Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 153 พี่น้องซ่างกวน! (2)
หลังจากผ่านช่วงเวลาใกล้ชิดในกระโจมเมื่อคืนนั้น ซ่างกวนเฟย เอ๋อร์ก็ยังคงหน้าแดงก�าและรู้สึกว่าผิวของตนเองเห่อร้อนขึ้นทุกครั้งที่ คิดถึงเรื่องนี้ สิ่งที่ทําให้หญิงสาวซึ้งใจมากยิ่งขึ้นคือคําพูดที่โจวเหว่ยชิง เอ่ยกับเธอ ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์รู้ได้อย่างชัดเจนว่ากําแพงของตนเอง กําลังทรุดลงเรื่อยๆในทุกๆวัน และใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่มันจะพังทลายลง โดยสิ้นเชิง แต่…แล้วปิงเอ๋อร์ล่ะ!
เมื่อหญิงสาวเปิดผนังกระโจมและก้าวเข้าไป เธอก็ต้องหยุดชะงัก ในทันทีเนื่องจากสัมผัสสิ่งผิดปกติได้อย่างกะทันหัน นั่นฉุดหญิงสาว ออกจากภวังค์และสายตาที่เลื่อนลอยของเธอก็กลับมากระจ่างชัดอีก ครั้งอย่างรวดเร็ว ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ตะคอกออกมา “ใครน่ะ?”
เธอยังไม่ได้ปลดปล่อยศาสตรามณียุทธ์ แต่พลังปราณสวรรค์ก็ถูก หมุนเวียนออกมาถึงระดับสูงสุดในทันที ขณะเดียวกัน หญิงสาวก็ก้าว เข้าไปในกระโจมและตั้งท่าป้องกัน พร้อมจะเข้าสู่การต่อสู้ได้ทุกเมื่อ
“เข้ามา” น�าเสียงเย็นชาที่พร้อมกับความกรุ่นโกรธดังออกมาเบาๆ ภายในหูของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์
มันเป็นน�าเสียงที่คุ้นเคยมาก เสียงที่หญิงสาวเคยได้ยินมาตลอด ชีวิตและเป็นเสียงที่ทําให้หัวใจของเธอร่วงไปกองอยู่ที่พื้น หากจะถาม ว่าผู้ใดที่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้ก็คงต้องเป็นซ่าง กวนปิงเอ๋อร์ ส่วนลําดับถัดไปก็คงจะเป็นเจ้าของเสียงนี้
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก้าวเข้าไปในกระโจมอย่างรวดเร็วและมองเห็น ร่างที่ดูเหมือนตนเองในชุดเครื่องแบบกองทัพจ้งเทียนได้ทันที คนๆนั้น คือซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ เธอยืนอยู่ตรงกลางกระโจมด้วยสภาพภายนอกที่ดู เหมือนกับตนเองทุกประการ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือใบหน้า ที่ดูเยือกเย็นของอีกฝ่าย แม้แต่ดวงตาก็มีความเย็นชาและความโกรธ เกรี้ยวในขณะที่มองตรงไปยังซ่างกวนเฟยเอ๋อร์
“พี่ใหญ่ ทําไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?” แม้แต่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็ยัง สามารถสัมผัสน�าเสียงสั่นระริกของตนเองได้อย่างชัดเจน
“ทําไมข้าถึงมาที่นี่? เจ้าคิดอย่างไรล่ะ? หากไม่มาเร็วกว่านี้ เกรงว่า เจ้าจะกระทําบางอย่างให้ปิงเอ๋อร์ผิดหวังแล้ว ข้าพูดถูกหรือไม่?” เสียง ของซ่างกวนเสว่เอ๋อร์เต็มไปด้วยความโกรธ นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่างกวน เฟยเอ๋อร์เห็นอีกฝ่ายเป็นเช่นนี้
ทั้งสามคนเป็นฝาแฝดกัน เนื่องจากซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไม่ได้เติบโตมา พร้อมกับทั้งคู่ ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์และซ่างกวนเสว่เอ๋อร์จึงสนิทสนมกัน มาก แม้ว่าอายุของพวกเธอจะห่างกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ซ่างกวนเสว่
เอ๋อร์ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ว่าจะเกิดอะไร ขึ้น เธอก็มักจะหลีกทางให้ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เสมอ แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่ สําคัญ หากซ่างกวนเสว่เอ๋อร์โกรธ ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็จะเชื่อฟังเธอ อย่างไม่มีข้อแม้ อาจกล่าวได้ว่าในวังสวรรค์ไพศาล แม้แต่สองพี่น้อง อย่างซ่างกวนเทียนหยางและซ่างกวนเทียนเยว่ก็ไม่สามารถควบคุม ปีศาจน้อยได้ และมีเพียงพี่สาวของเธอเท่านั้นที่ทําให้ซ่างกวนเฟยเอ๋ อร์หวาดกลัว ทว่าเธอไม่หวาดกลัวในพลังของซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ แต่เป็น การที่ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์เพิกเฉยกับเธอและเริ่มก่อสงครามเย็นต่างหาก
ในอดีตที่พวกเธอเติบโตมาด้วยกันในวังสวรรค์ไพศาล ไม่ว่าจะเป็น การโต้เถียงที่เลวร้ายแค่ไหน ทั้งคู่ก็จะทําเพียงเข้าสู่สงครามความเงียบ เท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ต่อว่าซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ โดยตรง
“พี่สาว ท่านกําลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่หรือ!” แม้ว่าซ่างกวนเฟย เอ๋อร์จะปฏิเสธ แต่หัวใจของเธอก็เริ่มเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่
ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์แค่นเสียงและพูดว่า “ข้ากําลังพูดถึงอะไร? เมื่อ คืนข้าได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ข้ายังต้องพูดอะไรอีกหรือไม่?”
“คนเมื่อคืน…เป็นท่านหรือ?” ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ตระหนักได้ ในทันที ราวกับว่าเธอถูกราดด้วยน�าเย็นจัด ถัดมาใบหน้าของหญิงสาวก็ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก�าโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทําให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่าคือใบหน้าของซ่าง กวนเสว่เอ๋อร์ก็กลายเป็นสีแดงเช่นกัน
สิ่งที่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ไม่รู้ก็คือในฐานะฝาแฝด ภายใต้ความ ใกล้ชิดเช่นเมื่อคืนที่ผ่านมา มันได้กระตุ้นให้ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์เกิด อารมณ์ร่วมไปด้วย เธอสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าซ่างกวนเฟย เอ๋อร์รู้สึกอย่างไรและมีความสุขในขณะที่เธอกําลังสนิทสนมกับโจว เหว่ยชิงอย่างไร เช่นเดียวกับความรู้สึกตื่นเต้นที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยัง เป็นเพราะนั่นเป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เธอจึงรีบหนี ออกไปจากฉากนั้นอย่างรวดเร็วแทนที่จะแสดงตัวออกไปในเวลานั้น ตอนนี้เมื่อเห็นน้องสาวยืนอยู่เบื้องหน้า จู่ๆซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ก็จําสิ่งที่ได้ เห็นและสัมผัสเมื่อคืน นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เกิดบนเกาะมณีสวรรค์ วันนั้น วันที่หญิงสาวจะไม่มีวันลืม จูบที่ทําให้ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ต้องขบ ฟันความโกรธ นั่นคือจูบแรกของเธอ!
“พี่ ข้าผิดไปแล้ว…” ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก้มหน้าลงด้วยความอับอาย หากเหล่าทหารที่น่าเกรงขามของกองพันนักเลงเห็นภาพเช่นนั้น ขากรรไกรของพวกเขาก็จะร่วงลงไปอยู่ที่พื้น
นี่ยังเป็นครูฝึกผู้กล้าหาญและดุร้ายของพวกเขา คนที่คอยซัดหน้า ใครก็ตามที่ก่อปัญหาอยู่หรือไม่!
สีหน้าของซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ถึงอย่างไร ความสัมพันธ์ของเธอกับซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็ใกล้ชิดกันมาก ในอดีตทุก ครั้งที่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ทําอะไรผิดพลาดและถูกจับได้ เธอจะยอมรับ ความผิดและซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ก็จะให้อภัยเธอทุกครั้ง ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุย แบบเปิดอกกันมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อได้ฟังคําพูดที่คุ้นเคยเหล่านั้นจึง ทําให้ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์รู้สึกว่าหัวใจของเธอกําลังหลอมละลาย อย่างไร ก็ตาม…ครั้งนี้…เธอจะยังยอมให้อภัยง่ายๆอยู่อีกหรือ?
“เฟยเอ๋อร์ เจ้าไม่รู้หรือว่าตัวเองกําลังเล่นกับไฟ? เขาเป็นคน ของปิงเอ๋อร์! พวกเขากําลังจะแต่งงานกันแล้ว แต่… แต่…มันกลับ เกิดขึ้น เจ้าจะมีความสัมพันธ์กับเขาได้อย่างไร? มันยุติธรรมสําหรับปิง เอ๋อร์หรือ?” ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์หยุดชั่วขณะและขบริมฝีปาก แต่ในที่สุด เธอก็ควบคุมตัวเองและกัดฟันพูดต่อ
เมื่อได้ยินคําพูดของพี่สาว แก้มสีแดงชาดของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็ ซีดเผือด เธอกัดริมฝีปากของตนเองเบาๆ และพูดว่า “ข้าขอโทษ ท่าน พี่ จริงๆแล้ว…ข้ารู้ว่าข้าผิด แต่… แต่…ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ ข้า ไม่รู้ด้วยซ�าว่าข้าตกหลุมรักเขาเมื่อไหร่ ท่านพี่ ความรู้สึกและอารมณ์… มันไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมกันได้ง่ายๆ ตอนแรกที่ข้าตามหาโจวเหว่ยชิงก็ เพราะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเขา เพื่อแก้แค้นในส่วนของข้าและท่าน ด้วย ก็ใครขอให้เขาขโมยจูบแรกของเราไปล่ะ! อย่างไรก็ตาม เจ้าสาร เลวคนนั้นกลับดูเหมือนจะมีมนต์ลึกลับบางอย่างรอบๆตัวเขา ยิ่งข้าอยู่
กับเขานานเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งได้รับอิทธิพลจากสิ่งนั้น…จนไม่สามารถถอน ตัวออกมาได้ ข้า…”
ในขณะที่หญิงสาวพูดถึงจุดนั้น ดวงตาที่สวยงามของเธอก็เอ่อคลอ ไปด้วยหยดน�าตา ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยขณะที่กํามือแน่น
เมื่อมองเห็นภาพเช่นนั้น ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ไม่สามารถอดทนต่อไป ได้ แม้ว่าหญิงสาวจะทําตัวเป็นก้อนน�าแข็งบนฉากหน้าเสมอ แต่นั่นก็ เป็นเพียงการซ่อนเร้นหัวใจที่แสนอ่อนโยนของเธอ ความจริงแล้วใน บรรดาพี่น้องซ่างกวนทั้งสามคน ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์เป็นคนที่อ่อนโยน ที่สุด แต่เธอมักจะใช้ท่าทางเย็นชาของตนเองปกปิดความอ่อนโยนนั้น เมื่อเห็นน้องสาวตัวน้อยของตนเองเจ็บปวดและทรมาน หัวใจของผู้เป็น พี่ก็พลอยปวดร้าวไปด้วย
หญิงสาวเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว สวมกอดน้องสาวที่เริ่ม ร้องไห้ให้จมลงไปในอ้อมแขนของตนเอง
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโจว เหว่ยชิงเป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มาโดยตลอด ที่หญิง สาวทุ่มเทให้กับการฝึกทหารกองพันไร้พ่ายไม่ใช่เพียงเพราะสนุกกับมัน อย่างเดียว แต่ยังเป็นเพราะต้องการทําให้ตัวเองลืมและป้องกันไม่ให้คิด เกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เริ่มพยายามหลีกเลี่ยงโจว
เหว่ยชิง แต่ถึงแม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นเด็กหนุ่ม มันก็ยังเหมือนกับว่าเขา มีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทําให้ไม่สามารถหลีกหนีไปได้
เมื่อได้เห็นพี่สาวคนโตของตนเองในเวลานี้ ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ใน ใจก็พลันระเบิดออกมา และเมื่อทํานบเขื่อนพังทลาย น�าตาก็ไหล ออกมากระทั่งหยุดไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่ง ช่วงไหล่ของซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ เปียกชุ่มไปด้วยน�าตาของเธอ
เมื่อเห็นน้องสาวของเธอร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเช่นนี้ ซ่างกวน เสว่เอ๋อร์ก็ไม่สามารถเอ่ยคําตักเตือนที่ติดอยู่บนริมฝีปากของเธอได้อีก ต่อไป ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ลูบหลังน้องสาวเบาๆ กัดฟันและพูดว่า “เจ้า สารเลวโจวเหว่ยชิงคนนั้น ใกล้ชิดน้องสาวของข้าคนหนึ่งแล้วยังไม่ เพียงพอ กลับมาล่อลวงไปอีกคนเสียได้ ข้าอยากจะฆ่าเขาให้ตายใน ดาบเดียวจริงๆ”
“ไม่…ได้โปรด…” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสียงร้องไห้ของซ่างกวนเฟย เอ๋อร์ก็หยุดลง หญิงสาวจับร่างซ่างกวนเสว่เอ๋อร์อย่างรีบร้อนและเงย หน้าขึ้นด้วยความตกใจ
“เจ้า…” เมื่อมองไปเห็นอีกฝ่ายในสภาพแบบนั้น ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ ก็พูดอะไรไม่ออก “เฟยเอ๋อร์ เจ้าตกหลุมรักเขาจนยากจะช่วยเหลือ แล้ว”
ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์คิ้วขมวดแน่น เธอกําลังตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก หญิงสาวไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับน้องสาวทั้ง 2 คน อย่างไร เธอพบว่าคําพูดที่เตรียมจะกล่าวออกไปในตอนแรกกลับไม่ สามารถเอื้อนเอ่ยออกไปได้แล้ว หัวใจพลันปวดร้าวเพราะปิงเอ๋อร์และ ไม่ปรารถนาให้น้องสาวถูกพรากสามีไปจากอ้อมอก แต่ซ่างกวนเฟย เอ๋อร์ก็เป็นน้องสาวของเธอเช่นกัน! เธอจะทําร้ายน้องสาวคนหนึ่งเพื่อ อีกคนได้อย่างไร? นั่นเป็นสิ่งที่ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ไม่สามารถทําได้ ความ จริงหญิงสาวไม่ใช่คนที่ทะเยอทะยาน ในสายตาของเธอ แม้แต่ตําแหน่ง จ้าววังสวรรค์ไพศาลก็เทียบไม่ได้กับความสัมพันธ์ฉันท์ญาติพี่น้องและ ความรักในครอบครัว แม้กระทั่งเหตุผลที่เธอทุ่มเทฝึกปราณอย่างหนัก ก็เพื่อทําให้ลุงและพ่อของเธอมีความสุข ทําให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน และปกป้องพวกเขาจากการถูกทําร้าย
“ท่านพี่ ข้าจะทํายังไงดี? ข้าไม่สามารถปล่อยมือจากเรื่องนี้ได้ จริงๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่ข้าพยายามรวบรวมความ กล้าเพื่อทอดทิ้งเขาไป แต่ทุกครั้งที่ข้าพยายามจะก้าวขาออกจากค่าย ก็เกิดความรู้สึกสูญเสียขึ้นมาเช่นนั้น… ราวกับว่าในอกถูกฉีกกระชาก และข้าก็อดไม่ได้ที่จะเดินกลับไปที่เดิม ข้าชอบเขามาก แล้วก็ชอบกอง พันนักเลงที่พวกเรามีที่นี่ แม้ว่าแต่ทหารละคนจะมีข้อบกพร่องของ ตัวเอง แต่พวกเขาก็มีความจริงใจอย่างยิ่ง… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร พวก เขาก็จะแสดงออกมาทันที แม้ว่ามันอาจจะดูหยาบคายและไม่รื่นหู แต่
เมื่อเทียบกับวังสวรรค์ไพศาลของเราแล้ว พวกเขายังจริงใจกับข้า มากกว่า ข้าไม่อยากจากไปจริงๆ”
เมื่อมองไปที่สภาพน่าสงสารของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ ซ่างกวนเสว่ เอ๋อร์ก็ทําได้เพียงแค่นิ่งเงียบ แม้กระทั่งคําถามที่ว่าเธอจะทําอย่างไร ต่อไป ตัวของซ่างกวนเสว่เอ๋อร์เองก็ไม่รู้เช่นกัน!
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์พูดเบาๆ “ท่านพ่อขอให้ท่านมารับตัวข้ากลับไป หรือ?” ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ส่ายหัวและพูดว่า “ท่านพ่อขอให้ข้ามาเฝ้าดูโจว เหว่ยชิงเท่านั้น เขาไม่ได้ขอให้ข้าพาเจ้ากลับไป”
“จริงๆหรือ?” เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้น ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็ราวกับ ถูกฉีดยากระตุ้น เธอกระโดดพรวดขึ้นมาอย่างกะทันหันและอุทานว่า “เยี่ยมมาก นั่นยอดเยี่ยมสุดๆไปเลย! พี่สาว ท่านยอดเยี่ยมที่สุด!” ขณะที่กล่าว หญิงสาวก็ฉวยโอกาสจูบแก้มของซ่างกวนเสว่เอ๋อร์
ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์รู้สึกตกใจกับการจู่โจมจูบอย่างกะทันหัน หญิง สาวหน้าแดงเล็กน้อยและเอ่ยว่า “หยุดเถอะ แม้ว่าท่านพ่อจะไม่ได้ ขอให้ข้าพาเจ้ากลับไป แต่ข้าก็จะอยู่ที่นี่เพื่อจับตาดูเจ้าเช่นกัน ข้าอยู่ ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว…ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะยังถือว่าพอรับได้ แต่ต่อไปก็จงรักษาระยะห่างกับเขาซะ เอาล่ะ เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น?
เฟยเอ๋อร์ เจ้าก็รู้ ปิงเอ๋อร์แยกจากพวกเราตั้งแต่เกิด และเป็นท่านพ่อที่ ทําให้นางและท่านแม่ผิดหวัง ในที่สุดนางก็กลับมาหาเราแล้ว ถ้าเจ้า ขโมยคนรักของนางไปจริงๆ พวกเราจะกล้าเผชิญหน้ากับนางอย่างไร ในอนาคต! นางเป็นคนจิตใจดีและมีน�าใจ มาก… ”
ความตื่นเต้นที่เพิ่งผุดขึ้นมาหายไปอีกครั้ง และซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็ ถอนหายใจเบาๆ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านพี่ ข้าไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้า กับปิงเอ๋อร์อย่างไร ไม่ใช่ว่าข้าไม่ได้คิดเรื่องนี้…แต่ถ้าไม่ใช่เพราะปิง เอ๋อร์ ข้าคงตอบรับอ้วนน้อยไปนานแล้ว…”
ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถาม “สหายคนนั้นดีขนาดนั้นจริง หรือ? เขาคุ้มค่าให้เจ้าเป็นแบบนี้จริงหรือ?”
……………………………………………..