Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล - ตอนที่ 332
“สำหรับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของฉันเเล้วหากเทียบกับพวกเขาดูเหมือนจะยังด้อยกว่าเเต่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันคุณเองก็คงรู้จักอิทธิพลที่ผมเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้?”ไม่ต้องรอให้เอนเชี่ยนวันตอบ เเจ็คสันเชื่อว่าอิทธิพลที่เขาเสนอพอจะดึงดูดความสนใจของจอมเวทย์โบราณคนนี้ได้
“S.H.I.E.L.D.? ,โทนี่ สตาร์ก?,ทีม X-MEN”เดิมเอนเชี่ยนวันที่สงบนิ่งมานานได้ยินชื่ออิทธิพลที่เเจ็คสันพูดในที่สุดเขาก็เผยสีหน้าเเปลกใจเล็กน้อย
S.H.I.E.L.D. คือองค์กรพิทักษ์โลกจากการรุกรานของอิทธิพลที่ชั่วร้ายทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังหรือทรัพยากรพวกเขาก็มีมันทั้งหมดเเม้ก่อนหน้านี้จะถูกพวกไฮดร้าเเทรกเเซงหน่วยงานภายในเเต่ก็ถูกกำจัดออกไปทั้งยังรับมือโดยการโต้คืนพวกไฮดร้าอย่างรุนเเรง
โทนี่ สตาร์ก ลูกชายเพียงคนเดียวของ ฮาเวิร์ด สตาร์ก ผู้สืบทอดธุรกิจอุตสาหกรรมสตาร์ก ว่ากันว่าพรสวรรค์ของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่า ฮาเวิร์ด สตาร์ก เเม้เเต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นด้านฟิสิกส์ การคำนวณ ตอนนี้มีกองทัพไอรอนแมนเป็นอาวุธ เพียงพอที่จะทำให้โลกหวาดกลัว
ทีม X-police หรือ ทีม X-men ที่รวมตัวกันโดยเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกเรียกว่ามิวแทนท์ มีผู้อยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนอยู่ก็คือ ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ มิวแทนท์ระดับ 4 เเม้กำลังพลจะน้อยเเต่ความเเข็งเเกร่งของเเต่ละคนมานับโดยรวมเเล้วนับว่าเป็นขุมพลังอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะเมื่อหากตัวตนเหล่านั้นกลายเป็นมิวแทนท์ระดับ 5 ได้ ความเเข็งเเกร่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ เอนเชี่ยนวันเองก็รู้ดี
เขาที่มีชีวิตอยู่บนโลกมาหลายร้อยปีทำให้เขาเห็นหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง สำหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ความสามารถของคนคนนี้เป็นของจริง ทั้งยังได้รับการยอมรับจากเขาจอมเวทย์สูงสุดของโลก ดังนั้น ตัวเขาเอนเชี่ยนวัน จึงค่อนข้างให้ความเคารพกับพวกมิวแทนท์อยู่พอสมควร
อิทธิพลที่ว่านี้ไม่ใช่ว่าเอนเชี่ยนวันไม่รู้เเต่เขาไม่คิดเลยว่าเเจ็คสันจะพูดชื่อกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ออกมา สำหรับความคิดเอนเชี่ยนวันเเล้วเมื่อเทียบกับขุมกำลังอิทธิพลทั้ง 3 นี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเเจ็คสันถือว่าเป็นจุดอ่อนของความร่วมมือก็ว่าได้ สำหรับตัวตนของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวันเข้าใจ ตราบเท่าที่เเจ็คสันมีเวลา เขาจะสามารถกลายเป็นตัวตนที่เเม้เเต่ตัวเขาผู้ที่ถูกเรียกว่าจอมเวทย์สูงสุดก็ไม่อาจละเลยได้
ดังนั้นอุดมการณ์ของเเจ็คสันจึงมีค่าเเก่การเชื่อมั่น
“ดูเหมือนคุณจะรู้จักอิทธิพลที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ เเละนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องการจัดตั้งสหพันธ์โลกขึ้นมา”เเจ็คสันยิ้มกล่าวตอบ
“ข้ายอมรับว่าประเมินคุณต่ำไปจริง ๆ เเต่ถึงเเม้ว่า โทนี่ สตาร์ก เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จะตัดสินใจร่วมอุดมการณ์ของคุณ เเต่ S.H.I.E.L.D. นั้นก็อีกเรื่อง คุณจะบอกว่าคุณสามารถที่จะทำให้พวกตาเเก่ที่นั่งใช้ชีวิตอย่างสงบในสภาความมั่นคงเเห่งโลกยอมรับสิ่งที่เรียกว่าสหพันธ์โลกนี้ได้?”
โทนี่ สตาร์ก ลูกชายของ ฮาเวิร์ด สตาร์ก สิ่งที่เขาต้องการคือการค้นพบเเละเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เขาวางเเผนที่จะก้าวเหนือพ่อของตัวเอง สำหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ตลอดชีวิตอุทิศให้กับสิทธิของมนุษย์กลายพันธุ์เพื่อที่จะทำให้เหล่ามิวแทนท์สามารถอยู่รอดได้เขาไม่ลังเลที่จะร่วมมือกับเเจ็คสัน เเละมีความคิดจัดตั้งสหพันธ์โลกขึ้น หากสามารถทำได้ ความเป็นอยู่ของพวกมิวแทนท์จะได้รับการปรับปรุงไปในทิศทางที่ดีขึ้นเเน่นอน
อย่างไรก็ตาม S.H.I.E.L.D. กลับไม่ใช่หนึ่งในทางเลือก เเม้นิค จะเป็นหัวหน้าสาขา เเต่ก็มีสมาชิกของสภาความมั่นคงเเห่งโลกคอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง คนหัวโบราณเหล่านี้ไม่มีทางที่จะยอมรับการจัดตั้งสหพันธ์โลกได้โดยง่าย ดังนั้น S.H.I.E.L.D. จึงเป็นปัญหาสำหรับอุดมการณ์ของเเจ็คสัน
“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนเรื่องพวกนี้จะไม่สามารถปิดบังคุณได้จริง ๆ ตอนนี้ฉันกับ S.H.I.E.L.D. ก็เเค่มีความร่วมมือภายใตเงื่อนไขเพียงเท่านั้น พวกเขาไม่ได้บอกว่าจะสนับสนุนการสร้างสหพันธ์โลกขึ้น เพราะถึงอย่างไร การบริหารจัดการภายในของ S.H.I.E.L.D. ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนมากเกินไป”เเจ็คสันยิ้มอย่างขมขื่น กับเรื่องนี้
เเจ็คสันสามารถร่วมมือกับกัปตันโรเจอร์สหรือนิคในการร่วมทำอุดมการณ์ด้วยกันได้ เเต่เขาจะไม่สามารถโน้มน้าวตาเเก่ในสภาได้โดยง่าย เเน่นอนว่าในระยะเวลาอันสั้นนี่ย่อมเป็นไปไม่ได้ หากเขาไม่ระมัดระวังซ้ำจะทำให้นิคกับโรเจอร์ส ซวยไปด้วย
“หากไม่มีการสนับสนุนจาก S.H.I.E.L.D. เป้าหมายของคุณ ดูเหมือนจะสูญเสียผู้สนับสนุนหลักคนสำคัญ”เอนเชี่ยนวันชัดเจนเกี่ยวกับ เรื่อง S.H.I.E.L.D. มาก เเละคำพูดของเขามีน้ำหนัก
“ฉันรู้ เเต่ฉันก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ กัปตันอเมริกา เเละ S.H.I.E.L.D. รวมถึง นิค ในความคิดส่วนตัวของฉัน ฉันต้องการเวลา เพราะอย่างไรก็ตามการจัดการโน้มน้าวพวกตาเเก่ในสภาก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากพอสมควร…”มองไปที่เอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันพูดอย่างหมดหนทาง
“ดูเหมือนว่าคุณต้องการที่จะติดต่อกับสภาความมั่นคงของโลก?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน กล่าวคาดเดา
“เอาล่ะฉันยอมรับว่าคุณมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณ”ด้วยความเเข็งเเกร่งเเละพื้นฐานภูมิหลังที่สนับสนุนเอนเชี่ยนวันต้องยอมรับว่า เเจ็คสันมีโอกาสที่จะบรรลุสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาทำไม่สำเร็จ
“เเล้ว ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณคิดว่าฉันจะเป็นอันตรายต่อโลกใบนี้หรือไม่?”เห็นการเปลี่ยนเเปลงทางคำพูดของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างสงสัย
“อันตราย? โอ้, ไม่เลย คุณอาจจะเป็นชนวนสำคัญที่จะนำพาโลกไปสู่การเปลี่ยนเเปลงในทางที่ดี โดยปกติเเล้วฉันยอมรับว่าคุณสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณได้”เอนเชี่ยนวันกล่าวออกมา
เเจ็คสัน”…”
เขาไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนเเปลงในครั้งนี้ได้อันที่จริงเขาไม่คิดเลยว่าเอนเชี่ยนวันจะยอมรับเขาเพราะเขาเป็นคนจากต่างโลก ทั้งไม่ได้มาจากโลกที่เเข็งเเกร่ง เเต่การเติบโตของเขาในปัจจุบันก็ค่อนข้างมีบทบาทต่อโลกพอสมควรรวมถึงในอนาคตที่จะมาถึงนี้ด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อครู่จอมเวทย์สูงสุดของโลก เอนเชี่ยนวัน ตัดสินใจยอมรับเป้าหมายของเเจ็คสันว่าสามารถทำได้ หากเปลี่ยนเป็นมนุษย์คนอื่น คงไม่มีทางได้รับการยอมรับเช่นนี้ เหตุผลที่ว่าเอนเชี่ยนวันสนับสนุนเเจ็คสันนั่นก็เพราะเเจ็คสันอาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนเเปลงในการส่งเสริมอารยธรรมของโลกใบนี้ ซึ่งความคิดเหล่านี้มันก็เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาเเล้วเเต่มันก็มอดดับลงภายใต้ความพยายามอย่างสูญเปล่าซึ่งเอนเชี่ยนวันรู้สึกเสียใจมาก
ดังนั้นหากเเจ็คสันไม่ได้เป็นอันตรายต่อโลกนี้ทั้งยังมีอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่อยากจะยกระดับอารยธรรมโลกให้พัฒนาขึ้น เอนเชี่ยนวันเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปหยุดเขา ซ้ำเขาอยากจะรู้เหมือนกันว่า อนาคตของโลกจะเป็นต่อไปในทิศทางใด เด็กลึกลับจากต่างโลกคนนี้ จะสามารถเปลี่ยนเเปลงสิ่งที่บรรพบุรุษไม่สามารถทำสำเร็จได้หรือไม่
เเน่นอนว่าหากเป็นบางสถานการณ์ที่ไม่ละเมิดกฏของพ่อมดที่เป็นต้นกำเนิดสายเลือดเเรกเริ่มของโลก เอนเชี่ยนวันก็ยังพอให้ยืมมือช่วยบางเรื่องได้เล็กน้อย ถึงอย่างไรความเเข็งเเกร่งของเอนเชี่ยนวันในปัจจุบันก็ยังสามารถสร้างความหวาดกลัวต่อเทพปีศาจที่หลายเเห่งในจักรวาลได้ เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นเเค่คนเฒ่าคนเเก่ที่มีชีวิตอยู่มานาน ขีดจำกัดของเขาย่อมมี สิ่งที่เขาต้องการก็คือ อนาคต อนาคตของผู้สืบเชื้อสายของโลกนี้ เเละ การเปลี่ยนเเปลงของอารยธรรมที่ก้าวนำไปสู่ยุคสมัยที่รุ่งเรืองกว่า