I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! - ตอนที่ 39
รังสีแห่งการฆาตรกรรมถูกปกคุลมไปทั่วห้องโถงนี้ ต้องมีเลือดกระเซ็นออกมาบ้างล่ะ!
ทุกคนต่างจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยตาไม่กระพริบ
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนั้น เหย่หลิงเฉินยืนนิ่งราวกับตกตะลึงด้วยความกลัว มือของเขายังคงอยู่ด้านหลัง ปอยผมโบกไปมาในอากาศ แต่เขาก็ยังคงไม่ขยับ
หลายคนปิดตาแน่นเพราะไม่สามารถทนดูได้
ขณะที่กำปั้นและกริชอยู่ห่างจากเขาเพียงหนึ่งนิ้ว เหย่หลิงเฉินก็ขยับ!
เขายกมือข้างหนึ่งราวกับนกอินทรีที่บินโฉบไปมาบนลูกเจี๊ยบจับกำปั้นชาวยุโรปด้วยมือเปล่าอย่างง่ายดาย
จากนั้นเขาก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาก่อนที่จะเตะเข้าที่ไหล่ของชายชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!
โห!!
ร่างกายของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บินผ่านอากาศเป็นส่วนโค้งขนาดใหญ่และกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง
ไหล่ทั้งหมดของเขาบิดเบี้ยวจากการเตะร่างกายของเขากระตุกถี่
หลังจากนั้นเหย่หลิงเฉินก็พุ่งเข้าใส่เหมือนสายฟ้าฟาดลงบนแก้มของชาวยุโรป!
ศีรษะของชาวยุโรปบิดไปด้านข้าง แก้มของเขาผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด
ร่างทั้งสองบินออกไปข้างหน้าและข้างหลังอย่างเงียบโดยไม่มีเสียงครวญครางแม้แต่น้อย
ทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบราวกับเวลาหยุดลงในขณะนั้น
ภายในห้องโถงไม่มีแม้แต่เสียงหายใจ
ทุกคนเบิกตากว้างราวกับว่าเป็นรูปปั้น พวกเขายืนอึ้งอยู่กับที่!
รวมถึงหวู่เฟิงและหลู่ห่าวด้วย
ตั้งแต่วินาทีที่เหย่หลิงเฉินเริ่มการโจมตีของเขาจนถึงวินาทีที่นักเลงทั้งสองล้มลงกับพื้น กระบวนการทั้งหมดอยู่ในเวลาไม่ถึงสามลมหายใจ!
เพียงสามลมหายใจ!
นี่มันเร็วเกินไป!!!
ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ได้อย่างชัดเจนเพราะมันรวดเร็วมาก แต่พวกเขาสามารถเห็นบุคคลร่างยักษ์ทั้งสองที่กระเด็นออกไปในขณะที่เหย่หลิงเฉินยกมือและขาขึ้น
ราวกับว่าพวกเขากำลังฝัน
สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่เป็นเรื่องมหัศจรรย์!
พวกเขาทุกคนต่างคิดว่าเหย่หลิงเฉินจะจบลงอย่างอนาถ ใครจะไปคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?
“จนถึงตอนนี้แล้ว คุณยังคิดว่ามันยังมีแค่สองตัวเลือกอีกไหม”
เหย่หลิงเฉินมองไปที่หลู่ห่าว การจ้องมองของเขาทำให้เกิดความหนาวเย็นแล่นผ่านร่างกายของหลู่ห่าวด้วยความกลัว
“นี่แกจะทำอะไร! ออกไปให้ห่าง ๆ ฉัน!!”
เหย่หลิงเฉินเดินไปข้างหน้าทีละก้าวจนไปถึงหลู่ห่าว ไม่มีใครกล้าที่จะหยุดเขา
แม้แต่หวู่เฟิงซึ่งเป็นคนที่หัวรุนแรงที่สุดก็ยังคงยืนอึ้งปิดปากของเขาอยู่ ณ ขณะนี้
วินาทีต่อไป
เหย่หลิงเฉินยกมือขึ้นและฟาดอย่างรวดเร็วราวกับสายลม
เขาตบลงไปที่แก้มของหลู่ห่าว
เพี้ยะ!!
หลู่ห่าวกระเด็นไปที่พื้น
เสียงกึกก้องดังไปทั่วห้องโถงท่ามกลางฝูงชน
“แก.. แกกล้าตบฉันเหรอ!”
หลู่ห่าวปิดปากของเขา เขาคิดว่าเขาอยู่ในความฝันขณะที่มองไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยความไม่เชื่อ
“แปลกใจไหมล่ะ? งงอะไรอยู่”
“รู้สึกมึนงงอยู่สินะ คงจะไม่อยากเชื่อว่าตัวเองถูกตบ” เหย่หลิงเฉินกล่าว
เพี้ยะ!!!
เขาตบอีกครั้ง
รอยแดงสดของฝ่ามือที่ประทับลึกลงบนใบหน้าของหลู่ห่าว
“ก่อนหน้านี้คุณทำตัวหยิ่งยโสมากไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ความภาคภูมิใจของคุณอยู่ที่ไหน”
เพี้ยะ!!
“มีแค่สองทางเลือกเหรอ? ยังอยากจะให้ฉันเลือกอะไรอีกไหมตอนนี้”
เพี้ยะ!!!
“อยากให้ฉันตายไว ๆ ไม่ใช่เหรอ? ยังคิดแบบนั้นอยู่ไหมล่ะ”
เพี้ยะ!!!!
“เป็นยังไง ยังอยู่ดีไหม?”
เพี้ยะ!!!!!
การตบอย่างต่อเนื่องทำให้หลู่ห่าวงุนงงไปด้วยความเจ็บ
ใบหน้าของเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป มันบวมและพองเหมือนหัวหมู
ห้องโถงทั้งห้องเงียบงัน
ไม่มีใครคาดคิดว่าเหย่หลิงเฉินจะบ้าคลั่งขนาดนี้
มันทำให้โลกทัศน์ของพวกเขาเปลี่ยนไป สมองของพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะประมวลความคิด
“อา!!!”
ความเจ็บปวดที่แก้มของเขาทำให้หลู่ห่าวกลับมามีสติสัมปชัญญะ
เขาถูกตบเหรอ?!
เขาถูกทุบตีจริงเหรอ!?
ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยถูกทุบตีเลยสักครั้ง ไม่มีใครกล้าหยิกเขาแรง ๆ ด้วยซ้ำ!
ใบหน้าทั้งหมดของเขาบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ
ความอัปยศอดสูและความโกรธอย่างรุนแรงตัดกันอย่างสมบูรณ์เผาไหม้ไปที่สติสัมปชัญญะของเขา
…
**ขโมยมาจาก ThaiNovel / My Novel **
FB : June6 Translate นิยายแปลไทย
ในขณะเดียวกันภายในคฤหาสน์ตระกูลหลิง
หลิงชางเหอ หลิงอ่าว หลิงกู่ซื่อ และสมาชิกในครอบครัวหลิงที่เหลือรวมตัวกันรออย่างใจจดใจจ่อ
ปรมาจารย์เจียงก็อยู่ที่นั่นด้วย ด้วยโอกาสเช่นนี้เขาจึงต้องสังเกตทักษะทางการแพทย์ของเหย่หลิงเฉินอย่างรอบคอบ
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดปรมาจารย์เหย่จึงยังไม่มาที่นี่ นี่ก็เลยเวลามามากแล้ว” หลิงกู่ซื่อถาม เธอมองออกไปนอกประตูเป็นระยะ ๆ
“เป็นไปได้ไหมที่ปรมาจารย์เหย่โกรธเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้?” หลิงชางเหอถามด้วยน้ำเสียงกังวลพร้อมกับทำหน้าบึ้ง
“เหอ ไม่ต้องกังวลไป เด็กผู้ชายคนนั้นเขาสัญญาว่าจะให้การรักษาฉัน เขาจะมาแน่นอน ความสามารถของฉันในการมองคนยังใช้ได้อยู่” หลี่เทียนหัวหัวเราะเบา ๆ บนเตียง ผิวพรรณของเขาดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
“แต่พ่อ.. ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับสุขภาพของพ่อ เราต้องแน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน” หลิงกู่ซื่อบอกลุงคนที่สองของเธอ
“ทำไม..เราไม่โทรหาเขาล่ะ” หลินอ่าวถามฝูงชน
หลังจากเงียบไปชั่วขณะ หลิงชางเหอก็พยักหน้าเล็กน้อย
“นั่นคือทั้งหมดที่เราทำได้ในตอนนี้ น้ำเสียงของคุณต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพ เข้าใจนะ?”
…
ร้านอาหาร Grand Capital
“อ..อ้ากกกกกก! แกตายแน่! ฉันจะให้แกใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความเสียใจ! แกรอเวลานั้นได้เลย!”
หลู่ห่าวเข้าสู่ความบ้าคลั่ง เสียงคำรามของเขาทำให้ร่างกายของทุกคนรู้สึกหนาวสั่น
เขามองไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยความคิดเพียงสิ่งเดียวนั่นคือการฉีกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาจะต้องตาย!
เขากำลังร้องอย่างบ้าคลั่ง ภายในร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
“ฮ่า ๆ นี่ยังกล้าอวดดีอยู่อีกเหรอ”
เหย่หลิงเฉินหัวเราะเยาะ เขายกมือขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่เขาพร้อมที่จะตบ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
สายเรียกเข้าจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก
“สวัสดีตอนเย็นท่านปรมาจารย์ นี่เบอร์ของท่านปรมาจารย์เหย่ใช่หรือไม่”
“ คุณคือ… หลิงอ่าว?” เหย่หลิงเฉินเสียงนี้ได้ไม่ชัดนัก
“ใช่!! ปรมาจารย์เหย่ หลิงอ่าวเอง” หลิงอ่าวตอบอย่างเคารพ ความเคารพนั้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเขา
เหย่หลิงเฉินไม่เพียงแต่ช่วยปู่ของเขา แต่เขายังเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ภายในแผนกนักรบพวกเขาเคารพผู้แข็งแกร่งเสมอ แม้ว่าเหย่หลิงเฉินจะอายุน้อยกว่าเขา แต่ความสามารถของเขาทำให้เขาเชื่อมั่นอย่างสุดซึ้ง
“ปรมาจารย์เหย่ จากเมื่อครั้งก่อนเราได้นัดหมายการรักษาปู่ของพวกเราแล้ว คุณยังจำได้ไหม”
“โอ้ แน่นอน ผมจำได้ ตอนนี้ผมมีปัญหานิดหน่อย กลัวว่าจะไปสายสักเล็กน้อย” เหย่หลิงเฉินตอบอย่างใจเย็น
“มีปัญหา? ปัญหาแบบไหนกันครับ? บางทีผมอาจจะช่วยได้” หลิงอ่าวรู้สึกกังวล เขาไม่สามารถปล่อยให้สิ่งใดมาชะลอการรักษาของปู่ของเขาได้!
“ผมมีความไม่พอใจส่วนตัวกับหลู่ห่าว ตอนนี้ผมอยู่ระหว่างการชำระมัน” เหย่หลิงเฉินตอบ
“หลู่ห่าว?? หลู่ห่าวจาก Lu Group เหรอครับ”
“ถูกต้อง เขานั่นแหละ”
“ปรมาจารย์เหย่โปรดแจ้งให้เราทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน เราจะรีบแก้ไขปัญหานี้ให้คุณทันที” หลิงอ่าวกล่าวโดยไม่คิดใด ๆ ราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องที่ไม่สำคัญ
“ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านอาหาร Grand Capital”
“ได้เลย! ผมจะไปที่นั่นภายในสิบนาที!”
หลิงอ่าววางสายและอธิบายสถานการณ์โดยไม่มีความล่าช้า เขารวบรวมคนจำนวนหนึ่งและรีบไปที่ร้านอาหาร Grand Capital ทันที
ปรมาจารย์เหย่กำลังตกที่นั่งลำบาก นั่นเป็นโอกาสที่ตระกูลหลิงจะได้แสดงความช่วยเหลือ!
กริ๊ง ๆๆๆ
เหย่หลิงเฉินเพิ่งจะวางสายไป แต่ก็มีสายเรียกเข้าดังเข้ามาอีกครั้ง
แต่คราวนี้เป็นเสียงโทรศัพท์ของหลู่ห่าว
เมื่อมองไปที่หน้าจอแสดงผลใบหน้าของหลู่ห่าวเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความตื่นเต้น น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขาอย่างไม่สามารถควบคุมได้
“ครับ..คุณพ่อ ผมถูกทำร้ายอย่างทุกข์ทรมาน!” หลู่ห่าวบ่นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและความอยุติธรรม
“ลูกอยู่ที่ไหน?” เสียงต่ำในลำคอดังมาจากโทรศัพท์
“ผมอยู่ที่ร้านอาหาร Grand Capital”
“โอเค พ่อจะไปที่นั่นภายในสิบนาที!”