Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 150 ความโกรธ! (1)
…
ก่อนหน้านี้เมื่อกองพันไร้พ่ายเคลื่อนตัวจากชายแดนทางเหนือ
กลับไปยังกองบัญชาการหลัก ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ก็มาถึงที่นี่แล้ว เธอจึง
เริ่
มติดตามข้างหลังซ่างกวนเฟยเอ๋อร์และกองพันไร้พ่ายอย่างลับๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไกล ทันใดนั้
นเธอก็สัมผัส
ได้ถึงแรงกดดันจากพลังปราณสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวทางด้านหลัง
ด้วยเหตุนี้เธอจึงวิ่
งวนกลับมาอย่างลับๆและมองเห็นโจวเหว่ยชิงที่
ยังคงอยู่ข้างหลังเช่นเดียวกับหกสุดยอดมหาราชาสวรรค์หลงซื่อหยา
และสหายของเขา ต้วนเทียนหลาง
สําหรับหลงซื่อหยา หญิงสาวอ่านอีกฝ่ายไม่ออก ทว่าเมื่อหลงซื่อห
ยาเริ่
มรักษาต้วนเทียนหลางและลากเขากลับมาจากหุบเหวแห่งความ
ตาย พลังแท้จริงที่เขาปลดปล่อยออกมาก็ทําให้เธอตกตะลึง หญิงสาว
ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่เคียงข้างโจวเหว่ยชิง
ด้วย เธอสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าชายร่างอ้วนคนนี้อยู่ในระดับ
เดียวกับพ่อและลุงใหญ่ของเธอ…นั่
นคือระดับมหาราชาสวรรค์! ยอด
ฝีมือเช่นนี้…แม้จะอยู่ในดินแดนไร้ขอบเขต แต่ก็สามารถนับจํานวน
ทั
้
งหมดได้เพียงหยิบมือเท่านั
้
น เมื่อเห็นความเคารพที่โจวเหว่ยชิงมีต่อ
ชายร่างอ้วนคนนั
้
นก็เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของทั้
งคู่ไม่ได้รู้จักกัน
เพียงผิวเผิน
ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ตัดสินใจทันทีว่าเธอจะต้องถามน้องสาวเกี่ยวกับ
เรื่องนี้เนื่องจากเฟยเอ๋อร์น่าจะรู้ว่าเขาเป็นใคร
ดังนั
้
น หลังจากการเดินทางติดตามขบวนไป เธอก็สามารถแอบเข้า
มาในค่ายทหารอย่างลับๆ ใครจะรู้ว่าก่อนที่หญิงสาวจะได้พบเฟยเอ๋อร์
และถามเกี่ยวกับหลงซื่อหยา เธอกลับเห็นโจวเหว่ยชิงและน้องสาวของ
เธอกําลังใกล้ชิดกัน ทั
้
งยังได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้
งสองคน ความ
กลัวขั
้
นเลวร้ายที่สุดของซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ได้เกิดขึ้
นจริงแล้ว
เมื่อมองไปที่พวกเขาทั้
งสองคน เธอก็อดไม่ได้ที่จะอับอายลึกๆเมื่อ
รู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นแรงและร่างกายก็สั่
นสะท้าน ทว่าจู่ๆหญิง
สาวก็รู้สึกได้ถึงกลิ่
นอายที่น่าสะพรึงกลัวในบริเวณนั้
น เธอจึงไม่ลังเลที่
จะหนีออกจากค่ายทหารทันทีนั่
นเป็นเหตุผลว่าทําไมโจวเหว่ยชิงและ
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ถึงไม่พบตัวซ่างกวนเสว่เอ๋อร์
ความกดดันนั
้
นมาจากไหน ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ย่อมไม่มีทางรู้เธอใช้
วิชาลับของวังสวรรค์ไพศาลเพื่อปกปิดตัวตน แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่าหาก
ขืนอยู่ที่นั่
นต่อไป ยอดฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์คนนั้
นจะสามารถจับ
ตัวเธอได้อย่างแน่นอน แม้ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์จะมั่
นใจในความสามารถ
ของตัวเอง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมหาราชาสวรรค์เธอก็ย่อมไม่มีโอกาส
แม้แต่น้อย
ข้าจะทําอย่างไรดี? ทันใดนั้
น ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ก็สมองว่างเปล่าไป
ชั่
วขณะ เธอปวดหัวเพราะความสัมพันธ์ระหว่างโจวเหว่ยชิงและ
น้องสาวของตนเอง ทว่าซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ก็สามารถเข้าใจความรู้สึก
ของเฟยเอ๋อร์ได้… สําหรับโจวเหว่ยชิงที่สามารถพึ่งพาความแข็งแกร่ง
ของตัวเองเพื่อพัฒนากองกําลังและเติบโตขึ้
นในชายแดนทางเหนือที่
รกร้าง เด็กหนุ่มคนนั้
นต้องมีบางอย่างที่สามารถดึงดูดน้องสาวของเธอ
อย่างแน่นอน มิฉะนั
้
น ด้วยนิสัยของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เธอจะปล่อยให้
เขาเอาเปรียบตนเองได้อย่างง่ายดายเช่นนั้
นได้อย่างไร
สิ่
งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น…ไม่ว่ายังไงก็ข้าก็ต้องนําน้องรองกลับไป อ้วน
น้อยโจวคนนี้เป็นผู้ชายของน้องสาม … ข้าจะยอมให้เขาและน้องรองมี
ความสัมพันธ์ใกล้ชิดได้อย่างไร?
ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ตั้
งปณิธานไว้ในใจทันทีอย่างไรก็ตาม เธอรู้ดีว่า
ตนเองจะไม่สามารถแอบเข้าไปได้อย่างง่ายดายอีก เพราะในที่สุดยอด
ฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์ก็คงจะสัมผัสถึงการมีอยู่ของเธอได้อยู่แล้ว
ดังนั
้
นซ่างกวนเสว่เอ๋อร์จึงทําได้เพียงต้องพึ่งพาช่องทางปกติเพื่อพบปะ
กับโจวเหว่ยชิงและซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ฮึ่ม โจวเหว่ยชิง เจ้าไข่เน่า! มี
น้องสาวของข้าคนเดียวยังไม่เพียงพอสําหรับเจ้าอีกรึ… ถึงกล้ามาหว่าน
เสน่ห์ใส่น้องรองของข้าอีกคน! นอกจากนี้…ยังมีเสือตัวน้อยจากภูเขา
หิมะสวรรค์อีก มีบางอย่างเกิดขึ
้
นระหว่างพวกเขาเช่นกัน คราวนี้หาก
ข้าไม่คิดบัญชีกับเจ้า ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปง่ายๆแน่!
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์คิดพลางกําหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว หัวใจของเธอ
เต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดชังต่อโจว เหว่ยชิง
…
โจวเหว่ยชิงไม่รู้ว่าเขาดื่มเหล้าไปมากแค่ไหน สิงที่เด็กหนุ่มจําได้ก็ ่
คือทหารจํานวนมากของเขาโผล่มารุมห้อมล้อมเขาเป็นฝูง เมื่อตื่น
ขึ
้
นมาในตอนเช้าพร้อมอาการงัวเงีย ดวงอาทิตย์ก็ลอยโด่งขึ้นมาเป็น
เวลานานแล้ว ทั
้
งกระโจมเต็มไปด้วยแสงแดดจ้า ความอบอุ่นทําให้เขา
ตกอยู่ท่ามกลางความเกียจคร้าน
อาการเมาค้างเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดสําหรับคนทั่
วไปอย่าง
ไม่ต้องสงสัย แต่สําหรับยอดฝีมืออย่างโจวเหว่ยชิงนั้
นไม่ได้นับเป็นอะไร
ได้เลย ร่างกายของเด็กหนุ่มเหนือกว่าคนทั่
วไป และพิษสุราก็ไม่อาจ
ส่งผลเสียต่อเขาได้
โจวเหว่ยชิงยืดตัวอย่างเกียจคร้านและลุกขึ
้
นจากเตียง แม้ว่าเขา
จะใกล้ชิดกับซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เมื่อคืนไม่สําเร็จ แต่การได้ดื่มกับเหล่า
สหายก็ยังคงทําให้เขารู้สึกดีมาก การได้โห่ร้องและตะโกนร่วมกับคน
ของเขาเป็นความรู้สึกที่สนุกสนานจนลืมไม่ลง
“รายงาน! ผู้บัญชาการกองพัน ตื่นหรือยังขอรับ?” น�าเสียงร้อนใจ
ดังมาจากด้านนอกกระโจมของเขา
“หืม เข้ามาได้” โจวเหว่ยชิงกล่าวอย่างสงสัย
ผนังกระโจมถูกยกขึ
้
น และหนึ่งในทหารกองพันไร้พ่ายก็เดินเข้ามา
“ผู้บัญชาการกองพัน กรุณารีบหน่อยเถิด มีบางอย่างเกิดขึ
้
น…หมาป่า
เขียวกําลังจะตาย”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!!?“ จากนั
้
นความขี้เกียจของโจวเหว่ยชิงก็
ระเหยหายไปในพริบตา “เกิดอะไรขึ้
น?!”
ทหารคนนั
้
นตอบว่า “เป็นเพราะทหารกรมอื่นๆ เช้านี้ไม่มีใครรู้ว่า
เพราะอะไร แต่ผู้บัญชาการกรมทหารที่ 16 เซินปู้นําคนมาที่นี่ด้วย
ตัวเอง… หลังจากนั
้
นการต่อสู้ก็เริ่
มขึ
้
น และหมาป่าเขียวก็ถูกโจมตีโดยผู้
บัญชาการกองพัน 2 คนที่ร่วมมือกัน… ดูเหมือนว่าเขาจะต้านไว้ไม่ได้
นานเท่าไหร่ พวกพี่น้องต่างก็กําลังโกรธแค้น และเราก็ทะเลาะกับ
ทหารจากกรมทหารที่ 16”
“หึ! พวกมันอยากตายสินะ!” โจวเหว่ยชิงร้องออกมาด้วยความ
โกรธ พุ่งออกไปจากกระโจมในพริบตา เขาใช้ทั้
งเวลา ความพยายาม
และเงินเป็นจํานวนมากเพื่อฝึกฝนนักรบกองพันไร้พ่าย เมื่อพวกเขา
ประสบความสําเร็จและกําลังเดินไปในเส้นทางที่วางไว้อย่างงดงาม
เรื่องแบบนั้
นกลับเกิดขึ
้
น หมาป่าเขียวมาถึงระดับ 7 มณีแล้ว และใน
บรรดาจ้าวมณียุทธ์ของกองพันไร้พ่าย เขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นๆ
แม้แต่ในบรรดาผู้บัญชาการกองร้อย เขาก็อยู่ในอันดับแรกๆของการจัด
อันดับ
แม้โจวเหว่ยชิงอาจดูเป็นคนใจกว้าง แต่ก็มีบางอย่างที่เขาใจแคบ
มาก ในสายตาของเด็กหนุ่ม ทุกคนในกองพันไร้พ่ายมีความสําคัญอย่าง
ยิ่
ง พวกนั
้
นเป็นพี่น้องของเขา และยังเป็นความหวังที่ยิ่
งใหญ่ที่สุดใน
การฟื้ นฟูอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์สัญชาตญาณในการป้องกันพวก
พ้องของเขาแข็งแกร่งมาก และเมื่อได้ยินว่าพี่น้องคนหนึ่งของตนเกือบ
ถูกฆ่า เขาจะไม่กังวลได้อย่างไร?
โจวเหว่ยชิงไม่จําเป็นต้องถามทางด้วยซ�า เขาสัมผัสได้ทันทีว่ามี
ผู้คนมารวมตัวกันจํานวนมาก ณ จุดหนึ่ง และเขาก็พุ่งไปยังบริเวณนั้
น
ทันทีอย่างที่เด็กหนุ่มคาดไว้นอกจากเหล่าทหารกองพันไร้พ่ายที่ยังคง
หลับใหลจากการดื่มเมื่อคืนนี้ยังมีคนอีกอย่างน้อย 500 คนมารวมตัว
กันอยู่ที่นั่
น ความตึงเครียดลอยวนอยู่ในบรรยากาศชัดเจนและทั้
งสอง
ฝ่ายก็ดูเหมือนพร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ โจวเหว่ยชิงสามารถสัมผัสสิง่
เหล่านั
้
นได้แม้จะอยู่ในระยะไกล
“เกิดอะไรขึ้
น? ให้ข้าเข้าไป” โจวเหว่ยชิงตะโกนออกมาเสียงดัง
เรียกความสนใจจากทุกคนได้ทันทีและในเวลานั้
นทั
้
งกลุ่มก็แหวกทาง
ให้เขาเดินผ่านเข้าไป
โจวเหว่ยชิงก้าวขาอย่างรวดเร็วผ่านไปถึงด้านหน้าในพริบตา
ในขณะนั้
น อารมณ์ความรู้สึกของทหารกองพันไร้พ่ายได้ลุกโชน
ขึ
้
นมาด้วยความโกรธ ความขุ่นเคือง และความเคียดแค้นอย่างแท้จริง…
ทันทีที่พวกเขาเห็นโจวเหว่ยชิง ความโกลาหลก็เกิดขึ้
นขณะทั
้
งหมดเริ่
ม
พูดพร้อมกัน
“ผู้บัญชาการกองพัน ท่านต้องช่วยเราคิดบัญชีเรื่องนี้! กรมทหาร
ที่ 16 เหล่านั
้
นได้ทุบตีพี่น้องของเราหลายคนเพียงเพราะพวกเขามี
จํานวนมากกว่า”
“ใช่! ผู้บัญชาการกองพัน ได้โปรดออกคําสั่
ง! ฆ่าไอ้พวกนี้ให้หมด
เถอะ!”
ทหารของกองพันไร้พ่ายมีพื้นเพมาจากบรรดานักเลงชอบหาเรื่อง
ดังนั
้
นการต่อสู้และก่อความวุ่นวายจึงเป็นหนึ่งในสิ่
งที่พวกเขาทําบ่อย
ที่สุดก่อนถูกส่งไปยังกองพันไร้พ่าย เพียงเพราะผู้บัญชาการกรมทหาร
ของฝ่ายตรงข้ามมาด้วยตัวเองไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะกลัวหรือ
ล่าถอย …ถ้าไม่ใช่เพราะเว่ยเฟิงและผู้บัญชาการกองร้อยคนอื่นๆรั้
ง
พวกเขาไว้บางทีทั
้
งหมดอาจจะตรงเข้าไปรุมทึ้งกรมทหารที่ 16 แล้ว
“ทุกคนเงียบ! ข้าจะคิดบัญชีให้พวกเราทุกคนแน่!” โจวเหว่ยชิง
ตะโกนด้วยความโกรธ
ทันใดนั้
น เหล่าทหารก็ตกอยู่ในความเงียบ ในกองพันไร้พ่าย
ทั
้
งหมด โจวเหว่ยชิงย่อมเป็นผู้ที่มีอํานาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่สุด ไม่ใช่
เพียงเพราะ ‘ผลกําไร’ ต่างๆที่เขานํามาเสนอให้พวกเขาหรือเพราะ
ความรักและเคารพที่พวกเขามีต่อโจวเหว่ยชิง แต่ยังเป็นเพราะความ
แข็งแกร่งของตัวเขาเองด้วย ในสนามรบ เด็กหนุ่มมักจะอยู่ในด่านหน้า
คอยต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ทหารกองพันไร้พ่ายจะไม่ได้นิสัยดี
เด่อะไรนัก แต่พวกเขาก็ให้ความเคารพและชื่นชมผู้บัญชาการกองพัน
หนุ่มคนนี้เป็นอย่างมาก
โจวเหว่ยชิงขยับไปด้านหน้าและเว่ยเฟิงก็ก้าวไปด้านข้างเพื่อตอบ
รับเขาทันทีชายหนุ่มถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นโจวเหว่ยชิง
ก่อนจะพูดว่า “ผู้บัญชาการกองพัน ในที่สุดท่านก็มาถึงที่นี่ ถ้าท่านไม่
มาถึงในเร็วๆนี้ล่ะก็เรื่องราวก็คงจะควบคุมไม่อยู่แล้ว”
โจวเหว่ยชิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “รองผู้บัญชาการเว่ย เกิดอะไร
ขึ
้
น?” เขาหันไปมองทหารกองพันไร้พ่ายซึ่งยังคงมีกลิ่
นเหม็นของเหล้า
ติดร่างอยู่ แต่พวกเขาแต่ละคนต่างกําลังกราดเกรี้ยว ส่วนใหญ่นําอาวุธ
ออกมาเตรียมพร้อมแล้ว ดูเหมือนว่าจะโจมตีได้ทุกเมื่อหากพวกเขา
ไม่ได้รับคําตอบ
ในอีกด้านหนึ่ง การแสดงออกของเซินปู้ก็ไม่เป็นมิตรอย่างยิ่
ง
เช่นกัน ที่เบื้องหลังของเธอ ผู้บัญชาการกองพันทั
้
ง 10 จากกรมทหารที่
16 ก็อยู่ด้วย ขนนกบนหมวกแสดงฐานะของพวกเขา ข้างหลังพวกเขา
ยังมีทหารอีกอย่างน้อย 500 นาย ซึ่งน่าจะเป็นทหารคุ้มกันส่วนตัวของ
เซินปู้และเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกรมทหารที่ 16
เว่ยเฟิงก้าวเข้าไปด้านข้างของโจวเหว่ยชิงใกล้ๆและพูดด้วย
น�าเสียงที่กดต�าซึ่งมีเพียงเขาทั
้
งคู่เท่านั
้
นที่ได้ยิน “เมื่อคืนเราโยนขยะ
กลับไปที่กรมทหารที่ 16 และเมื่อฝ่ายนั้
นค้นพบมันในเช้าวันนี้พวกเขา
ก็มาตามมาก่อปัญหาทันทีตอนแรกเป็นแค่พวกทหารม้าหนักที่เรา
จัดการไปเมื่อครั้
งที่แล้ว และหลังจากแลกเปลี่ยนคําพูดกันอย่างดุเดือด
เสร็จ การต่อสู้ก็เกิดขึ้
น พี่น้องของเราปฏิบัติตามคําสั่
งของท่าน
เนื่องจากคนอื่นๆเข้ามาในเขตของเรา พวกเขาจึงจัดการคนเหล่านั
้
น…
และฝ่ายตรงข้ามส่วนใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บ ถึงกระนั
้
น คนของเราก็ยังคง
พยายามทําตัวมีเหตุผลและยั
้
งมือไว้แล้ว ดังนั
้
นจึงไม่ควรมีใครอาการ
บาดเจ็บหนัก หลังจากนั
้
น ผู้บัญชาการกองพันบางคนก็พาทหารมาก่อ
เรื่องต่อ พี่น้องของเราส่วนใหญ่ยังคงกึ่งเมาตั
้
งแต่คืนก่อน จากนั
้
นก็เกิด
การต่อสู้ขึ
้
นอีกครั
้
ง กว่าข้าจะมาถึงมันสายเกินไป และหมาป่าเขียวก็
ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ข้าเกรงว่า…”
โจวเหว่ยชิงเหลือบมองไปด้านข้างและเห็นหมาป่าเขียวที่กําลัง
นอนพะงาบๆรอความตายอยู่ที่นั่
น เขาแทบจะไม่สามารถหายใจได้
เพราะรูใหญ่บนหน้าอกและมีเลือดไหลออกมาจากบริเวณนั้
นจํานวน
มาก
เมื่อภาพนั้
นเข้ามาในสายตาของเขา โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกได้ถึงเลือดที่
พลันสูบฉีดอย่างรุนแรง และลมหายใจของเขาก็หนักหน่วงขึ้
นด้วย
ความโกรธ
“โจวเหว่ยชิง วันนี้เจ้าจัดการคนของเจ้าให้ข้าเสียจะดีกว่า
ไม่เช่นนั้
นพวกเราจะนําเรื่องนี้ขึ้
นศาลทหาร” ทันทีที่เซินปู้เห็นว่าโจว
เหว่ยชิงมาถึงแล้ว เธอก็ตะโกนใส่เขาด้วยความโกรธ
คําพูดของเว่ยเฟิงนั
้
นเรียบง่าย แต่ในความเป็นจริง ทหารทั
้
ง 2
กองร้อยก่อนหน้านี้เป็นทหารม้าหนักจากกรมทหารที่ 16 ที่เคยถูกพวก
เขาจัดการมาก่อน แม้ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้ติดอาวุธมาครบมือ แต่พวก
เขาก็ยังคงคิดว่าตัวเองเหนือกว่ากองพันไร้พ่ายและเชื่อมั่
นใน
ความสามารถของตนเองมาก ทั
้
งหมดจึงได้วิ่
งมาหาเรื่องก่อกวนพวก
เขาเช่นนั
้
น แน่นอน ฝ่ายตรงข้ามไม่คาดคิดมาก่อนว่าทหารกองพันไร้
พ่ายเหล่านี้เคยถูกซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ฝึกหนักมาเป็นเวลาหลายเดือน
และเมื่อทั้
งสองฝ่ายปะทะกันก็ไม่ใช่กองพันไร้พ่ายที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
อย่างแน่นอน
ทหารม้าหนักทั
้
ง 2 กองร้อยของถูกโต้กลับ โดยมีมากกว่า 1 ใน 3
ของคนพวกเขาต้องทรมานกับอาการกระดูกหักหรือร้าว กรมทหารที่
16 ไม่เคยได้รับความสูญเสียครั้
งใหญ่เช่นนี้มาก่อน และผู้บัญชาการ
กองพันจึงได้ส่งคําพูดถึงเซินปู้ก่อนที่จะรีบตามมาพร้อมกับกําลังพล
ของตน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้มีพลังเหนือกว่าเช่นกัน เนื่องจาก
เหล่านักเลงจากกองพันไร้พ่ายนั้
นป่าเถื่อนเกินไป…เมื่อสองฝ่ายต่อสู้กัน
มันก็เหมือนกับว่าอันธพาลพวกนี้ไม่สนใจชีวิตของตนเองเลย แม้ว่า
หมาป่าเขียวจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็หักแขนทั้
งสองข้างของผู้
บัญชาการกองพันทั
้
ง 2 คนที่เขาต่อสู้ด้วย หากไม่ใช่เพราะความจริง
ที่ว่าหัวหน้ากองร้อยคนอื่นๆของกองพันไร้พ่ายมาไม่ทันเวลา ผลการ
ต่อสู้อาจจะแตกต่างไปจากเดิมมาก
การมาถึงพร้อมกันของเซินปู้และเว่ยเฟิงทําให้การต่อสู้หยุดชะงัก
ลงในที่สุด และสถานการณ์ก็เดินมาสู่ทางตันในปัจจุบัน