Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 162 การตื่นขึ้นล่วงหน้าของวิญญาณมังกรกลายสภาพ! (3)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 162 การตื่นขึ้นล่วงหน้าของวิญญาณมังกรกลายสภาพ! (3)
“สําหรับเสบียงหรือสิ่งของธรรมดาที่เผ่าของท่านต้องการ เราจะ
จัดหาให้เช่นกัน หากนักรบเหล่านี้เสียชีวิตมากกว่า 3 ใน 10 ส่วน ทั้ง 2
เผ่าของท่านก็ไม่จําเป็นต้องเข้าร่วมในปฏิบัติการทางทหารของกองพัน
ไร้พ่ายอีกต่อไป ในเวลาเดียวกัน ก่อนอื่นข้าจะมอบเงิน 5 ล้านเหรียญ
ทองให้ท่าน หากเกิดการบาดเจ็บล้มตายขึ้นมากกว่า 3 ใน 10 ส่วนจริงๆ
ท่านทั้งคู่ก็สามารถจากไปได้ทุกเมื่อ กระทั่งนําอาวุธอุปกรณ์ต่างๆที่เรา
มอบให้ทั้งหมดไปด้วยได้”
3 ใน 10 ส่วนของ 1,000 คน นั่นคือทหาร 300 นาย แม้ว่าเผ่าอีกา
ทองและเผ่าคนเถื่อนรวมกันจะมีจํานวนนับหมื่น แต่ความสูญเสีย
จํานวนนั้นก็ยังเกือบจะเป็นที่ยอมรับไม่ได้สําหรับพวกเขา นี่เป็นโอกาส
ที่พวกเขาต้องเลือกว่าจะเดิมพันหรือไม่
หม่าหลงและหงหยูสบตากัน ราวกับว่ากําลังสื่อสารกันอย่างเงียบๆ
จากนั้นทั้งคู่ก็หันกลับไปมองโจวเหว่ยชิงอีกครั้ง
สายตาของโจวเหว่ยชิงนั้นตรงไปตรงมาและดูจริงใจ เมื่อ
เผชิญหน้ากับการจ้องมองของพวกเขา เด็กหนุ่มก็ทําเพียงยิ้มน้อยๆ
ด้วยความซื่อสัตย์หม่าหลงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ผู้บัญชาการกองพันโจว ท่านแน่ใจ
หรือว่าเมื่อการต่อสู้ในอนาคตมาถึง ความสูญเสียของเราจะไม่เกิน 3 ใน
10 ส่วน? ถึงอย่างไรเรื่องที่เกิดในสนามรบก็เป็นสิ่งที่ยากจะรับประกัน
เพราะหากท่านต้องการที่จะกอบกู้บ้านเกิด ท่านก็จะต้องเผชิญกับการ
ต่อสู้มากมาย และมันจะเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นซ�าๆอีกยาวนาน”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “รองผู้บัญชาการเว่ย”
เว่ยเฟิงก้าวไปข้างหน้าและกล่าวด้วยความเคารพ “ขอรับ?”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “โปรดแจ้งหัวหน้าเผ่าทั้งสองให้ทราบ
เกี่ยวกับผลประโยชน์และความสําเร็จต่างๆของกองพันไร้พ่ายนับตั้งแต่
เราก่อตั้งขึ้น”
เว่ยเฟิงพยักหน้าและหันไปเผชิญกับหม่าหลงและหงหยูพลาง
กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ทําความเคารพหัวหน้าเผ่าทั้งสอง กองพันไร้พ่าย
ของเราก่อตั้งขึ้นมาได้ประมาณ 9 เดือนหรือมากกว่านั้นแล้ว ในช่วง
เวลานี้ เราได้ต่อสู้กับอาณาจักรวั่นโซ่วหลายครั้ง ในการต่อสู้ครั้งแรก
ของเรา เราต้องเผชิญหน้ากับกองร้อยของศัตรูและจัดการสังหารพวก
เขาทั้งหมด ความสูญเสียของเราเป็นศูนย์ ต่อมาเราพบกับกรมทหาร
หมาป่าเท้าเร็วของอาณาจักรวั่นโซ่ว ทหารม้าหมื่นนายได้บุกมาโจมตี
เรา ในเวลานั้นกองพันไร้พ่ายมีจํานวน 1,500 คน เราสังหารพวกมันไป
กว่า 4,000 คน และความสูญเสียของเราเป็นศูนย์ สําหรับการต่อสู้เมื่อวาน เรามียอดฝีมือ 500 คน ฆ่าศัตรูไปกว่า 3,000 คน และเป็นอีกครั้ง
ความสูญเสียเป็นศูนย์”
เมื่อได้ยินบทสรุปที่สั้นทว่ากระชับของเว่ยเฟิง ใบหน้าของหงหยู
และหม่าหลงต่างก็แสดงความประหลาดใจ ในรายงานของเว่ยเฟิง มีสิ่ง
หนึ่งที่คงที่ นั่นก็คือความสูญเสียเป็นศูนย์ กล่าวคือทุกการต่อสู้ของพวก
เขาจนถึงขณะนี้ล้วนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์
บางทีหากพวกเขาไม่ได้สัมผัสการต่อสู้เมื่อวานนี้และได้รับการ
ช่วยเหลือจากกองร้อยหลักที่ 1 แห่งกองพันไร้พ่าย มันก็คงเป็นไปไม่ได้
ที่หัวหน้าเผ่าทั้งสองจะเชื่อคําพูดของเว่ยเฟิง แต่เมื่อได้เห็นพลังของ
กองพันไร้พ่ายด้วยตาของตัวเอง พวกเขาจึงไม่มีข้อสงสัยใดๆอีก ถึง
อย่างไรขณะที่กองพันไร้พ่ายมาช่วยพวกเขาเมื่อวานนี้ พวกเขาก็ต้อง
เผชิญหน้ากับ 2 กรมทหารฝ่ายศัตรูที่แสนทรงพลัง และทั้งสองชนเผ่าก็
ได้สัมผัสความสามารถในการต่อสู้ของทั้ง 2 กรมนั้นมาด้วยตัวเองก่อน
หน้านั้นแล้ว นอกจากนี้ ศัตรูหลักของกองร้อยหลักที่ 1 แห่งกองพันไร้
พ่ายก็ยังเป็นกรมทหารยูนิคอร์นที่แข็งแกร่งกว่าจากใน 2 กรมที่กล่าว
มา!
หลังจากที่เว่ยเฟิงรายงานเสร็จ เขาก็กลับไปนั่งเงียบๆดังเดิม
โจวเหว่ยชิงจึงกล่าวต่อว่า “หัวหน้าเผ่าทั้งสอง ตั้งแต่กองพันไร้
พ่ายของเราถูกก่อตั้งขึ้นมาจนถึงตอนนี้ การต่อสู้ทั้งหมดในสนามรบของเราไม่มีพี่น้องแม้แต่คนเดียวที่เสียชีวิต โดยธรรมชาติแล้วอาการ
บาดเจ็บย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ข้าได้บอกกับทหารกองพันไร้
พ่ายทุกคนแล้วว่าชีวิตของพวกเขาแต่ละคนมีความสําคัญสูงสุด ใน
อนาคตพวกเขาทุกคนจะเป็นวีรบุรุษในสนามรบ คติของข้าคือไม่เพียง
แค่เอาชนะศัตรูเท่านั้น แต่เพื่อทําลายล้างพวกเขาโดยไม่ก่อเกิดความ
สูญเสียใดๆแก่ฝั่ งเราด้วย จํานวนของเรายังไม่สูงนัก แต่ท่านลองคิดดู
สิ…ไม่ว่าอาณาจักรป่ายต้าจะทรงพลังเพียงใด พวกเขายังจะเทียบ
กองทัพอาณาจักรวั่นโซ่วทั้งในแง่ของจํานวน ความแข็งแกร่งของ
กองทัพ หรือพลังเฉพาะบุคคลได้หรือไม่? ยิ่งไปกว่านั้น อาณาจักร
เกาทัณฑ์สวรรค์เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของข้า และอาณาจักรป่ายต้า
เป็นผู้รุกรานจากภายนอก…ข้าเชื่ออย่างยิ่งว่าเมื่อเราเปิดฉากโจมตีและ
เผยเรื่องราวให้คนภายนอกรับรู้ เราจะได้รับการสนับสนุนจากคนทั่วไป
เป็นอย่างมาก”
“สําหรับเผ่าอีกาทองและเผ่าคนเถื่อนของท่าน ข้าได้กําหนดแผน
บางอย่างไว้แล้ว เพียงแค่รอการมาถึงของพวกท่านเท่านั้น ข้าเชื่อว่า
ท่านได้เห็นอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองพันไร้พ่ายของเราแล้ว ทหารทุก
คนล้วนสวมชุดเกราะที่สร้างขึ้นจากโลหะผสมไทเทเนียม”
หม่าหลงและหงหยูพยักหน้าตอบรับอย่างไม่รู้ตัว อาจกล่าวได้ว่า
หลังจากที่พวกเขาเห็นอุปกรณ์เหล่านั้นแล้ว ทั้งคู่ก็ต้องทําน�าลายหก
ตามมา การจะติดตั้งชุดเกราะไทเทเนียมสําหรับทั้งกองพันไร้พ่ายต้องใช้เงินมากเท่าไหร่กัน! เมื่อมีอาวุธและชุดเกราะที่ดีเช่นนี้คอยปกป้อง
พวกเขา โดยธรรมชาติแล้วทหารย่อมมีโอกาสอยู่รอดในสนามรบมาก
ยิ่งขึ้น
หงหยูเป็นคนแรกที่สูญเสียความเยือกเย็นและเอ่ยว่า “ผู้
บัญชาการกองพันโจว ท่านกําลังบอกว่าท่านจะเต็มใจให้นักรบสองเผ่า
ของเราสวมชุดเกราะไทเทเนียมแบบเดียวกัน?”
ภายใต้สายตาที่ร้อนแรงของผู้นําเผ่าทั้งสอง โจวเหว่ยชิงส่ายหัว
ช้าๆ
หม่าหลงขมวดคิ้ว แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอันใด ถึงอย่างไรพวกเขาก็เพิ่ง
มาถึง และทั้งหมดก็ยังไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆกับกองพันไร้พ่าย พวกเขาจึง
ไม่สามารถร้องขออะไรมากเกินไปในตอนนี้ แน่นอนว่านั่นสมเหตุสมผล
แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง
โจวเหว่ยชิงยิ้มน้อยๆและพูดว่า “ความสามารถในการป้องกันของ
ชุดเกราะไทเทเนียมจะเพียงพอได้อย่างไร?”
“หา?” ทั้งหม่าหลงและหงหยูต่างรู้สึกประหลาดใจ ใบหน้าของพวก
เขาเผยแววอยากรู้อยากเห็นเพราะไม่แน่ใจว่าโจวเหว่ยชิงหมายถึงสิ่ง
ใดโจวเหว่ยชิงกล่าวต่อว่า “กองพันไร้พ่ายของเราในปัจจุบันมีทหาร
ประมาณ 5,000 นาย และภายใต้การใช้วิชาลับบางอย่างของเรา ตอนนี้
พวกเขาจึงกลายเป็นจ้าวมณีทั้งหมด โดยที่ส่วนใหญ่เป็นจ้าวมณียุทธ์
เกี่ยวกับการเงินของกองพันไร้พ่าย หัวหน้าเผ่าทั้งสองไม่จําเป็นต้อง
กังวล จ้าวมณียุทธ์ของเราล้วนตั้งเป้าที่จะกลายเป็นกองกําลังอากาศไร้
พ่ายเต็มตัวอย่างที่ท่านทั้งคู่ได้เห็นในปฏิบัติการเมื่อวานนี้ เมื่อติดตั้งปีก
ศาสตรามณียุทธ์แล้ว การต่อสู้ของพวกเขาจะเกิดขึ้นบนท้องฟ้าสีคราม
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากอุปกรณ์ของพวกเขามีน�าหนักมากเกินไป
ก็อาจจะมีผลต่อความเร็วในการบิน ที่สําคัญกว่านั้นคือความอึดและ
เวลาในการบิน ด้วยเหตุนี้อุปกรณ์ที่ข้าเลือกให้จึงเป็นเพียงชุดเกราะ
โลหะผสมไทเทเนียมธรรมดา”
ชุดเกราะโลหะผสมไทเทเนียม… ‘ธรรมดา’? ทั้งหม่าหลงและหงหยู
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขากระตุกด้วยวลีดังกล่าว
เมื่อถึงจุดนั้น หงหยูก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป หญิงสาวเอ่ย
ต่อว่า “แล้วนักรบของเราล่ะ? ผู้บัญชาการกองพันโจว โปรดอย่าให้เรา
คาดเดาไปมั่วซั่วเลย แผนการของท่านคืออะไรกันแน่?”
โจวเหว่ยชิงยิ้มและกล่าวว่า “อุปกรณ์ที่ข้าจินตนาการไว้สําหรับ
นักรบทั้งเผ่าของท่านคือการทําให้พวกเขากลายเป็นป้อมปราการเหล็ก
เคลื่อนที่ได้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะติดอาวุธครบมือเท่านั้น แต่ข้ายังต้องการให้พวกเขาสวมชุดเกราะเต็มตัว แม้จะยืนอยู่เฉยๆและปล่อยให้
จ้าวมณีระดับต�าโจมตี แต่ปราการป้องกันของพวกเขาก็ไม่อาจถูก
ทําลายลงได้ เป้าหมายของข้าคือทําให้นักรบของท่านกลายเป็น
เครื่องจักรสังหารที่ไม่มีใครหยุดได้ในสนามรบ เพื่อทําให้ศัตรูทั้งหมด
ของเราหวาดกลัวแค่เพียงได้ยินชื่อ ดูจากหม่าฉุนและอู่หยา ข้ามองเห็น
ความเป็นไปได้อันยิ่งใหญ่ของเผ่าคนเถื่อนและเผ่าอีกาทอง มันคือ
ความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุด ท่านทุกคนไม่ได้ขาดพลัง แต่ตอนนี้สิ่งที่
ท่านขาดคือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สารอาหาร การฝึกฝน และ
อุปกรณ์ที่ดีที่สุด สําหรับรายละเอียดที่ลงลึกกว่านี้ ข้าคิดว่ายังเร็วเกินไป
ที่จะเอ่ยถึง แต่ข้าก็มั่นใจว่าในไม่ช้าหัวหน้าเผ่าทั้งสองจะได้เห็นด้วยตา
ของตัวเอง สิ่งที่ข้าสามารถบอกท่านได้ล่วงหน้าคืออุปกรณ์สําหรับ
ทหารเผ่าคนเถื่อนหรือเผ่าอีกาทองแต่ละคนจะมีราคาอย่างน้อย 5 เท่า
ของกองกําลังอากาศไร้พ่าย”
เมื่อได้ยินคํารับรองที่แสนกล้าหาญของโจวเหว่ยชิง ทั้งหม่าหลง
และหงหยูก็ตกตะลึงท่ามกลางความเงียบ ชุดเกราะโลหะผสม
ไทเทเนียมที่มีราคาแพงกว่า 5 เท่า? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขา
จินตนาการไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
โจวเหว่ยชิงกล่าวต่อไป “เดิมแผนของข้าคือปั้ นนักรบเผ่าคนเถื่อน
และเผ่าอีกาทองให้เป็นทหารราบเกราะหนักของกองพันไร้พ่าย แต่
หลังจากได้เห็นความสามารถในการฝึกม้าให้เชื่องของเผ่าคนเถื่อนแล้วข้าจึงเปลี่ยนแผนเล็กน้อย ข้าหวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้ทั้งสองเผ่าจะ
กลายเป็นกองกําลังพิเศษในแบบฉบับของตัวเอง… เมื่ออยู่บนหลังม้า
เป็นทหารม้าหนัก และเมื่อลงจากหลังม้า…ท่านจะเป็นทหารราบเกราะ
หนัก ด้วยวิธีนี้ แผนของข้าที่จะทําให้ท่านกลายเป็นพายุเหล็กไร้เทียม
ทานในสนามรบก็จะสมบูรณ์แบบ”
“พอแค่นั้นแหละ บิดาผู้นี้เอาด้วยกับกองพันไร้พ่าย!” เมื่อถึงจุดนั้น
หม่าฉุนก็ถูกปลุกปั่ นโดยคําพูดของโจวเหว่ยชิง และชายผู้กล้าหาญแต่
หยาบช้าคนนี้ก็โบกมือตัดสินชะตากรรมของเผ่าคนเถื่อนใน
พริบตาเดียว หากพวกเขาเกรงกลัวที่จะลองเสี่ยงและต่อสู้เพื่อความอยู่
รอด ทั้งหมดก็คงจะมุดหัวอยู่ในอาณาจักรเฟยหลี่ต่อไป ตอนนี้พวกเขา
ได้ก้าวออกมาแล้ว หากไม่เดินหน้าต่อ บางทีเผ่าคนเถื่อนอาจจะไม่มี
โอกาสได้เชิดหน้าขึ้นอีกเลย ในอดีตอาณาจักรเฟยหลี่เคยติดสินบนเผ่า
ทั้งสองให้ออกไปต่อสู้… แต่สุดท้ายแล้วเป็นอย่างไร? พวกเขาล้วนถูกใช้
เป็นลูกปืนใหญ่แล้วทิ้งขว้าง สงครามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทําให้ชน
เผ่าของพวกเขาได้รับบาดเจ็บจํานวนมาก เป็นผลให้เมื่อเวลาผ่านไปทั้ง
สองเผ่าจึงเริ่มถดถอยลงถึงจุดที่ต�าที่สุด ถึงกระนั้นวันนี้โจวเหว่ยชิงกลับ
ไม่ได้เอ่ยถึงวิธีที่ทั้งสองเผ่าจะต้องต่อสู้เพื่อเขา แต่ประการแรกคือแจก
แจงรายละเอียดว่าจะทําให้นักรบของสองเผ่าอยู่รอดอย่างไร รวมถึงวิธี
ที่จะติดอาวุธให้พวกเขาอย่างเหมาะสม ปัจจัยนี้เพียงอย่างเดียวก็ทําให้
ทั้งหงหยูและหม่าหลงพึงพอใจแล้ว“ดีมาก ข้าก็เอาด้วย ทว่าเผ่าอีกาทองของเรามีคําขอหนึ่งอย่าง”
หงหยูกล่าว
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “เอ่ยมาได้เลย”
หงหยูกล่าวต่อ “ผู้บัญชาการกองพันโจว ข้าเห็นว่าท่านมีสหาย
น้อยที่แข็งแกร่งหลายคนในกองพันไร้พ่าย ดูสิ เผ่าของเรามีสาวงาม
มากมาย ท่านไม่คิดว่าพวกนางจะเหมาะกับบางคนบ้างหรือ?”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าเผ่าหงหยู เรื่องนี้อู่หยาเคย
พูดคุยกับข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ข้าเองมีคําถามเช่นกัน…
เนื่องจากเผ่าคนเถื่อนและเผ่าอีกาทองเป็นสหายที่ดีต่อกันมาหลายชั่ว
อายุคน ทําไมพวกท่านถึงไม่แต่งงานกันเองเสียเลยล่ะ?”
หงหยูมองไปที่หม่าหลงด้วยท่าทางขุ่นเคืองและไม่พอใจก่อนที่จะ
หันกลับไปหาโจวเหว่ยชิงและพูดว่า “ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากแต่งงานกับ
คนอีกเผ่า ในความเป็นจริงพวกเราก็ทําเช่นนั้นไปแล้วด้วยซ�า ทว่า
ปัญหาที่ตามมาก็คือหลังจากผ่านไปหลายชั่วอายุคน เผ่าของเราทั้งคู่ก็
แต่งงานกันหลายครั้งมากจนหลายๆคนมักมีความเกี่ยวข้องกันทาง
สายเลือดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นหากเราทําต่อไปอีก ไม่นานมันก็จะ
กลายเป็นการแต่งงานระหว่างเครือญาติ และนั่นอาจทําให้เด็กที่เกิดมี
ความบกพร่องแต่กําเนิด… ด้วยเหตุนี้ เว้นเสียแต่เราสามารถยืนยันได้ว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเกินไป ตัวอย่างเช่นหม่าฉุน
และอู่หยา ไม่เช่นนั้นชาวเผ่าของเราก็มักจะไม่แต่งงานกัน”
ในที่สุดโจวเหว่ยชิงก็เข้าใจปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เขารู้สึกสงสัยมา
ตลอดแล้ว เด็กหนุ่มพลันกล่าวว่า “ดี งั้นนี่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา โดย
ธรรมชาติแล้วกองพันไร้พ่ายของเราย่อมยินดีที่จะช่วยให้เกิดข้อตกลง
ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน” แม้ว่าสตรีของเผ่าอีกาทองจะมีรูปร่างสูงใหญ่
กว่าปกติ แต่อย่าลืมว่าทหารกองพันไร้พ่ายเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็น
อันธพาลจากกองพันนักเลง พวกเขาไม่ได้ติดต่อใกล้ชิดกับผู้หญิงมา
นานหลายปีแล้ว นี่จึงไม่ควรเป็นปัญหาหนักหนาอะไร ยิ่งไปกว่านั้น
หากนักรบของกองพันไร้พ่ายได้หมั้นหมายหรือแต่งงานกับเผ่าอีกาทอง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นจะเป็นการผูกมัดทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน…ทั้งยัง
เป็นเรื่องน่ายินดี เช่นนี้โจวเหว่ยชิงจะคิดขัดขวางได้อย่างไร?
…
ด้วยเหตุนี้ เรื่องเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานของทั้งสองเผ่าก็ได้บทสรุป
ในที่สุด ถัดไปโจวเหว่ยชิงก็เริ่มแจกจ่ายคําสั่ง
หลินเทียนอ้าวยังคงรับผิดชอบด้านการขนส่งและเสบียง โดยส่วน
ใหญ่เกี่ยวกับอุปกรณ์ของกองพันทั้งหมดรวมถึงประสานงานกับ
อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ทั้งสอง แม้ว่าเผ่าอีกาทองและเผ่าคนเถื่อนจะ
เพิ่งมาถึง แต่ความจริงแล้วแผนสําหรับอุปกรณ์ของพวกเขาก็เกิดขึ้นนานแล้ว คําสั่งบางส่วนจึงได้ถูกส่งออกไปล่วงหน้าก่อน แน่นอนว่าใน
แง่ของอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลายก็ยังคงต้องเผื่อไว้สําหรับ
ความก้าวหน้าของทหารกองพันไร้พ่ายอีก ในเรื่องนี้ การลงทุนของพวก
เขาถือว่าใหญ่โตมากอย่างไม่น่าเชื่อ และแม้แต่เงินร้อยล้านเหรียญทอง
ที่โจวเหว่ยชิงเคยมอบให้ก่อนหน้านี้ก็ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว แน่นอนว่า
แก่นพลังสวรรค์ที่หลงซื่อหยามอบให้เขาก็มีจํานวนและราคาสูงมาก
ขายเพียงไม่กี่ชิ้นก็สามารถนําเงินจํานวนมหาศาลไปใช้จ่ายกับกองพัน
ไร้พ่ายได้เป็นเวลานานนับสิบปี
โจวเหว่ยชิงแจ้งคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะจากไประยะหนึ่งเพื่อ
เข้าสู่กระบวนการฝึกฝนแบบปิดประตู โดยขอให้หัวเฟิงรับหน้าที่เป็นผู้
บัญชาการกองพันชั่วคราว โดยให้การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับเขา
และซ่างกวนเฟยเอ๋อร์
สงครามกับอาณาจักรวั่นโซ่วเพิ่งกําลังจะเริ่มขึ้น และเป้าหมาย
หลักที่โจวเหว่ยชิงคาดหวังสําหรับกองพันไร้พ่ายคือการได้เก็บเกี่ยว
ประสบการณ์การต่อสู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ต้องมั่นใจด้วย
ว่าจะไม่มีความสูญเสียใดๆ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ขอให้หลินเทียนอ้าว
รวบรวมทองคําจํานวนมากเพื่อใช้เป็นรางวัลสําหรับการต่อสู้ของเหล่า
ทหาร สําหรับม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์นั้นยังคงต้องใช้เวลา
พอสมควรในการทําให้เสร็จสมบูรณ์ เพราะถึงอย่างไรการสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์หลายพันชิ้นสําหรับปีกคู่ก็ต้องใช้เวลานานเพื่อ
ทําให้เสร็จสมบูรณ์ และนั่นก็เป็นขั้นตอนที่แสนยาวนาน
สิ่งที่ตามมาคือการฝึกทหารก่อนการต่อสู้จริง สําหรับการฝึกของ
กองทหารราบที่ทรงพลังใหม่ทั้ง 2 เผ่า โจวเหว่ยชิงได้ทิ้งเรื่องนี้ไว้ให้ซ่าง
กวนเฟยเอ๋อร์จัดการ สําหรับการจัดรูปแบบกองทัพ ประสิทธิภาพใน
การออกรบ และปฏิบัติการทางทหารอื่นๆ โจวเหว่ยชิงตัดสินใจส่งซ่าง
หลางเข้าร่วมกับพวกเขา ด้วยความช่วยเหลือของซ่างหลางและซ่าง
กวนเฟยเอ๋อร์ พวกเขาจะสามารถฝึกฝนและพัฒนาทหารใหม่ที่จะเป็น
ส่วนเสริมสําคัญสําหรับกองพันไร้พ่ายเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
……………………………………………