Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 178 การยอมรับจากฟีเลีย! (1)
*ฉึก* *ฉึก* *ฉึก* *ปุ* *ปุ* *ปุ*
มวลเลือดและหมอกสีเทาระเบิดออกมาจากร่างของพยัคฆ์เทพ อสูรมืดอีกครั้ง ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งเพียงใด คราวนี้ชีวิตของมันก็ถูกดับ ลงอย่างแท้จริงด้วยระเบิดจากเศษกระสุนหน้าไม้โลหะ การต่อสู้ที่ ยากลําบากนี้ ในที่สุดก็สิ้นสุดลงเสียที
พื้นที่ทั้งหมดพลันบิดเบี้ยวและส่องสว่างเมื่อเขตมิติแยกทั้งหมด แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ความมืดโรยตัวลงมาอีกครั้ง และในที่สุดเด็กหนุ่มผู้ หล่อเหลาก็ผ่อนคลายร่างกายที่เกร็งแน่นของตน ค่อยๆลดเกาทัณฑ์ เทพจูกัดเหลียงลง
เกิดแสงกระพริบวูบ และร่างกายของเด็กหนุ่มก็ราวกับเบาโหวงลง เมื่อเท้าของเขาสัมผัสกับพื้นอย่างมั่นคงอีกครั้ง ชายรูปงามก็กลับมาอยู่ ในป่าซิงโต้วแล้ว ทุกอย่างพลันหวนคืนสู่สภาพเดิมก่อนหน้านี้ ตรีศูล ทองยังนอนนิ่งอยู่ที่เท้าของเขาอย่างไม่ไหวติง ไม่ไกลจากเบื้องหน้าของ เขา ศพของพยัคฆ์เทพอสูรมืดก็ทอดกายอยู่อย่างเงียบเชียบเช่นกัน นอกจากนี้ ด้านบนของมันยังมีไข่มุกแปลกประหลาดลอยวนอยู่ ไข่มุก
นั้นเป็นสีดําสนิท ทว่าแสงสีเขียวและสีฟ้าก็ดูเหมือนจะหมุนวนอยู่ ภายในนั้นด้วยเช่นกัน
นั่นคืออะไรกันแน่?! ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทันได้ตอบสนอง หลุมดําที่ เกิดจากทักษะธาตุกาลเวลาก็ดูเหมือนจะระเบิดแรงดึงดูดที่แปลก ประหลาดทว่าทรงพลังออกมา ทันใดนั้น ไข่มุกที่เขาไม่รู้จักก็บินหาย เข้าไปข้างใน ชายหนุ่มรูปงามใช้ทักษะโฉบแขนจับมังกรโดยไม่ลังเล เช่นกัน ทว่าในขณะเดียวกับที่เขากําลังจะคว้าไข่มุกไว้ได้ หลุมดําก็ปิด ตัวลงเสียงดังวูบ มิติกระชากบนท้องฟ้าค่อยๆปิดผนึกกลับสู่สภาวะ ปกติ ไข่มุกประหลาดจากศพของพยัคฆ์เทพอสูรมืดก็หายไปแล้ว
ตกตะลึง โจวเหว่ยชิงกําลังรู้สึกหวั่นไหวกับประสบการณ์ที่เพิ่ง ได้รับทั้งหมดอย่างไม่อาจควบคุมได้
ทันทีที่หลุมดําปิดตัวลง ฉากเบื้องหน้าของโจวเหว่ยชิงก็บิดเบี้ยว อีกครั้ง พวกมันพร่ามัวจนคล้ายภาพลวงตา อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าทุก อย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง… เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อน และในที่สุดเขาก็ได้รู้ที่มาของไข่มุกดําที่ตนเองกลืนกินเข้าไปเมื่อนาน มาแล้วเสียที สิ่งนั้นคือแก่นพลังของพยัคฆ์เทพอสูรมืดหลังจากที่มัน ตายนั่นเอง! ต้นกําเนิดของมันมาจากโลกอีกใบหนึ่งโดยสิ้นเชิง โลกที่ พยัคฆ์เทพอสูรมืดไม่ใช่อสูรสวรรค์ แต่ถูกเรียกขานว่าสัตว์วิญญาณ สิ่ง ที่โจวเหว่ยชิงได้รับมาก็คือพลังสายเลือดของมัน!
ความเหนื่อยล้าถึงขีดสุดตรงเข้าเล่นงานโจวเหว่ยชิงอย่าง กะทันหัน ทว่าสภาพแวดล้อมที่บิดเบี้ยวรอบตัวเขากลับไม่ได้เลือน หายไป ท่ามกลางภาพลวงตาโดยรอบนั้น จู่ๆร่างหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้น อย่างช้าๆ ในเวลาเดียวกัน โจวเหว่ยชิงก็พบว่าเขาไม่ได้อยู่ใน ‘มุมมองผู้ สังเกตการณ์’ อีกต่อไป ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ปรากฏตัวในร่างของตัวเอง เสียที
ร่างที่โผล่ออกมาก็คือหญิงสาวในชุดดํา ดูอายุราวๆ 27 ปี นางผู้นั้น งดงามมาก รูปลักษณ์คล้ายคลึงกับเทียนเอ๋อร์อย่างน้อย 7 ใน 10 ส่วน สายตาดูอ่อนโยนขณะที่จ้องมองไปที่โจวเหว่ยชิงอย่างเงียบๆโดยไม่ส่ง เสียง
เสียงปลุกอันทรงพลังดังขึ้นในหูของโจวเหว่ยชิง แม้ว่าเขาจะจมอยู่ ในสภาพแวดล้อมลวงตานี้มาเป็นเวลานาน แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงรักษาสติ เสี้ยวสุดท้ายเอาไว้ได้ เขารู้อยู่ลึกๆว่านี่ไม่ใช่ความจริง และทั้งหมดเป็น ภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น
“เด็กน้อย เจ้าโดดเด่นกว่าที่ข้าจินตนาการไว้มากทีเดียว และไม่ เพียงแค่นั้น เจ้ายังมีสายเลือดที่ทําให้ตัวข้ายังรู้สึกตกใจอีกด้วย ปีศาจ และเวลาอยู่ด้วยกันงั้นรึ นี่คือความสามารถที่ข้าค้นหามาตลอดหลายปี ที่ผ่านมาโดยแท้ เจ้ายินดีที่จะช่วยข้าหรือไม่?”
หญิงสาวชุดดําเอ่ยด้วยน�าเสียงที่ทําให้เขารู้สึกคุ้นเคย สายตา อ่อนโยนที่เธอใช้มองโจวเหว่ยชิงดูใจดีและเป็นมิตรในขณะที่เอ่ย เช่นนั้น
“ท่าน…ท่านคือฟีเลีย?” โจวเหว่ยชิงจดจําน�าเสียงที่คุ้นเคยนั้นได้ ทันที ฝ่ายนั้นไม่ใช่ฟีเลีย พยัคฆ์ใต้พิภพกลับด้านหรอกหรือ?
ฟีเลียพยักหน้าและพูดว่า “อันที่จริงข้าคือฟีเลีย เมื่อสักครู่เจ้าคงได้ ยินบทสนทนาระหว่างข้ากับอ้าวเทียนแล้ว พวกเราถูกลิขิตให้เป็นสามี ภรรยา แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ นั่นเป็นเพราะข้าเป็นผู้ พิทักษ์ และข้าก็ต้องอยู่เพื่อปกป้องมัน บทบาทของผู้พิทักษ์นี้จะคงอยู่ ตลอดไป เว้นแต่สวรรค์จะเกิดการเปลี่ยนแปลง สําหรับเรื่องของเจ้า และเทียนเอ๋อร์ นี่ทําให้ข้ามีความหวังว่าในที่สุดสิ่งนั้นก็จะเกิดขึ้น”
โจวเหว่ยชิงเริ่มต้นขึ้นชั่วขณะ “ท่านน้า ข้าเกรงว่าตนเองจะไม่ เข้าใจว่าท่านหมายถึงสิ่งใด”
ฟีเลียยิ้มน้อยๆและพูดว่า “ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะเข้าใจ บางสิ่งไม่ สมควรให้เจ้ารู้เร็วเกินไปนัก มิฉะนั้นมันอาจจะส่งผลร้ายต่อการพัฒนา ของเจ้าก็เป็นได้ หากเจ้าเต็มใจที่จะช่วย ข้าจะสอนวิชาฝึกปราณคู่ให้ เจ้ากับเทียนเอ๋อร์ และมันก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการฝึกปราณ ของเจ้าทั้งสอง แน่นอน วันหนึ่งเมื่อเจ้ามีพลังมากพอที่จะช่วยเหลือข้า ได้ ในที่สุดข้าก็จะออกไปตามหาเจ้าเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกดีใจมาก “หมายความว่าข้า เป็นลูกเขยที่ท่านเลือกงั้นหรือ?”
ฟีเลียถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ เจ้าผิดแล้ว ไม่ใช่ข้าที่ เลือก แต่เป็นเทียนเอ๋อร์ ในปีนั้น เมื่อข้าให้กําเนิดเทียนเอ๋อร์ ข้าก็ไม่มี ทางเลือกอื่นนอกจากละทิ้งนางมาเพื่อดํารงตําแหน่งผู้พิทักษ์ต่อ 20 ปี ที่ผ่าน…ข้าไม่เคยเล่นบทมารดา ไม่เคยรับผิดชอบต่อนางเลยแม้แต่ น้อย”
“ถ้าเทียนเอ๋อร์ไม่ได้รักเจ้า เช่นนั้นไม่ว่าเจ้าจะมีความสามารถแค่ ไหน ข้าก็ไม่มีวันเลือกเจ้า ข้าเลือกเจ้าเพราะลูกสาวของข้าได้เลือกเจ้า แล้ว นอกจากนี้ เจ้ามีทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์อีก 2 ชนิดและอายุยังน้อย เช่นเดียวกัน ปฏิบัติต่อเทียนเอ๋อร์ให้ดีและรักนางให้มาก นางน่าสงสาร มาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยรู้จักความรักของผู้เป็นแม่ นอกจากนี้ นางก็ยัง พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตายเพื่อเจ้า”
“ขอรับ” โจวเหว่ยชิงกล่าวอย่างหนักแน่น น�าเสียงและแววตาฉาย แววมุ่งมั่นอย่างชัดเจน
ฟีเลียยิ้มและพูดว่า “ข้าเชื่อใจเจ้า ความจริง เจ้าตอนนี้ก็เหมือนกับ อ้าวเทียนเมื่อหลายปีก่อน เพื่อคนรัก เจ้าสามารถทําได้ทุกอย่าง ฟาด ฟันต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ แน่นอน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียว ระหว่างเจ้ากับอ้าวเทียนก็คือเจ้าสามารถเผื่อแผ่ความรักออกไปให้
ผู้หญิงหลายคน เจ้าไม่จําเป็นต้องสงสัยสิ่งใด ข้าสามารถมองเห็นหัวใจ ของเจ้าได้ ในโลกนี้ ผู้ชายที่มีพลังแข็งแกร่งย่อมดึงดูดความสนใจของ เพศตรงข้ามได้เสมอ…นั่นคือวิถีของธรรมชาติ ข้าจะไม่โทษเจ้า แต่ข้าก็ หวังว่าเจ้าจะไม่ทําให้เทียนเอ๋อร์ผิดหวังหรือเหยียบย�าหัวใจของนาง นี่ ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นคําขอร้องจากผู้เป็นแม่”
การแสดงออกของโจวเหว่ยชิงค่อนข้างกระดากอาย เขาไม่รู้ว่าควร จะพูดสิ่งใดดี การถูกเรียกขานเช่นนั้นโดยมารดาของผู้หญิงที่เขารัก นั่น เป็นความรู้สึกที่มีเพียงคนที่เคยได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเองเท่านั้นที่ สามารถบรรยายออกมาได้
ฟีเลียก้าวขาออกไปเล็กน้อย และท่ามกลางสภาพมิติที่บิดเบี้ยว เธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าโจวเหว่ยชิงพร้อมทั้งจับมือซ้ายของเขาเอาไว้
ขณะที่โจวเหว่ยชิงกําลังผงะ ทันใดนั้นเขาก็เห็นดวงตาของฟีเลีย กลายเป็นสีดํามืดเหมือนก่อนหน้านี้ ราวกับว่าม่านตาของอีกฝ่าย กลายเป็นหลุมดําอันไร้ที่สิ้นสุด
“คิดเสียว่านี่เป็นของขวัญสําหรับเจ้า” ขณะเสียงของฟีเลียดังขึ้น โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกถึงพลังปรานเย็นยะเยือกที่แสนแปลกประหลาดใน ร่างกายของเขา พลังปราณนั้นไม่ใช่พลังปราณสวรรค์หรือแม้แต่พลัง วิญญาณบริสุทธิ์ แต่เป็นการผสมผสานของพลังปรานหลากหลาย ประเภทอย่างน่าพิศวง
ความรู้สึกเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของโจวเหว่ยชิงอย่าง รวดเร็วและเขาก็รู้สึกได้เพียงความสบายตัว ความเหนื่อยล้าที่เขามีถูก ขจัดออกไปทันที และเด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างถูกเพิ่มเข้ามาใน ร่างของเขา
…
ในขณะที่โจวเหว่ยชิงกําลังเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกแห่งภาพ ลวงตา ย้อนกลับไปในโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งที่ยอดฝีมือทั้ง 4 มองเห็นนั้นแตกต่างกันมาก
เมื่อแสงของสนามพลังกลับด้านอันน่าพิศวงนั้นแผ่ปกคลุมทั่วร่าง โจวเหว่ยชิงและกู่อิ่งปิง ร่างกายของพวกเขาทั้งสองก็เริ่มสั่นเทาอย่าง รุนแรง ราวกับว่ากําลังได้รับความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้
ทันใดนั้นกู่อิ่งปิงก็กลายร่างเป็นราชสีห์วิญญาณสวรรค์ปฐพี ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนโจวเหว่ยชิงก็หมอบลงกับพื้น ขาขวาของเขายกขึ้นสูงใน ขณะที่ลายเสือดํารอบตัวเริ่มหนาทึบและชัดเจนมากขึ้น
ทั้งราชาสิงโตและหลงซื่อหยารู้สึกตึงเครียดขึ้นมาในทันที ถึง อย่างไรพยัคฆ์ใต้พิภพกลับด้านก็เป็นอสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้า! อีกฝ่าย อยู่ในระดับเดียวกับมังกรด้วยซ�า การเผชิญหน้ากับกลิ่นอายข่มขวัญ ของอสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าเช่นนี้ นับประสาอะไรกับศิษย์น้อยทั้งสอง
แม้พวกเขาที่เป็นยอดฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์ก็ยังคงต้านรับได้ไม่ ง่ายนัก
เวลาผ่านไปเกือบ 1 นาทีก่อนที่ร่างราชสีห์วิญญาณสวรรค์ปฐพี ศักดิ์สิทธิ์ของกู่อิ่งปิงจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด ในชั่วพริบตาเดียว ซู่ อ้าวเทียนก็ไปปรากฏตัวต่อหน้าเขาและฝ่ากําแพงแสงย้อนกลับเข้าไป ดึงตัวเด็กหนุ่มกลับมา สุดท้ายก็หมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ของเขา เพื่อรักษากู่อิ่งปิงด้วยตัวเอง
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ปาฏิหาริย์ครั้งใหม่ก็ดูเหมือนจะเกิด ขึ้นกับโจวเหว่ยชิง ดึงดูดความสนใจของคนที่เหลือไปในทันที ร่างกาย ของโจวเหว่ยชิงเริ่มเปลี่ยนสี ตั้งแต่ปีกบนแผ่นหลังของเขาลากยาวลง ไปเบื้องล่าง
สีดําอมเทาดั้งเดิมค่อยๆกลายเป็นสีม่วงลึกลับ และลายเสือดั้งเดิม ก็ถูกแทนที่ด้วยเกล็ด กลิ่นอายอันทรงพลังของพยัคฆ์เทพอสูรมืดแผ่ ออกมาเข้มข้นยิ่งขึ้น และทั้งร่างของเขาก็เริ่มสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แม้จะเพียงเบาบาง แต่พวกเขาก็ยังสามารถได้ยินเสียงเสือและมังกร คํารามพร้อมกัน
“นี่…นี่มัน…” ดวงตาของราชาพยัคฆ์เบิกกว้างด้วยความตกใจ
ความจริงเขาไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนั้น แม้แต่ซู่อ้าวเทียนก็อด ไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างงุนงง “มังกร…กลิ่นอายของมังกร?”
ซู่อ้าวเทียน ราชาสิงโต และราชาพยัคฆ์ ทันใดนั้นสายตาของพวก เขาก็หันไปจับจ้องที่หลงซื่อหยา
หลงซื่อหยากล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เฒ่าปีศาจซู่ หากวัดในแง่ของ พลัง ข้าอาจจะพ่ายแพ้แก่เจ้า แต่หากจะเปรียบเทียบเรื่องลูกศิษย์แล้ว ล่ะก็ เจ้ายังอยู่ห่างไกลจากข้ามากนัก สายเลือดของลูกศิษย์แสนล�าค่า ของข้าเป็นหนึ่งในสายเลือดอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง แม้แต่ตัว เจ้าก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้ ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยมังกรในเขตแดนมิติ สะท้อนของวังสวรรค์ไพศาล จากนั้นเขาก็ได้รับวิญญาณมังกรกลาย สภาพมา ก่อนที่จะมาที่นี่ เขาสามารถหลอมรวมสายเลือดดั้งเดิมของ เขาเข้ากับวิญญาณมังกรกลายสภาพได้ ไม่งั้น…เจ้าคิดว่าข้าจะพาเขา มาที่นี่เพื่อให้ตัวเองขายหน้างั้นรึ?”
การพบกันของมังกรและพยัคฆ์ การหลอมรวมพลังสายเลือด! ถ้อยคําเหล่านั้นปรากฏขึ้นในความคิดของยอดฝีมือทั้ง 3 ทันที การ แสดงออกของราชาสิงโตตอนนี้ดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้นทุกขณะ เขาไม่ เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าจ้าวมณีสวรรค์ระดับมณี 6 ชุดตัวเล็กๆคนหนึ่ง จะเป็นภัยคุกคามต่อลูกชายของเขาได้ขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม หลงซื่อหยาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนานนัก เขาหันไปหาซู่ อ้าวเทียนอย่างเป็นกังวล “เฒ่าปีศาจซู่ ผู้ใดชนะนั้นชัดเจนแล้ว รีบให้ ภรรยาของเจ้าหยุดและปล่อยตัวลูกศิษย์ของข้าเสีย”
สําหรับปราการย้อนกลับของฟีเลียนั้น แม้แต่หลงซื่อหยาก็ยังไม่ กล้าฝ่าเข้าไปง่ายๆ ไม่ใช่เพราะว่าหลงซื่อหยาเกรงกลัวอีกฝ่าย แต่เป็น เพราะเขากลัวว่าหากตนทะเล่อทะล่าเข้าไปอาจทําให้เกิดปฏิกิริยา ลูกโซ่จนอาจทําร้ายโจวเหว่ยชิงเอาได้ นั่นก็ด้วยพลังระดับเทพ เจ้าของฟีเลีย แม้แต่นิ้วก้อยของเธอก็สามารถทําลายโจวเหว่ยชิงได้ อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น พวกเขาก็เห็นฟีเลียขยับตัว เพียงเยื้องย่างก้าวเดียว เธอ ก็มาปรากฏตัวต่อหน้าโจวเหว่ยชิง กรงเล็บด้านหน้าวางบนไหล่ซ้ายของ เขาเบาๆ ปราการย้อนกลับทั้งหมดกลายเป็นหมอกหนาทึบและไม่ สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากสายตาคนภายนอกได้อีกต่อไป
หลงซื่อหยารู้สึกกังวลอย่างมาก เขากําลังจะขยับตัวแต่กลับถูก หยุดด้วยมือของซู่อ้าวเทียน
“ฟีเลียรู้ว่านางกําลังทําอะไร พี่หลงไม่ต้องกังวล” ซู่อ้าวเทียน กล่าวอย่างเคร่งขรึม
หลงซื่อหยาเป็นกังวลมากเกินไปเพราะเขาเป็นห่วงลูกศิษย์ผู้นี้ อย่างสุดชีวิต ทว่าเขาก็มีความคิดหนึ่งเป็นของตัวเอง ถึงอย่างไรตอนนี้ พวกเขาก็อยู่ในถ�าที่ลึกเข้าไปในภูเขาหิมะสวรรค์ อีกนัยหนึ่งก็มีระดับ เทพเจ้าสวรรค์อยู่ 2 คน รวมถึงระดับมหาราชาสวรรค์อีก 2 คน หาก ฝ่ายนั้นต้องการโค่นทั้งเขาและโจวเหว่ยชิงอย่างแท้จริง มันก็ยากที่จะ บอกว่าพวกเขาจะสามารถหลบหนีสําเร็จหรือไม่
……………………………………………..