Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 152 สถานะปีศาจกลายร่างระดับสูงสุด! (1)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 152 สถานะปีศาจกลายร่างระดับสูงสุด! (1)
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลงซื่อหยาและต้วนเทียนหลางก็ต้อง
ประหลาดใจ ประการแรกคือความสามารถในการจู่โจมสังหารของพล
ธนูกองพันไร้พ่าย
เมื่อเห็นพลธนูแถวแล้วแถวเล่ายิงลูกศรออกไปด้วยความเร็วดุจ
สายฟ้า หลงซื่อหยาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทหารทั้
งหมดนับพันนายในกอง
พันไร้พ่ายล้วนแล้วแต่เป็นจ้าวมณี!
สําหรับยอดฝีมือเช่นหลงซื่อหยา จ้าวมณีธรรมดาแทบจะไม่ต่าง
อะไรจากคนทั่
วไป เป็นเพียงแค่มดปลวกตัวจ้อยเมื่อเปรียบเทียบกับเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีจ้าวมณีธรรมดากว่าพันคนรวมตัวกัน พลังแท้จริงที่
พวกเขาสามารถเค้นออกมาได้ก็ต้องน่าตกใจอย่างแน่นอน ห่าลูกศรที่
ยิงใส่กรมทหารหมาป่าเท้าเร็วนั้
นเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างแท้จริง
สิ่
งที่น่าประหลาดใจลําดับต่อมาคือยุทธวิธีที่พวกเขาใช้แนว
กําแพงไฟที่ถูกเตรียมไว้สามารถสกัดกั้
นการโจมตีของศัตรูได้อย่างมี
ประสิทธิภาพในขณะที่จัดการเหล่าทหารระดับสูงของศัตรูความ
โหดเหี้ยมของโจวเหว่ยชิงและวิธีที่เขาสามารถสกัดกั้
นจ้าวมณีสวรรค์
ระดับมณี9 ชุดได้ด้วยตัวเอง… ทั
้
งหมดนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่หลงซื่อหยา
คาดไว้โดยสิ้
นเชิง เดิมทีเขาไม่ได้พอใจกับความจริงที่ว่าโจวเหว่ยชิงมี
ทักษะกักเก็บจํานวนมาก แต่เมื่อได้เห็นเด็กหนุ่มลงมือด้วยพลังเต็มที่
จริงๆ เขาก็รู้ว่าด้วยความช่วยเหลือของสถานะปีศาจกลายร่างและการ
พลิกแพลงผสานทักษะเหล่านั
้
นอย่างเหมาะสม โจวเหว่ยชิงจะสามารถ
ใช้ประโยชน์จากทักษะธาตุจํานวนมากของเขาได้อย่างเต็มที่ เด็กคน
นั
้
นอาศัยที่คู่ต่อสูเประเมินเขาต�าเกินไปเพื่อสร้างความประหลาดใจ
และปลดปล่อยพลังที่ยิ่
งใหญ่ที่สุดออกมาในช่วงเวลาสั้
นๆ
เวลานั
้
นหลงซื่อหยาก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่ากองพันไร้พ่ายจะ
ประสบความสําเร็จในตอนสุดท้าย เพราะถึงอย่างไรกองทหารหมาป่าก็
ยังคงมีจํานวนมากกว่า 8,000 นายและเริ่
มเดินทางอ้อมกําแพงไฟแล้ว
เมื่อพวกเขาเข้าไปประชิดตัวได้สําเร็จ แม้ทหารกองพันไร้พ่ายทั้
งหมด
จะเป็นจ้าวมณีแต่ส่วนใหญ่อยู่ระดับมณี1 ดวงเท่านั
้
นและอาจมีเพียง
ไม่กี่คนที่มี2 ดวงขึ
้นไป เมื่อเผชิญหน้ากับการจู่โจมของกองทหารหมา
ป่าที่ทรงพลัง แน่นอนว่าฝ่ายนั
้
นย่อมสามารถเข้ายึดพื้นที่ได้ด้วย
พละกําลังที่แข็งแกร่งกว่า
เป็นอีกครั้
งที่ความคิดของหลงซื่อหยาได้รับการพิสูจน์ว่าผิดพลาด
อย่างรวดเร็วเมื่อเขาได้เห็นนักรบอากาศไร้พ่ายจํานวน 300 นาย
ปรากฏตัวขึ
้
นบนท้องฟ้า เวลานั
้
นมีเพียงความตกตะลึงและความชื่นชม
หลงเหลืออยู่ในแววตาของหลงซื่อหยา ความคิดสุดโต่งแบบไหนกันที่
กล้าดึงศักยภาพแฝงในตัวทหารออกมาเช่นนี้! ทันใดนั้
น หลงซื่อก็
ตระหนักได้ทันทีว่าโจวเหว่ยชิงน่าจะได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์
ศาสตรามณียุทธ์บางคน ไม่เช่นนั้
นเขาคงไม่อาจหาม้วนคัมภีร์จํานวน
มากเพื่อสร้างกองทัพแบบนี้ได้
กองกําลังอากาศไร้พ่าย ลูกศรและหอกของพวกเขาไม่เพียงแต่มี
ประสิทธิภาพสูงในการใช้สังหารศัตรูเท่านั้
น พวกมันยังสามารถช่วยซื้อ
เวลาให้สหายล่าถอยได้อย่างปลอดภัย ในท้ายที่สุดกรมทหารหมาป่า
เท้าเร็วก็ไม่กล้าไล่ตามพวกเขาและต้องล่าถอยกลับไปเลียบาดแผล
ตนเองเพราะสูญเสียกําลังพลไปอย่างน่าสะพรึงกลัวกว่า 4 ใน 10 ส่วน
ชนะอย่างราบคาบ ไม่มีคําอื่นใดที่สามารถอธิบายได้แล้ว นี่เป็นชัย
ชนะอันแท้จริงของกองกําลังที่ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อมาก่อน กองกําลังที่
สามารถโจมตีได้ทุกระยะ ทั
้
งแผนการ กลยุทธ์ความแข็งแกร่งส่วน
บุคคล ในการต่อสู้ทั้
งหมดนี้อาจกล่าวได้ว่าทั้
ง 3 ข้อล้วนมีบทบาท
สําคัญของตัวเอง และกองพันไร้พ่ายก็ได้เค้นจุดแข็งของตนออกมาใช้
จนถึงขั
้
นสูงสุด และสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้อย่างราบคาบ
หลงซื่อหยารู้จากตัวโจวเหว่ยชิงว่าเขาอยู่ที่ชายแดนทางเหนือมา
ประมาณครึ่งปีแล้ว ในช่วงครึ่งปีนี้เด็กหนุ่มสามารถสร้างกองทัพและ
ทําให้พวกเขาเติบโตได้มากขนาดนี้… ถ้าเขาได้รับเวลามากพอจริงๆ
กองพันไร้พ่ายจะกลายเป็นเช่นไรในท้ายที่สุดกันนะ? พวกเขาจะยิ่
งน่า
แข็งแกร่งจนน่ารังเกียจมากกว่านี้ใช่ไหม? ทันใดนั้
นหลงซื่อหยาก็รู้สึก
ราวกับว่าเขาเกิดความคาดหวัง นั่
นเป็นสิ่
งที่เขาไม่เคยรู้สึกมาหลายสิบ
ปีแล้ว ที่สําคัญไปกว่านั้
น ผู้บัญชาการกองพันไร้พ่ายคนนี้ยังเป็นศิษย์
ของเขาเอง!
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หลงซื่อหยาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในสถานที่
อันห่างไกล เรียนรู้ต่อสู้และอยู่ด้วยลําแข้งตัวเองบนโลกกว้าง กระนั
้
น
เมื่อเขาได้เห็นกองพันไร้เทียมทานของโจวเหว่ยชิงต่อสู้ด้วยกันในสนาม
รบ ทันใดนั้
นหลงซื่อหยาก็รู้สึกราวกับว่าการบังคับบัญชาทหารในสนาม
รบนั
้
นเป็นสิ่
งที่น่าสนใจจริงๆ ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดที่จะช่วยเหลือศิษย์
ของเขาปรับปรุงกองพันไร้พ่ายและทําให้ทหารพวกนี้แข็งแกร่งขึ้
น
“ทหารเพียง 5 – 6,000 นายนี่น้อยเกินไปหรือเปล่า? ถึงอย่างไร
เจ้าก็จะต้องเผชิญหน้ากับหนึ่งในอาณาจักรใหญ่ของแผ่นดิน แม้ว่า
อาณาจักรป่ายต้าจะเทียบเคียงกับอาณาจักรระดับบนสุดอย่างจ้งเทียน
ไม่ได้แต่กองทัพของพวกเขาก็ยังมีจํานวนอย่างน้อย 500,000 นาย
หรือมากกว่านั
้
น นอกจากนี้ก็ยังไม่ควรดูถูกจํานวนยอดฝีมือที่พวกเขามี
ด้วยคนเพียงไม่กี่พันคนที่เจ้าวางแผนไว้ข้าเกรงว่ามันจะไม่เพียงพอ
สําหรับต่อสู้กับทั
้
งอาณาจักรเช่นนั
้
น” หลงซื่อหยากล่าว
โจวเหว่ยชิงหัวเราะอย่างเต็มที่และกล่าวว่า “ถ้าเป้าหมายของข้า
คือการโค่นล้มพวกเขา มันก็คงไม่เพียงพอ แต่หากแค่พยายามสร้าง
ความเสียหายหรือทําร้ายพวกเขา ข้าก็รู้สึกว่ามันเพียงพอแล้ว อันที่จริง
พวกเขามีทหารมากมาย แต่จํานวนจะมีประโยชน์อะไรถ้าทหารพวก
นั
้
นมีแต่ผ้าขี้ริ้
วเก่าๆ? ไม่ว่ากระต่ายจะรุมสิงโตสักกี่ตัวก็ไม่สามารถฆ่า
มันได้ข้อดีของจํานวนคนน้อยคือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและสามารถ
ยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา ท่านได้เห็นด้วยตัวเองแล้วว่ากองพันไร้พ่ายของ
ข้าอาศัยต่อสู้ระยะไกลเป็นหลัก…และเหตุผลแท้จริงที่ข้าวางแผนมอบ
ปีกศาสตรามณียุทธ์ให้กับพวกเขาก็เพราะหากพบศัตรูที่ไม่สามารถ
จัดการ ทหารก็จะสามารถหลบหนีไปได้ในขณะเดียวกัน เราก็สามารถ
เลือกสถานที่ที่เราต้องการต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย สามารถสลับสับเปลี่ยน
สนามรบได้ตามต้องการด้วยความคล่องตัวที่แท้จริงของเรา ในวันเดียว
พวกเราสามารถไปปรากฏตัวในสถานที่หลายแห่งเพื่อต่อสู้ได้ในกรณี
เช่นนี้ตราบใดที่อาณาจักรป่ายต้าไม่มีกองทหารเหมือนเรา มันก็เป็นไป
ไม่ได้ที่เลยพวกเขาจะหยุดยั้
งหรือกวาดล้างพวกเรา”
หลงซื่อหยากล่าวว่า “แล้ว…เจ้ามีแผนจะฝึกคนเหล่านี้ต่อไป
อย่างไรในอนาคต?”
โจวเหว่ยชิงตอบว่า “ผู้บัญชาการกองพลเซินจี้ได้สัญญาไว้แล้วว่า
จะส่งกองพันนักเลงจากกองทัพภาคเหนือที่เหลือมาให้ข้า และข้าก็คาด
ว่านั่
นจะทําให้จํานวนรวมของเรามากกว่า 4,000 หรืออาจจะเป็น
5,000 นาย นั่
นเป็นจํานวนที่เพียงพอต่อความต้องการของข้าแล้ว สิงที่ ่
จะตามมาคือการหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มทหารที่ยอดเยี่ยม
ไม่ใช่เก่งเพียงแค่คนเดียว ข้าต้องทําให้แน่ใจว่าผลประโยชน์ทั้
งหมด
ของพวกเขาจะเกี่ยวพันกับข้า และยังต้องปรับปรุงความแข็งแกร่งของ
พวกเขาอยู่เสมอ เมื่อการทํางานเป็นกลุ่ม ขวัญกําลังใจของพวกเขามี
มากขึ
้
น และสามารถต่อสู้ร่วมกันได้ดีแล้ว ต่อไปเป้าหมายหลักต่อไป
ของเราก็จะเป็นการปรับปรุงความแข็งแกร่งของทุกๆคน ถ้าวันหนึ่ง
ทหารกองพันไร้พ่ายของข้าสามารถก้าวไปถึงจุดสุดยอดของการเป็น
จ้าวมณียุทธ์หรือมณีธาตุได้ทุกคน ข้าก็จะสามารถกวาดล้างอาณาจักร
ใดๆได้อย่างง่ายดาย”
หลงซื่อหยาตรวจสอบโจวเหว่ยชิงอย่างใกล้ชิดครู่หนึ่ง ทว่าภายใน
สายตาของเด็กหนุ่ม หลงซื่อหยากลับไม่เห็นความทะเยอทะยานใดๆ มี
เพียงจิตวิญญาณการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเท่านั
้
น อันที่จริงโจวเหว่ยชิง
ไม่ใช่คนที่มีความทะเยอทะยานมากนัก สิ่
งที่เขาต้องการก็คือทําให้
อาณาจักรของตนฟื้ นคืนกลับมา ทว่าคนอย่างโจวเหว่ยชิง หากต้องทํา
สิ่
งที่ตั้
งเป้าไว้ให้สําเร็จอย่างแท้จริง บางทีตอนสุดท้ายเขาก็อาจจะ
กลายเป็นตํานานในแบบฉบับของตนเอง…
“อ้วนน้อย จงเดินหน้าตามแผนของเจ้าต่อไป อาจารย์จะสนับสนุน
เจ้าเอง ในโลกนี้ตราบใดที่เจ้ากล้าคิดและพยายาม โอกาสก็จะเกิดขึ้
น
ได้เสมอ ใครจะรู้ไม่แน่ว่าอีกหลายสิบปีถัดไป เจ้าอาจสร้างมหาดินแดน
ศักดิ
์
สิทธิ
์
ขึ
้นมาอีกแห่งก็เป็นได้”
มหาดินแดนศักดิ
์
สิทธิ
์
? เมื่อได้ยินถ้อยคําเหล่านั้
น โจวเหว่ยชิงก็
ชะงักไป เด็กหนุ่มไม่คิดมาก่อนว่าอาจารย์ของเขาจะคาดหวังในตัวเขา
สูงเช่นนั
้
น เมื่อเห็นใบหน้ายิ้
มระรื่นของหลงซื่อหยา โจวเหว่ยชิงก็อด
ไม่ได้ที่จะยิ
้
มและพูดว่า “แหะๆ อาจารย์ถ้าข้าจะสร้างมหาดินแดน
ศักดิ
์
สิทธิ
์
แห่งใหม่จริงๆ ท่านก็จะกลายเป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้
งที่
ยิ่
งใหญ่!”
“ ฮ่าๆๆๆๆ!” หลงซื่อหยาอาจไม่ได้ใช้เวลากับโจวเหว่ยชิงมากนัก
แต่เมื่อเทียบกับหลายๆคนที่อยู่กับเขามาเป็นเวลานาน ชายชราเข้าใจ
อันธพาลน้อยคนนี้เป็นอย่างดี
“ยกยอข้าแบบนั
้
น เจ้ากําลังพยายามจะหลอกใช้ข้าอีกแล้วใช่ไหม?
อย่าแม้แต่จะคิดเชียว! เมื่อข้าบอกว่าจะสนับสนุนเจ้า มันย่อมเกี่ยวกับ
การสนับสนุนทางศีลธรรมและจิตวิญญาณ ไม่ใช่ทางวัตถุเจ้าเด็ก
เหลือขอตัวน้อย ข้ามอบโชคลาภทั้
งชีวิตให้เจ้าไปแล้ว เจ้าไม่ควรใช้มัน
หมดในคราวเดียว การบํารุงกองทัพขนาดใหญ่ด้วยสิ่
งนั
้
นอาจเป็นไป
ไม่ได้แต่การที่จะเลี้ยงดูคน 5,000 คนของเจ้าไว้ไม่กี่สิบปีย่อมไม่ใช่
ปัญหา
โจวเหว่ยชิงรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย เขาพูดด้วยน�าเสียงราบเรียบ
“อาจารย์ข้าไม่ได้จะขอเงินจากท่าน ถึงอย่างไรท่านก็ให้ข้ามามากเกิน
พอแล้ว แต่ก็อย่างที่ท่านเห็น แม้ว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของกองพัน
ไร้พ่ายจะถือว่าพอใช้ได้แต่เราก็ยังขาดยอดฝีมือที่แท้จริงอยู่มาก
ตอนนี้ข้ามีจ้าวมณีสวรรค์สองสามคนที่เพิ่
งปลุกพลังขึ
้
นมา แต่พวกเขา
ก็ยังอยู่ในระดับมณี1 ชุด อย่างไรก็ตาม ศักยภาพแฝงของพวกเขาอาจ
ถือว่าสูงที่สุดในบรรดาคนทั้
งกองพัน… หากอาจารย์สามารถให้
คําแนะนําแก่พวกเขาได้คนเหล่านี้ก็จะได้รับประโยชน์จากท่านไป
ตลอดชีวิต”
หลงซื่อหยากล่าวอย่างโกรธเคือง “ข้าเพิ่
งรู้ว่าเด็กเหลือขออย่าง
เจ้านิสัยดีขนาดนั
้
น! แม้ว่าทหารเหล่านั
้
นจะเป็นจ้าวมณีสวรรค์แต่พวก
เขาก็มีอายุมากกว่าเจ้า และมณีสวรรค์ของพวกเขาก็เพิ่
งถูกปลุกขึ
้
นมา
ไม่มีความหวังที่พวกเขาจะฝ่าระดับราชาสวรรค์ไปได้อย่างแน่นอน นี่
เจ้ากําลังพยายามทําให้ข้าเสียแรงเปล่าหรือไง?”
โจวเหว่ยชิงหัวเราะเต็มตาและพูดว่า “เพียงแค่คําแนะนําในบาง
จุดที่ง่ายๆเท่านั้
น…แม้ว่าท่านอยากจะสอนพวกเขาอย่างจริงจัง ข้าก็คง
จะเป็นหนึ่งคนที่ไม่เต็มใจ! ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าสามารถเป็นลูกศิษย์แสน
ขี้อิจฉาได้!”
หลงซื่อหยาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง “เอาล่ะ ข้าเข้าใจ
แล้ว คําแนะนําง่ายๆ? เจ้าต้องการให้ข้าทําเช่นนั้
นจริงๆน่ะหรือ? แล้ว
ตัวเจ้าล่ะ? นอกจากนี้ยังมีเด็กหญิงตัวน้อยจากวังสวรรค์ไพศาลด้วย
เจ้าสองคนก็มากเกินพอที่จะสอนพวกเขาแล้ว”
ในขณะที่เขาพูดถึงจุดนั้
น หลงซื่อหยาก็เริ่
มจริงจังมากขึ
้
น เขาพูด
อย่างเคร่งขรึม “เหว่ยชิง มีสิ่
งหนึ่งที่ข้าต้องเตือนเจ้า การสร้างกองทัพ
แบบนี้ขึ้
นมา เจ้าอาจจะต้องพบกับปัญหา… นั่
นคือความอิจฉาริษยา”
“ความอิจฉาริษยา?” โจวเหว่ยชิงชะงักไป “ท่านหมายถึงอะไร
หรืออาจารย์? ทําไมต้องอิจฉาด้วยล่ะ?”
หลงซื่อหยากล่าวอย่างเคร่งขรึม “เจ้ารู้เหตุผลแท้จริงว่าทําไม
นิกายปีศาจสวรรค์จึงถูกเลือกปฏิบัติและปราบปรามอย่างหนักจากมหา
ดินแดนศักดิ
์
สิทธิ
์
แห่งอื่นๆเสมอหรือไม่? เจ้าคิดว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่
สามารถควบคุมสถานะปีศาจกลายร่างได้หรือชั่
วร้ายโดยเนื้อแท้หรือ?
ในโลกนี้มีกฎหนึ่งที่คงที่เสมอ ผู้ชนะคือคนดีและผู้แพ้มักจะกลายเป็น
ฝ่ายชั่
วร้าย แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพลังมีแนวโน้มว่าจะเอนเอียงไปทาง
ฝ่ายที่ชั่
วร้าย? หมายความว่าคนที่มีทักษะธาตุปีศาจไม่สามารถทํา
ความดีได้หรือ? หรือในทางกลับกัน เหตุผลที่แท้จริงว่าทําไมนิกาย
ปีศาจสวรรค์จึงถูกปราบปรามในระดับนี้มาโดยตลอด ทําให้พวกเขา
กลายเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดของมหาดินแดนศักดิ์
สิทธิ
์
และไม่เคยได้โงหัว
ขึ
้นมาได้เลย…นั่
นเป็นเพราะสถานะปีศาจกลายร่างทรงพลังเกินไป มี
พลังมากจนกระทั่
งบรรดามหาดินแดนศักดิ
์
สิทธิ
์
อีก 4 แห่งต่างอิจฉามัน
ไม่เพียงแค่อิจฉา แต่ยังกลัวด้วยว่าหากนิกายปีศาจสวรรค์เติบโตขึ
้
นจน
เหนือกว่าพวกเขา ฝ่ายนั
้
นจะเหยียบที่พวกเหลือไว้ใต้ฝ่าเท้า”
“หลักการเดียวกันนี้ย่อมสามารถนํามาใช้กับตําแหน่งปัจจุบันของ
เจ้าได้ด้วยการสร้างกองทัพจ้าวมณีทั
้
งหมดหลายพันคน… เจ้าคิดว่านั่
น
จะไม่สร้างความกลัวและสลักความริษยาลงในจิตใจของผู้อื่นจริงๆ
หรือ? ทันทีที่ทหารของเจ้าก้าวผ่านไปสู่จุดที่แข็งแกร่งจนยากจะต้าน
มันจะนํามาซึ่งความอิจฉาริษยาในใจของผู้อื่นมากขึ้
น และจะยิ่
ง
เพิ่
มพูนขึ
้นมากเรื่อยๆ อันที่จริงมีเพียงวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหานี้”
“วิธีอะไรหรือขอรับ?” เมื่อได้ยินคําพูดของหลงซื่อหยา ความ
หวาดกลัวก็ตรงเข้าเกาะกุมหัวใจของโจวเหว่ยชิง คําพูดของอาจารย์
กระแทกใจของเขาอย่างแท้จริง และเด็กหนุ่มก็รู้ว่านี่เป็นคําเตือนจาก
ประสบการณ์ของอาจารย์เป็นเรื่องจริงที่เขาไม่เคยคํานึงถึงมาก่อน
ประกายแสงเจิดจ้าวาบผ่านเข้ามาในดวงตาของหลงซื่อหยาและ
เขาก็กล่าวว่า “อย่างที่โบราณเคยกล่าวไว้มีเพียงคนไร้ประโยชน์
เท่านั
้
นที่จะไม่ทําให้คนอื่นเกิดความริษยา วิธีแก้ปัญหาอาจง่าย แต่ก็ไม่
ง่ายซะทีเดียว เจ้าในฐานะผู้นําและกําลังหลักของกองพันไร้พ่าย…ต้อง
มีพลังแข็งแกร่งเพียงพอ มีเพียงเมื่อวันหนึ่งพลังของเจ้าไปถึงระดับของ
ข้าหรือสูงกว่านั
้
น กองพันไร้พ่ายจึงจะสามารถกลายเป็นมหาดินแดน
ศักดิ
์
สิทธิ
์
ได้อย่างแท้จริง”
โจวเหว่ยชิงยิ้
มและกล่าวว่า “ทําไมอาจารย์ไม่ขึ้นเป็นผู้นําเลยล่ะ
ขอรับ เป็นดั่
งสัญลักษณ์และยอดฝีมือของเรา ถึงอย่างไรท่านก็สามารถ
เป็นผู้นําของมหาดินแดนศักดิ์
สิทธิ
์
ได้เช่นกันนี่นา!”
หลงซื่อหยามองไปที่ศิษย์ตัวน้อยของเขาด้วยความปวดหัว
เล็กน้อย “เจ้าคิดตื้นเขินเกินไปแล้ว ข้าได้มองลึกเข้าไปในตัวเจ้า เด็ก
น้อย เจ้าไม่มีความทะเยอทะยานในตัวเลย ถ้าไม่ใช่เพราะความจริง
ที่ว่าบ้านของเจ้า อาณาจักรของเจ้าและครอบครัวของเจ้ามีเรื่อง
เลวร้ายเกิดขึ
้
นกับพวกเขา ข้าคงเดาว่าอย่างมากเจ้าก็แค่ฝึกปราณด้วย
ตัวเองเท่านั
้
น ไม่ใช่พยายามสร้างกองทัพเช่นนี้แน่”
โจวเหว่ยชิงเกาหัวอย่างอายๆและพูดว่า “ก็อย่างที่อาจารย์บอก
นั่
นแหละ …ข้าแค่หวังว่าจะสามารถฟื้ นฟูอาณาจักรบ้านเกิดของข้าให้
แข็งแกร่งขึ้
นในระดับมากพอเท่านั้
น”
หลงซื่อหยากล่าวต่อ “เอาล่ะ เจ้าเข้าใจหลักการและอันตรายทั้
ง
หมดแล้ว เช่นนั
้
นจึงไม่จําเป็นต้องพูดมากอีกต่อไป เหตุผลที่ข้าเอ่ยถึง
เรื่องทั้
งหมดนี้ก็เพื่อให้เจ้าทํางานหนักขึ้นและพัฒนาตัวเองให้เร็วที่สุด
เท่าที่จะทําได้ก่อนอายุ30 เจ้าจะต้องฝ่าด่านราชาสวรรค์ให้สําเร็จ
เพียงเท่านั
้
น เจ้าก็มีเวลามากพอให้รับมือกับความยากลําบากในการฝึก
ปราณหลังไปถึงระดับราชาสวรรค์”
โจวเหว่ยชิงพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว
หลงซื่อหยาเอ่ยต่อ “จากนี้ไปเจ้าจะฝึกฝนภายใต้คําแนะนําของข้า
เป็นเวลา 16 ชั่
วโมง และอีก 8 ชั่
วโมงที่เหลือจะให้เจ้าได้พักผ่อนหรือ
จัดการกับกองพันไร้พ่ายของเจ้า”
“16 ชั่
วโมง!?” โจวเหว่ยชิงจ้องไปที่หลงซื่อหยาพลางอ้าปากค้าง
คิดกับตัวเองว่านี่มันมากเกินไปแล้ว! ถึงอย่างไรเขาก็ต้องเรียนรู้จาก
อาจารย์มันก็ไม่ใช่แค่การทําสมาธิและการฝึกฝนแบบง่ายๆ แม้ว่าโจว
เหว่ยชิงจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกที่ยากลําบากเช่นนี้มาก่อน
เมื่อครั้
งเขาฝึกอัดทักษะ 3,000 ครั
้
ง แต่มันก็เป็นเพราะเขาถูก
สถานการณ์บีบบังคับต่างหาก แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้
นก็ดูเหมือนว่า
อาจารย์กําลังบอกว่าเขาต้องทําเช่นนี้ต่อไปเพื่ออนาคตที่ใกล้จะมาถึง
……………………………………