Hell mode - ตอนที่ 157 ปะทะเฮลมิออส 2
บทที่ 157
เฮลมิออสที่สวมดาบและเกราะโอริฮารูกอน ใช้สกิลที่มีเคลื่อนไหวไปมาบนท้องฟ้า
เหล่าผู้ชมต่างมองผู้กล้าที่สวมเกราะสีทองลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยความทึ่ง
สำหรับโลกนี้ เขาเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติที่จะกำจัดจอมมาร
ทุกคนมองจนลืมหายใจให้กับการคงอยูที่เหมือนกับตำนาน
(ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูอย่างนี้ อยากรู้จริงๆว่าโดนความเสียหายไปเท่าไร แต่อย่างนี้พอจะรู้สเตตัสส่วนใหญ่ของผู้กล้าแล้ว)
อเลนวิเคราะสเตตัสของเฮลมิออสเสร็จสิ้นแล้ว
อาวุธและเครื่องป้องกันจะเพิ่มผลของพลังโจมตีกับความทนทาน แต่ไม่ได้ทำให้ตัวของสเตตัสเกิดการเปลี่ยนแปลง
อนึ่ง พวกเครื่องประดับอย่างแหวนพลังจะตรวจสอบสเตตัสที่เพิ่มขึ้นจากในสมุดเวทมนตร์ได้
・ค่าสเตตัสรวมของเฮลมิออส (สเตตัส, ส่วนที่เพิ่มจากสกิลอาชีพ, อุปกรณ์สวมใส่)
พลังโจมตี 10400 (2400, 3000, 5000)
ความทนทาน 10400 (2400, 3000, 5000)
ความว่องไว 8400 (2400, 3000, 3000)
(สเตตัสกับเครื่องสวมใส่ของผู้กล้าน่าจะราวๆนี้ ความว่องไวพอๆกัน ส่วนที่เหลือแพ้หมดรูปเลย ผู้กล้าเองก็ใช้สายเพิ่มความว่องไวด้วย อยากชนะขนาดนั้นเลยเหรอ?)
ประมาณไว้ว่าโอริฮารูกอนน่าจะเพิ่มสเตตัสราวๆ 5000
“อ้า อันตรายนะเนี่ย”
เฮลมิออสส่งเสียงไม่พอใจออกมาเหนือลานประลองที่อเลนยืนอยู่
“เอ๊ะ? การประลองยังไม่จบนะครับ จะลุยต่อแล้วนะครับ”
“ฮะๆ พูดอะไรออกมา? โจมตีไม่โดนหรอก ผมบินได้ค่อนข้างเร็วเลยนะ?”
เฮลมิออสบินอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าสัตว์อัญเชิญมังกร B มาก
“พูดอะไรอย่างนั้นครับ? อยากจะขอบคุณด้วยซ้ำที่บินอยู่บนฟ้าอย่างนี้”
“เอ๊ะ?”
ทันใดนั้น อเลนก็ยิ้มพร้อมกับชูมือไปข้างหน้า
“เหล่าคาเบโอะ ระเบิดตัวเอง”
ตอนที่อเลนพูด คาเบโอะ 10 ตัวล้อมก็ล้อมรอบผู้กล้า พร้อมกับกลายเป็นสีแดงและระเบิดออกมาพร้อมกัน
ได้ยินเสียงกรีดร้องจากที่นั่งคนดูพร้อมกับเสียงระเบิด
ถึงจะลงความเห็นว่าไม่กระทบถึงตรงที่นั่งคนดู แต่เหล่าคนดูไม่รู้เรื่องนี้ แต่เพราะยังไงก็ไม่มีผู้เสียชีวิตดังนั้นต่อให้ส่งเสียงกรีดร้องแค่ไหนอเลนก็ไม่หย่อนการโจมตี
นักเรียนปี 2 และ 3 ที่เลเวลสูงแล้ว ต่อให้โดนแรงลมจากการระเบิดก็คงไม่รู้สึกสักเท่าไร ส่วนเหล่าอัศวินก็ไปคุ้มครองเชื้อพระวงศ์กับแขกผู้ทรงเกียรติตั้งแต่ตอนที่มังกรออกมาแล้ว
เลยตัดสินว่าหากต่อสู้ตรงกลางลานประลองที่กว้างยาว 50 เมตรแล้วละก็ คนดูคงไม่มีทางบาดเจ็บ
พอควันจางหายไป เฮลมิออสก็โผล่ออกมา
“ฟู่ ค่อนข้างเจ็บนะเนี่ย?”
“บอกไปแล้วไง? ว่าเดี๋ยวเจ็บตัวหรอก”
(เอาละ ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูอีกแล้ว การโจมตีนี้ได้ผลค่อนข้างดีอยู่)
อเลนเรียกสัตว์อัญเชิญหิน E ที่เสริมความแข็งแกร่งแล้วออกมาอีก 10 ตัว
ตอนที่เฮลมิออสคิดว่ามันโผล่มาข้างหน้าอีกแล้ว มันก็กลายเป็นสีแดงและระเบิดออกมาในทันที
‘ท่านผู้ชมทุกท่าน กรุณาอยู่ในความสงบด้วยครับ!!’
หลังจากที่ใช้สกิลปลุกพลัง “ระเบิดตัวเอง” ของหิน E 10 ตัวอีกครั้ง เสียงประกาศจากเครื่องขยายเสียงเวทมนตร์ก็ดังก้องไปทั่วลานประลองท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น แต่เพราะเสียงกรีดร้องของเหล่าผู้ชมทำให้แทบจะไม่ได้ยินเสียงประกาศนั้น
(อัญเชิญความเร็วสูงมีประโยชน์ดีนะเนี่ย ชักอยากจะปลดแปลงผู้บัญชาการเร็วๆแล้วสิ)
อเลนรู้สึกประทับใจกับการที่ได้อัญเชิญความเร็วสูงมาตอนอัญเชิญขึ้นสู่เลเวล 7 ระหว่างที่จ้องมองการระเบิด
จนถึงตอนนี้ทั้งการสร้าง, ผสม และเสริมความแข็งแกร่งอเลนรู้สึกว่าใช้เวลาประมาณ 0.5 วินาที ถึงการสร้างจะเร็วโดยใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาที แต่พออัญเชิญเลเวลสูงขึ้นการจะเตรียมสัตว์อัญเชิญให้พร้อมเรียกได้มันก็ใช้เวลานานขึ้น
ต้องสร้างและผสมซ้ำไปมา 5 – 10 ครั้ง ยิ่งต้องเสียเวลามาเสริมความแข็งแกร่งและปลุกพลังอีก
อัญเชิญความเร็วสูงนี้ เป็นการเพิ่มความเร็วให้กับสกิลเรียก, สร้าง, ผสม, เสริมความแข็งแกร่ง และปลุกพลังของนักอัญเชิญ
เดิมทีถ้าจะสร้างสายวิญญาณ มันต้องใช้เวลาราวๆ 10 วินาที ตั้งแต่สร้างจนจบที่เสริมความแข็งแกร่งและปลุกพลัง แต่สิ่งนี้แทบจะลดลงเหลือ 0 วินาที
จะ 10 ตัว หรือ 20 ตัวก็ใช้แค่ 0 วินาที ถึงจะดูเป็นเวลาที่น้อย แต่ถือเป็นเวลาที่ไม่อาจประเมินค่าได้เลย
แค่คิดว่าจะเรียกกี่ตัวในสภาพไหน ก็สามารถเรียกออกมาได้เลย หรือคิดว่าจะเก็บเข้าที่เก็บการ์ด ก็สามารถสร้างและเก็บรวดเดียวกี่ใบก็ได้
มันรู้สึกดีจริงๆที่ได้ปลดปล่อยจากการเสียเวลาสูญเปล่าในการอัญเชิญ
เรื่องที่ต้องระวังหนึ่งอย่างก็คือ มันยังสิ้นเปลืองพลังเวทและหินเวทเหมือนเดิม ถ้าหากไม่มีพลังเวทหรือหินเวทแล้วละก็จะไม่สามารถใช้งานได้
(เพราะทะลุจากเขตแดนของนอร์มอลโหมดไปแล้วหรือเปล่านะ)
ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าเป็นสกิลที่มีประโยชน์มาก
อัญเชิญความเร็วสูงอเลนได้มาตอนอัญเชิญขึ้นสู่เลเวล 7 นอร์มอลโหมดที่มีสกิลได้แค่ 6 อันและตันที่สกิลเลเวล 6 ไม่สามารถครอบครองได้
อัญเชิญเลเวล 7 ได้สกิลมา 2 อัน
อย่างแรกคืออัญเชิญความเร็วสูงที่ใช้โจมตีเฮลมิออสเมื่อครู่ ส่วนอีกอันคือแปลงผู้บัญชาการ ยังใช้งานไม่ได้เนื่องจากยังโดนปิดผนึกอยู่
พอจะใช้งานก็มีข้อความจากสมุดเวทมนตร์
‘เลเวลไม่เพียงพอจะใช้สกิลแปลงผู้บัญชาการ’
เป็นครั้งแรกที่ได้สกิลแบบจำกัดเลเวลมา อเลนที่เลเวล 55 ถ้าจากข้อความคือมันจำกัดเลเวลเลยยังใช้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าต้องเลเวลเท่าไรถึงจะใช้ได้
(อืม! กะแล้วเชียวว่าต้องพุ่งเข้ามา!)
คงลงความเห็นว่าถ้าอยู่ห่างจากอเลนมีแต่จะตกเป็นเป้า เฮลมิออสเลยพุ่งออกมาจากการระเบิดเข้าใส่อเลน เขาเคลื่อนไหวบนฟ้าด้วยความเร็วสูงได้อย่างที่บอกเอาไว้
(เอาละๆ จุดสำคัญคือต้องรักษาระยะห่างให้ดี)
อเลนหลบดาบของเฮลมิออส พร้อมสร้างระยะห่างพอควร ถ้ารู้ว่าสัตว์อัญเชิญหิน E ได้ผล ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปต่อสู้ระยะประชิด ถึงกระนั้นก็เว้นระยะห่างมากเกินไปไม่ได้
“ออกมาเคโรริน! ไปป่วนผู้กล้าซะ”
‘ฮึบ! ตามบัญชาเลย’
อเลนเรียกชื่อของสัตว์อัญเชิญที่ดูน่ารักออกมา
ทันใดนั้นก็มีหมาป่าสามหัวขนาดพอๆกับมังกรปรากฎตัวขึ้นมา
อเลนในโลกก่อน นึกถึงสิ่งที่คอยเฝ้าประตูนรก
“ต่อจากมังกรก็เคลเบรอสเหรอ!!”
ได้ยินเสียงตะโกนมาจากที่นั่งคนดู
สัตว์อัญเชิญสัตว์ B ที่อเลนเรียกออกมา ใช้หัวทั้ง 3 เข้าโจมตีใส่เฮลมิออส
(จะเล็งตัวไหนก็ได้ หรือจะเล็งฉันก็ได้)
สัตว์อัญเชิญระดับ B ค่าสเตตัสอยู่ที่ราวๆ 1 ใน 3 ของเฮลมิออสเท่านั้น
แต่ถ้าเขาเลิกตามอเลนและหันไปปราบสัตว์อัญเชิญ อเลนที่หนีจะหันกลับมาโจมตีเฮลมิออส
ถ้าหากสร้างระยะห่างกับเฮลมิออส ก็รอใช้สัตว์อัญเชิญหิน E ระเบิดตัวเอง
ต่อให้สัตว์อัญเชิญมังกร B หรือสัตว์ B โดนกำจัด ก็สามารถเรียกออกมาได้ทันทีด้วยอัญเชิญความเร็วสูง ดังนั้นค่าสเตตัสที่ลดลงเพราะสัตว์อัญเชิญโดนจัดการจะมีแค่ชั่วพริบตาเดียว
ทั้งเฮลมิออสและอเลนหากพลังกายลดลง จะใช้เวทมนตร์ฟื้นกับหรือยาฟื้นฟู
แล้วการต่อสู้นั้นก็ดำเนินต่อไปอีกสักพัก
“อย่างนี้ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยนะ”
(โอ๊ะ? อย่างนี้จะมาแล้วเหรอ?)
“เอ๊ะ? จะยอมแพ้แล้วเหรอครับ? ขอบคุณนะครับ”
อเลนพูดราวกับจะบอกว่าเป็นการต่อสู้ที่ดี เนื่องจากไม่ได้อยากจะต่อสู้อยู่แล้ว ถ้าจอยอมแพ้ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ฮะๆ ไม่เอาน่า จะตัดสินแพ้ชนะแล้วต่างหาก อเลนคุงถ้าจะยอมแพ้ก็รีบๆซะนะ ตายไปไปม่รู้ด้วยนะ?”
“อย่าพูดล้อเล่นสิครับ”
อเลนปฏิเสธที่จะบอกยอมแพ้ พร้อมกับกวักมือยั่วยุ
(เท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าสกิลที่ 4 เป็นสกิลโจมตี เอาละ มาให้สุดกำลังเลย จะแสดงวิธีจัดการผู้กล้าให้ดู)
นอร์มอลโหมดมีสกิลได้ 6 อย่าง โดย 2 อย่างในนั้นจะเป็นสายเสริมความแข็งแกร่งสเตตัส แล้วจะเหลืออีก 4 อย่าง ซึ่งเฮลมิออสใช้ไปแล้ว 3 อย่างได้แก่ตรวจสอบ, ฟื้นฟู และบิน
ทำให้ที่เหลืออีก 1 อย่างเป็นสกิลโจมตีอย่างแน่นอน
“ถ้าง้นก็ช่วยไม่ได้ อันนี้ออมมือไม่เป็นด้วยนะ”
ผู้กล้ายังคงยิ้มและใส่พลังเข้าไปในดาบ
ดาบโอริฮารูกอนสีทองเริ่มส่องประกายมากยิ่งขึ้น ราวกับมีอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ถูกถ่ายทอดเข้าไปในดาบ
อเลนตั้งดาบขึ้นมาและให้สัตว์อัญเชิญ 2 ตัวรออยู่ทั้งสองฝั่ง
เฮลมิออสถึงกับหลุดส่งเสียงออกมาว่า “เห จะรับเหรอ”
“โฮโอเคน(ดาบวิหคอมตะ)!”
“เอาละมาแล้ว! โดระโดระ! เคโรริน!”
‘โอ้ว!’
‘ฮะ!’
เฮลมิออสพุ่งใส่อเลนอย่างเร็ว
ทันใดนั้นอเลนก็ถอยไปด้านหลังอย่างว่องไว และให้สัตว์อัญเชิญมังกร B และสัตว์ B ที่รออยู่ข้างๆ ออกไปด้านหน้า
“ฮะๆ คิดไว้แล้วว่าจะต้องทำอย่างนี้ ไม่ยอมโดนหลอกหรอก?”
ดาบของเฮลมิออสที่ส่องประกายแสงสีทอง ฟันใส่สัตว์อัญเชิญมังกร B จนสลายกลายเป็นฟองแสง
และอาศัยช่องว่างนั้นเข้าโจมตีใส่สัตว์อัญเชิญสัตว์ B ต่อและกำจัดได้อย่างง่ายดาย
ก่อนจะพุ่งใส่อเลนที่ถอยไปด้านหลังโดยไม่เปิดโอกาสให้เรียกสัตว์อัญเชิญตัวใหม่
ดาบโอริฮารุกอน เปล่งประกายยิ่งขึ้นจากสกิล
ดูเหมือนเฮลมิออสจะปล่อยการโจมตีสุดแรงออกมา
สนามประลองที่กว้างยาวแค่ 50 เมตร เฮลมิออสที่มีความว่องไว 8000 สามารถหดระยะห่างได้ในชั่วพริบตา เห็นได้จากตอนที่ช่วยคุเรนะไปแล้ว
(งี่เง่า มองความเร็วในการเรียกของฉันผิดไปสินะ)
อัญเชิญความเร็วสูงของอเลนไม่ต้องใช้เวลา มันเร็วถึงขนาดที่ว่าสามารถเรียกสัตว์อัญเชิญหิน C มาใช้ทักษะพิเศษ “ตัวตายตัวแทน” ได้แม้จะเป็นหลังจากที่คุเรนะโจมตีออกมาแล้ว
ถ้าเป็นเกม คงไม่สามารถปล่อยการโจมตีของตัวเองในเทิร์นฝ่ายตรงข้ามได้ แต่ที่นี่เป็นการต่อสู้จริงที่เวลาผ่านไปพร้อมๆกัน
ถ้าหากเงื่อนไขครบถ้วนแล้วละก็ รอดูท่าทีของอีกฝ่ายแล้วค่อยลงมือก็ยังได้
ชั่วพริบตาที่เฮลมิออสหดระยะเข้ามา อเลนก็เรียกสัตว์อัญเชิญ 1 ตัวออกมาระหว่างเขากับเฮลมิออส
สัตว์อัญเชิญหิน B ที่สูงราวๆ 10 สวมเกราะพลูเพลทที่ส่องประกายแวววาวทั้งตัว
สัตว์อัญเชิญหิน B ชูโล่ทรงกลมไว้ข้างหน้า และรับสกิลของเฮลมิออสซึ่งๆหน้า
เฮลมิออสลงความเห็นว่าคงเป็นสัตว์อัญเชิญที่เรียกออกมาป้องกันเพื่อถ่วงเวลา เลยฟาดออกมาสุดแรงด้วยดาบที่มีสกิล
โล่ที่รับการโจมตีของเฮลมิออสเกิดประกายไฟขึ้น และโล่ที่มีขนาดใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของร่างกายเริ่มส่งเสียงร้าวออกมา และรอยร้าวก็แผ่ไปยังเกราะพลูเพลทที่แวววาว
เฮลมิออสคิดว่าเป็นศัตรูที่แข็งเอาเรื่อง ตอนนั้นเอง
แสงสกิลที่อยู่ในดาบก็หายไป
แล้วโล่ก็ส่องประกายแสงแบบเดียวกับที่อยู่ในดาบ
“ทนได้ดีมาก! มิลเลอร์! สะท้อนไปซะ!!”
‘……’
ตู้มมมมม!
สัตว์อัญเชิญหิน B ที่ตั้งชื่อไว้ว่ามิลเลอร์ สะท้อนความเสียหายที่รับมาทั้งหมดอย่างเงียบๆด้วยโล่ทรงกลม
เฮลมิออสโดนแสงและแรงกระแทกที่ปล่อยจากโล่เข้าไป
เฮลมิออสกระเด็นไปด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงราวกับจะทำให้พื้นลานประลองพลิกกลับ