I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! - ตอนที่ 79
ตอนที่ 79 ถึงแล้ว…
ผู้โดยสารบนเครื่องบินใช้เวลาพักฟื้นจากอาการงุนงง มองดูคนทั้งห้าที่ผูกมัดร้องไห้อย่างเสียใจ สีหน้าของพวกเขามีนงงราวกับว่าพวกเขายังอยู่ในความฝัน
“คุณ… คุณน่าพึ่งมาก!” แอร์โฮสเตสอุทานด้วยปากของเธอเป็นรูปตัว 0 รู้สึกราวกับว่าเธอ เพิ่งขึ้นสวรรค์จากนรก
เหย่หลิงเฉินลูบจมูกของเขา “ขอบคุณครับ”
แอร์โฮสเตสขยิบตาให้เหย่หลิงเฉิน แล้วส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้เขาก่อนจะรีบจากไป
“ก่อนหน้านี้ฉัน..ฉันต้องขอโทษด้วย ฉันประเมินคุณผิดไป” ผู้หญิงจากเมื่อก่อนขอโทษเขินอายกับการกระทําของเธอ
เธอก็ส่งกระดาษแผ่นหนึ่งไปให้เหย่หลิงเฉินก่อนจะจากไป เธอยังใช้นิ้วฝามือของเขาอีกด้วย
“บ้าจริง! นี่มันอะไรกัน?”
หลังจากนั้น ที่นั่งของเหย่หลิงเฉินถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงส่วนใหญ่ พวกเธอกําลังจีบเขาขณะที่พวกเธอเข้ามาขอบคุณ
เมื่อเขาลงจากเครื่องบิน เขาได้รับกระดาษแผ่นเล็ก ๆ มากกว่ายี่สิบแผ่น
เมื่อคลี่ออกทีละใบ กระดาษทั้งหมดเป็นหมายเลขโทรศัพท์ บางคนที่มีความมั่นใจมากก็มีการเขียนสัดส่วนร่างกายของพวกเธอลงไปด้วย..
“น่าเสียดายที่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น
เหย่หลิงเฉินถอนหายใจ จากนั้นฉีกแถบกระดาษอย่างเจ็บปวดแล้วโยนทิ้งลงในถังขยะ
สําหรับอาชญากรทั้ง 5 คน พวกเขาให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับตํารวจ และสารภาพความผิดทั้งหมดของตน พวกเขาขอบคุณเหย่หลิงเฉินอย่างล้นเหลือตลอดกระบวนการ
เนื่องจากความอ่อนไหวของเหตุการณ์ดังกล่าวจึงไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ เหตุการณ์ทั้งหมดจึงไม่ปรากฏเป็นข่าว
เหย่หลิงเฉินเสียเวลาสักครู่ เขารีบออกจากเมืองเจี้ยนให้ไปยังเมืองรูเกาทันที
สี่สิบนาทีต่อมา เหยู่หลิงเฉินลงจากรถและวิ่งตรงไปที่บ้านของจางหยุนซี
ในเวลาเดียวกันที่บ้านของจางหยุนซี
อันธพาลสามคนกําลังปิดกั้นประตูทางออก การแสดงออกของพวกเขาโหดเหี้ยม
“ไอ้แก่ เงินอยู่ที่ไหน”
“ขอเวลาอีกสองสามวันได้ไหม? ฉันไม่มีเงินจริง ๆ” พ่อของจางหยุนซีอธิบาย
เพี้ยะ!!
อันธพาลคนหนึ่งยกมือขึ้นและตบพ่อของจางหยุนซี ทําให้เขาล้มลงกับพื้น
“ไอ้แก่น่าเกลียด เป็นหนี้แล้วก็ต้องใช้คืนสิวะ ภายใต้ท้องฟ้านี้ไม่มีใครกล้าเป็นหนี้หลี่ซี!เอาเงินมา!!”
หลี่ซีจ้องไปที่พ่อของจางหยุนซีอย่างเย็นชาจากนั้นก็เปลี่ยนสายตา “ในเมื่อแกไม่มีเงินแกก็แค่เอาภรรยาและลูกสาวของแกมาใช้หนี้แทน!”
เขามองไปที่จางหยุนซีและแม่ของเธอด้วยใบหน้าที่ผิดเพี้ยน
ความงามของจางหยุนซีนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ รูปลักษณ์ของแม่ของเธอนั้นน่าพอใจมากเช่นเดียวกันพวกอันธพาลคงจะสนุกไม่น้อย
“ไม่! ขอเวลาฉันอีกสองสามวัน” พ่อของจางหยุนซีเกาะที่ขาของหลี่ซีและขอร้องเขา
“ไอ้โง่! แกอยากให้ฉันฆ่าแกแทนไหม?!” หลี่ซีเตะพ่อของจางหยุนซีอย่างเต็มแรง
แม่ของจางหยุนซีกอดจางหยุนซีไว้ในอ้อมแขนของเธอ ทั้งสองคนร้องไห้อยู่ที่มุมห้อง
“พาสาวงามสองคนนั้นไปด้วย!” หลี่ซีสั่งด้วยรอยยิ้ม
“เดี๋ยวก่อน!” จางหยุนซีกัดริมฝีปากของเธอและยืนขึ้น “ฉันมีเงิน!”
“เธอมีเงินเหรอ?” ทุกคนหันมาสนใจเธอ
“ฉันมีเงิน!” จางหยุนซีสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเปิดแอปธนาคารของเธอ “ดูสิ 500,000
หยวน!”
“หยุนซี ลูกไปเอาเงินนั้นมาจากไหน” แม่ของจางหยุนซีถามด้วยความประหลาดใจ
“เหย่หลิงเฉินให้หนูมา นี่เป็นเงินที่เขาหามาได้ในเมืองหลวง”
แม่ของจางหยุนซีอ้าปากค้าง “เขารวยขนาดนั้นเลยเหรอ!?”
ในขณะเดียวกัน การแสดงออกของผู้ทวงหนี้ทั้งสามก็มีดลง
“งั้นก็โอนเงินมาเดี๋ยวนี้!”
หลี่ชีจ้องไปที่จางหยุนซีและเย้ยหยัน
500,000 หยวนถูกโอนไปยังบัญชีของหลี่ซี
“ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!” จางหยุนซีสั่ง
“ฮะฮะ ออกไปเหรอ?” สายตาของหลี่ซีร้า ราวกับว่าเขากําลังเล่นกับเหยื่อของเขา “ยังมียอดเงินคงเหลืออีก 100,000 หยวน! แต่เรื่องนี้จัดการได้โดยเธอต้องไปกับเรา!”
“ฉันจ่ายหนี้ 500,000 หยวนไปแล้ว ถ้ายังทําแบบนี้ต่อไป ฉันจะแจ้งตํารวจ!” จางหยุ นซีกล่าวผ่านฟันที่ขบเคี้ยวขณะที่ใบหน้าของเธอมีดลง
หลี่ซีตอบด้วยน้ําเสียงเยือกเย็น “ใช่แล้ว เมื่อวานเป็นเงิน 500,000 หยวน แต่วันนี้ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 600,000 หยวนแล้วเว้ย! เธอต้องใช้หนี้ทั้งหมดภายในวันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น!”
“พาผู้หญิงคนนั้นออกไป คืนนี้ฉันจะแสดงให้เธอเห็นถึงความสามารถของฉัน!”
ข้างหลังหลี่ซี อันธพาลอีกสองคนเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เพื่อจับจางหยุนซี
การรวมกันของความโกรธ ความไม่พอใจ ความสิ้นหวัง และความอัปยศอดสูฉายผ่านสายตาของจางหยุนซี ดวงตาของเธอมีน้ําและใบหน้าของเธอซีด ในขณะนั้น ความคิดของเธอก็ผุดขึ้นมา
ถ้าเพียงแต่เขาอยู่ที่นี่ล่ะก็
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “หยุดตรงนั้น! ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไป!”
เหย่หลิงเฉินรู้สึกว่าคําพูดเหล่านี้กลายเป็นสโลแกนของเขา ด้วยคําพูดเดียวกัน เขา
ได้ช่วย หญิงสาวนับไม่ถ้วนให้พ้นจากความพินาศ
“ตามหลักแล้ว ฉันควรจะได้รับฉายา “เพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิง” ในตอนนี้
“หลิงเฉิน” จางหยุนซีพึมพําด้วยเสียงต่ํา ประหลาดใจเป็นสุข
เหยู่หลิงเฉินก้าวเข้ามาหาพวกเขา ใบหน้าของเขามืดมัวและจ้องมองอย่างเย็นชา
“เฮ้ เจ้าหนู นี่แกกําลังพยายามที่จะเป็นอัศวินในชุดเกราะส่องแสงเพื่อช่วยหญิงสาวของแกในความทุกข์อยู่งั้นเหรอ?” หลี่ซีเหลือบมองเหย่หลิงเฉินอย่างหงุดหงิด “นี่ไม่ใช่เรื่องของแกขึ้นเข้ามาแกจะไม่มีทางได้เห็นแสงของวันพรุ่งนี้แน่!”
เหย่หลิงเฉินเพิกเฉยต่อภัยคุกคามของเขาและเดินต่อไปที่ด้านข้างของจางหยุนซี
เขาถามด้วยความห่วงใย “เธอเจ็บไหม”
จางหยุนซีส่ายหัวและมองไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยดวงตาที่บวมแดงของเธอ จากนั้นเธอก็วางใบหน้าของเธอลงบนหน้าอกของเหย่หลิงเฉินและร้องไห้ “อีก ฉันกลัวจัง…”
“ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่แล้ว เธอจะไม่เป็นไร” เหย่หลิงเฉินปลอบเธอและเช็ดน้ําตาให้ “ถ้ายังร้องไห้อยู่จะดูน่าเกลียดแทนน้า”
พรืด…
จางหยุนซีเริ่มหัวเราะทันที “เธอนั่นแหละน่าเกลียด!”
คนอื่น ๆ ตกตะลึง โดยเฉพาะหลี่ซี เขาตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาเกือบจะยิ่งไฟออกจากตา ของเขา
ละเลย! เขาถูกละเลยโดยสิ้นเชิง!
เขาคําราม “ดูนี่สิ ตอนนี้ฉันโกรธแล้ว!”
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเหย่หลิงเฉินจะหูหนวกกับคําพูดของเขา เหย่หลิงเฉินจ้องมองไปที่จางหยุนซีและกล่าวว่า “น้ําหนักเธอลดลงไปมากเลยนะ ฉันแน่ใจว่าเธอคงไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหม ไปกินข้าวกันเถอะ”
“F*CK!” หลอดเลือดบนหน้าผากของหลีซีโปน ดวงตาของเขาเปล่งแสงอันน่าสยดสยอง ก้า วไปข้างหน้าเขายืนอยู่ข้างหน้าเหย่หลิงเฉินเพื่อขวางทาง ด้วยน้ําเสียงประชดประชัน “ไอ้หนู แกมันช่างอวดดี!”
เหยู่หลิงเฉินทําหน้าบึง “ผมจะให้เวลาคุณสามวินาทีในการหายตัวไปจากสายตาของผมซะ”
“ไอ้เวร! แกคงไม่รู้สินะว่าแกกําลังทําอะไรอยู่! ชีวิตแกจะจบลงเดี๋ยวนี้แหละเว้ย!”
หลี่ซียกมือขึ้นและส่งตบไปที่เหย่หลิงเฉิน!
ดวงตาของเหย่หลิงเฉินเป็นประกาย เขายกมือขึ้น เขาจับหลี่ซีด้วยข้อมืออย่างง่ายดายและบิดมัน!
“อ้าก! โอ๊ยยย!! ”
ริมฝีปากของหลี่ซีสั่นจนไม่สามารถพูดได้ชัดเจน “ฮีโร่ คนดี ยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันผิดไปแล้ว…”
ในเวลาอันสั้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความเจ็บปวด เขาไม่กล้าขยับนิ้วเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุกเข่า!”
หลีซีทําได้เพียงเชื่อฟังในขณะที่เขาอ้าปากค้างด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง “ฉันขอร้องได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ”
“ไสหัวไปซะ!”
ขณะที่เหย่หลิงเฉินปล่อยเขา หลี่ซีก็คํารามอย่างโหดเหี้ยม “เฮ้ย ฆ่ามัน!”
อีกสองคนเข้ามาโจมตีเหย่หลิงเฉินพร้อมกัน
เหย่หลิงเฉินยังคงกอดหยุนซีเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา เขายกขาข้างหนึ่งขึ้นโดยไม่แม้แต่จะมอง
บิ๊ก บิ๊ก!
ด้วยเสียงอันไพเราะนั้น อันธพาลทั้งสองจึงบินออกไปเหมือนลูกบอล
“ไสหัวไป!!” เหย่หลิงเฉินแผ่รังสีแห่งความเยือกเย็นออกมา
“เออฉันจะไป ฉันจะรีบไปทันที…”
หลี่ซีประสาทหลอนไปแล้ว เขากลัวเกินกว่าจะพูดอะไร เขานอนราบกับพื้นเหมือนสุนัขที่พ่ายแพ้และคลานออกไปอย่างเร่งรีบ
* ติดตามผลงานและข่าวสารก่อนใครได้ที่