Hell mode - ตอนที่ 155 ปะทะโดเบิร์ก
บทที่ 155 ปะทะโดเบิร์ก
อเลนเอาชนะคุเรนะไปได้
ถึงด้านคุเรนะจะเลเวลสกิลสูงกว่า แต่ไม่คิดว่าจะแพ้ยู่แล้ว
อเลนที่ไม่มีข้อจำกัดด้านการใช้สัตว์อัญเชิญ ไม่มีทางแพ้คุเรนะได้เลย
ประสบการณ์ต่อสู้ของคุเรนะยังน้อยเกินไป ใช่ว่าทุกคนจะต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา ต่อจากนี้ต้องต่อสู้กับกองทัพจอมมาร ต้องมีมอนสเตอร์ที่เล็งจุดอ่อนหรือใช้วิธีขี้โกงอยู่
ถึงจะเจ็บใจหลังแข่งเสร็จ แต่ไม่บอกหรอกว่าทำยังไง อยากให้คิดหาวิธีรับมือด้วยตัวเอง
เท่านี้งานประลองโรงเรียนก็จบลงด้วยชัยชนะของนักอัญเชิญปริศนาอเลน
ตรงที่นั่งคนดูมีเสียงจอแจกันว่า เขาคือใครกันแน่ แต่ก็ไม่มีคำตอบจนมาถึงการประลองถัดไป
เนื่องจากคุเรนะไม่ได้บาดเจ็บหนักอะไรขนาดนั้น เลยเริ่มได้เร็ว
การต่อสู้ระหว่างยอดนักดาบโดเบิร์กกับคุเรนะ
ทั้งสองคนอยู่บนลานประลองและกำลังเผชิญหน้ากันอยู่
ในมือของทั้งสองคนคือดาบใหญ่อาดามันเที่ยม
(อาวุธระดับเดียวกัน ถ้าโดเบิร์กอยู่นอร์มอลโหมดเลเวลน่าจะเท่ากัน)
อเลนมั่นใจแล้วว่าโลกนี้ไม่มีใครอยู่เฮลโหมดเลย แต่ไม่ได้มีแค่นอร์มอลโหมดกับเฮลโหมดเท่านั้น ยังมีเอ็กซ์ตร้าโหมดที่เลเวลกับเลเวลสกิลใช้ค่าประสบการณ์เป็น 10 เท่าของนอร์มอลโหมดอยู่ ถึงตอนนี้จะยังไม่พบคนที่อยู่ในเอ็กซ์ตร้าโหมด แต่อเลนคิดว่าน่าจะมีอยู่
“คุเรนะจะชนะได้หรือเปล่านะ?”
“อืม นั่นสินะ ปีที่แล้วโดนเล่นงานซะขนาดนั้น อาจจะยากอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“……..”
เซซิลถามอเลน แต่ไวเคานต์แกรนเวลดันเป็นคนตอบออกมา แต่เพราะเป็นครอบครัวเดียวกันเธอจะบอกว่าถามอเลนก็ไม่ได้
งานประลองโรงเรียนปีนี้ไวเคานต์แกรนเวลเข้าร่วม คงเป็นห่วงเพราะมกุฎราชกุมารบอกว่าจะมาด้วยก็ได้
หรือไม่ก็อยากจะพบเซซิลที่ไม่ได้กลับบ้านตอนวันหยุดฤดูร้อนด้วยหรือเปล่า ปีนี้เลยพาหัวหน้ากลุ่มอัศวินกับพ่อบ้านมาด้วย คงตัดสินว่าปีที่แล้วคนรับใช้ไม่พอหรือเปล่า
และไม่ใช่แค่เซซิลกับอเลน แต่มีพวกอีก 7 คนของอเลนอยู่ตรงนี้ด้วย ถึงตรงนี้จะเป็นที่นั่งสำหรับแขกผู้ทรงเกียรติ แต่เพราะมีไวเคานต์อยู่ด้วย ไหนโซฟี่เองก็เป็นเชื้อพระวงศ์เลยบอกว่ามาตรงนี้จะดีกว่าทำให้ได้ที่ค่อนข้างกว้างอยู่
(อืม ผู้กล้ากับผู้อำนวยการคุยกันอยู่)
ปีนี้เองก็ให้สัตว์อัญเชิญนก E เฝ้าดูสภาพของมกุฎราชกุมาร
สัตว์อัญเชิญนก E ตัวนั้นเห็นผู้อำนวยการคุยกับผู้กล้า แน่นอนว่าผู้อำนวยการต้องมาดูงานประลองโรงเรียนนี้เหมือนกัน
คิดว่าคงคุยกันเกี่ยวกับการประลองระหว่างโดเบิร์กกับคุเรนะ
อเลนดึงสติกลับมาที่ตัวเอง
“เอาเถอะ เตรียมพวกอุปกรณ์มาครบแล้วด้วย น่าจะพอไหวอยู่มั้ง?”
เซซิลคงได้ยินที่ฉันบอก เลยตอบออกมาอีกครั้ง
“นั่นสินะ”
ถ้าโดเบิร์กอยู่นอร์มอลโหมดแล้วละก็ การแข่งนี้คุเรนะยังพอมีโอกาสชนะอยู่
ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน 2 เดือนอเลนได้ซื้อแหวนเพิ่มสเตตัสในงานประมูลแล้วมอบให้กับคุเรนะ ในช่วง 2 เดือนนี้เขาไม่ได้เตรียมแค่หินเวทอย่างเดียว
・ แหวนแห่งพายุเพิ่มความเร็ว 1000 ทั้งหมด 2 วง
อเลนคิดว่าพื้นฐานของการต่อสู้แบบ PVP คือความเร็ว
“ข้าคือผู้ล่ามอนสเตอร์ เชือดเฉือนเผ่ามาร และทำลายล้างเทพมารให้สิ้นซาก”
“……”
โดเบิร์กกำดาบใหญ่แน่นต่อคุเรนะที่พึมพำอะไรออกมา ตอนที่คิดว่าเธอกำลังพูดอะไร ก็จดจ่อกับการต่อสู้
“หนึ่งปีมาได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“อืม”
ถึงกรรมการจะเริ่มสัญญาณการประลองแล้ว แต่ปีนี้ทั้งคู่ก็ยังต่อส้ตามจังหวะของตัวเอง
“มาเลย! ขอดูผลการฝึก 1 ปีหน่อย!!”
“อืม!!”
โดเบิร์กชูดาบใหญ่อาดามันเที่ยมขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับคำพูดนั้น พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ทันที เนื่องจากคุเรนะเลเวลตันบวกกับผลของเครื่องสวมใส่ทำให้ใช้ดาบใหญ่รับการโจมตีของโดเบิร์กได้อย่างง่ายดาย
เสียงคลื่นกระแทกของการปะทะกันดังก้องไปทั่วลานประลอง
ทำให้มีเสียงพูดกันว่าการต่อสู้ระหว่างนักเรียนด้วยกันถึงเมื่อครู่มันเทียบไม่ติดเลย ยอดนักดาบทั้งสองฟาดฟันดาบใหญ่ใส่กันด้วยค่าสเตตัสที่สูงส่ง
เหล่าแขกผู้ทรงเกียรติรู้ดีอยู่แล้วว่าเหล่านักเรียนที่เข้าร่วมงานประลองนี้แข็งแกร่งประมาณไหน เหล่าผู้ที่แข่งรอบจริงซึ่งมีพรสวรรค์ 2 ดาว ถ้ามีค่าความสามารถที่คล้ายๆกัน และเลเวลเท่ากันแล้วละก็ ความแข็งแกร่งของนักเรียนที่โรงเรียนชุบเลี้ยงมาน่าจะพอๆกัน
ปีที่แล้วมันต่างไป การประลองระหว่างคุเรนะที่เลเวลตันกับโดเบิร์ก มันทรงพลังแตกต่างกับทุกปีที่ยอดนักดาบมาต่อสู้ด้วย
แค่เสียงดาบใหญ่ปะทะกัน กำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ถึงกับตกตะลึงกันไปแล้ว
“สู้ได้สูสีนะเนี่ย แต่คุเรนะโดนกดดันอยู่เล็กน้อย ต้องบอกว่าความสามารถของเครื่องสวมใส่ต่างกันอยู่นิดหน่อยสินะ กะแล้วเชียวว่าต้องสวมอะไรที่สูงกกว่าไอเทมที่ได้จากการประมูล”
อเลนวิเคราะห์การต่อสู้ของทั้งสองคนออกมา เพื่อให้พวกพ้องเข้าใจสถานการณ์ของคุเรนะ
ถึงคุเรนะจะมีแหวนแห่งพายุที่ซื้อมาจากงานประมูลวงละเกือบ 3000 เหรียญถึง 2 วง ถึงกระนั้นโดเบิร์กก็ยังเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า
คาดเดาไว้ก่อนเลยว่าโดเบิร์กสวมอุปกรณ์ที่หาไม่ได้ในงานประมูล
ถ้าโดเบิร์กอยู่เอ็กซ์ตร้าโหมดแล้วละก็คุเรนะคงจะด้อยกว่านี้แน่นอน แต่ถ้าแค่นี้คิดว่าน่าจะเกิดจากสเตตัสของอุปกรณ์สวมใส่
“ฮึ! เป็นอะไรไปยอดนักดาบคุเรนะ! มีแค่นี้เองเหรอ!!”
“ย๊ากก!!”
หลังจากเริ่มต่อสู้ไปได้ไม่ถึง 10 นาที ยอดนักดาบโดเบิร์กก็เริ่มไล่ต้อนอย่างเห็นได้จัด
รู้เลยว่าโดเบิร์กเองก็ต่อสู้แบบเอาจริง
โดเบิร์กแสร้งโจมตีหลอกคุเรนะ แสดงให้เห็นถึงความต่างชั้นของประสบการณ์ต่อสู้
“……ดูเหมือนจะเริ่มแพ้แล้วเลย”
เซซิลเองก็เริ่มเป็นห่วง
โดโกร่าไม่เข้าร่วมการสนทนา เอาแต่ดูการต่อสู้ของสองคนนั้น
“โดเบิร์กเริ่มอ่านการโจมตีออกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเริ่มอ่านการโจมตีของเขาไม่ออกและโดนโจมตีเยอะขึ้น”
(แย่แล้ว อย่างนี้มันทักษะผู้เล่นต่างกันเกินไปสินะ)
ทักษะผู้เล่น ให้พูดอีกอย่างก็คือ “ความเก่งกาจในการต่อสู้”
การต่อสู้คือการหาตำแหน่ง การเคลื่อนไหว เลือกสกิล หรืออ่านการโจมตีของอีกฝ่ายในชั่วพริบตา และต้องให้อีกฝ่ายอ่านการเคลื่อนไหวและสิ่งที่ตัวเองเล็งไว้ไม่ได้
ทักษะผู้เล่นไม่สามารถได้มาในชั่วข้ามคืน
การประลองที่ยังไม่ถึง 10 นาที เริ่มแสดงให้เห็นถึงความต่างประสบการณ์ต่อสู้หลาย 10 ปีของโดเบิร์กให้เห็น
ถึงการเคลื่อนไหวจะได้รับการสอนจากอาจารย์ประจำชั้น แต่ความต่างเล็กน้อยนั้นค่อยๆขยายมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าให้พูดตามตรงน่าจะแพ้
คุเรนะโดนดาบใหญ่ของโดเบิร์กฟาดกระเด็นจนร่างกายและใบหน้าแนบติดกับพื้น
“เป็นอะไรไป! ยืนขึ้น! ได้แค่นี้เหรอ!!!”
(โอ๊ะ! นี่มัน!!)
ร่างของคุเรนะที่โดนซัดจนกระเด็นเริ่มมีอะไรที่เหมือนไอร้อนโยกไหวไปมา
“ย๊าก!!!”
“หือ?”
(โอ๊ะ! สำเร็จแล้ว!! ลุยเลยๆ!! ครั้งนี้จะมีสติหรือเปล่านะ?)
ดูเหมือนเอ็กซ์ตร้าสกิลของคุเรนะ “ทะลวงขีดจำกัด” จะเริ่มทำงานแล้ว
เอ็กซ์ตร้าสกิลได้รับการสอนจากอาจารย์ประจำชั้นมาเกินครึ่งปีแล้ว แต่โอกาสสำเร็จมันต่ำ ยังไม่เคยสำเร็จแบบสมบูรณ์เลย
ดูเหมือนเอ็กซ์ตร้าสกิลจะขึ้นอยู่กับจิตใจ
ถ้ายังไม่ชำนาญหรือจิตใจหวั่นไหว จะโดนสกิลกลืนกิน
ตอนนั้นจะอยู่ในสภาวะคลั่ง และกระหายการต่อสู้อย่างรุนแรง
คุเรนะพุ่งเข้าใส่โดเบิร์กจากจุดที่กระเด็นด้วยความรุนแรงจนไม่น่าเชื่อ
และเป็นครั้งแรกที่เหวี่ยงดาบโดนโดเบิร์ก
“อึ้ก พลังอะไรกันเนี่ย นี่เหรอสกิลของเธอ!”
1“ย๊าก!!”
คุเรนะไม่ตอบอะไร และแกว่งดาบพร้อมกับเสียงตะโกน
(แย่แล้ว โดนกลืนกินโดยสมบูรณ์เลย)
โดเบิร์กกเป็นฝ่ายตั้งรับ กลายเป็นว่าค่าสเตตัสต่างกันเกินไปจนทักษะผู้เล่นไม่ส่งผลแล้ว เขาไม่สามารถรับดาบใหญ่ของคุเรนะได้จนกระเด็นไป
ผู้ชมเองก็ไม่นึกว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดขนาดนี้ จนเริ่มเกิดความวุ่นวายขึ้น
โดเบิร์กที่โดนดาบใหญ่ของคุเรนะ แทบจะไม่มีแรงกำดาบแล้ว
คุเรนะฟาดดาบลงมาจากด้านบน ส่วนโดเบิร์กได้แต่ใช้ดาบใหญ่ป้องกันจนพื้นที่ยืนอยู่ยุบลงไปเพราะต้านทานไม่ไหว
“ย๊าก!!”
แต่การโจมตีของคุเรนะไม่จบเพียงแค่นั้น เธอเตะใส่ท้องของโดเบิร์กที่ไร้การป้องกัน
พลังโจมตีที่มากกว่า 7000 ซัดร่างของโดเบิร์กกระเด้งกับพื้นจนมาถึงสุดขอบลานประลอง
โดเบิร์กนอนแน่นิ่งอยู่ตรงขอบลานประลอง
““ชนะแล้วเหรอ?””
พวกอเลนประสานเสียงกันออกมา
ตอนที่ดีใจเพราะชนะได้ทั้งที่ไม่น่าจะชนะนั้น
โดเบิร์กก็ค่อยๆยันตัวขึ้นมา
(เอ๊ะ? พูดอะไรน่ะ? ยอมแพ้เหรอ?)
ตาเหยี่ยวของสัตว์อัญเชิญนก E จับจ้องโดเบิร์กที่พึมพำอะไรบางอย่างจนน่าขนลุก
“ข้าจะแพ้เหรอ? ยังหรอกกราซิสเอ๋ย สบายใจได้เลย ข้าไม่มีทางยอมแพ้แน่ๆ ใช่แล้วจะไม่ยอมแพ้ใครเป็นอันขาด!!”
โดเบิร์กพึมพำอะไรออกมาและร่างกายเริ่มมีไอร้อนโยกไหว
(เอ๊ะ? โดเบิร์กเองก็ใช้แล้วเหรอ?)
“ไม่ได้การ! คุเรนะ!! โดเบิร์กจะใช้เอ็กซ์ตร้าสกิลแล้ว!!”
(จะไหวไหมนะ? เอ็กซ์ตร้าสกิลของคุเรนะยังไม่หมดด้วยสิ)
โดเบิร์กวิ่งมาจากจุดที่กระเด็นใส่คุเรนะสุดแรงเกิด
“ย๊ากกก!! การ์ดเบรค!!”
เขาตะโกนพร้อมกับเหวี่ยงดาบลงมาใส่คุเรนะ ดาบใหญ่อาดามันเที่ยมของเขาเปล่งประกายออกมา
และดาบอาดามันเที่ยมของคุเรนะที่ยกมาป้องกันก็หักอย่างง่ายดาย
1“เอ๊ะ?”
คุเรนะที่ดาบโดนหักถึงกับแข็งทื่อ และดาบใหญ่ของโดเบิร์กยังคงเหวี่ยงลงมาต่อ
แกร๊ง
แต่ดาบใหญ่มาไม่ถึงคุเรนะ
ชายหนุ่มผมฟ้าถือดาบสีทองเข้ามาหยุดดาบของโดเบิร์กอย่างง่ายดาย
(เอ๊ะ? ผู้กล้า?)
ดูเหมือนผู้กล้าเฮลมิออสที่อยู่ตรงที่นั่งคนดูรู้สึกถึงความผิดปกติของโดเบิร์กเลยเข้าไปหยุด
“โธ่ โดเบิร์กคิดจะฆ่ากันเลยเหรอ?”
“หือ? ขะ ข้า?”
“โดนสกิลกลืนกินอย่างนี้ไม่สมกับเป็นนายเลยนะ”
“ขะ ข้าโดนสกิลกลืนกินเหรอ? กับอีกฝ่ายที่เป็นแค่เด็ก……”
โดเบิร์กทำดาบใหญ่หลุดมือ ก่อนจะทรุดลงไป
เขาคงช็อกมาก เลยมองที่มือตัวเองพร้อมกับงึมงำบางอย่าง
“คุณโดเบิร์ก ไม่เป็นไรนะ?”
คุเรนะมองมาด้วยความเป็นห่วง ยิ่งทำให้สีหน้านั้นช็อกยิ่งขึ้นไปอีก
“อ้อ นั่นสินะ คุเรนะเอ๋ยเธอเป็นฝ่ายชนะ ขอโทษเรื่องดาบด้วยนะ รับสิ่งนี้ไปสิ”
“เอ๊ะ?”
โดเบิร์กยัดเยียดดาบใหญ่มาให้ ก่อนจะออกจากลานประลองโดยมีผู้กล้าแบกไป
ด้วยเหตุนี้ การต่อสู้ระหว่างคุเรนะกับโดเบิร์กก็จบลงด้วยความสงสัยว่าเป็นชัยชนะของเธอจริงหรือเปล่า คุเรนะที่กำดาบของโดเบิร์ก ได้แต่จ้องเขาที่เดินกะเผลกจากไป