I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! - ตอนที่ 82
ตอนที่ 82 เทพเจ้าแห่งการพนัน
จางหยุนซีหายใจไม่ออกจากความวิตกกังวลของเธอ
ในชีวิตของเธอ เธอไม่เคยจินตนาการถึงเงินจํานวนมากขนาดนั้น แต่เธอก็เห็นเงินจํานวนมากวางอยู่ตรงหน้าเธอ เหนือสิ่งอื่นใดบนโต๊ะพนัน!
“หลิงเฉิน.. ”
เธอสุดหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้ง สงบสติอารมณ์ตัวเองลงแทบไม่ได้ แล้วมองไปทางเหย่หลิงเฉินด้วยสายตาที่เป็นกังวล
หากพวกเขาแพ้ในรอบนี้ เธอก็จะต้องเป็นลมไปอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องห่วง ทําใจให้สบายนะ” เหยู่หลิงเฉินยิ้มให้จางหยุนซี
“ไอ้หนู แกจะยังโชว์ไม่อยู่หรือเปล่า? ไม่ว่าแกจะดึงมันออกมายังไง แกก็แพ้ในรอบนี้!” หลี่ซีดุอย่างไม่อดทน
“คุณแน่ใจไหม? เป็นไปได้ไหมที่คุณรู้ว่าไพ่ของฉันคืออะไร” เหย่หลิงเฉินถามในขณะที่มองหลี่ซีอย่างซุกซน
หลี่ซีเยาะเย้ย “ฉันแค่คิดว่าไพ่ของแกคงจะน้อยกว่าของเขาน่ะสิ นี่คือคาสิโนอย่างถูกต้อง ไม่มีทางที่เราจะโกง!”
“ผมหวังว่าคุณจะยังพูดแบบนั้นได้อยู่อีกนะเมื่อคุณแพ้!”
เหยู่หลิงเฉินยิ้ม แล้วหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า “เทพเจ้าแห่งการพนัน ขอพลังให้ข้าด้วย!”
“Dang dang dang, dang dang dang-” ทํานองเพลง..
เสียงท่วงทํานองที่คุ้นเคยดังขึ้น เป็นเพลงจากหนังเรื่อง God of Gamblers
“ไอ้ปัญญาอ่อน นี่แกทําอะไรน่ะ” หลี่ซีขมวดคิ้ว “เพลงนี่มันจะทําอะไรได้”
“คุณผิดแล้ว นี่คือท่วงทํานองของเทพเจ้าแห่งการพนัน!” เหย่หลิงเฉินแย้ง “ผมเป็นคนนําโชคจากเพลงของเขามาให้ตัวเอง!”
จากนั้นเขาก็วางไพ่ไว้ข้างหน้าจางหยุนซี “หยุนซี ขอยืมลมหายใจของเธอหน่อย อวยพร ชัยชนะของฉันที่!”
ดวงตาที่สวยงามของจางหยุนซีจับจ้องไปที่เหย่หลิงเฉิน จากนั้นจึงเป่าการ์ดอย่างระมัดระวัง
ฝูงชนโดยรอบส่ายหัว ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
“ผู้ชายคนนี้คงจะเป็นบ้าไปแล้วเพราะช็อกกับการสูญเสียเงินไปมากมาย!”
“ผมขอโชว์ไพ่ของตัวเอง เดี๋ยวนี้!”
ในประโยคเดียวเมื่อสักครู่นั้น เขาได้ผลักดันให้ทุกคนมุ่งไปสู่ขีดจํากัด
ด้วยเสียงเพลงในแบ็คกราวด์ เขายกไฟขึ้นสูงในอากาศ แล้ววางไพ่ลงอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่โปร!
สามเอซ!
ในขณะนั้น ไม่สามใบนั้นดูเหมือนจะเรืองแสง ทําให้ฝูงชนตื่นตาตื่นใจ
ดวงตาของหลี่ซี เกือบจะโผล่ออกมาจากเบ้าตา แป็บเดียวก็ตกจากสวรรค์ลงนรก
” อ้า! เราชนะ เราชนะ!” จางหยุนซีปิดปากของเธอด้วยความไม่เชื่อน้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม
บนโต๊ะ บวกด้วยเงิน 20,000,000 หยวนของเหย่หลิงเฉิน ยังมีอีก 30,000,000 หยวนที่ด้านข้าง!
กล่าวคือ ในรอบนี้ เหย่หลิงเฉินได้รับเงิน 30,000,000 หยวน!
สถานการณ์ที่เหมือนฝันทําให้จิตใจของจางหยุนชีว่างเปล่า
ฝูงชนโดยรอบก็โกลาหลเช่นกัน
“นี่เรื่องจริงเหรอ? เด็กคนนั้นชนะ?”
“รวมเงินทั้งหมด 50,000,000 หยวน! บ้าจริง! นี่ตาฉันจะหลุดออกมาแล้ว!”
“หลี่ซีกําลังเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้วล่ะ เขาเจอกับมือโปรการพนันตัวจริง!”
“เศรษฐีน้อย มาเป็นเพื่อนกันเถอะ!”
“เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้”
หลี่ซีดึงผมของเขาในขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง จ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉิน “แกได้เอซสามตัวมาได้อย่างไร? มันควรจะเป็นแค่สองสิ!”
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง จากนั้นชี้ไปที่เหย่หลิงเฉิน “แกโกง!”
“หึหึ ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่าไพ่ของผมคืออะไร คุณจะบอกได้ยังไงว่าผมโกง?” เหย่หลิงเฉินหัวเราะ “การเดิมพันก็คือการเดิมพัน คุณไม่ได้บอกว่านี่เป็นคาสิโนที่ถูกกฎหมายเหรอ?”
“แน่นอนว่ามันเป็นคาสิโนที่ถูกกฎหมาย แต่แกโกง ฉันจะไม่ยอมให้แกไปจากที่นี่เด็ดขาด!” ใบหน้าของหลี่ซีแดงก่ำ “พวกนาย พาลูกค้าออกไปให้หมด!”
ทันใดนั้น กลุ่มอันธพาลที่ดูดุร้ายพร้อมอาวุธในมือก็เข้ามา
ฝูงชนไม่กล้าบ่นและรีบพากันกรูออกไป
“ไอ้ปัญญาอ่อน! กล้าดียังไงมาหลอกฉัน!” หลี่ซีส่ายหน้า สีหน้าแสดงเจตจํานงการฆ่าที่รุนแรง “วันนี้ ไม่เพียงแต่ฉันจะเอาเงิน 20,000,000 หยวนกับผู้หญิงของแก แต่ฉันจะเอาชีวิตแกด้วย!”
เงินที่อยู่บนโต๊ะนั้นเป็นทุกอย่างที่เขามีตั้งแต่เปิดคาสิโน หากเหย่หลิงเฉินเอาได้เงินทั้งหมดนี้ไปล่ะก็ อนาคตของพวกเขาดับสูญแน่
“งั้นเหรอ?” เหย่หลิงเฉินถามด้วยท่าทางสงบ “ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย หากคุณคุกเข่าขอโทษและปล่อยให้ผมออกไปพร้อมกับเงิน ผมจะไม่ทําอะไรคุณ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
หลี่ซีหัวเราะราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องตลกที่สนุกที่สุดในโลก เขาตัวโยกไปมาในขณะที่หัวเราะ
“นี่แกยังจะทําตัวดื้อดึงจนสิ้นลมหายใจสุดท้ายสินะ ไอ้เด็กเวร นี่มันผิดที่ที่แกจะทําตัวจองหองเว้ย!”
อันธพาลที่มีกล้ามมัดโตมากกว่ายี่สิบคนเข้ามาใกล้เหย่หลิงเฉินทันทีพร้อมกับถือไม้เบสบอลอยู่ในมือ
ร่างกายของพวกเขาใหญ่โตเกือบเท่ากับผู้ใหญ่สองคน และยิ้มด้วยความกระหายเลือด
”ตาย!!” หนึ่งในนั้นตะโกนออกมา ไม้เบสบอลของเขายกขึ้นสูงและเหวี่ยงไปที่หัวของเหย่หลิงเฉิน
เหย่หลิงเฉินเหลือบมองและเตะออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ทุกคนเห็นแต่ภาพเบลอ จากนั้นอันธพาลก็บินไปเหมือนถูกเตะบอล เขานอนลงบนพื้นด้วยอาการกระตุกเล็กน้อยจากนั้นก็นิ่งสนิท
“ชะเชี่ย?! นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ?”
อันธพาลคนนั้นมีน้ำหนักอย่างน้อย 300 ปอนด์ เพียงแค่เตะ เขาถึงกับกระเด็นออกไปเลยงั้นเหรอ?
พวกเขาที่เหลือรู้สึกว่าคิ้วของพวกเขากระตุก ความรู้สึกไม่สบายใจผุดขึ้นจากส่วนลึกของหัวใจ รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาเจอคนที่โกงชีวิตเข้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นเหมือนลูกศรที่สายธนูไม่สามารถถอยกลับได้ พวกเขาคํารามเพื่อเพิ่มขวัญกําลังใจและรีบวิ่งไปที่เหย่หลิงเฉินด้วยกัน
ปัง ปัง ปัง!
ได้ยินเสียงเป็นจังหวะ
ราวกับว่าเหย่หลิงเฉินกําลังเตะฟุตบอลอยู่ การเตะของเขาไม่หยุดหย่อน เขาเตะที่ละคนอย่างเป็นระเบียบ
20 วินาทีต่อมา พวกอันธพาลทั้ง 20 คนนอนอยู่บนพื้นพร้อมกับคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ไม่มีใครสามารถยืนได้อีกต่อไป
หลี่ซีตกตะลึง เหงื่อไหลอาบเต็มหน้าผากของเขาและขาของเขารู้สึกอ่อนแรงทําให้เขาล้มไปอยู่กับพื้นด้วยความตกใจ
เขาพึมพัมกับตัวเองจนเกือบจะเสียสติไปแล้ว “นี่ เป็นไปได้ยังไง? แกไม่ใช่มนุษย์!”
จางหยุนซีก็ตกใจเช่นเดียวกันกับปากของเธอที่อ้าปากค้าง ดวงตาที่สวยงามของเธอเป็นประกายขณะที่เธอจ้องไปที่แผ่นหลังของเหย่หลิงเฉิน
เธอติดอยู่ในความสิ้นหวังอย่างแท้จริง ใครจะรู้ว่าเหย่หลิงเฉินเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยม?
เมื่อเห็นเหยู่หลิงเฉินเดินขึ้นไปหาเขาทีละก้าวหลี่ซีก็ทรุดตัวลงคุกเข่าทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสยดสยองขอร้องเขา “ฉะฉันผิดไปแล้ว แกเอาเงินไปก็ได้ ปล่อยฉันไปเถอะ”
เหย่หลิงเฉินจ้องหลี่ซีอย่างเย็นชา “ห์ แกตั้งใจจะฆ่าฉันทิ้ง แกคิดว่าฉันควรปล่อยแกไปอยู่ไหม?”
“การฆาตกรรมนั้นผิดกฎหมาย! แกฆ่าฉันไม่ได้เ” หลี่ซีกรีดร้อง
“ตอนนี้แกรู้ซึ้งถึงการมีอยู่ของกฎหมายแล้วเหรอ” เหย่หลิงเฉินเยาะเย้ย “ฉันจะไม่ฆ่าแก แต่ฉันจะหักมือแกซะ แกจะได้ไม่ต้องไปทําให้ใครเดือดร้อนอีก”
“ไม่! อย่า!!” ดวงตาของหลี่ซีเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
กริ๊ง ๆๆๆๆ
ในขณะนั้น โทรศัพท์ของหลี่ซีก็เริ่มดังขึ้น
หลังจากเหลือบมองอย่างรวดเร็ว การแสดงออกถึงความสิ้นหวังของเขากลายเป็นความสุข ราวกับว่าคนจมน้ำกําลังคว้าฟางช่วยชีวิต เขารีบรับสายทันที
“สวัสดีครับ คุณชายหลู่?! ผมหลี่เองครับ”
“อะไรนะครับ? คุณกําลังจะมาแล้วเหรอ! แน่นอน! ผมจะรอคุณ! แค่ผมกําลังเจอปัญหานิดหน่อย…”
“ผมโล่งใจมากถ้าคุณมา ผมจะรอคุณนะครับ!”
เมื่อวางสาย ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที ด้วยสายตาของคนบ้า เขาจ้องไปที่เหย่หลิงเฉินและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า แกตายแน่! นายน้อยหลู่กําลังเดินทางมาที่นี่ รับรองได้เลยว่าแกจะต้องตายอย่างน่าสยดสยอง วะฮ่าฮ่าฮ่า…”