Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 27.2 ทักษะธาตุที่ 6 ของโจวเหว่ยชิง (2)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 27.2 ทักษะธาตุที่ 6 ของโจวเหว่ยชิง (2)
“ทักษะธาตุ 6 อย่างงั้นรึ!” ถังเซียนจ้องมองโจวเหว่ยชิง จากนั้นเธอก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เดิมเธอก็ งดงามอย่างไม่อาจหาใครเปรียบได้แล้ว แต่ทว่าหลังเธอหัวเราะออกมา ความงามของเธอยิ่งเฉิดฉายจนสภาพแวดล้อม รอบๆตัวดูไร้สีสันไปทันตาเห็น “ฮ่าๆๆๆๆๆ…ตาแก่ซ่างกวนเยว่เอ๋ย หึ อย่าได้ภูมิใจในความสามารถของเจ้าไปนักเลย! ไพฑูรย์ตาแมวสองสีของเจ้ามีแค่ 4 ทักษะธาตุเท่านั้น!”
ขณะที่เธอพูด เธอก็จ้องมองโจวเหว่ยชิงอีกครั้ง “เจ้าบอกว่าก่อนหน้านี้เจ้าไม่รู้ว่าทักษะธาตุที่ 6 คืออะไร… ถ้าอย่างนั้นเจ้าได้กักเก็บทักษะลงในทักษะธาตุที่ 6 นี้ไหม?”
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “อืม ข้าได้กักเก็บทักษะลงไปแล้ว ในสำนักกักเก็บทักษะ ข้าบังเอิญพบแมวน้อย ที่มี 3 ตาจ้องมองมาที่ข้า ข้าไม่รู้ว่าทักษะธาตุของแมวน้อยตัวนั้นคืออะไร แต่ข้าก็ลองกักเก็บทักษะจากมันดู ไม่คาดคิด เลยว่าจะประสบความสำเร็จเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ความสามารถของมันดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์มากเท่าไหร่เพราะ ระยะการใช้งานคือ 5 หลาเท่านั้น ข้าจึงคิดว่ามันน่าจะไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่”
“แมว 3 ตางั้นหรือ?” ร่างกายของถังเซียนสั่นสะท้านเล็กน้อยขณะที่เธอกล่าว “ใช้ทักษะนั้นกับข้าซิ”
“ตกลง” โจวเหว่ยชิงพยักหน้ารับ ทักษะธาตุที่ 6 ของเขาดูเหมือนจะไม่ใช่ทักษะการโจมตี ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อย กังวลหากจะลองใช้กับถังเซียน
เมื่อวงล้อทักษะธาตุในดวงตาของเขาหมุนไปสู่ส่วนที่ไร้สี เขาก็เปิดใช้ทักษะที่กักเก็บไว้ และก็เป็นไปตามที่คาด ทักษะนี้ไม่ได้เผาผลาญพลังปราณสวรรค์ไปจำนวนมากเหมือนทักษะโซ่ตรวนวายุ
ในขณะที่ยกมือซ้ายขึ้นมา ถังเซียน หลิงจื่อหาน และซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็เห็นไพฑูรย์ตาแมวสองสีบนข้อมือซ้าย ของเขาสว่างวาบขึ้นมา ลำแสงนั้นพลันขยับบิดเบี้ยวและหายไปปรากฏอยู่บนร่างของถังเซียน
ถังเซียนค่อยๆยกมือขวาขึ้นอย่างช้าๆ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “นี่คือทักษะของนักล่าที่ไร้ความ ปราณีอย่างแมวมังกร 3 ตา ทักษะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพวกมัน หรือก็คือทักษะ ‘หน่วงเวลาสมบูรณ์’ นั่นเอง พระเจ้า! เจ้ามันสัตว์ประหลาดชัดๆ เดี๋ยวก่อน! นั่นไม่ถูกต้อง! แม้ว่าจะเป็นสำนักกักเก็บทักษะของอาณาจักรเฟยหลี่ ที่นั่นก็ไม่น่าจะมีอสูรสวรรค์ที่หายากเช่นแมวมังกร 3 ตาได้ โจวเหว่ยชิง แมวมังกร 3 ตาตัวที่เจ้ากักเก็บทักษะไว้มีสีอะไร?”
โจวเหว่ยชิงกรุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ “ข้าคิดว่าน่าจะเป็นสีเหลือง”
ถังเซียนกล่าวด้วยสีหน้ากระจ่างแจ้งว่า “มิน่าล่ะ สำนักกักเก็บทักษะของอาณาจักรเฟยหลี่ช่างโชคดีจริงๆ พวก เขาจับลูกแมวมังกร 3 ตามาได้ แมวมังกร 3 ตาที่โตเต็มที่นั้นมีระดับพลังเหนือว่าอสูรสวรรค์ระดับเทวะเสียอีก นั่นจึงเป็น ฝันร้ายสำหรับจ้าวมณีสวรรค์ส่วนใหญ่เลยทีเดียว เพราะเหตุนั้นจึงไม่ค่อยมีใครกล้าจับมัน”
ขณะที่เธอกล่าว เธอก็มองไปยังโจวเหว่ยชิงด้วยสีหน้าแปลกๆ “แม้แต่ลูกแมวมังกร 3 ตา มันก็ยังเป็นถึงอสูร สวรรค์ระดับเทวะ เจ้ามีมณีเพียงแค่ชุดเดียว เหตุใดถึงสามารถกักเก็บทักษะของมันได้? ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังได้รับความ สามารถพิเศษอย่างทักษะ ‘หน่วงเวลาสมบูรณ์’ อีก นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะอธิบายว่าเกิดจากโชคช่วยได้”
โจวเหว่ยชิงยิ้มกว้างและพูดว่า “บางทีแมวมังกร 3 ตาตัวน้อยอาจจะพอใจในตัวข้า มันจึงตัดสินใจมอบทักษะนี้ ให้ข้า”
หลิงจื่อหานเห็นท่าทีราวกับคนหลงตัวเองของบุตรชายแล้วก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิเขาเสียงดัง “เจ้าเด็กตัวเหม็น! ต่อ หน้าป้าถังเซียนของเจ้า เจ้ายังกล้าพูดไร้สาระอยู่อีก!”
ใครจะรู้ว่าถังเซียนกลับตอบแทนเขาว่า “ปล่อยให้เขาหลงตัวเองไปเถิด เขามีสิทธิ์ทำเช่นนั้นได้อยู่แล้ว น้องจื่อ หานเจ้าไม่รู้หรอกว่าทักษะหน่วงเวลานั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่ตาแก่ซ่างกวนเยว่ก็ยังต้องอิจฉา”
โจวเหว่ยชิงถูจมูกของเขาแล้วถามอย่างสงสัย “แต่ท่านป้า ข้าไม่คิดว่าทักษะนี้จะมีประโยชน์มากขนาดนั้น! ขอบ เขตการใช้งานของมันแคบมาก อีกทั้งดูเหมือนว่าจะใช้งานได้แค่ 1 วินาทีเท่านั้นเอง”
ถังเซียนส่งเสียงฮึในลำคอและพูดว่า “เจ้าจะไปรู้อะไร! ทักษะหน่วงเวลาสมบูรณ์เป็นทักษะที่แข็งแกร่งมาก มัน ถูกเรียกขานว่าเป็นทักษะที่ท้าทายอำนาจสวรรค์เลยทีเดียว แม้แต่ในบรรดาอสูรสวรรค์ระดับจักรพรรดิก็ยังถือว่าเป็นหนึ่ง ในทักษะชั้นยอด นอกจากนี้ เจ้าอย่าลืมว่าเจ้ายังมีมณีสวรรค์แค่ชุดเดียวเท่านั้น และทักษะที่เจ้ากักเก็บมาจะพัฒนาขึ้น เมื่อเจ้ามีจำนวนมณีสวรรค์มากขึ้น เมื่อใดที่เจ้ามีมณีครบ 6 ชุด เจ้าจะรู้เองว่าความน่ากลัวของทักษะนี้เป็นอย่างไร”
“ข้าจะให้คำแนะนำแก่เจ้า ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของทักษะหน่วงเวลาสมบูรณ์นั้นมีอยู่ 2 ข้อ … ”
“ข้อแรกคือทักษะนี้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดายและใช้ได้กับศาสตรามณียุทธ์หรือทักษะธาตุอื่นๆ ทุกชนิด เจ้ากับปิงเอ๋อร์เป็นนักธนูทั้งคู่ ดังนั้นข้าจะยกตัวอย่างง่ายๆให้ฟัง หากศัตรูใช้อาวุธป้องกันลูกศรของเจ้า แต่ลูกธนู ของเจ้ากลับหยุดอยู่กลางอากาศเป็นเวลา 1 วินาทีก่อนจะพุ่งไปข้างหน้าต่อ เจ้าเดาสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของถังเซียน โจวเหว่ยชิงและซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
ถังเซียนกล่าวต่อว่า “ข้อที่ 2 คือคำว่า ‘สมบูรณ์’ กล่าวคือจะทักษะนี้มีผลกับทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคู่ต่อ สู้ของเจ้าจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ไม่ว่าระดับการฝึกฝนจะแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม แม้ว่าเวลา 1 วินาที อาจดูเหมือนเป็น ระยะเวลาสั้นๆ แต่ในการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่ง ช้าไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็อาจจะเป็นตัวตัดสินระหว่างชัย ชนะและพ่ายแพ้ ความเป็นและความตายได้เลยทีเดียว เจ้าควรจะฝึกฝนการใช้งานทักษะนี้ให้มากๆ เพราะเจ้าจะต้องใช้ ประโยชน์จากมันไปชั่วชีวิต”
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ขอบคุณมากขอรับท่านป้า”
ถังเซียนดูเหมือนจะไม่ได้ยินที่เขาตอบ เธอพึมพำกับตัวเองต่อไปว่า “หากเจ้าสามารถกักเก็บทักษะหน่วงเวลา สมบูรณ์ได้จริงๆ นั่นก็แปลว่าทักษะธาตุลึกลับที่ 6 ของเจ้าคือทักษะธาตุกาลเวลา มันคือ 1 ใน 3 ทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่มี เพียงแค่เจ้าของไพฑูรย์ตาแมวสองสีเท่านั้นจึงจะมีได้ นอกจากนี้ เจ้ายังมีทักษะธาตุมิติคอยส่งเสริมอีกด้วย…”
“ทักษะธาตุลมสำหรับเพิ่มความเร็ว ทักษะธาตุสายฟ้าสำหรับสร้างความเสียหาย ทักษะธาตุมิติสำหรับการ เคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง ทักษะธาตุมืดสำหรับความลึกลับที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทักษะธาตุปีศาจสำหรับการเติม เต็มพลังร่างกาย และทักษะธาตุกาลเวลาสำหรับจังหวะที่เหมาะสม นี่เกือบจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างยิ่ง!”
ซ่างกวนปิงเออร์ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามารดาของตนมีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้ อีกทั้งยังรู้เกี่ยวกับจ้าวมณีสวรรค์อย่าง ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ เมื่อได้ยินมารดาของตนพูดจบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านแม่ ทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 คืออะไรหรือ?”
ถังเซียนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 หมายถึงทักษะธาตุเทวา ทักษะธาตุวิญญาณ และทักษะ ธาตุกาลเวลา ที่จริงแล้วทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์เคยมีอยู่ 4 ชนิด ซึ่งอีกชนิดที่เหลือก็คือทักษะธาตุปีศาจ อย่างไรก็ตามเนื่อง จากทักษะธาตุปีศาจนำมาซึ่งผลกระทบในด้านลบมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นมันยังไม่ได้จำกัดอยู่เพียง แค่ในบรรดาผู้ครอบ ครองไพฑูรย์ตาแมวสองสีเท่านั้น เพราะฉะนั้นพลังโดยรวมของมันจึงถือว่าน้อยกว่าทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ชนิดที่ข้า กล่าวถึงก่อนหน้า และด้วยเหตุนั้นทักษะธาตุปีศาจจึงถูกลบออกจากการเป็นทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ ปิงเอ๋อร์ ข้าต้องบอกว่า เจ้าค่อนข้างโชคดีจริงๆ ”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์หน้าแดงขึ้นมาทันที เธอหันไปหยิกโจวเหว่ยชิงที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะก้มศีรษะลงด้วย ความเขินอาย
ถังเซียนมองโจวเหว่ยชิงด้วยน้ำเสียงเข้มงวดจริงจัง “โจวเหว่ยชิง ข้าต้องเตือนเจ้าไว้ แม้ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์และ มีความสามารถอย่างหาตัวจับได้ยาก แต่เจ้าก็ต้องตระหนักไว้ว่า ไม่ว่าเจ้าจะมีความสามารถมากเพียงใด หากไม่ตั้งใจฝึก ฝนให้หนัก เจ้าก็ไม่นับว่าเป็นตัวอะไรได้ นอกจากนี้ ก่อนที่เจ้าจะทะลวงไปถึงมณีสวรรค์ชุดที่ 6 ได้ ช่วงเวลานั้นก็ง่ายมาก ที่จะฆ่าเจ้า จ้าวมณีสวรรค์ที่มีระดับการฝึกฝนที่สูงกว่าพวกนั้นยังคงสามารถจัดการกับเจ้าได้ง่ายๆ ตอนนี้อย่างมากเจ้าก็ แค่ถูกมองว่าโดดเด่นขึ้นมาในสายตาของคนที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้น”
โจวเว่ยชิงถามกลับว่า “แล้วหลังจากข้ามีมณีสวรรค์ครบ 6 ชุดล่ะ?”
ถังเซียนกล่าวตอบ “หากเจ้ามีมณีสวรรค์ครบ 6 ชุด เวลานั้นเจ้าก็น่าจะมีพลังเพียงพอจะป้องกันตัวเองได้แล้ว และหลังจากเจ้ามีมณีครบ 9 ชุด ในเวลานั้นก็ยากที่จะหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับเจ้าแล้ว”
โจวเหว่ยชิงยิ้มกว้างและพูดว่า “แฮ่ๆ ขอบคุณท่านป้ามากสำหรับคำสั่งสอนของท่าน”
ถังเซียนจ้องเขาและพูดว่า “เจ้าคบหากับลูกสาวของข้าอยู่ ทำไมเจ้าถึงยังเรียกข้าว่าป้า?”
โจวเหว่ยชิงกระพริบตาและเข้าใจในความหมายของเธอทันที เขาพูดต่ออย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงประจบประแจง “ท่านแม่…” ในขณะที่เขาพูดแบบนั้น เขาก็บ่นอยู่ภายในใจ ตอนที่ท่านมาหาข้าครั้งแรก ท่านยังกล่าวว่าข้าไม่เหมาะสม กับลูกสาวของท่าน ผ่านไปแค่ชั่วอึดใจเดียว ท่านกลับยอมรับข้าเป็นลูกเขยเสียแล้ว! ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เกินไปจริงๆ!
แน่นอนเขาย่อมไม่รู้ว่ามีเพียงคนระดับถังเซียนเท่านั้นจึงจะสามารถตระหนักได้ถึงความน่ากลัวและความยิ่งใหญ่ของผู้ที่ครอบครองทักษะธาตุ 6 ชนิดได้อย่างถ่องแท้
ถังเซียนพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจในขณะที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์มองดูพวกเขาอย่างตกตะลึง เจ้าคนไร้ยางอายนี่! ผิว ของเขาหนาเกินไปจริงๆ อีกทั้งมารดาของเธอยัง…
ถังเซียนเหลือบมองลูกสาวของเธอและกล่าวว่า“ ไม่เป็นไร ตอนนี้เจ้าเรียกข้าว่าท่านป้าไปก่อนก็แล้วกัน เมื่อพวก เจ้าทั้งคู่แต่งงานกัน เจ้าสามารถเปลี่ยนมาเรียกข้าว่าท่านแม่ได้ ปิงเอ๋อร์ เจ้าต้องคอยดูเขาดีอย่าให้ใครมาฉกเขาไปจาก เจ้าได้ เมื่อพวกเจ้าทั้ง 2 คนโตกว่านี้ ในเวลาอีกไม่กี่ปีพวกเจ้าก็สามารถแต่งงานกันได้แล้ว จื่อหาน พวกเราสองพี่น้องไม่ ได้เจอกันมานานแล้ว เจ้าจะไม่เชิญพวกเราเข้าไปข้างในหน่อยหรือ?”
“อ๊ะ! ท่านพี่ถังเซียน มาเถิด เข้ามาข้างในก่อน!” หลิงจื่อหานตอบกลับอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้ หากจะถามว่าผู้ใด มีความสุขที่สุด คำตอบก็ย่อมต้องเป็นหลิงจื่อหานอย่างไม่ต้องสงสัย ในความคิดของเธอนั้น ซ่างกวนเยว่และถังเซียน เปรียบเสมือนผู้ที่สืบทอดเชื้อสายเทพเจ้าลงมาอยู่บนโลกมนุษย์! เมื่อเห็นว่าลูกชายของตนจะได้แต่งงานกับลูกสาวของ พวกเขา อันที่จริง ถังเซียนดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะจัดงานแต่งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายของเธอยังเด็ก ก็มีแนวโน้ม ว่าพวกเขาจะเป็นคนจัดงานให้ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะไม่ให้เธอมีความสุขและตื่นเต้นได้อย่างไร? แม้ว่านี่จะ เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับซ่างกวนปิงเอ๋อร์ แต่หลังจากได้ฟังคำพูดของเธอก่อนหน้านี้
หลิงจื่อหานก็ชื่นชอบในตัวลูกสะใภ้ในอนาคตคนนี้เสียแล้ว นอกจากนี้เธอก็ยังเคยได้ยินชื่อเสียงของหญิงสาวที่ งดงามที่สุดในอาณาจักรมาหลายครั้งแล้วด้วย
เมื่อเห็นว่าทั้งมารดาของตนและถังเซียนเข้าไปในบ้านแล้ว ในที่สุดโจวเหว่ยชิงก็อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เขายื่น มืออกมาเท้าเอวแล้วเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความดีใจ “วะฮ่าๆ! ภรรยา ตอนนี้เจ้าหนีข้าไปไม่พ้นแล้ว! แม้แต่ท่านแม่ ยายยังเห็นดีเห็นงามด้วยขนาดนี้!”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ได้แต่หวังว่าตอนนี้จะมีหลุมเปิดออกแล้วกลืนเธอลงไป เธอเตะเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งหนีไป
ถังเซียนและหลิงจื่อหานคุยกันจนดึกดื่น ก่อนถังเซียนจะกลับไป พวกเขาทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจกันว่าจะมาพบปะ กันให้บ่อยขึ้น
หลังจากที่มารดาของเขามองส่งถังเซียนกลับไปแล้ว ในที่สุดโจวเหว่ยชิงก็วิ่งเข้าไปในห้องของเธอก่อนจะถาม ด้วยความสงสัย “ท่านแม่ ท่านรู้จักกับท่านแม่ยายในอนาคตของข้าได้อย่างไร? จากปฏิกิริยาของท่านดูเหมือนว่านางจะ มีพลังมากกว่าท่านพ่อใช่หรือไม่?”
หลิงจื่อหานอารมณ์ดีมากในตอนนี้ เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง “เจ้าเด็กเหลือขอตัวน้อย! เจ้าโชคดี เหลือเกิน!”
“ในปีนั้น ข้าเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง ขณะนั้นข้าได้พบกับอสูรสวรรค์ริมฝั่งแม่น้ำและเกือบจะต้องตายตรงนั้นแล้ว โชคดีที่ข้าได้รับการช่วยเหลือจากท่านพี่ซ่างกวนเยว่และท่านพี่ถังเซียนที่เดินทางผ่านมา ในเวลานั้นบิดาของเจ้ายัง คงเรียนอยู่ในโรงเรียนเจ้ามณีและไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้าน อีกทั้งในเวลานั้นเรายังไม่ได้แต่งงานกัน เพื่อตอบแทนพวกเขา ข้าเชิญ พวกเขากลับไปที่บ้านของข้าเพื่อพักผ่อน พวกเขาชอบบรรยากาศรอบๆบ้านของท่านตาเจ้ามาก พวกเขาจึงพักอยู่กับพวก ข้าระยะหนึ่ง ข้าไม่รู้ต้นกำเนิดของพวกเขา แต่ข้ารู้ว่าพวกเขามีพลังมหาศาลอย่างแน่นอน ข้าไม่รู้ระดับพลังปราณที่แน่นอน ของท่านพี่ถังเซียน แต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ขณะที่พี่ชายซ่างกวนฆ่าอสูรสวรรค์ เพื่อช่วยข้า มณีธาตุรอบข้อมือของเขามีสีคล้าย กับของเจ้ามาก แต่เขามีมณีเช่นนั้นถึง 10 ชุด!”
“10 ชุด?!” ดวงตาของโจวเหว่ยชิงเบิกกว้าง เขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความแตกตื่น จ้าวมณีสวรรค์ที่มี ไพฑูรย์ตาแมวสองสี 10 ชุด! เขาจะมีพลังมหาศาลขนาดไหนกันนะ? ขนาดบิดาของเขา ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักร เกาทัณฑ์สวรรค์ยังมีมณีสวรรค์เพียง 8 ชุดและมีทักษะธาตุเพียงแค่ชนิดเดียวด้วยซ้ำ หากเมื่อ 20 ปีที่แล้วเขามีมณีสวรรค์ 10 ชุด ซึ่งนั่นก็เกินระดับเทวะไปแล้วด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้ใครจะรู้ว่าระดับพลังของเขาเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ โจวเหว่ยชิงสั่น สะท้าน เขาไม่เคยคาดคิดว่าบิดาของซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะทรงพลังมากถึงขนาดนี้!
……………………………………………