Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 6.1 สังเวยทุรมาลิน กำเนิดไพฑูรย์ตาแมวสองสี (1)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 6.1 สังเวยทุรมาลิน กำเนิดไพฑูรย์ตาแมวสองสี (1)
ดวงตาเช่นนั้นคืออะไรกันแน่? เมื่อซ่างกวนปิงเอ๋อร์จ้องไปที่ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นเธอก็ได้แต่มึนงงสับสน ภายในกระโจมนั้นมีไอความเย็นจัดมากกว่าข้างนอกถึง 10 เท่า
ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นแผ่อารมณ์ด้านลบต่างๆออกมามากมาย มันเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ความชั่วร้าย ความกระหายเลือด และความชั่วร้ายอื่นๆ อีกมากมายที่เธอไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แม้ว่าระดับพลังปราณสวรรค์ของเธอจะไม่สูงมาก แต่เธอก็เป็นถึงจ้าวมณีสวรรค์ ทว่าเมื่อเธอมองไปยังดวงตาคู่นั้น เธอรู้สึกว่าภาพที่เธอเห็นค่อยๆ หมุนวนรอบตัวเธอ ราวกับว่าวิญญาณของเธอกำลังถูกดูดกลืนโดยนัยน์ตาชั่วร้ายคู่นั้น
ช่วงเวลาที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กำลังตกตะลึงอยู่นั้น พลังแข็งแกร่งขุมหนึ่งก็พลันดึงตัวเธอเข้าไปใกล้ จู่ๆ ซ่างกวน ปิงเอ๋อร์ รู้สึกว่าร่างกายของเธอถูกรัดไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงคู่หนึ่ง ด้วยสัญชาติญาณการป้องกันตัวเองทำให้เธอมีเริ่มมีสติขึ้นมาเล็กน้อย และเมื่อลืมตาขึ้นเธอก็ตระหนักได้ว่าเจ้าของดวงตาแดงก่ำคู่นั้นเป็นเจ้าอ้วนน้อยโจวจริงๆ!
ขณะนี้ร่างกายของโจวเหว่ยชิงดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่ขึ้นราวกับเขากลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว กล้ามเนื้อทั้งหมดขยายขนาดออกมาเต็มที่ ผิวหนังยังเรืองรองไปด้วยอักขระลวดลายสีดำและสีเทาราวกับปีศาจ รอบตัวของเขาเปล่งรัศมีความชั่วร้ายและป่าเถื่อนออกมา ชุดเครื่องแบบกองทัพที่เขาสวมอยู่นั้นถูกพลังภายในของเขากระแทกออกจนขาดวิ่นไปหมด เหลือแค่เพียงเกราะอ่อนประกายแวววาวเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่ติดร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่งของเขา โชคดีที่เส้นเอ็นของอสรพิษพิเศษนั้นแข็งแกร่ง และยืดหยุ่นมาก เกราะอ่อนนั้นจึงไม่ได้ถูกทำลายไปเพราะร่างกายที่มีขนาดใหญ่ขึ้นพรวดพราดของเขา
“ปล่อยข้านะ!!!” ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธ เธอพยายามใช้พลังปราณสวรรค์ของเธอกระแทกตัวออกจากอ้อมกอดของโจวเหว่ยชิง อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง รังสีชั่วร้ายก็วาบผ่านนัยน์ตาของเขา จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงจูบเข้าที่ริมฝีปากของเธอ
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์รู้สึกว่ามีพลังไอเย็นขุมหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในร่างกายของเธอ และพลังปราณสวรรค์ที่เธอกำลังโคจรออกมานั้นก็พลันถูกมันแช่แข็งไปด้วย ขณะนี้เธอไม่สามารถจะขยับตัวตอบโต้ได้เลย สิ่งที่ทำให้เธอตกอยู่ในความหวาดกลัว และสิ้นหวังก็คือในไอเย็นขุมนั้นยังซุกซ่อนสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่ไม่เหมือนใครอยู่ภายในด้วย ซึ่งนั่นทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกอ่อนระทวยหมดสิ้นเรี่ยวแรง เพราะว่าขณะที่ร่างกายของกำลังเย็นลงนั้น ในอกของเธอกลับกำลังเริ่มร้อนรุ่มขึ้น สัญชาติญาณขั้นพื้นฐานของมนุษย์ถูกจุดขึ้นมาด้วยพลังที่หายเข้าไปภายในร่างของเธอ
“การสังเวย” แม้ว่าจิตสำนึกของซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะไม่ชัดเจนอีกต่อไป แต่เธอก็นึกถึงคำๆนี้โดยไม่รู้ตัว
ตำนานกล่าวไว้ว่า มีจ้าวมณีสวรรค์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษจำนวนหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนน้อยมาก แต่พวกเขาก็จัดเป็นหมู่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาจ้าวมณีสวรรค์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังเป็นแหล่งรวบรวมความชั่วร้าย เมื่อมณีสวรรค์ของพวกเขาถูกปลุกขึ้น พวกเขาจะมีทักษะธาตุที่พิเศษไม่เหมือนใคร ซึ่งธาตุเหล่านั้นจะมีพลังแข็งแกร่งเหนือกว่าทักษะธาตุอื่นๆ ซึ่งทักษะนี้เรียกว่าทักษะธาตุปีศาจ และทักษะปีศาจนี้จะทำการเผาผลาญร่างกายของผู้ใช้จนทำให้พวกเขาถูกความกระหายเลือดครอบงำในระหว่างที่มณีตื่นขึ้นมา ในช่วงเวลานั้นพวกเขาต้องหาเครื่องสังเวยเพื่อทำให้ทักษะปีศาจร้ายนี้พึงพอใจและหยุดทำร้ายพวกเขา เครื่องสังเวยจึงมักจะเป็นบุคคลที่อยู่ใกล้พวกเขามากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นญาติสนิท เพื่อน หรือแม้แต่คนรักของพวกเขา ดังนั้น เมื่อจ้าวมณีสวรรค์คนนั้นผ่านพิธีการสังเวย และปลุกมณีสวรรค์สำเร็จ พวกเขาก็จะได้รับทักษะธาตุปีศาจเพิ่มอีกหนึ่งทักษะ กลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่มีจำนวนทักษะธาตุสูงกว่าจ้าวมณีสวรรค์คนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ในการทำการสังเวยนั้น คนที่พวกเขาใช้เป็นเครื่องสังเวยก็ไม่มีอะไรรออยู่นอกเสียจากความตาย บางครั้งถึงกับถูกข่มขืนอย่างไร้ความปราณีก่อนจะถูกฆ่า ปรากฏการณ์นี้จึงอยู่เหนือการควบคุมของทุกๆ คน ซึ่งในความเป็นจริงนั้น มีจ้าวมณีสวรรค์หลายคนฆ่าตัวตายหลังจากตื่นขึ้นมา และตระหนักได้ถึงสิ่งที่พวกเขาทำลงไป หรือหากไม่ได้ฆ่าตัวตาย เขาผู้นั้นก็อาจจะเปลี่ยนแปลงนิสัยจากหน้ามือเป็นหลังมือ และมีพลังอยู่คนละระดับเหนือกว่าจ้าวมณีสวรรค์คนอื่นๆ คนกลุ่มนี้จึงถือว่าน่ากลัวที่สุด ยากต่อกร แม้แต่ในความฝันที่โหดร้ายที่สุดของเธอ ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็ยังไม่เคยจินตนาการว่าจะมีเรื่องโหดร้ายแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองได้เลย
แต่นั่นก็เป็นเพราะเธอไม่ได้ระมัดระวังให้ดีก่อน ยิ่งไปกว่านั้น จริงๆ แล้วเธอก็เป็นเพียงเด็กอายุ 15 ปี แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะรู้สึกถึงการผันผวนของพลังขนาดใหญ่ภายในกระโจม แต่เธอก็สันนิษฐานว่าเจ้าอ้วนน้อยโจวที่เพิ่งปลุกพลังมณีของเขาได้นั้นคงจะไม่สามารถต่อกรกับตนเองที่มีมณีสวรรค์ถึง 2 ดวงได้ เพราะเหตุนั้น เธอจึงไม่ได้โคจรพลังมณีของเธอก่อนจะเข้าสู่กระโจม จากนั้นด้วยความตกใจ เธอจึงถูกโจวเหว่ยชิงจับได้ในที่สุด
มันจบแล้ว! นี่ข้ากำลังจะตายงั้นหรือ? ท่านแม่…ท่านแม่…
ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ซ่างกวนปิงเอ๋อร์นึกถึงแม่ของเธอ และน้ำตาสองสายก็ไหลอาบลงที่แก้ม ในวินาทีต่อมา ร่างกายของเธอและโจวเหว่ยชิงที่กำลังกอดกันอยู่นั้นก็ถูกห่อหุ้มด้วยคลื่นพลังความปรารถนาบางอย่าง
ไอพลังสีดำเหลือบเทาหลั่งไหลออกมาจากร่างของโจวเหว่ยชิงอย่างบ้าคลั่ง และดูเหมือนว่าพวกมันจะก่อตัวเป็นรังไหมสีดำขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างกายของเขาและซ่างกวนปิงเอ๋อร์เอาไว้ด้วยกัน
เสื้อผ้าของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และโยนออกมาจากรังไหมนั่นทีละส่วน เสียงอึกทึกครึกโครม เสียงหายใจหอบ รวมทั้งครวญครางที่มีทั้งความสุขสมเคล้าไปกับความเจ็บปวดดังออกมากึกก้องจากภายในรังไหมสีดำ
มีทั้งเสียงกระดูกหักและกระดูกเสียดสีกันดังลั่นออกมาไม่หยุด อวัยวะสำคัญภายในร่างกายของโจวเหว่ยชิงถูกบิดคว้านไปมาทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดของเขาสูบฉีดเร็วขึ้นเกือบห้าเท่าของความเร็วปกติ ทว่าในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็ถูกพลังชั่วร้ายนั่นรักษาอย่างทันท่วงที ตอนนี้ลวดลายสีดำบนผิวของเขามีขนาดหนาขึ้นเรื่อยๆ และกลุ่มแสงสีเขียว สีน้ำเงิน และสีเงิน ก็กำลังพัวพันเข้ากับรังไหมสีดำนั้นเช่นกัน
หลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่งทุกอย่างก็สงบลง ดวงตาสีเลือดของโจวเหว่ยชิงดูเหมือนจะเข้มข้นขึ้น ในขณะนั้น เขามีความปรารถนาอย่างยิ่งยวดที่จะกลืนกินลูกแกะไร้เดียงสาในอ้อมแขนของเขา ราวกับว่าไข่มุกรัตติกาลต้องการจะกลืนกินราชันแห่งทุรมาลินให้จงได้ อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นเขาก็สบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าที่อ่อนโยนและงดงามของซ่างกวนปิงเอ๋อร์
ไม่ ไม่ ข้ากลืนกินเธอไม่ได้!!
นั่นคือความคิดสุดท้ายของโจวเหว่ยชิงก่อนเขาจะอุ้มร่างของเธอขึ้นมากอดไว้แน่น ร่างกายทั้งคู่เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง จากนั้น เมื่อมณีเริ่มก่อตัวขึ้นที่ข้อมือของเขา โจวเหว่ยชิงก็หมดสติไป ทุกอย่างพลันกลับเข้าสู่สภาพปกติอย่างที่มันเคยเป็น
เมื่อซ่างกวนปิงเอ๋อร์ตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอรับรู้ได้ก็คือกลิ่นแปลกๆ ของอะไรสักอย่าง จากนั้นเธอก็เริ่มมีสติอย่างเต็มที่ ความเจ็บปวดในร่างกายทำให้เธอร้องครวญครางเสียงดัง
เกิดอะไรขึ้นกับข้า?
ความทรงจำของเธอไม่ปะติดปะต่อจากช่วงเวลาที่สติของเธอเริ่มลางเลือน และเมื่อเธอลืมตาขึ้นอย่างมึนงง เธอก็รับรู้ได้ว่าเธอกำลังนอนอยู่บนหน้าอกที่แข็งแกร่งของใครบางคนอยู่ จากนั้นเธอเริ่มสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เนื่องจากเธอรู้ว่าทั้งตัวของเธอรวมถึงร่างข้างล่างนั่นเปลือยเปล่าสนิท และความเจ็บปวดก็เกิดขึ้นก็อยู่ในร่างกายส่วนล่างของเธอด้วย!
ขณะที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กำลังพยายามปีนออกมาจากร่างของโจวเหว่ยชิงนั้น ความทรงจำของเธอก็เริ่มกลับมาอย่างช้าๆ
…………………………………………………………………