Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 160 การต่อสู้ระหว่างศัตรูหัวใจ! (2)
รอบๆบริเวณหน้าอกของโจวเหว่ยชิง กระจกป้องกันหัวใจทรงกลม
พลันปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน โดยมีสัญลักษณ์ที่จารึกไว้ด้านหน้ากําลัง
เรืองรองด้วยแสงสีทอง กระจกป้องกันหัวใจนี้ดูเหมือนจะมีแสงหมุนวน
ล้อมรอบ โดยเคลื่อนที่จากบนลงล่างพร้อมกับโซ่โลหะสีทองเหลือบดํา
เข้มข้นที่ด้านข้าง ในเวลาเดียวกัน เกราะไหล่ก็ปรากฏขึ้น เชื่อมต่อและ
หลอมรวมกับเกราะมือยักษ์วิญญาณหยินหยางของเขา
กระจกป้องกันหัวใจยังปรากฏอยู่ที่แผ่นหลังในบริเวณที่หัวใจควร
อยู่อีกด้วย กลายเป็นปราการป้องกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตรง
กลางกระจกป้องกันหัวใจเปล่งประกายแสงจ้า ลวดลายแปลก
ประหลาดคล้ายมังกรเรืองรองออกมาจากภายใน เมื่อสิ่งนี้ปรากฏขึ้น
กลิ่นอายอันแปลกแยกโดดเด่นก็ระเบิดออกมาจากร่างของโจวเหว่ยชิง
และในชั่วพริบตานั้น ราวกับว่าเขาได้กลายร่างเป็นยักษ์โบราณที่มีพลัง
เก่าแก่ไร้ที่สิ้นสุด กลิ่นอายในตัวของเขาพลันแปรเปลี่ยนไปทั้งหมด
เกราะมือยักษ์วิญญาณหยินหยางเชื่อมต่อกับกระจกป้องกันหัวใจด้วย
โซ่สีทอง 2 เส้น และเมื่อพวกมันเชื่อมต่อกันแล้ว แสงสีทองเหลือบดําก็
ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาและปลดปล่อยความแข็งแกร่งให้แก่โจวเหว่ยชิง แม้จะอยู่ภายใต้สถานะปีศาจกลายร่าง เขาก็สามารถสัมผัสถึง
พลังและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ระดับพลังปราณของเขาทะลุไปถึงมณี 5 ชุด โจวเหว่ยชิงก็
ไม่ลังเลที่จะหลอมรวมศาสตรามณียุทธ์ในตํานาน ‘ชังพสุธาไร้ที่ยก’ ชิ้น
ที่ 4 ที่เขาได้รับจากเกาะมณีสวรรค์ก่อนหน้านี้ทันที การพัฒนาความ
แข็งแกร่งของตนเองย่อมมีความสําคัญสูงสุดเป็นอันดับแรก เด็กหนุ่ม
จึงไม่รอช้าที่จะเพิ่มส่วนสําคัญเช่นนี้ลงในคลังอาวุธของเขาทันที
เนื่องจากหลงซื่อหยามีชุดในตํานาน ‘ชังนภาไร้ที่ยึด’ อยู่แล้ว เขา
จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับการใช้ชุดในตํานาน ‘ชังพสุธาไร้ที่ยก’ ของโจว
เหว่ยชิง เพราะถึงอย่างไรทั้งสองก็มีต้นกําเนิดมาจากที่เดียวกัน และแม้
จะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่ประสบการณ์ของเขาก็ยังคงมากพอที่จะ
ครอบคลุมถึงสิ่งนั้น ด้วยเหตุนี้ หลงซื่อหยาจึงอธิบายการใช้งานกระจก
ป้องกันหัวใจอันสุดแสนอัศจรรย์ให้โจวเหว่ยชิงฟัง ชื่อของกระจก
ป้องกันหัวใจนี้ก็คือ ‘แหล่งกําเนิดความแข็งแกร่ง’ และเป็นหนึ่งใน
องค์ประกอบหลักของชุดในตํานาน ‘ชังพสุธาไร้ที่ยก’ มันไม่ได้มีทักษะ
อื่นติดมาด้วย และทั้งหมดก็มีเพียงการเพิ่มความแข็งแกร่งแบบบริสุทธิ์
เท่านั้น เช่นเดียวกับผลที่จะได้หลังรวมชิ้นส่วนอื่นๆในชุดเข้าด้วยกัน
ทั้งหมด ยิ่งโจวเหว่ยชิงมีชิ้นส่วนชุดในตํานานมากเท่าไหร่ พลังของมันก็
จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และความแข็งแกร่งบริสุทธิ์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน มันก็จะช่วยปกป้องบริเวณหน้าอก/หัวใจ และอวัยวะภายในของเขาด้วย ในตอนสุดท้าย ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจะไปถึง
ขีดจํากัดที่เท่าไหร่ แม้แต่หลงซื่อหยาก็ยังไม่สามารถยืนยันได้เช่นกัน
โดยธรรมชาติแล้ว สิ่งที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแหล่งกําเนิดความ
แข็งแกร่งคือค้อนคู่ในตํานาน เมื่อเห็นศัตรูพุ่งมาข้างหน้า ค้อนหน้า
ร้องไห้ในมือขวาของโจวเหว่ยชิงก็ถูกโยนขึ้นไปพร้อมกับเสียงตะโกนว่า
“เปิดใช้!”
*ตูม*
ผู้ชมทุกคนต่างก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง โจวเหว่ยชิงระเบิด
พลังที่สุดแสนจะน่ากลัวออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าเขาจะตก
เป็นฝ่ายเสียเปรียบมาโดยตลอดก็ตาม
ที่สําคัญกว่านั้นคือเมื่อนําพลังที่กระจกหัวใจแหล่งกําเนิดความ
แข็งแกร่งเพิ่มให้เกราะมือยักษ์วิญญาณหยินหยางและค้อนคู่ในตํานาน
รวมกับความแข็งแกร่งบริสุทธ์ของโจวเหว่ยชิงและสถานะปีศาจกลาย
ร่าง มันจึงทําให้ความสามารถของเขาเข้าสู่ขีดจํากัดใหม่ๆ
ชุดในตํานาน ‘ชังพสุธาไร้ที่ยก’ เป็นชุดในตํานานที่ดีที่สุดสําหรับ
พลังยุทธ์ประเภทความแข็งแกร่ง เช่นนั้นพลังของมันจะสามารถรับมือ
ง่ายๆได้อย่างไร หลงซื่อหยาเคยบอกโจวเหว่ยชิงว่าถ้าเขาสามารถสวม
ชุดในตํานานนี้ทั้งชุดได้ แม้ว่าระดับพลังปราณจะยังไปไม่ถึงระดับเทพเจ้าสวรรค์ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็จะเหนือกว่ายอดฝีมือระดับเทพ
เจ้าสวรรค์อย่างเจ้าเหนือหัวแห่งภูเขาหิมะสวรรค์แน่นอน
พลังโดยรวมที่เพิ่มขึ้นเพราะกระจกหัวใจแหล่งกําเนิดความ
แข็งแกร่งนั้นบ้าคลั่งเกินไป ทําให้ความแข็งแกร่งของโจวเหว่ยชิงเข้าสู่
ระดับที่น่าสะพรึงกลัวในทันที กระจกหัวใจแหล่งกําเนิดความแข็งแกร่ง
ได้ปลดผนึกศักยภาพที่แท้จริงของชุดตํานาน ‘ชังพสุธาไร้ที่ยก’ ออกมา
ในที่สุด
ไม้เท้าหัวมังกรและค้อนหน้าร้องไห้พุ่งเข้าหากัน กู่อิ่งปิงรับรู้ได้ถึง
ขุมพลังมหาศาลทันทีที่มันปะทะเข้ากับไม้เท้าหัวมังกรของเขา ส่งผลให้
ไม้เท้าหัวมังกรขนาดใหญ่กระเด็นขึ้นไปบนอากาศอย่างไม่สามารถ
ควบคุมได้ ทั้งร่างของเขาจึงทะยานตามแรงยึดเกาะไปด้วย
เป็นไปได้อย่างไร? นั่นเป็นความคิดแรกในสมองของกู่อิ่งปิง และ
ช่วงเวลาต่อมาก็เป็นตาโจวเหว่ยชิงพุ่งไปข้างหน้าพลางเปิดใช้งาน
ทักษะพายุสลาตันของตนเองบ้าง
ในช่วงเวลาที่สําคัญเช่นนี้ โจวเหว่ยชิงไม่อาจใช้แม้กระทั่งศาสตร์
การควบคุมทักษะขั้นสูงสุดทั้ง 6 สําหรับเขาในเวลานี้ ผลของศาสตร์
การควบคุมทักษะขั้นสูงสุดทั้ง 6 ก็ยังไม่สามารถเทียบเคียงทักษะกัก
เก็บอันทรงพลังที่ปล่อยออกมาติดๆกันได้ทักษะพายุสลาตันทําให้โจวเหว่ยชิงสามารถเร่งความเร็วได้มาก
ขึ้น และในเวลาเดียวกัน ทักษะคําสาปลงทัณฑ์ก็มาถึงตัวกู่อิ่งปิงพอดี
โจวเหว่ยชิงสามารถใช้ค้อนของเขาปลดปล่อยทักษะทีละชนิดได้โดยไม่
ต้องเสียเวลารอ ใช้โอกาสสั้นๆที่ร่างกายของกู่อิ่งปิงถูกกระแทกลอยขึ้น
ไปในอากาศ โยนทักษะควบคุมหลายชนิดออกไปใส่เขาเร็วที่สุดเท่าที่
จะทําได้
โจวเหว่ยชิงรู้ชัดเจนว่าโอกาสเดียวที่เขาจะชนะได้คือต้องระเบิด
พลังที่มีทั้งหมดออกมาในคราเดียว โดยอาศัยประโยชน์จากการระเบิด
พลังที่มักจะให้ผลดีมาตลอดจนถึงตอนนี้ติดๆกัน เช่นเดียวกับทักษะ
ระดับสูงจํานวนมากที่สามารถสร้างความเสียหายได้ดีที่สุดในระยะเวลา
อันสั้น นั่นจะทําให้เขาสามารถคว้าโอกาสชนะไปได้อย่างหวุดหวิด
ขณะที่กู่อิ่งปิงยังไม่ทันแม้แต่จะตั้งตัว จากนั้นเขาก็จะสามารถเอาชนะ
องค์ชายสิงโตหนุ่มที่ทรงพลังได้ในตอนสุดท้าย
ทักษะโซ่ตรวนวายุและทักษะหน่วงเวลาสมบูรณ์ส่งผลกับกู่อิ่งปิงที
ละอย่าง ทําให้ร่างกายของเขาช้าลงและหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ในเวลา
เดียวกัน ค้อนหน้าหัวเราะที่มือซ้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมฟ้าเมื่อ
เด็กหนุ่มเริ่มใช้ทักษะสายฟ้าแห่งหายนะขณะพุ่งไปข้างหน้า สําหรับ
การโจมตีที่แท้จริงของเขา มันซุกซ่อนอยู่ในค้อนขวาหน้าร้องไห้ที่กําลัง
สาดแสง 3 สีออกมา นี่ไม่ใช่แค่ทักษะโจมตีที่รุนแรงที่สุดของโจวเหว่ย
ชิง สายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดหรอกหรือ?ในช่วงเวลาสั้นๆนั้น โจวเหว่ยชิงได้ปลดปล่อยทักษะอันทรงพลัง
ออกไปถึง 7 ชนิด ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากฝึกศาสตร์การควบคุมทักษะ
ขั้นสูงสุดทั้ง 6 เด็กหนุ่มก็สามารถปลดปล่อยทักษะออกไปให้มีศักยภาพ
สูงสุดในขีดจํากัดระดับพลังของเขาได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้โจวเหว่ยชิงก็มองเห็นชัดเจนว่าเหนือศีรษะ
ของกู่อิ่งปิงก็มีแสงสีทองพวยพุ่งออกมาเช่นกัน ภาพทักษะสวรรค์สีขาว
บริสุทธิ์ของทูตสวรรค์ที่มี 6 ปีกพลันปรากฏขึ้น แสงสีทองจางๆ
กลายเป็นรัศมีแสงหลายสายพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและปกคลุมทั่วร่าง
ของเขา
ทักษะระดับเทพเจ้า? โจวเหว่ยชิงรู้สึกประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม
เขาก็ตัดสินได้อย่างรวดเร็วว่านั่นไม่ใช่ทักษะระดับเทพเจ้าสวรรค์
เช่นกัน เนื่องจากภาพทักษะสวรรค์ของทูตสวรรค์สีขาว 6 ปีกนั้นคล้าย
กับภาพทักษะสวรรค์ของเขาเอง เห็นได้ชัดว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่
ใกล้เคียงกับระดับเทพเจ้าสวรรค์มากที่สุด ทว่าอาจจะเหนือกว่าของเขา
ทันใดนั้น ผลของทักษะโซ่ตรวนวายุและทักษะคําสาปลงทัณฑ์ก็
หายไปทั้งคู่ กู่อิ่งปิงปล่อยมือจากไม้เท้าหัวมังกรของเขาอย่างใจเย็น
และไม่เร่งรีบ ไม่สนใจแม้แต่ค้อนของโจวเหว่ยชิงกําลังมุ่งหน้ามาหา
ตนเอง ในทางตรงกันข้าม ไม้เท้าหัวมังกรของเขากลับถูกโยนลงมาจาก
ด้านบนและพุ่งลงมาที่ศีรษะของเด็กหนุ่มอย่างดุดันก้าวร้าวในขณะนี้โจวเหว่ยชิงมีสองทางเลือก แม้ว่าไม้เท้าหัวมังกรจะยาว
มาก แต่โจวเหว่ยชิงก็เปิดการโจมตีก่อน ดังนั้นเขาจึงยังมั่นใจได้ว่าการ
โจมตีของตนเองจะถึงตัวฝ่ายนั้นก่อน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะทําเช่นนั้น
สําเร็จ เขาก็ยังคงต้องเผชิญหน้ากับรัศมีแสงสีทองซึ่งดูทรงอานุภาพ
มาก หากการโจมตีของเขาไม่สามารถทําลายการป้องกันของทักษะนั้น
ได้ เขาก็จะต้องแบกรับการโจมตีของกู่อิ่งปิงไปโดยไม่ได้ประโยชน์อัน
ใด ทางเลือกที่สองก็คือช่วยตัวเองก่อนและละทิ้งการโจมตีไป
โดยปกติโจวเหว่ยชิงย่อมไม่คิดอยู่แล้วว่าหากสวมใส่ศาสตรามณี
ยุทธ์ระดับเทพเจ้าหลายชิ้นและอยู่ในสถานะปีศาจกลายร่าง เขาจะ
สามารถต้านรับการโจมตีของศัตรูได้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็คุ้นเคยกับ
ทักษะที่ใกล้เคียงกับระดับเทพเจ้าสวรรค์เป็นอย่างดี เกือบจะมั่นใจว่า
การโจมตีของเขาไม่สามารถทําลายปราการป้องกันนั้นได้แน่นอน ด้วย
เหตุนี้ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ส่งค้อนอีกอันตามขึ้นไปใน
พริบตานั้น ค้อนหน้าร้องไห้นําอยู่ข้างหน้าและค้อนหน้ายิ้มก็ไล่ตามอยู่
ข้างหลัง โจวเหว่ยชิงกําลังใช้พวกมันรองรับแรงกระแทกของไม้เท้าหัว
มังกรจากกู่อิ่งปิง
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้โจวเหว่ยชิงไม่ใช่ฝ่าย
ได้เปรียบเพราะแสงสีทองรอบๆร่างกู่อิ่งปิงได้แผ่ขยายผ่านมือของเขา
ออกมากําบังไม้เท้าเอาไว้ด้วย ในเวลาเดียวกัน ไม้เท้าหัวมังกรของเขาก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้น ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้ฝ่ายนั้นขึ้นไปมาก
กว่าเดิม
เท้าทั้งสองของโจวเหว่ยชิงจมลึกลงไปที่พื้น แขนขวาของเขาชา
หนึบ อาการบาดเจ็บจากหมัดแรกเริ่มมีผลแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึก
เจ็บปวดเนื่องจากสถานะปีศาจกลายร่างและอัตราการฟื้ นตัวที่ทรงพลัง
ทว่าในการปะทะกันระหว่างความแข็งแกร่ง จุดบกพร่องเล็กน้อยๆก็
มักจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นหลายเท่าเสมอ
สิ่งที่ทําให้โจวเหว่ยชิงตกใจไม่ใช่แค่นี้ แต่เป็นการที่ทักษะซึ่งฝังอยู่
ในค้อนทั้งหมดไร้ผลไปโดยสิ้นเชิง ทักษะสายฟ้าแห่งหายนะบนค้อน
หน้ายิ้มถูกแสงสีทองกําจัดไปในทันที และทักษะที่เขาคาดหวังไว้เต็ม
เปี่ ยมอย่างสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดก็หายไปหลังจากถูกไม้เท้าหัวมังกร
ฟาดเช่นกัน
โจวเหว่ยชิงไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีแน่ๆ แต่กู่อิ่งปิงก็ไม่ได้อยู่ใน
สภาพที่ดีไปกว่ากัน พลังแท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ภายในค้อนทั้งสองนั้นน่า
กลัวอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับการสนับสนุนจาก
ทักษะพายุสลาตัน ทําให้พลังโจมตีของมันเพิ่มขึ้นหลายเท่า ในขณะนี้
แขนของกู่อิ่งปิงทั้งปวดและชาหนึบหลังถูกส่งกระแทกถอยหลังไป 6-7
ก้าวการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีมณี 5 ชุดแต่ถูกบังคับให้จนตรอกเช่นนี้
เป็นการดูถูกเหยียดหยามและความอัปยศอย่างแท้จริง นอกจากนี้เขา
ยังต้องใช้ทักษะป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของตนเอง ซึ่งก็คือทักษะเทพ
พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อป้องกันการโจมตีของโจวเหว่ยชิงอีกด้วย
ทักษะเทพพิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระดับเทพเจ้าสวรรค์แล้ว และ
เพื่อกักเก็บทักษะดังกล่าว กู่อิ่งปิงต้องแลกมาด้วยราคาที่แสนแพง แม้
จะมีพลังสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ของเขา กู่อิ่งปิงก็แทบจะทําไม่สําเร็จอยู่
รอมร่อ โจวเหว่ยชิงได้ตัดสินเรื่องนี้ผิดพลาดไปอย่างมหันต์ เพราะมัน
เป็นทักษะระดับเทพเจ้าที่แท้จริง ไม่ใช่ทักษะ ‘ปลอมๆ’ อย่างที่เขาคาด
ไว้ อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะระดับพลังปราณในปัจจุบันของกู่อิ่งปิงไม่
เพียงพอที่จะปลดปล่อยทักษะดังกล่าวออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ
ดังนั้นมันจึงดูไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร
เมื่อถูกโจวเหว่ยชิงปลดปล่อยทักษะใส่เป็นชุดๆ กู่อิ่งปิงก็พบว่า
ตนเองไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ทักษะป้องกันที่ทรงพลังนี้เพื่อ
ปกป้องตัวเอง พลังของโจวเหว่ยชิงน่ากลัวเกินไปจริงๆ …และ
เช่นเดียวกับที่โจวเหว่ยชิงไม่กล้ารับไม้เท้าหัวมังกรของกู่อิ่งปิง ใน
ทํานองเดียวกันกู่อิ่งปิงก็ไม่กล้าปล่อยให้ค้อนคู่ของโจวเหว่ยชิงโจมตีเขา
โดยไม่มีการป้องกันใดๆ ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงเรียกทักษะนี้ออกมาใช้
เท่านั้นชายหนุ่มยืนเหยียดแผ่นหลังตรง การแสดงออกของกู่อิ่งปิงดูน่า
เกลียดมาก ชายหนุ่มกําไม้เท้าหัวมังกรแน่นและชี้ไปด้านหน้า ดวงตา
พลันแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด ชายหนุ่มพึมพําอะไรบางอย่าง แต่โจว
เหว่ยชิงไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เขาพูดจัดเจน ในพริบตาถัดมา แผงคอสี
แดงทองของกู่อิ่งปิงก็ปลิวขึ้นสูงราวกับถูกระเบิด และร่างกายของเขาก็
ขยายออกเป็นกล้ามเนื้อขนาดมหึมา กลิ่นอายเกรี้ยวกราดรุนแรงและ
จิตสังหารพลันแผ่ออกมาจากภายใน ล้อมรอบตัวของเขาเอาไว้
โจวเหว่ยชิงไม่เข้าใจนัก แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกู่อิ่งปิงคือ
ความสามารถทางสายเลือดที่มนุษย์สัตว์ของอาณาจักรวั่นโซ่วมี
เหมือนกับที่เผ่ามนุษย์หมาป่าเคยใช้มาก่อน อย่างไรก็ตาม
ความสามารถทางสายเลือดนี้ก็เป็นหนึ่งในพลังที่แข็งแกร่งที่สุดใน
อาณาจักรวั่นโซ่วทั้งหมด หรือที่เรียกว่าการกลายร่างของราชาสิงโต
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของราชาสิงโตจะเทียบไม่ได้กับสถานะปีศาจ
กลายร่าง แต่ก็ยังสามารถทําให้ความเร็ว ความแข็งแกร่ง พลังปราณ
สวรรค์ และการควบคุมทั้งหมดของกู่อิ่งปิงได้รับการส่งเสริมขึ้น
ด้านโจวเหว่ยชิงก็เริ่มลงมือบ้างเช่นกัน เด็กหนุ่มรู้ดีว่าวันนี้สิ่งต่างๆ
อาจจะไม่ได้ดําเนินไปด้วยดีในฝั่ งของเขา แต่เขาก็จะไม่มีวันยอมแพ้
โดยไม่ตอบโต้แน่นอนว่าในช่วงที่องค์ชายสิงโตกําลังเปลี่ยนร่าง เขาก็ใช้
ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อไปปรากฏตัวต่อหน้ากู่อิ่งปิงอีกครั้งอย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้โจวเหว่ยชิงได้เก็บค้อนคู่ในตํานานของเขาไว้
แล้วใช้เกราะมือยักษ์วิญญาณหยินหยางจับเข้าที่ไหล่ของกู่อิ่งปิง
…………………………………………