เนื้อ ข้ายังได้เตรียมเหล้าชั้นดี 500 ไหไว้ด้วย เมื่อเราไปถึง กองพลที่ 7 และตั้งค่ายที่นั่น ทุกคนจะสามารถดื่มเหล้าเพื่อเป็นรางวัล สําหรับชัยชนะครั้งนี้ได้”

…………………………………………………..