Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 151 ทักษะเทพยดาสรรเสริญ! (3)
เซินปู้รู้ว่าวันนี้เป็นความผิดของเธออย่างแท้จริง แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่
จะประท้วง “ทั
้
งหมดเป็นเพราะโจวเหว่ยชิง…หมอนั่
นหยิ่
งผยองเกินไป
จนทําให้ข้าทนไม่ได้ศิษย์พี่ แม้ว่าพวกเขาจะมาจากวังสวรรค์ไพศาล
แต่พวกเราต้องอดทนต่อทุกสิ่
งเช่นนี้หรือ? ข้า…ข้าไม่สามารถหักห้ามใจ
ตัวเองได้”
เซินจี้จ้องมองเธออย่างเย็นชา “ห้ามตัวเองไม่ได้งั้
นหรือ? หากเจ้า
ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้เจ้าก็ควรก้าวลงจากตําแหน่ง หลังจาก
นั
้
นก็กลับไปที่กองบัญชาการใหญ่กับข้า…ตอนนี้ให้เซินอี้เข้าควบคุม
กรมทหารที่ 16 แทนชั่
วคราว”
เซินปู้ร้องด้วยความประหลาดใจ “ศิษย์พี่ ท่าน…ท่านกําลังจะถอด
ข้าออกจากตําแหน่งหรือ?”
เซินจี้พูดต่ออย่างเย็นชา “ด้วยสภาพจิตใจของเจ้าในตอนนี้เจ้าไม่
เหมาะที่จะเป็นผู้บัญชาการดูแลกองพันทั้
งหมด รู้หรือไม่ว่าการกระทํา
ของตัวเองอาจทําให้ทหารใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสียชีวิตได้อย่าง
ง่ายดาย… เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้
นภายในกองทัพ แม้แต่ข้าก็อาจแบก
รับโทษเช่นนี้ไม่ไหว นี่คือสิ่
งที่อันตรายที่สุดและเป็นสิ่
งที่เรากลัวที่สุด
ใครขอให้เจ้าทิ้
งขยะในค่ายของพวกเขาก่อนเล่า…ตอนนี้พวกเขาจึงมี
เหตุผลเข้าข้างตัวเองแล้ว นับประสาอะไรกับที่ฝ่ายนั้
นมาจากวังสวรรค์
ไพศาล แม้ว่าคนเหล่านั
้
นไม่ปฎิบัติตามกฎของกองทัพ ข้าก็ยังไม่
สามารถลงโทษพวกเขาได้อยู่ดีเจ้าเข้าใจไหม?”
ใบหน้าของเซินปู้ยังคงเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างไม่อาจยอมรับ
ขณะที่กล่าว “ข้าเข้าใจ แต่… ทหารของเขาก็ดื่มเหล้า… เราจะเพิกเฉย
ต่อสิ่
งนั
้
นได้หรือ?”
เซินจี้กล่าวอย่างเคร่งขรึม “เมื่อมองจากการกระทําของโจวเหว่ย
ชิง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โอ้อวดหรือพูดเกินความเป็นจริง อืม ทําไม
ตอนนั
้
นเจ้าถึงกระตุกแขนเสื้อข้า?” ทันใดนั้
นเซินปู้ก็จําความต้องการ
เดิมของตัวเองได้ทันทีและอธิบายฉากทั้
งหมดเกี่ยวกับหมาป่าเขียวผู้ซึ่ง
ใกล้จะตายและได้รับการช่วยเหลือจากหลงซื่อหยาอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินคําอธิบายของเซินปู้เซินจี้ก็สูดลมหายใจเย็นๆเข้าปอด
“เจ้าแน่ใจจริงๆหรือ? ชายคนนั
้
น…ขณะใช้ทักษะของเขามีแสงสว่าง
เช่นนั
้
นเกิดขึ
้
นแน่หรือ?”
เซินปู้พยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าแน่ใจมาก มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์
ที่ข้าไม่อาจมองผิดพลาดไปได้ตามทฤษฎีแล้ว แม้ว่าทักษะธาตุแสงจะ
มีคุณสมบัติในการรักษา แต่ก็เทียบธาตุชีวิต ไม่ได้แน่นอน อย่างไรก็
ตาม ชายคนนั
้
นเพียงแค่โบกมือและผู้บัญชาการกองร้อยที่กําลังจะตาย
ของกองพันไร้พ่ายก็ถูกฟื้ นฟูอาการบาดเจ็บทันทีแม้แต่กระดูกที่หัก ไป
แล้วก็ดูเหมือนจะได้รับการแก้ไข นี่มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
ชายคนนั
้
นอาจเป็นยอดฝีมือระดับสูง ดังนั
้
น เรื่องที่กองพันไร้พ่าย
สามารถสังหารกรมทหารหมาป่าเท้าเร็วได้กว่า 4,000 นายก็มีความ
เป็นไปได้อย่างแน่นอน… นั่
นคือเหตุผลว่าทําไมข้าถึงดึงแขนเสื้อของ
ท่านในเวลานั้
น”
การแสดงออกของเซินจี้เปลี่ยนไปหลายครั้
งในขณะที่เขากําลัง
คํานึงถึงสิ่
งต่างๆและปล่อยให้เซินปู้มองดูเขาอยู่หลายนาทีทว่าก็ยัง
ไม่ได้ส่งเสียงใดๆออกมา
“ศิษย์พี่ ท่านพูดอะไรหน่อยสิ? เราจะปล่อยให้เรื่องนี้ดําเนินต่อไป
หรือ?” เซินปู้ถามอย่างสงสัย
เซินจี้เงยหน้าขึ้
นอย่างกะทันหันและพูดว่า “ปล่อยให้เรื่องนี้ดําเนิน
ต่อไป? ไม่แน่นอน เจ้าไปพบอาจารย์กับข้า” เซินปู้รู้สึกยินดีทันทีเธอรู้
ว่าเซินจี้เป็นคนโปรดของเหล่าอาจารย์และตราบใดที่เขาพูดออกหน้า
ให้เธอก็จะมีโอกาสแก้แค้น
“เยี่ยมมาก! หากอาจารย์เต็มใจที่จะช่วยล่ะก็พวกนั
้
นมาจากวัง
สวรรค์ไพศาลแล้วอย่างไรเล่า? ข้าย่อมคิดบัญชีได้แน่นอน โดยเฉพาะ
ไอ้สารเลวโจวเหว่ยชิง ศิษย์พี่ เมื่อถึงเวลานั้
นท่านต้องปล่อยให้ข้า
จัดการกับเขาเป็นการส่วนตัว มิฉะนั
้
นข้าจะไม่สามารถระบายความ
โกรธแค้นของตนเองได้”
“จัดการเขาด้วยตัวเอง?” เซินจี้มองไปที่เธออย่างเย็นชา “ถ้าเจ้า
อยากตายจริงๆ ก็โปรดอย่ากล่าวพาดพิงถึงอาจารย์ตัวข้า และน้องสาว
ของเจ้าเลย”
เซินปู้มองเขาด้วยความประหลาดใจก่อนจะพูดว่า “ศิษย์พี่ มีอะไร
ผิดปกติหรือ?”
“มีอะไรผิดปกติงั้
นน่ะรึ? เจ้าไม่รู้หรือว่าชายวัยกลางคนผู้นั้
นใช้
ทักษะอะไร? เพื่อให้เขาสามารถสร้างผลลัพธ์แบบนั้
นได้… การฟื้ นฟู
ร่างกาย และภาพทักษะสวรรค์ที่เจ้าอธิบาย… มีเพียงความเป็นไปได้
เพียงอย่างเดียว นั่
นก็คือทักษะธาตุแสงที่ให้ผลเปรียบดั่
งเทพเจ้าและ
เกิดได้ยากที่สุด…ทักษะนั้
นเรียกว่าเทพยดาสรรเสริญ ส่วนการที่โจว
เหว่ยชิงมีภาพทักษะสวรรค์ข้าไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรจริงๆ แต่เขาก็มี
มณีเพียง 4 ชุดเท่านั
้
น และข้าก็คิดว่ามันน่าจะเป็นกลอุบายบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม ทักษะเทพยดาสรรเสริญนั
้
นแตกต่างออกไปโดยสิ้
นเชิง
สําหรับทักษะนั
้
น นอกเหนือจากทําให้คนตายฟื้ นขึ้นมาได้แล้ว ที่เหลือก็
ไม่ได้ด้อยไปกว่าทักษะรักษาจากธาตุชีวิตเลย อีกทั
้
งยังสามารถฟื้ นฟู
อาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงที่สุดได้ตราบใดที่ยังมีลมหายใจเหลืออยู่เสี้ยว
หนึ่ง… นั่
นยังรวมถึงชําระพิษต่างๆในบาดแผลด้วย”
“เพื่อที่จะสามารถปลดปล่อยทักษะเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย…เขา
ต้องไม่ได้เพียงใช้ปราณสวรรค์ขั้
นบรรลุวิถีเท่านั
้
น แต่จะต้องมีพลังอยู่
เหนือกว่าระดับนั
้
นด้วย ชายคนนี้เป็นยอดฝีมือระดับสูงแน่นอน เจ้ารู้
ไหมว่าตัวเองไปยั่
วยุคนประเภทไหนมา? คนที่โจวเหว่ยชิงเรียกว่า
อาจารย์น่าจะเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของวังสวรรค์ไพศาล ทั
้
งยังเป็นผู้ที่มี
สถานะสูงส่งด้วย ระดับการบ่มเพาะของเขาอาจไม่ใช่แค่ระดับราชา
สวรรค์…แต่น่าจะอยู่ในระดับมหาราชาสวรรค์แม้จะเป็นวังสวรรค์
ไพศาล แต่ก็มีระดับมหาราชาสวรรค์อยู่ไม่มากนัก เจ้าคิดว่าตัวเองมีกี่
หัวให้ตัดถึงกล้าท้าทายยอดฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์?”
“ข้ากําลังจะพาเจ้ากลับไปหาอาจารย์เพื่อขอให้เขาช่วยออกหน้า
แทน นําเจ้าไปขอโทษอย่างนอบน้อมและแสดงความรับผิดชอบเพื่อขอ
ผ่อนปรนโทษ คราวนี้วังสวรรค์ไพศาลมีภารกิจบางอย่างที่พวกเขา
กําลังทําอยู่จริงๆ”
เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของเซินจี้เซินปู้ก็รู้สึกหนาวสั่
นไปถึงกระดูก
สันหลัง เหงื่อเม็ดโตหยดลงรอบๆกรอบหน้าผากของเธอ ทําให้หญิงสาว
ตกตะลึงไปโดยสิ้
นเชิง ในฐานะจ้าวมณีสวรรค์เธอรู้โดยธรรมชาติว่า
ยอดฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์เป็นอย่างไร แม้ว่าเซินปู้จะเป็นจ้าวมณี
สวรรค์ระดับมณี6 ชุด แต่ก็ยังกล่าวได้ว่ามหาราชาสวรรค์เป็นสถานะ
ในตํานานสําหรับเธอ มีจ้าวมณีสวรรค์ระดับราชาเพียงคนเดียวอยู่ที่
กองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และกองทัพภาคเหนือของอาณาจักร
จ้งเทียนก็ไม่มีมหาราชาสวรรค์แม้แต่คนเดียว! หากโจวเหว่ยชิงมี
อาจารย์เช่นนั้
นจริงๆ ไม่เพียงแต่เธอจะไม่สามารถแข็งข้อกับพวกเขา
ได้เท่านั้
น แม้แต่กองทัพภาคเหนือทั
้
งหมดก็ยังไม่สามารถต่อต้านพวก
เขาได้! เพราะถึงอย่างไร นั่
นก็คือยอดฝีมือระดับสูงจากวังสวรรค์
ไพศาล!”
“ศิษย์พี่ ข้า…ข้า…” ในขณะนี้เซินปู้หมดคําพูดอย่างแท้จริง คําว่า
เสียใจก็ไม่เพียงพอจะใช้บรรยายความรู้สึกในปัจจุบันของเธอได้อย่าง
สมบูรณ์เมื่อมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาว เซินจี้ก็ถอนหายใจ
และพูดว่า “ไม่มียาใดๆสามารถรักษาโรคเสียใจ ถ้าเจ้ารู้ว่ามันจะ
ออกมาเป็นเช่นนี้เจ้าก็คงจะไม่ลงมือ… แต่อย่างไรก็ไม่จําเป็นต้องกังวล
มากเกินไป ท้ายที่สุดเราต่างก็เป็นพันธมิตรและเป็นส่วนหนึ่งของ
อาณาจักรเดียวกัน โจวเหว่ยชิงอาจมีนิสัยแปลกประหลาด แต่เขาก็มอง
ภาพรวมอยู่เสมอ หาไม่แล้ว ด้วยมีอาจารย์ที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ข้างกาย
หากเขาต้องการสังหารพวกเจ้าทั
้
งหมดจริงๆก็คงไม่มีใครสามารถทํา
อะไรได้ตราบใดที่เราขอโทษอย่างจริงใจมากพอ สถานการณ์ก็อาจจะ
ยังบรรเทาลงได้อย่างไรก็ตาม ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถดํารง
ตําแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารที่ 16 ได้อีกต่อไป อย่างน้อยก็อีกไม่นาน
นัก ไปเถอะ ตอนนี้เราไปพบอาจารย์กัน”
…
ในอีกด้านหนึ่ง โจวเหว่ยชิงย่อมไม่รู้ว่าเซินจี้และเซินปู้กําลัง
หวาดกลัวการปรากฏตัวของหลงซื่อหยา หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่ง
ความยินดีและการเฉลิมฉลอง โจวเหว่ยชิงก็ได้ออกคําสั่
งให้กองพันไร้
พ่ายพักฟื้ นเป็นเวลา 3 วันเพื่อปรับตัวก่อนที่จะกลับมาฝึกต่อ ในเวลา
เดียวกัน เด็กหนุ่มก็ประกาศว่าจะเพิ่
มการฝึกของพวกเขา
หากโจวเหว่ยชิงประกาศก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ บางทีอาจมีการ
ร้องเรียนมากมาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านการต่อสู้และได้รับชัยชนะครั้
งใหญ่จาก
กรมทหารหมาป่าเท้าเร็ว เมื่อรวมกับสิ่
งที่เกิดขึ้
นในเช้าวันนี้กองพันไร้
พ่ายในปัจจุบันจึงมีขวัญกําลังใจแกร่งกล้าและรวมกันเหนียวแน่นเป็น
หนึ่งเดียวจริงๆ พวกเขาภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองพันไร้พ่าย ใคร
จะไม่ปรารถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้
นบ้าง? ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่
โดยเฉพาะอย่างยิ่
งในตอนนี้ความแข็งแกร่งที่เพิ่
มขึ
้
นยังหมายถึงรางวัล
ที่มอบให้อย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเสียงพร�าบ่นกับการป่าว
ประกาศดังกล่าว แต่กลับเป็นการยอมรับด้วยความเคารพเสียมากกว่า
ในฐานะผู้บัญชาการกองร้อย หมาป่าเขียวยังถูกโจวเหว่ยชิง
ลงโทษด้วยการเฆี่ยน 40 ครั
้
ง เหตุผลในการลงโทษนั้
นง่ายมาก… ใคร
ขอให้เขาแพ้ในการต่อสู้จนทําให้กองพันไร้พ่ายเสียหน้า!
หมาป่าเขียวกลับรู้สึกโชคดีที่ถูกลงโทษ ราวกับว่าสิ่
งนี้เป็น
ความสุขอันหาที่เปรียบไม่ได้หลังจากถูกฟาดไป 40 ครั
้
ง สหายคนนั
้
นก็
ยังมีรอยยิ้
มประดับบนใบหน้า เขามองไปที่โจวเหว่ยชิงอย่าง
กระตือรือร้นและซื่อสัตย์ทําให้เด็กหนุ่มเริ่
มหวาดกลัวและสงสัยว่า
รสนิยมทางเพศของสหายคนนี้กําลังเปลี่ยนไปหรือไม่
…
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้
น หลงซื่อหยาก็เรียกโจวเหว่ยชิงไปที่
กระโจมของเขา “อ้วนน้อย บอกอาจารย์เกี่ยวกับแผนโดยรวมของเจ้า
มาซิ”
โจวเหว่ยชิงชะงักไปชั่
วขณะ ถึงอย่างไรครั้
งก่อนหน้าที่เขาได้พบ
กับหลงซื่อหยาครั้
งแรกและถูกรับตัวไปเป็นศิษย์อาจารย์ของเขาคนนี้ก็
เคยบอกว่าโจวเหว่ยชิงจะต้องทําทุกอย่างให้สําเร็จด้วยตัวเอง และเขา
จะไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆทั้
งสิ
้
น แต่ตอนนี้หลงซื่อหยากลับสนใจ
แผนการของเขาขึ
้
นมา?
หลงซื่อหยาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าโจวเหว่ยชิงกําลังคิดอะไรอยู่ และ
เขาก็พูดอย่างโกรธเคือง “ก็แค่ตอบตอนที่ข้าถาม อาจารย์ของเจ้าจะ
ทําร้ายเจ้าหรืออย่างไร? ข้าแค่คิดว่ากองพันไร้พ่ายของเจ้านั้
นน่าสนใจ
จริงๆ…ไม่มีใครแสดงละครเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทั
้
งหมดเหมือนพวก
นักเลงจริงๆ แต่ถึงกระนั
้
นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย สิ่
งที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือ
พวกคนที่อวดรู้เช่นเดียวกับพวกวังสวรรค์ไพศาล แน่นอนว่าสหายเก่า
จากภูเขาหิมะสวรรค์คนนั้
นก็น่ารําคาญพอๆกัน”
โจวเหว่ยชิงเปิดปากหัวเราะอย่างมีความสุข เขาจะปล่อยโอกาส
เช่นนี้หลุดลอยไปได้อย่างไร หากทําเช่นนั
้
นเขาก็คงไม่ใช่โจวเหว่ยชิง
แล้ว! “อาจารย์นี่คือแผนของข้า…” ดังนั
้
นเด็กหนุ่มจึงเริ่
มอธิบาย
แผนการของเขาให้หลงซื่อหยาฟัง
“…แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแผนคร่าวๆและอาจเกิดการเปลี่ยนแปลง
ได้เสมอ ข้าจะปรับเปลี่ยนแผนไปตามสถานการณ์ในเวลานั้
นๆ ทว่าข้า
ก็คาดหวังว่าภายใน 10 ปีนี้ข้าจะมีกองทหารระดับสูงที่สามารถต่อกร
กับอาณาจักรป่ายต้าได้”
ขณะที่เขาพูด ดวงตาของโจวเหว่ยชิงเปล่งประกาย และตื่นเต้น
มากขึ
้นเมื่อพูดถึงแผนของเขา
เมื่อได้ยินศิษย์อายุไม่ถึง 20 ปีของตนพูดรายละเอียดในของแผน
ของเขา เมื่อเห็นว่ามันพิถีพิถันและรอบคอบเพียงใด หลงซื่อหยาก็รู้สึก
เพียงแค่ตกใจและประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าพรสวรรค์ของโจวเหว่ยชิง
ไม่ได้อยู่ที่การเป็นจ้าวมณีสวรรค์เท่านั้
น บางทีแผนของเขาอาจจะมอง
โลกในแง่ดีและวาดฝันมากเกินไปหน่อย แต่แน่นอนว่าวิสัยทัศน์และ
ความเข้า ใจในภาพรวมของเขาก็น่าประทับใจมาก จินตนาการ
สร้างสรรค์ในการทําสิ่
งต่างๆของเขาก็น่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่
ง
เหตุผลที่หลงซื่อหยาให้ความสนใจกองพันไร้พ่ายไม่ใช่เพียงเพราะ
เขาพบว่ามันสนุก แต่สิงที่สําคัญกว่านั ่ ้
นคือเพราะเขาได้เห็นด้วยตา
ตัวเองแล้วว่ากองพันไร้พ่ายเอาชนะกองกรมทหารหมาป่าเท้าเร็วได้
อย่างไรเมื่อวันก่อน
เมื่อกรมทหารหมาป่าเท้าเร็วปรากฏตัว หลงซื่อหยาก็มาถึงที่นี่แล้ว
และเขาก็เตรียมพร้อมที่จะลงมือทันทีที่กองพันไร้พ่ายแสดงท่าทางว่า
กําลังจะแพ้ด้วยพลังระดับมหาราชาสวรรค์ของเขา แม้จะไม่สามารถ
โค่นกองทัพจํานวนหนึ่งแสนหรือหลายล้านนายได้แต่แค่กองทหารที่มี
จํานวนหนึ่งหมื่นนายก็ไม่ใช่สิ่
งที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่
งสําหรับหลงซื่อหยา ด้วยทักษะธาตุทั
้
ง 6 ของเขาและศาสตร์การ
ควบคุมทักษะขั
้
นสูงสุดทั
้
ง 6 นั่
นทําให้เขาสามารถเลียนแบบและ
ปลดปล่อยทักษะได้มากมาย และเมื่อไม่มีระยะฟื้ นทักษะ การสังหาร
กองทหารหมาป่าจํานวนมากก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงมากนัก นั่
นเป็น
เหตุผลว่าทําไมเซินจี้และเซินปู้จึงวางเหตุผลที่กองพันไร้พ่ายเอาชนะ
มาได้ไว้บนไหล่ของหลงซื่อหยา เนื่องจากยอดฝีมือระดับมหาราชา
สวรรค์มีความสามารถเช่นนั้
นอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดหลงซื่อหยาและต้วนเทียนหลางกลับเป็น
คนที่ตกใจมากที่สุดเมื่อพวกเขาได้เห็นกองพันไร้พ่าย ไม่ใช่แค่ระดับ
พลังที่น่าประทับใจ แต่ยังรวมถึงการเตรียมการ ยุทธวิธีและกลยุทธ์
ของพวกเขาด้วย
นี่เป็นกองพันพลธนูทั้
งหมด…อยู่นอกเหนือจากหลักการเดิมๆ
อย่างแท้จริง ทั
้
งกองทัพที่ไม่มีความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิด
เลย และมีเพียงการโจมตีระยะไกลเท่านั้
น สิ่
งนี้ฟังอย่างไรก็ดูเป็นไป
ไม่ได้แม้แต่น้อย จะเกิดอะไรขึ้
นถ้าศัตรูของพวกเขามาถึงตัว ไม่ใช่ว่าจะ
ถูกกําจัดได้ง่ายๆหรือ? หากไม่มีทหารที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะใกล้
เพื่อปกป้องพวกเขา นักธนูจะปลดปล่อยพลังได้มากแค่ไหน?
……………………………………………………..